FK-1 เป็นปุ๋ยที่มีสารอาหารหลายชนิดที่ประกอบด้วย N (ไนโตรเจน)_ P (ฟอสฟอรัส)_ K (โพแทสเซียม)_ Mg (แมกนีเซียม)_ Zn (สังกะสี) และสารลดแรงตึงผิว สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชที่ดี

ไนโตรเจนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ในขณะที่ฟอสฟอรัสช่วยในการเจริญเติบโตของรากและการเจริญเติบโตของดอก โพแทสเซียมมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของพืช และช่วยควบคุมน้ำในพืช แมกนีเซียมจำเป็นต่อการผลิตคลอโรฟิลล์ และสังกะสีช่วยในการผลิตฮอร์โมนและเอนไซม์

สารลดแรงตึงผิวใน FK-1 ช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ช่วยให้ปุ๋ยซึมลงดินไปถึงรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พืชสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตแข็งแรง

FK-1 เหมาะสำหรับการปลูกทุกประเภท ตั้งแต่ผักและผลไม้ไปจนถึงไม้ดอกไม้ประดับและไม้พุ่ม สามารถใช้กับพืชในร่มและกลางแจ้ง และเหมาะสำหรับทั้งระบบดินและระบบไฮโดรโปนิกส์

นอกจากนี้ FK-1 ยังมีความเข้มข้นสูงและสามารถใช้ได้ในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งหมายความว่ามีทั้งความคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยสรุป FK-1 เป็นปุ๋ยที่ดีที่สุดสำหรับการเพาะปลูกใด ๆ เนื่องจากให้สารอาหารที่จำเป็นทั้งหมดที่พืชต้องการเพื่อให้แข็งแรงและสมบูรณ์ สูตรเฉพาะของมันรวมถึงสารลดแรงตึงผิวช่วยให้มั่นใจได้ว่าสารอาหารจะถูกดูดซึมอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นสิ่งที่ชาวสวนทุกคนต้องมี ดังนั้น ไปข้างหน้าและให้การดูแลพืชของคุณอย่างที่สมควรได้รับด้วย FK-1!

เลือกซื้อ FK-1 เลื่อนลงอีกนิดนะคะ

โรคเชื้อราในต้นฝรั่งอาจทำให้ผลและใบเสียหายอย่างรุนแรง ทำให้ผลผลิตลดลงและเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสำหรับเกษตรกร ในบทความนี้จะกล่าวถึงการใช้ IS และ FK-1 ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในต้นฝรั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การป้องกันด้วย IS:
IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถใช้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคเชื้อราในต้นฝรั่ง อัตราการผสมที่แนะนำคือ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรฉีดพ่นส่วนผสมให้ทั่วใบและผลของต้นฝรั่ง IS ทำงานโดยเสริมสร้างการป้องกันตามธรรมชาติของพืชจากโรคเชื้อรา ทำให้มันไวต่อการติดเชื้อน้อยลง

การกำจัดด้วย FK-1:
หากต้นฝรั่งเป็นโรคเชื้อราแล้ว สามารถใช้ FK-1 กำจัดได้ FK-1 เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว พร้อมบำรุงพืชและผสมน้ำได้ง่าย อัตราส่วนผสมที่แนะนำคือ 50 กรัมของถุงแรก และ 50 กรัมของถุงที่สอง ผสมน้ำ 20 ลิตร ควรฉีดพ่นส่วนผสมในบริเวณที่ได้รับผลกระทบของต้นไม้

บทสรุป:
โรคเชื้อราในต้นฝรั่งสามารถป้องกันและกำจัดได้โดยใช้สารอินทรีย์ เช่น IS และ FK-1 สารประกอบเหล่านี้มีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เกษตรกรสามารถใช้สารประกอบเหล่านี้เพื่อปกป้องต้นฝรั่งของพวกเขาและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่สมบูรณ์และให้ผลผลิต

การปลูกถั่วลิสงเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด: วิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ถั่วลิสงเป็นพืชยอดนิยมและมีคุณค่าทางโภชนาการที่ปลูกทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การเพิ่มผลผลิตและผลผลิตสูงสุดจากต้นถั่วลิสงอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรรายย่อย ทางออกหนึ่งสำหรับความท้าทายนี้คือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ ซึ่งสามารถใช้เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของพืช สุขภาพ และผลผลิต ในบทความนี้จะกล่าวถึงประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกถั่วลิสงและวิธีการใช้เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกถั่วลิสง

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช และเมื่อใช้เป็นสเปรย์ทางใบ พืชสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและนำไปใช้ในการเจริญเติบโตและผลผลิต ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับการปลูกถั่วลิสง ได้แก่ :

เพิ่มการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช: สารอาหารในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 จะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วทางใบพืชและนำไปใช้เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ส่งผลให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตมากขึ้น

เพิ่มประสิทธิภาพการดูดธาตุอาหาร: ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 มีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยปรับปรุงการซึมผ่านและการดูดซึมธาตุอาหารของใบพืช ทำให้มั่นใจได้ว่าพืชจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากปุ๋ย

ปรับปรุงคุณภาพพืชผล: สารอาหารในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยปรับปรุงคุณภาพของพืช ส่งผลให้ถั่วลิสงมีขนาดใหญ่ขึ้นและสม่ำเสมอมากขึ้น

ประหยัดต้นทุน: ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเกษตรกรรายย่อยที่ต้องการเพิ่มผลผลิตถั่วลิสงโดยไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์หรือปุ๋ยราคาแพง

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

หากต้องการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับการปลูกถั่วลิสง ให้ทำตามขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้:

เตรียมส่วนผสม: เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

ใช้ส่วนผสม: เมื่อส่วนผสมพร้อมแล้ว ให้ถ่ายโอนไปยังเครื่องพ่นสารเคมีและนำไปใช้กับต้นถั่วลิสง ให้แน่ใจว่าได้ใช้ส่วนผสมเท่า ๆ กันและครอบคลุมทุกส่วนของพืช รวมทั้งใบ ลำต้น และฝัก

ใช้ซ้ำ: เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด ขอแนะนำให้ใส่ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับต้นถั่วลิสงอย่างน้อยสามครั้งในช่วงฤดูปลูก ควรใช้ครั้งแรกเมื่อพืชมีอายุประมาณ 2 สัปดาห์ ควรใช้ครั้งที่สองเมื่อดอกบาน และครั้งที่ 3 ควรทำหลังจากติดฝักแล้ว

บทสรุป

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับการปลูกถั่วลิสงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการส่งเสริมการเจริญเติบโต สุขภาพ และผลผลิตของพืช ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ที่ระบุไว้ในบทความนี้ เกษตรกรรายย่อยสามารถบรรลุผลผลิตสูงสุดจากการปลูกถั่วลิสงและเพิ่มผลกำไรโดยรวม ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรที่ช่ำชองหรือเพิ่งปลูก ลองพิจารณาใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับโครงการปลูกถั่วลิสงครั้งต่อไปของคุณ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และ ติ๊กต็อก ช้อป http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

เชื้อราไตรโคเดอร์มาคือเชื้อราชนิดหนึ่งที่พบได้ในดิน เศษซากพืช และอินทรียวัตถุอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Trichoderma harzianum หนึ่งสายพันธุ์พบว่าเป็นสารชีวภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคน้ำยางข้นในพืชแคนตาลูปและเมล่อน สายพันธุ์นี้ขายภายใต้ชื่อ Trichorex

โรคน้ำยางหรือที่เรียกว่า "เปลือกคอร์กี้" เกิดจากเชื้อรา Fusarium oxysporum เชื้อโรคนี้ติดเชื้อแคนตาลูปและพืชแตงโมผ่านทางราก ทำให้ผลมีเปลือกหนาและจุก สิ่งนี้ไม่เพียงส่งผลต่อรูปลักษณ์ของผลไม้เท่านั้น แต่ยังลดความสามารถในการตลาดและคุณภาพโดยรวมด้วย

Trichorex ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากเชื้อรา Trichoderma harzianum ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถควบคุมโรคน้ำยางข้นในพืชแคนตาลูปและเมล่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื้อรานี้ตั้งรกรากที่รากของพืชสร้างสิ่งกีดขวางที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรค Fusarium oxysporum ติดเชื้อในพืช นอกจากนี้ Trichorex ยังผลิตเอนไซม์ที่ย่อยสลายผนังเซลล์ของเชื้อโรคและฆ่ามันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้ Trichorex เป็นสารควบคุมทางชีวภาพคือปลอดภัยอย่างสมบูรณ์สำหรับทั้งพืชและสิ่งแวดล้อม ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช Trichorex ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายใดๆ ไว้บนผลไม้ และไม่เป็นอันตรายต่อแมลงที่มีประโยชน์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในดิน

Trichorex สามารถใช้กับดินในรูปของของเหลวหรือผง และโดยทั่วไปจะใช้ในช่วงที่ปลูกหรือในช่วงแรกของการเจริญเติบโต สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าควรใช้ Trichorex ร่วมกับการปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ดี เช่น การให้น้ำและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โดยรวมแล้ว Trichoderma harzianum ตรา Trichorex เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการควบคุมโรคน้ำยางในพืชแคนตาลูปและเมล่อน การประยุกต์ใช้สามารถช่วยเกษตรกรในการปรับปรุงผลผลิตและคุณภาพของพืชของพวกเขา เช่นเดียวกับการลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่า

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์สำหรับโรคแอนแทรกโนสในทุเรียน

โรคแอนแทรกโนสที่เกิดจากเชื้อราเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อการปลูกทุเรียนทั่วโลก การพัฒนาสารต้านเชื้อราที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องต้นทุเรียนจากโรคร้ายนี้ ในการตอบสนองต่อความท้าทายนี้ นักวิจัยประสบความสำเร็จในการสกัดสารต้านเชื้อราอินทรีย์ธรรมชาติทั้งหมดชื่อ IS ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม

IS ได้มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติที่คัดสรรมาอย่างดี ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับต่อสู้กับโรคแอนแทรคโนสในต้นทุเรียน สารต้านเชื้อราที่ก้าวหน้านี้ทำหน้าที่โดยการควบคุมสภาพแวดล้อมบนผิวใบพืช ทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อรา

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือประสิทธิภาพสูงในการดับไฟและยับยั้งเชื้อรา ส่วนผสมที่คัดสรรมาอย่างดีทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมายเชื้อโรคเฉพาะที่รับผิดชอบต่อโรคแอนแทรคโนส การรบกวนวงจรชีวิตและยับยั้งการเจริญเติบโต IS ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคและปกป้องพืชผลทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยิ่งไปกว่านั้น IS ยังแสดงคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ทำให้สามารถยึดเกาะกับผิวใบทุเรียนได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพการยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันการติดเชื้อราที่ยาวนาน ช่วยให้สารต้านเชื้อราสร้างเกราะป้องกันที่ยั่งยืนต่อเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคแอนแทรกโนส

สิ่งที่ทำให้ IS แตกต่างจากสารเคมีต้านเชื้อราทั่วไปคือความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ IS ปราศจากสารเคมีและสารพิษที่เป็นอันตรายซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ชาวสวนทุเรียนและคนงานสามารถรับมือกับ IS ได้โดยไม่ต้องกังวลถึงผลเสีย ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับการทำเกษตรแบบยั่งยืน

การพัฒนา IS แสดงถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการทำเกษตรอินทรีย์และการจัดการศัตรูพืช สูตรจากธรรมชาติทั้งหมดสอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในภาคการเกษตร ด้วยการจัดหาทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแทนการใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา IS นำเสนอกลยุทธ์ที่ได้ผลสำหรับผู้ปลูกทุเรียนในการต่อสู้กับโรคแอนแทรคโนสในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ใช้ IS ตามคำแนะนำของผู้ผลิต การใช้เป็นประจำและทันเวลาในช่วงที่ต้นทุเรียนเจริญเติบโตและการพัฒนาของผลอ่อนแอสามารถลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรคแอนแทรคโนสได้อย่างมาก แนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ เช่น การสุขาภิบาลที่เหมาะสม การตัดแต่งกิ่ง และการปลูกพืชหมุนเวียน ควรใช้ควบคู่กับ IS เพื่อให้บรรลุผลในการควบคุมโรคในระยะยาว

โดยสรุป IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ก้าวหน้าซึ่งให้การป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่อโรคแอนแทรคโนสในการปลูกทุเรียน ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถันจนได้สูตรจากธรรมชาติทั้งหมดเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมและยับยั้งเชื้อรา ขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนสามารถต่อสู้กับโรคแอนแทรคโนสได้อย่างมั่นใจและปกป้องพืชผลของพวกเขาโดยใช้ระบบ IS ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่แนวทางการทำฟาร์มที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมทุเรียน

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

เพลี้ยไฟ เป็นศัตรูพืชตัวร้ายที่พบได้บ่อยใน ต้นดอกดาวเรือง มักสร้างความเสียหายโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ดอก และยอดอ่อน ทำให้ใบเหลือง ยุบ ดอกและยอดอ่อนหงิกงอ ไม่สวยงาม ส่งผลต่อผลผลิตและคุณภาพของดอกดาวเรือง

การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่น เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ สูตรผสมนี้ช่วยทั้งกำจัดศัตรูพืชและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของต้นดอกดาวเรือง

วิธีการผสมและฉีดพ่น

เตรียมถังผสมขนาด 20 ลิตร
ใส่น้ำลงในถังผสมประมาณ 20 ลิตร
ใส่ INVET (ไดโนเตฟูราน) 20 กรัม
ใส่ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 25 กรัม
คนให้เข้ากันจนละลาย
เติมน้ำให้เต็มถัง
ฉีดพ่นให้ทั่วใบ ลำต้น และใต้ใบ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเพลี้ยไฟ
ฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น อากาศไม่ร้อนจัด
ฉีดพ่น 2-3 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน

ข้อควรระวัง
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา และเสื้อผ้าหนา เมื่อผสมและฉีดพ่น
ห้ามฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง
ห้ามฉีดพ่นในแหล่งน้ำ
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
อ่านฉลากก่อนใช้ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ข้อดีของการใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5
กำจัดเพลี้ยไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยให้ต้นดอกดาวเรืองเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง
ใบเขียว ดอกใหญ่ สวยงาม
เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของดอกดาวเรือง
ใช้สะดวก ประหยัดเวลา

การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ ช่วยให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตดอกดาวเรืองที่มีคุณภาพดี

อัตราส่วนผสม อิทเวท ป้องกันกำจัดเพลี้ย
20กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร *ควรผสมฉีดพ่นไปพร้อมกับ สตาร์เฟอร์สูตร 30-20-5 เพื่อให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของเพลี้ยได้เร็ว และกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อัตราส่วนผสมใช้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ (ทุกสูตร)
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

การดูแลต้นมังคุดเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพต้องใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมกับทุกช่วงอายุและความต้องการของต้นพืช ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของมังคุด มีสูตรที่เหมาะกับทุกช่วงการเจริญเติบโต นำเสนอไปตามนี้:

1. สูตร 30-20-5: สูตรเร่งการเจริญเติบโต
สูตรเพื่อการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว ใบเขียวเข้ม

สูตร 30-20-5 จัดทำเพื่อเพิ่มความแข็งแรงในโครงสร้างของพืชและส่งเสริมให้มังคุดเจริญเติบโตไวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเติบโต สูตรนี้เพิ่มปริมาณไนโตรเจน (N) เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างสารอินทรีย์ในพืชและช่วยให้ใบมังคุดเขียวสดอยู่เสมอตลอดเวลา

2. สูตรระยะ: เร่งการเจริญเติบโตของรากและการออกดอก
สูตรเพื่อระยะพัฒนาและการออกดอกที่สมบูรณ์

สูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและส่งเสริมการออกดอก ประกอบด้วยส่วนผสมที่มีส่วนสำคัญในการสร้างพลังงานสำหรับกระบวนการพัฒนาและการออกดอกของมังคุด

3. สูตรระยะขยายขนาด: ผลใหญ่ น้ำหนักดี เพิ่มผลผลิต
สูตรเพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพและขนาดใหญ่

สูตรนี้ได้รับการปรับแต่งเพื่อสนับสนุนกระบวนการการเจริญเติบโตในระยะขยายขนาด โดยเน้นการให้พืชได้รับปริมาณฟอสฟอรัส (P) สูง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาดอกและผล ทำให้มังคุดมีขนาดใหญ่และน้ำหนักดี

การใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตร
ควรใส่ปุ๋ยเมื่อต้นมังคุดเริ่มเจริญเติบโต
ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการใส่ปุ๋ยตามช่วงอายุที่แนะนำ
ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการใส่ปุ๋ยตามความต้องการของต้นมังคุด

การใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรตามช่วงอายุและความต้องการของมังคุด จะช่วยให้มังคุดของคุณเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ลองใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรเพื่อปรับปรุงการเก็บเกี่ยวมังคุดของคุณได้แล้ววันนี้!

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

การมีเพลี้ยบางครั้งอาจเป็นปัญหาในการดูแลดอกกล้วยไม้ของคุณ. เพลี้ยเป็นแมลงที่อาศัยอยู่บนใบ และยอดของพืชเพื่อดูดน้ำเลี้ยงจากเซลล์พืช.
นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถถ่ายทอดเชื้อโรคได้.

นี่คือบางวิธีที่คุณสามารถลองใช้เพื่อควบคุมเพลี้ยในต้นดอกกล้วยไม้:

ใช้สารเคมี: คุณสามารถใช้สารเคมีที่อนุญาตให้ใช้งานกับพืชนี้. มีหลายชนิดของสารเคมีที่มีประสิทธิภาพต่อเพลี้ย เช่น ไดเมทิโปรล์ (Diamethoate) อิมิดาโคลพริด (Imidacloprid) หรือสารเคมีชีวภาพ เช่น บาซิลลัสไทอาริอุส (Bacillus thuringiensis).

ใช้น้ำส้มควันไม้: น้ำส้มควันไม้เป็นวิธีทางธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ย. คุณสามารถซื้อน้ำส้มควันไม้ที่พร้อมใช้หรือทำเองได้.

ใช้แตนเจนเมิต: แตนเจนเมิตเป็นแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์และช่วยในการควบคุมแมลง.

การตัดแต่ง: ควรตัดแต่งใบที่มีเพลี้ยออกและทำลายเพื่อลดการระบาด.

สารสกัดจากพืช: สารสกัดจากพืชในการควบคุมเพลี้ย.

การบำรุงดอกกล้วยไม้: ทำให้ดอกกล้วยไม้ของคุณสุขภาพดีโดยการให้ปุ๋ยที่เหมาะสม การให้น้ำเพียงพอ และการดูแลเรื่องอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับพืช.

การใช้วิธีบางอย่างหรือร่วมกันอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด.

นอกจากนี้ ควรตรวจสอบดอกกล้วยไม้ของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่ามีเพลี้ยหรือไม่ และทำการป้องกันหรือรักษาทันทีเมื่อพบเพลี้ย.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในต้นดอกกล้วยไม้
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

โรคเชื้อราที่พบในกะหล่ำดอกมีหลายประการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชได้ ต่อไปนี้คือบางประการของโรคเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นในกะหล่ำดอก:

โรคราสนิม (Downy Mildew): เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา Peronospora parasitica ทำให้เกิดสนิมสีดำที่ใบ มักเกิดในสภาพอากาศที่เย็นชื้น การควบคุมได้โดยการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชที่มีคุณสมบัติเฉพาะต่อโรคนี้

โรคราแป้ง (Powdery Mildew): เกิดจากเชื้อรา Erysiphe cruciferarum ทำให้พืชมีลักษณะเป็นโปร่งขาวบนใบ การป้องกันได้โดยการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชที่มีคุณสมบัติเฉพาะต่อโรคนี้ และควรลดความชื้นในสภาพแวดล้อม

โรคราน้ำค้าง (Clubroot): เกิดจากเชื้อรา Plasmodiophora brassicae ทำให้รากมีลักษณะผิดปกติเป็นก้อนใหญ่ ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้ลำบาก การป้องกันได้โดยการใช้พันธุ์ที่ต้านทานต่อโรค และหลีกเลี่ยงการนำดินที่ปนเปื้อนเชื้อรามาปลูก

โรคใบจุดดำ (Black Rot): เกิดจากเชื้อรา Xanthomonas campestris pv. campestris ทำให้ใบและกิ่งเป็นจุดสีดำ การป้องกันได้โดยการใช้พันธุ์ที่ต้านทานต่อโรคและการควบคุมแมลงพาหะ

การจัดการโรคเชื้อราในกะหล่ำดอกนี้ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมสภาพแวดล้อมและการป้องกันโรคตั้งแต่ระยะต้นเริ่มเจริญเติบโต เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตของกะหล่ำดอกได้


.
ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด โรคต้นกะหล่ำดอก จากเชื้อราหลายชนิด
ไอเอส สามารถป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 สูตรเร่งผลใหญ่ ผลดก เพิ่มผลผลิตสำหรับต้นโกโก้
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ เป็นปุ๋ยเคมีมาตรฐาน ประเภทโพแทสเซียมคลอไรด์ สูตร 0-0-60 ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของต้นโกโก้โดยเฉพาะ ช่วยให้ต้นโกโก้มีผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และเพิ่มคุณภาพผลผลิต

คุณสมบัติของปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60:

โพแทสเซียมสูงถึง 60%: ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของราก เพิ่มการดูดซึมน้ำและธาตุอาหาร ส่งผลให้ต้นโกโก้มีระบบรากที่แข็งแรง
ช่วยขยายขนาดผล: โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญในการขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก และทำให้ผลโกโก้มีรูปทรงสวยงาม
เพิ่มผลผลิต: โพแทสเซียมช่วยเพิ่มการสังเคราะห์แสง ส่งผลให้ต้นโกโก้มีใบเขียว ฟื้นฟูต้นหลังการเก็บเกี่ยว และเพิ่มจำนวนผลผลิต
เพิ่มคุณภาพผลผลิต: โพแทสเซียมช่วยเพิ่มแป้งและน้ำตาลในผล ส่งผลให้เมล็ดโกโก้มีรสชาติที่ดีขึ้น

วิธีการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60:

การฉีดพ่นทางใบ: ละลายปุ๋ย 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วใบและลำต้น
การรดทางดิน: ละลายปุ๋ย 50 กรัม (4 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร รดรอบโคนต้น

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ปุ๋ย:

หลังการเก็บเกี่ยว: ฉีดพ่นหรือรดปุ๋ย 1 ครั้ง เพื่อฟื้นฟูต้นหลังการเก็บเกี่ยว
ก่อนออกดอก: ฉีดพ่นหรือรดปุ๋ย 1 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการออกดอก
หลังติดผล: ฉีดพ่นหรือรดปุ๋ย 2-3 ครั้ง ทุกๆ 15 วัน

ข้อควรระวัง:

ควรอ่านฉลากและคำแนะนำก่อนใช้
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก และรองเท้าบู๊ต
เก็บปุ๋ยให้มิดชิด พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามรับประทาน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ที่ต้องการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลผลิต

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..