[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3582 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 2 รายการ

 
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกแตงกวา: เคล็ดลับเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดโดยใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

แตงกวาเป็นพืชยอดนิยมที่สามารถปลูกได้ในสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การปลูกแตงกวาเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและใส่ใจในรายละเอียด วิธีหนึ่งที่ได้ผลในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูง เช่น FK-1 ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อให้แตงกวาได้ผลผลิตสูงสุด

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคืออะไร?

FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวอย่างสมดุล ปุ๋ยนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิต การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่เกษตรกร เนื่องจากปุ๋ยถูกดูดซึมโดยตรงทางใบและสามารถให้ธาตุอาหารที่จำเป็นแก่พืชได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับแตงกวา?

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สามารถใช้กับแตงกวาได้ตลอดฤดูปลูก ขั้นตอนต่อไปนี้จะแนะนำวิธีการใช้ FK-1 เพื่อเพิ่มผลผลิตแตงกวาของคุณ

ขั้นตอนที่ 1: รับ FK-1 ในปริมาณที่เหมาะสม

FK-1 หนึ่งกล่องหนัก 2 กก. และบรรจุสองถุง ๆ ละ 1 กก. ต้องผสมทั้งสองถุงก่อนใช้ อัตราส่วนผสมต่อน้ำ 20 ลิตร คือ 50 กรัมของถุงแรก และ 50 กรัมของถุงที่สอง คนจนละลาย

ขั้นตอนที่ 2: ใส่ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับต้นแตงกวาในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ เมื่อใบเย็นและแห้ง วิธีนี้จะช่วยลดการระเหยและทำให้ปุ๋ยถูกดูดซึมทางใบ ใช้ขวดสเปรย์หรือเครื่องพ่นสเปรย์ฉีดให้ทั่วใบ

ขั้นตอนที่ 3: ทำซ้ำแอปพลิเคชัน

ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ซ้ำทุกๆ 10 ถึง 14 วันตลอดฤดูปลูก เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง

เคล็ดลับในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาให้ได้มากที่สุด

นอกจากการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 แล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่คุณสามารถปฏิบัติตามเพื่อเพิ่มผลผลิตแตงกวาให้ได้สูงสุด

เลือกพันธุ์ที่เหมาะสม: เลือกพันธุ์แตงกวาที่เหมาะกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมของคุณ

ให้น้ำเพียงพอ: แตงกวาต้องการน้ำมากเพื่อการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม อย่าลืมรดน้ำให้ลึกและสม่ำเสมอ

ควบคุมศัตรูพืชและโรค: ศัตรูพืชและโรคสามารถลดผลผลิตแตงกวาได้อย่างมาก ใช้วิธีการควบคุมศัตรูพืชแบบออร์แกนิกและตรวจสอบพืชของคุณเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของโรค

การตัดแต่งกิ่งที่เหมาะสม: การตัดแต่งกิ่งสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและลดความเสี่ยงของโรค

บทสรุป

การปลูกแตงกวาเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและใส่ใจในรายละเอียด การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงอย่าง FK-1 สามารถช่วยให้พืชของคุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและแข็งแรง ทำตามขั้นตอนข้างต้นเพื่อใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับแตงกวาของคุณ และอย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุด ด้วยการดูแลเอาใจใส่ที่ถูกต้อง คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวแตงกวาที่อุดมสมบูรณ์ได้

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง แมลงจำพวกปากดูด ใน น้อยหน่า เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง แมลงจำพวกปากดูด ใน น้อยหน่า เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Maca Alkaloids: ทางออกที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการควบคุมสัตว์รบกวน

การควบคุมศัตรูพืชเป็นส่วนสำคัญของการเกษตรและการทำฟาร์มมาช้านาน แมลงศัตรูพืชสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผล ทำให้เกษตรกรสูญเสียผลผลิตและรายได้ วิธีการควบคุมสัตว์รบกวนแบบดั้งเดิมอาศัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์

อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการควบคุมสัตว์รบกวน: Maca alkaloids อัลคาลอยด์เหล่านี้สกัดจากต้น Maca โดยใช้หลักการทางเทคโนโลยีขั้นสูง และได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อรวมอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง สารอัลคาลอยด์ของมะค่ามีฤทธิ์ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยแป้งในน้อยหน่า และสามารถยับยั้งการดื้อยาที่เกิดจากการใช้สารเคมีเป็นเวลานาน

ข้อดีหลักประการหนึ่งของ Maca alkaloids คือมีวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันแมลงไม่ให้ปรับตัวเข้ากับความต้านทานได้โดยไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ ทำให้ปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ใช้และผู้บริโภคตลอดจนสิ่งแวดล้อม

อัลคาลอยด์ของ Maca ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมแมลงศัตรูพืชหลายชนิด รวมถึงเพลี้ย แมลงหวี่ขาว และไรเดอร์ พวกมันทำงานโดยรบกวนระบบประสาทของแมลง ทำให้เป็นอัมพาตและตาย Maca alkaloids แตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั่วไป ซึ่งสามารถส่งผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ Maca alkaloids สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพและไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินหรือน้ำ

ประโยชน์อีกประการหนึ่งของอัลคาลอยด์ Maca คือความเก่งกาจ สามารถใช้ในการตั้งค่าการเกษตรต่างๆ รวมถึงการทำเกษตรอินทรีย์และแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในโรงเก็บหลังการเก็บเกี่ยว ปกป้องพืชผลจากการทำลายของแมลงระหว่างการขนส่งและการเก็บรักษา

อัลคาลอยด์ของ Maca ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการควบคุมสัตว์รบกวนเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์เพิ่มเติมอีกมากมาย มีการแสดงเพื่อปรับปรุงคุณภาพพืชผลและเพิ่มผลผลิตตลอดจนเพิ่มการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช พวกมันยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ทำให้พวกมันเป็นส่วนเสริมที่มีคุณค่าสำหรับระบบการเกษตรใดๆ

โดยสรุป Maca alkaloids เป็นวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการควบคุมสัตว์รบกวน โดยนำเสนอประโยชน์มากมายสำหรับเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม วิธีการดำเนินการที่ไม่เฉพาะเจาะจง ความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพ และความปลอดภัยทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Maca alkaloids จึงมั่นใจได้ว่าจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคตของการควบคุมศัตรูพืช

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนชอนใบ ใน ดอกบัว และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนชอนใบ ใน ดอกบัว และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
ดอกบัวเป็นภาพที่สวยงามและเป็นสัญลักษณ์ในสวนและสระน้ำทั่วโลก พวกมันขึ้นชื่อในเรื่องกลีบดอกที่บอบบางและความสงบนิ่ง แต่ความงามของพวกมันอาจถูกกลบด้วยหนอนชอนใบ ศัตรูพืชเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อใบบัว นำไปสู่การเติบโตแคระแกรนและการออกดอกลดลง เพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ ชาวสวนและผู้ปลูกจำนวนมากหันมาใช้สารกำจัดศัตรูพืช แต่สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของพืชและสัตว์อื่นๆ วิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่าคือการใช้แบคทีเรีย Bacillus thuringiensis (Bt) โดยเฉพาะ Bt ยี่ห้อ Basirex ที่รู้จักกันในชื่อ Basilisk

บีทีเป็นแบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งพบได้ในดิน และถูกใช้เป็นสารควบคุมทางชีวภาพสำหรับแมลงศัตรูพืชมานานหลายทศวรรษ บาซิลิสก์ซึ่งเป็นแบรนด์ Bt ของ Basirix เป็นสายพันธุ์ที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดเป้าหมายหนอนใบในดอกบัวโดยเฉพาะ แบคทีเรียทำงานโดยการผลิตสารพิษที่เป็นพิษต่อตัวอ่อนของหนอนชอนใบ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง และแมลงที่เป็นประโยชน์อื่นๆ

การใช้บาซิลิสก์ทำได้ง่ายและสะดวก นำไปใช้กับใบบัวเป็นสเปรย์และพืชดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าไปในใบ แบคทีเรียจะสร้างสารพิษที่ตัวอ่อนของหนอนชอนใบกินเข้าไปเมื่อพวกมันกินใบ สารพิษจะทำลายระบบย่อยอาหารของตัวอ่อน ทำให้หยุดกินอาหารและตายในที่สุด ภายในไม่กี่วันใบที่ได้รับผลกระทบจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเหี่ยวเฉา แต่ใบที่เหลือและต้นบัวจะไม่เป็นอันตราย

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้บาซิลิสก์คือเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหรือพืชและสัตว์อื่น ๆ นอกจากนี้ยังปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง และสามารถใช้ในสวนและฟาร์มออร์แกนิกได้ นอกจากนี้ บาซิลิสก์ยังเจาะจงเป้าหมายของมันมาก ซึ่งหมายความว่ามันจะส่งผลกระทบต่อหนอนกินใบเท่านั้นและไม่เป็นอันตรายต่อแมลงที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เช่น ผึ้งและผีเสื้อ

ข้อดีอีกประการของการใช้บาซิลิสก์คือประสิทธิภาพที่ยาวนาน เมื่อทาแล้วสามารถให้การป้องกันได้นานถึงสองสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความรุนแรงของการแพร่ระบาด ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องใช้งานน้อยลง ลดปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์โดยรวมและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สรุปได้ว่าการใช้บาซิลิสก์ซึ่งเป็นแบรนด์ Bt ของบาซิเร็กซ์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนชอนใบในดอกบัว เป็นทางเลือกทางธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนสารกำจัดศัตรูพืชสังเคราะห์ และมีความเฉพาะเจาะจงสูงในเป้าหมาย ให้การปกป้องยาวนานและใช้งานง่าย เมื่อใช้บาซิลิสก์ ผู้ปลูกบัวและชาวสวนสามารถเพลิดเพลินกับความงามของดอกบัวได้โดยไม่ต้องกังวลว่าหนอนชอนใบจะถูกทำลาย

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยจักจั่น ในดอกกุหลาบ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยจักจั่น ในดอกกุหลาบ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Beauveria ผสม Methharicium จำหน่ายภายใต้แบรนด์ Butarex เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่นิยมใช้ป้องกันและกำจัดเพลี้ยจักจั่นในดอกกุหลาบ เพลี้ยจักจั่นเป็นศัตรูพืชที่พบได้ทั่วไปในสวนกุหลาบ และอาจทำให้พืชเสียหายได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ตรวจสอบ

บิวเวอเรียเป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นยาฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับเพลี้ยจักจั่น เมื่อใช้ร่วมกับ Methharicium ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงสังเคราะห์ ประสิทธิภาพของ Beauveria จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการควบคุมศัตรูพืช

Butarex ยี่ห้อ Beauveria ผสม Methharicium มักจะใช้เป็นสเปรย์โดยตรงไปยังดอกกุหลาบโดยกำหนดเป้าหมายที่เพลี้ยจักจั่นและไข่ของพวกมัน ยาฆ่าแมลงทำงานโดยทำให้แมลงติดเชื้อด้วยเชื้อรา Beauveria ซึ่งจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายและฆ่าพวกมันในที่สุด ในทางกลับกัน เมธาริเซียมทำงานโดยรบกวนระบบประสาทของแมลง นำไปสู่การเป็นอัมพาตและตาย

ข้อดีหลักประการหนึ่งของการใช้เมธาริเซียมผสมบิวเวอเรียคือค่อนข้างปลอดภัยสำหรับมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย เช่น นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นอกจากนี้ สารกำจัดศัตรูพืชยังมีระยะเวลาตกค้างค่อนข้างสั้น ซึ่งหมายความว่าจะสลายตัวอย่างรวดเร็วในสิ่งแวดล้อมและไม่สะสมในดินหรือน้ำ

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับสารกำจัดศัตรูพืช สิ่งสำคัญคือต้องใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมอย่างระมัดระวังและตามคำแนะนำของผู้ผลิต ซึ่งรวมถึงการสวมชุดป้องกันและใช้ยาฆ่าแมลงในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย และหลีกเลี่ยงการใช้ยาฆ่าแมลงในพื้นที่ที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้น่าจะมีอยู่

สรุปได้ว่าบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมซึ่งจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Butarex เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยจักจั่นในดอกกุหลาบ แม้ว่าสารกำจัดศัตรูพืชจะค่อนข้างปลอดภัยสำหรับมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย แต่สิ่งสำคัญคือต้องใช้สารกำจัดศัตรูพืชอย่างระมัดระวังและมีความรับผิดชอบเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
วิธีการควบคุมและป้องกันการระบาดของเพลี้ยในผักชีลาว
วิธีการควบคุมและป้องกันการระบาดของเพลี้ยในผักชีลาว
การจัดการเพลี้ยในผักชีลาว (Coriander) มีหลายวิธีที่คุณสามารถลองใช้เพื่อควบคุมปริมาณของเพลี้ยและป้องกันการเพิ่มมากขึ้น. นี่คือบางวิธีที่สามารถลองใช้ได้:

การใช้สารเคมี:

น้ำยาล้างจาน: ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำและใช้สำหรับฉีดพ่นที่พบเพลี้ย น้ำยาล้างจานจะช่วยในการกำจัดเพลี้ย.
สารเคมีชนิดอื่น: สารเคมีเช่น ปิโตรเลียมออย น้ำยาล้างจาน หรือสารเคมีที่มีส่วนผสมอื่นๆ ที่ระบุสำหรับการควบคุมแมลง.

การใช้สารชีวภาพ:

แตนเบียเล็บขาว: แตนเบียเล็บขาวเป็นแบคทีเรียที่สามารถกำจัดเพลี้ยได้ สามารถหาได้จากร้านที่ขายวัตถุดิบการเกษตร.

การใช้วิธีกลไก:

การใช้ฉีดน้ำ: ใช้น้ำฉีดเพื่อล้างเพลี้ยออกจากผักชี.
การใช้กาแฟ: น้ำกาแฟเข้มสามารถใช้เป็นสารไล่แมลงได้.

การป้องกัน:

การปลูกพืชเซฮส์: พืชเซฮส์เป็นพืชที่ปลูกขึ้นเพื่อดึงดูดแมลงที่เป็นประโยชน์และลดการระบาดของแมลงที่ทำลายผักชี.
การรักษาความชื้นในดิน: ความชื้นที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เพลี้ยไม่ชอบและลดการระบาด.
การใช้วิธีการใดวิธีหนึ่งหรือการผสมผสานกันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการระบาดและวิธีที่คุณรู้สึกว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับสวนของคุณ. ไม่ควรใช้สารเคมีที่มีความพิการต่อสิ่งแวดล้อมหากไม่จำเป็น.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในต้นผักชีลาว
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3559
มาเด้อกินข้าว
มาเด้อกินข้าว "ลูกอิสาน" กินข้าวเหนียว กับอู๋ปลา ผักกระถินริมรั่ว ถั่วฝักยาว

มาเด้อกินข้าว "ลูกอิสาน" กินข้าวเหนียว กับอู๋ปลา ผักกระถินริมรั่ว ถั่วฝักยาวและต้มหน่อไม้ตามคันนาคร่าาา..กินก่อนลุยงานวันจันทร์ที่วุ่นวาย..

พอฝนตกก็มีปลาทันที..^0^

อ่าน:3559
แครอท ใบไหม้ ใบจุด เน่าเละ กำจัดโรค เชื้อราต่างๆในแครอท ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวย ปุ่ย ศัตรูพืช
แครอท ใบไหม้ ใบจุด เน่าเละ กำจัดโรค เชื้อราต่างๆในแครอท ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวย ปุ่ย ศัตรูพืช
ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

โรคต้นและใบไหม้แห้งที่เกิดจากเชื้อรา (fungal blight of carrot)
เชื้อราที่ก่อให้เกิดอาการต้นใบไหม้กับแครรอท ตามรายงานมีอยู่ด้วยกันหลายตัวทั้ง Cercosi Alternaria Phomopsis และ Scptoria โดยแต่ละชนิดจะเข้าทำลายและก่อให้เกิดอาการส่วนใหญ่โดยทั่วไปคล้ายๆ กันจะมีผิดกันก็เพียงข้อปลีกย่อยที่แตกต่างออกไปเท่านั้น

โรคต้นใบไหม้แห้งที่เกิดจาก Cercospora (Cercospora blight)
Cercospora ที่เป็นสาเหตุโรคต้นใบไหม้แห้งของแครอทคือ Cercospora carotae เชื้อนี้จะเข้าทำลายและก่อให้เกิดอาการกับต้นแครอทได้ทุกส่วนที่อยู่เหนือดินไม่ว่าจะเป็น ต้น กิ่ง ใบ ก้านใบ และดอก บนใบ แผลจะมีลักษณะค่อนข้างกลม สีนํ้าตาลเทา หรือดำ เมื่อเป็นมากๆ เนื้อใบจะถูกทำลายทำให้เกิดอาการเหี่ยวแห้งกลายเป็นสีดำทั้งใบ บนกิ่งก้านและก้านใบแผลจะมีลักษณะยาวรี ขอบสีเข้ม ตอนกลางซีดจาง สำหรับดอกหากถูกเชื้อเข้าทำลายในระยะที่ดอกยังอ่อนจะแห้งตายทั้งดอก ถ้าเป็นดอกที่ผสมติดฝักแล้ว เชื้อราก็จะเข้าทำลายฝักต่อไปแต่จะไม่ทำอันตรายเมล็ดที่มี ภายในฝักนั้นแต่อย่างไร เพียงแต่เส้นใยจะไปอาศัยเกาะพักตัวอยู่ตามเปลือกและผิวของเมล็ดดังกล่าวเพื่อข้ามฤดู และใช้เมล็ดนั้นเป็น seed-borne ต่อไป


ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย 'การควบคุมประจุไฟฟ้า' สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..ด้เช่นกัน
ยารักษาโรค แอนแทรคโนส Anthracnose ใช้ได้กับพืชทุกชนิด (1ลิตร ผสมน้ำได้ 400ลิตร)
ยารักษาโรค แอนแทรคโนส Anthracnose ใช้ได้กับพืชทุกชนิด (1ลิตร ผสมน้ำได้ 400ลิตร)
ใช้ได้กับพืชทุกชนิด ไอเอส สารอินทรีย์ ป้องกันกำจัดโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้ ใบจุดสีน้ำตาล กิ่งแห้ง โรคใบติด โรคราน้ำค้าง ราสนิม แอนแทรคโนส ไฟธอปโทร่า หรือ โรคต่างๆ ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา

✅ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
✅ฉีดพ่นต่อเนื่องไม่อันตราย
✅ใช้ได้กับพืชทุกชนิด
✅ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับปริมาณ ซีซี ที่ได้

🔤ทักแชทได้เลยค่ะ

☎โทร 090-592-8614

🆗ไลน์ไอดี FarmKaset คลิกลิงค์เพื่อแอดไลน์ http://www.farmkaset..link..

🎖สั่งซื้อผ่านหน้าเว็บฟาร์มเกษตรโดยตรง http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อกับ Lazada ไอเอส http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อกับ Shopee ไอเอส http://www.farmkaset..link..


ข้อมูลและอัตราผสมใช้

🍂 ไอเอส อัตตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ทุก 5-7 วัน (2 ครั้ง)


🍂ข้อมูลจำเพาะ ไอเอส

สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อรา สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี “การควบคุมด้วยประจุไฟฟ้า (Ion Control)” โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อรา อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้ใช้และผู้บริโภค
*การใช้ ไอเอส ในช่วงรักษาโรคพืชจากเชื้อรา กรณีลูกค้าใช้ปุ๋ยหมัก ที่หมักเอง ใช้น้ำหมักต่างๆ ให้เลิกใช้ทันที เนื่องจากอาจเป็นการเติมเชื้อโรคเข้าไปเรื่อยๆขณะทำการรักษา (80% ของการเกิดโรคพืช และล้อแมลง มีสาเหตุจากการใช้กากน้ำตาล การหมักปุ๋ย การทำน้ำหมักใช้เอง อย่างไม่ถูกวิธี หรือไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง)
การปลูกทานตะวัน
การปลูกทานตะวัน
ทานตะวัน เป็นพืชนํ้ามันที่มีความสําคัญพืชหนึ่ง นํ้ามันที่ได้จากการสกัดจากเมล็ดทานตะวันจะ
มีคุณภาพสูง ที่ประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว เช่น กรดลิโนเลนิค หรือกรดลิโนเลอิค ที่จะช่วยลด
โคเลสเตอรอลที่เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด นอกจากนี้นํ้ามันจากทานตะวันยังประกอบด้วย วิตามิน เอ ดีอีและเคด้วย ผลผลิตส่วนใหญ่อยู่ในเขตอบอุ่น เช่น สหภาพโซเวียต อาร์เจนตินา และประเทศ ในแถบยุโรปตะวันออก สําหรับประเทศไทย ได้มีการส่งเสริมให้มีการ ปลูกทานตะวันเป็นอาชีพเสริมมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอกับอุตสาหกรรมพืชนํ้ามันและความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ เพราะ ทานตะวันเป็นพืชที่มีอายุสั้นระบบรากลึก มีความทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดีกว่าพืชอื่น ๆ แหล่งปลูกที่สําคัญ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี เพชรบูรณ์ และสระบุรี

สภาพแวดล้อม
ทานตะวัน เป็นพืชที่มีการปรับตัวเข้ากับสภาพของเขตร้อนได้ดีพอสมควรไม่ไวต่อแสง สามารถ
ออกดอกใหผลได้ทุกสภาพช่วงแสง ปลูกได้ในบริเวณที่มีการปลูกข้าวโพด ข้าวฟาง เมื่่อทานตะวันตั้งตัวได้แล้ว จะมีความทนทานต่อสภาพแห้งและร้อนได้พอสมควร และจะเริ่มเติบโตทันทีเมื่อมีฝน นอกจากนี้ทานตะวันยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศเย็นจัดได้ดีกว่าข้าวโพด ข้าวฟ่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้นกล้า ทานตะวันขึ้นได้กับดินหลายประเภท แต่จะขึ้นได้ดีในสภาพดินที่มีผิวดินหนาและอุ้มความชื้นไว้ได้ดี สามารถทนต่อสภาพความอุดมสมบูรณ์ตํ่า ตลอดจนสภาพดินเกลือและเป็นด่างจัดได้พอสมควร ซึ่งดินเหล่านี้จะมีอยู่เป็นจํานวนมากในเขตแห้งแล้งทั่วๆไป

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ทานตะวัน เป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับเบญจมาศ คําฝอย ดาวเรือง เป็นพืชล้มลุกที่มีปลูกกัน
มากในเขตอบอุ่น การที่มีชื่อเรียกว่า ทานตะวัน เพราะลักษณะการหันของช่อดอกและใบจะหันไปทาง
ทิศของดวงอาทิตย์คือ หันไปทางทิศตะวันออกในตอนเช้า และทิศตะวันตกในตอนเย็น แต่การหันจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ หลังจากมีการผสมเกสรแล้วไปจนกระทั่งถึงช่วงดอกแก่ ซึ่งช่อดอกจะหันไปทิศตะวันออกเสมอ

ราก เป็นระบบรากแก้วหยั่งลึกลงไปประมาณ 150-270 เซนติเมตร มีรากแขนงค่อนข้างแข็ง
แรงแผ่ขยายไปด้านข้างได้ยาวถึง 60-150 เซนติเมตร เพื่อช่วยคํ้าจุนลําต้นได้ดีและสามารถใช้ความชื้นระดับผิวดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลําต้น ส่วนใหญ่ไม่มีแขนง แต่บางพันธุ์มีการแตกแขนง ขนาดของลําต้น ความสูง การแตก
แขนงขึ้นอยู่กับพันธุ์และสภาพแวดล์อม ความสูงของต้นอยู๋ระหว่าง 1-10 เซนติเมตร การโค้งของลําต้น ตรงส่วนที่เป็นก้านช่อดอกมีหลายแบบ แบบที่ต้องการคือแบบที่ ส่วนโค้งตรงก้านช่อดอกคิดเป็นร้อยละ15 ของความสูงของลําต้น พันธุ์ที่มีการแตกแขนง อาจมีความยาวของแขนงสูงกวาลําตนหลักแขนง อาจแตกมาจากส่วนโคนหรือยอด หรือตลอดลําต้นก็ได้

ใบ เป็นใบเดี่ยวเกิดตรงกันข้าม หลังจากที่มีใบเกิดแบบตรงกันข้ามอยู่ 5 คู่แล้ว ใบที่เกิดหลัง
จากนั้นจะมีลักษณะวน จํานวนใบบนต้นอาจมีตั้งแต่ 8-70 ใบ รูปร่างของใบแตกต่างกันตามพันธุ์สีของ
ใบอาจมีตั้งแต่เขียวอ่อน เขียว และเขียวเข้ม ใบที่เกิดออกมาจากตายอดใหม่ๆ ก้านใบจะอยู่ในแนวตั้งจนกระทั้งใบมีความยาว 1 เซนติเมตร ปลายยอดจะค่อย ๆ โค้งลงจนเมื่อใบแก่แล้วก็จะโค้งลงมาเป็นรูปตัวยู (U) การสร้างใบจะมีมากจนกระทั่งดอกบาน หลังจากนั้นการสร้างใบจะลดน้อยลง
ดอก เป็นรูปจาน เกิดอยู่บนตายอดของลําต้นหลัก หรือแขนงลําต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอก
อยู่ระหว่าง 6-37 เซนติเมตร ซึ่งขึ้นกับพันธุ์และสภาพแวดล้อม ดอกมีลักษณะเป็นแบบช่อดอก
ประกอบด้วยดอกย่อยเป็นจํานวนมาก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

1. ดอกย่อยที่อยู่รอบนอกจานดอก เป็นดอกที่ไม่มีเพศ (เป็นหมัน) มีกลับดอกสีเหลืองส้ม
2. ดอกย่อยที่อยู่ในจานดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ที่พร้อมจะผสมได้ก่อนเกสรตัว
เมีย และสายพันธุ์ผสมเป็นส่วนใหญ่ผสมตัวเองน้อยมาก
ในแต่ละจานดอกจะมีดอกย่อยอยู่ประมาณ 700-3_000 ดอก ในพันธุ์ที่ให้นํ้ามัน ส่วนพันธุ์
อื่นๆ อาจมีดอกย่อยถึง 8_000 ดอก การบานหรือการแก่ของดอกจะเริ่มจากวงรอบนอกเข้าไปสู่ศูนย์
กลางของดอก ดอกบนกิ่งแขนงจะมีขนาดเล็ก แต่ถ้าเป็นแขนงที่แตกออกมาตอนแรกๆ ดอกจะมีขนาด
ใหญ่เกือบเท่ากับดอกบนลําต้นหลัก ส่วนใหญ่พันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้า มักจะเลือกต้นชนิดที่มีดอกเดี่ยว
เพื่อความสมบูรณ์ของดอก และให้เมล็ดที่มีคุณภาพดี

เมล็ด (หรือผล) ประกอบด้วยเนื้อใน ซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลือกที่แข็งแรง เมื่อผลสุกส่วนของ
ดอกที่อยู่เหนือรังไข่จะร่วง ผลที่มีขนาดใหญ่จะอยู่วงรอบนอก ส่วนผลที่อยู่ข้างในใกล้ๆ กึ่งกลางจะมีผลเล็กลง

เมล็ดทานตะวัน แบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ คือ
1. เมล็ดใช้สกัดนํ้ามัน จะมีเมล็ดเล็ก สีดํา เปลือกเมล็ดบางให้นํ้ามันมาก
2. เมล็ดใช้รับประทาน จะมีเมล็ดโตกว่าพวกแรก เปลือกหนาไม่ติดกับเนื้อในเมล็ด เพื่อสะดวก
ในการกะเทาะแล้วใช้เนื้อในรับประทาน โดยอบหรือปรุงแต่งขนมหวาน หรือทําเป็นแป้งประกอบอาหารหรือใช้เมล็ดคั่วกับเกลือแล้ว แทะเปลือกออกรับประทานเนื้อข้างในเป็นอาหารว่าง เช่นเดียวกับเมล็ดแตงโม
3. เมล็ดใช้เลี้ยงนก ใช้เมล็ดเป็นอาหารเลี้ยงนก หรือไก่ โดยตรง

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ทานตะวันชอบอากาศอบอุ่นในเวลากลางวันและอากาศเย็นในเวลากลางคืน อุณหภูมิที่เหมาะ
สมคือ อยู่ระหว่าง 18-25 องศาเซลเซียส สภาพความเป็นกรด-ด่าง ของดินประมาณ 5.7-8 สามารถ
ขึ้นได้ในดินแทบทุกประเภท แต่ที่ขึ้นได้ดีคือดินที่มีหน้าดินลึกที่อุ้มนํ้าได้ดี แต่ไม่ชอบนํ้าขังและไม่ชอบดินที่มีลักษณะเป็นกรด หากดินที่ปลูกมีความชื้นตํ่า ผลผลิตของเมล็ดจะตํ่าลงมาก

พันธุ์
ทานตะวันมี 3 สายพันธุ์พันธุ์ผสมเปิด ซึ่งเป็นพันธุ์เดิมที่ใช้ปลูก ซึ่งในดอกจะมีจํานวนเรณูที่ติด
อยู่ที่ก้านชูเกสรตัวเมียน้อย ทําให้การติดเมล็ดด้วยการผสมตัวเองตํ่า ต้องอาศัยแมลงช่วยในการผสม
เกสร จึงจะทําให้ติดเมล็ด การปลูกจึงไม่ประสบผลสําเร็จเพราะได้เมล็ดลีบ ผลผลิตตํ่าเนื่องจากไม่ค่อยมีแมลงช่วยผสมเกสร แต่ปัจจุบันมีพันธุ์ลูกผสมสามารถติดเมล็ดได้ดีโดยไม่ต้องอาศัยแมลงช่วยผสมเกสร เพราะในดอกมีละอองเรณูที่ติดอยู่ก้านชูเกสรตัวเมียมากกว่าพันธุ์ผสมเปิด 3-4 เท่า จึงทําให้การติดเมล็ดด้วยการผสมตัวเองดีกว่าสายพันธุ์ผสมเปิด

ปัจจุบันยังไม่มีการผลิตเมล็ดทานตะวันลูกผสมในประเทศไทย ต้องนําเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่
พันธุ์ไฮซัน 33 และพันธุ์เอส 101 ซึ่งมีลักษณะของจานดอกค่อนข้างใหญ่กลีบดอกสีเหลืองสดใสและให้ปริมาณนํ้ามันสูง สายพันธุ์สังเคราะห์ซึ่งยังไม่มีการส่งเสริมในปัจจุบัน แต่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการวิจัยของหน่วยงานวิจัย สําหรับทานตะวันที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในขณะนี้คือ สายพันธุ์ลูกผสม

ลักษณะดีเด่นของพันธุ์ลูกผสม ได้แก่
1. ผลผลิต เฉลี่ย 254.82 กิโลกรัมต่อไร่
2. การติดเมล็ด เฉลี่ยร้อยละ 76.3
3. เส้นผ่าศูนย์กลาง เฉลี่ย 15.4 เซนติเมตรของจานดอก
4. ความสูงของต้น เฉลี่ย 168.9 เซนติเมตร
5. อายุเก็บเกี่ยว เฉลี่ย 90-100 วัน
6. ปริมาณนํ้ามัน เฉลี่ยร้อยละ 48 ที่มา
1-4 การเปรียบเทียบพันธุ์ทานตะวันในท้องถิ่น จํานวน 5 พันธุ์ฤดูแล้ง ปี 2529 ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่ 5-6 บริษัทแปซิฟิค เมล็ดพันธุ์จํากัด

ลักษณะที่ดีของพันธุ์ ลูกผสม คือ สามารถผสมเกสรภายในดอกเดียวกันได้สูง การติดเมล็ดค่อน
ข้างดี การหาผึ้งหรือแมลงช่วยผสมเกสรจึงไม่จําเป็นมากนัก แต่ถ้ามีแมลงช่วยผสมก็มีลักษณะประจํา
พันธุ์ที่มีผลต่อการดึงดูดแมลง เช่น กลีบดอกสีสดใส กลิ่นของเรณูปริมาณและคุณภาพของนํ้าหวานก็ดีกว่าพันธุ์ผสมเปิด ทนทานต่อการโค่นล้มและต้านทานต่อโรคราสนิม

ฤดูปลูก
ทานตะวันเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ในทุกฤดูกาล เพราะเป็นพืชที่ไม่ไวต่อช่วงแสง อย่าง
ไรก็ตามการปลูกในบางท้องที่อาจไม่มีความเหมาะสม เช่น ในที่ลุ่มภาคกลาง ในฤดูฝนจะมีนํ้าขังแฉะ
เกินไป หรือที่ดินในฤดูแล้งที่ไม่มีนํ้าชลประทาน ดังนั้นฤดูที่เหมาะสมที่สุดมี 2 ฤดูคือ

1. ปลายฤดูฝน ในสภาพพื้นที่ที่เป็นดินร่วนเหนียว ควรปลูกทานตะวันในปลายฤดูฝน คือ ตั้ง
แต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน แต่ถ้าสภาพพื้นที่ที่ปลูกเป็นดินร่วนทราย ควรปลูกในเดือนสิงหาคมตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูฝน
2. ฤดูแล้ง ถ้าในแหล่งปลูกนั้นสามารถใช้นํ้าจากชลประทานได้ก็สามารถปลูกเป็นพืชเสริมได้
โดยปลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว
เนื่องจากพันธุ์ลูกผสมนี้ดอกค่อนข้างใหญ่ เวลาเมล็ดแก่จานดอกจะห้อยลงมาและด้านหลังของ
จานดอกจะมีลักษณะเป็นแอ่งเหมือนกระทะก้นแบน เมื่อฝนตกลงมานํ้าฝนจะขังในแอ่งดังกล่าว จะทําให้เกิดโรคเน่าได้มากและทําให้เมล็ดเน่าเสียหาย ดังนั้นจึงควรปลูกในปลายฤดูฝน หรือในฤดูแล้งถ้ามี
ฝนตกนํ้าขังในแอ่งของจานดอก ให้เขย่าต้นเพื่อทําให้นํ้าไหลออกให้หมด

การเตรียมดิน
การเตรียมดินก้อนปลูก ควรไถดินให้ลึกในระดับ30 เซนติเมตรหรือลึกกว่านั้น เพราะว่า เมื่อฝนตกดินจะสามารถรับนํ้าให้ซึมซับอยู่ในดินได้มากขึ้น การไถดินลึกจะช่วยทําลายการอัดแน่นของดินในชั้นไถพรวน ทําให้นํ้าซึมลงในดินชั้นล่างได้มากขึ้น ควรกําจัดวัชพืชในแปลงให้สะอาด และไถย่อยดินครั้งสุดท้ายให้ร่วนซุย หากมีการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปพร้อมกับการย่อยดินครั้งสุดท้ายจะช่วย
เสริมธาตุอาหารต่างๆเพื่อให้พืชนําไปใช้ประโยชน์

การปลูก
หลังจากเตรียมดินเสร็จแล้ว ควรทําร่องสําหรับหยอดเมล็ด โดยให้แต่ละร่องห่างกัน 70-75 เซนติเมตร และให้หลุมปลูกในร่องห่างกัน 25-30เซนติเมตร หยอดหลุมละ 2 เมล็ด แลวกลบดินโดยให้เมล็ดอยู่ลึก 5-8เซนติเมตร เมื่อพืชงอกได้ 10 วัน หรือมีใบจริง 2-4 คู่ให้ถอนแยกเหลือไว้
เฉพาะต้นที่แข็งแรงเพียงหลุมละ 1 ต้น และถ้าหากดินมีความชื้นตํ่าควรใช้
ระยะปลูกกว้างขึ้น

การยกร่องนี้ เพื่อเป็นการสะดวกในการให้นํ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกในฤดูแล้งที่ต้องการนํ้ามาก ส่วนการปลูกในฤดูฝน ถ้าเป็นดินที่มีการระบายนํ้าดีก็ไม่จําเป็นต้องยกร่องและใช้ระยะปลูกเช่นเดียวกับยกร่องการปลูกวิธีนี้ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ลูกผสมจํานวน 0.7 กิโลกรัมต่อไร่และปลูกตามระยะที่แนะนํานี้
จะได้จํานวนต้น 6_400-8_500 ต้นต่อไร่

ใส่ปุ๋ย
ทานตะวันเป็นพืชที่ให้โปรตีน และแร่ธาตุสูง จึงควรใส่ปุ๋ยในปริมาณที่พืชต้องการตามสภาพดิน
ที่ปลูกด้วยสําหรับปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมที่แนะนํา คือ สูตร 15 – 15 - 15 หรือ 16 - 16 - 8 อัตรา 30
- 50 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใส่รองพื้นพร้อมปลูก และใช้ปุ๋ยยูเรีย 46 – 0 - 0 อัตรา 20-30 กิโลกรัมต่อ
ไร่ เมื่อทานตะวันอายุได้ 30 วัน หรือมีใบจริง 6-7 คู่ ซึ่งเป็นระยะกําลังจะออกดอก หากมีการตรวจ
วิเคราะห์ดินก่อนปลูก จะช่วยให้การใช้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและในกรณีที่เป็นดินทรายและขาดธาตุ
โบรอน ควรใส่ผงโบแรกซ์ประมาณ 2 กิโลกรัมต่อไร่ จะทําให้เพิ่มผลผลิตได้มากและทําให้คุณภาพของเมล็ดทานตะวันดีขึ้น

ให้นํ้า
นํ้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการผลิตทานตะวัน หากความชื้นในดินมีน้อยก็จะทําให้ผล
ผลิตลดลงด้วย การให้นํ้าที่เหมาะสมแก่ทานตะวันจึงจะทําให้ได้รับผลผลิตดีด้วย ดังนั้นการให้นํ้าควร
ปฏิบัติดังนี้
ครั้งที่ 1 หลังจากปลูกเสร็จแล้วรีบให้นํ้าทันทีหรือควรทําการปลูกทันทีหลังฝนตกเพื่อใช้ความชื้นในดินให้เต็มที่โดยไม่ต้องรดนํ้า
ครั้งที่ 2 ระยะมีใบจริง 2 คู่ หรือประมาณ 10-15 วัน หลังงอก
ครั้งที่ 3 ระยะเริ่มมีตาดอก หรือประมาณ 30-35 วัน หลังงอก
ครั้งที่ 4 ระยะดอกเริ่มบาน หรือประมาณ 50-55 วัน หลังงอก
ครั้งที่ 5 ระยะกําลังติดเมล็ด หรือประมาณ 60-70 วัน หลังงอก การให้นํ้าควรให้นํ้าอย่างเพียง
พอให้ดินชุ่ม แต่ไม่ต้องถึงกับแฉะและนํ้าขังการให้นํ้าควรคํานึงถึงความชุ่มชื้นในดินด้วย ไม่ควรปล่อย
ให้ดินแห้งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงแรกของการเจริญเติบโตจนถึงระยะติดเมล็ด

การกําจัดวัชพืช
ควรกําจัดวัชพืชอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อทานตะวันมีใบจริง 2-4 คู่ ซึ่งการทํารุ่นครั้งแรก
นี้ทําพร้อมกับการถอนแยกต้นพืชให้เหลือ 1 ต้นต่อหลุม เป็นการสะดวกสําหรับเกษตรกรในการปฏิบัติ
และครั้งที่สองทําพร้อมกับการใส่ปุ๋ยครั้งที่สอง เมื่อทานตะวันมีใบจริง 6-7 คู่ ทํารุ่นพร้อมกับใส่ปุ๋ยและ
พูนโคนต้นไปด้วย ในแปลงที่มีปัญหาวัชพืชขึ้นรบกวน ควรทําการกําจัดวัชพืชเพื่อป้องกันการแย่งอาหารและความชื้นในดิน ตั้งแต่ต้นยังเล็กหรือใช้สารเคมีคุมกําเนิดหรือใช้สารเคมีคุมกําเนิดพวกอะลาคลอร์ หรือเมโธลาคลอร์ฉีดพ่นหลังหยอดเมล็ดก่อนที่จะงอกในอัตรา 300-400 ซีซีผสมนํ้า 4 ปี๊บ สําหรับฉีดพ่นในเนื้อที่ปลูก 1 ไร่ โดยฉีดให้สมํ่าเสมอกันสามารถคุมการเกิดวัชพืชได้นานถึง 2 เดือน และควรใช้แรงงานคน สัตว์หรือเครื่องทุ่นแรง ทํารุ่นได้ตามความจําเป็น

ข้อควรระวัง
ห้ามใช้สารเคมีกําจัดวัชพืชอะทราซีนในทานตะวันโดยเด็ดขาด

การเก็บเกี่ยว
ทานตะวัน จะมีอายุการเก็บเกี่ยวแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก (พันธุ์ลูกผสม อายุเก็บเกี่ยว 90-100 วัน)

วิธีการ
เก็บเกี่ยวนั้นให้สังเกตจากด้านหลังของจานดอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นช่วงการสร้างนํ้ามันในเมล็ดจะเริ่มลดลง และจะหยุด
สร้างนํ้ามันเมื่อจานดอกเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลก็เริ่มเก็บเกี่ยวได้หลัง
จากนั้นให้นําไปผึ่งแดดจัด ๆ 1-2 แดด โดยแขวนให้หัวห้อยลงและ
หมั่นกลับช่อดอก เพื่อให้ดอกแห้งอย่างสมํ่าเสมอ ถ้าเก็บเกี่ยวในช่วงที่ยังมีฝนชุกให้นํามาผึ่งในร่ม
หลายๆ วันจนแห้งสนิท แล้วจึงรวบรวมไปนวด อาจใช้แรงคนหรือสัตว์หรือใช้เครื่องนวดเมล็ดถั่วเหลืองหรือถั่วลิสงก็ได้เสร็จแล้วนําไปทําความสะอาดแล้วเก็บไว้ในยุ้งฉางที่ป้องกันแดด-ฝน และแมลงศัตรูได้ เพื่อรอจําหน่าย (ความชื้นของเมล็ดที่จะเก็บรักษาไว้ควรไม่เกิน 10%)

การให้ผลผลิต
การปลูกทานตะวันในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการบํารุงรักษาดีจะให้ผลผลิตไม่ตํ่ากว่า
300 กิโลกรัมต่อไร่แต่โดยเฉลี่ยประมาณไม่ตํ่ากว่า 200 กิโลกรัมต่อไร่

โรคแมลงและศัตรูทานตะวัน
- โรคใบและลําตำนไหม้อัลเทอร์นาเรีย
- โรคโคนเน่าหรือลําต้นเน่า
แมลงศัตรูทานตะวัน
- หนอนกระทู้ผัก
- หนอนเจาะสมอฝ้าย
- หนอนม้วนใบส้ม
- หนอนเจาะลําต้นข้าวโพด

ศัตรูทานตะวัน
นก หนูและอื่น ๆ นับว่าเป็นศัตรูสําคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะทําความเสียหายให้แก่ทานตะวัน
โดยเฉพาะในแหล่งปลูกใหญ่ๆ ฉะนั้นเกษตรจะต้องหมั่นออกสํารวจตรวจแปลงเสมอ เมื่อพบว่ามีการ
ระบาดก็ให้รีบทําการป้องกันกําจัด โดยวิธีกลคือ การวางกับดัก การล้อมตีเป็นต้น

ประโยชน์ของทานตะวัน
แต่เดิมทานตะวันเป็นเพียงไม้ดอกไม้ประดับเท่านั้น ต่อมาได้นําเมล็ดมาเป็นของขบเคี้ยว และ
สกัดเป็นนํ้ามัน จึงทําให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญพืชหนึ่ง การใช้ประโยชน์จากทานตะวันมีหลายลักษณะดังนี้

1. เมล็ด ใช้บริโภคโดยตรง เพื่อเป็นแหล่งโปรตีนแทนเนื้อสัตว์ได้ในเมล็ด มีธาตุเหล็กสูงไม่แพ้
ธาตุเหล็กจากไข่แดงและตับสัตว์เมื่อบดทําแป้งจะได้แป้งสีขาว มีไขมันสูง มีโปรตีนมากกว่าร้อยละ 50ของปริมาณแป้ง
2. เปลือกของลําต้น มีลักษณะเหมือนเยื่อไม้นํามาทํากระดาษสีขาวได้คุณภาพดีลําต้นใช้ทํา
เชื้อเพลิงได้เมื่อไถกลบจะเป็นปุ๋ยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินได้ดี
3. ราก ใช้ทําแป้งเค้ก สปาเก็ตตี้ในรากมีวิตามินบี1 และธาตุอีกหลายชนิด แพทย์แนะนําให้ใช้ รากทานตะวันประกอบอาหารสําหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
4. นํ้ามัน นํ้ามันที่สกัดจากเมล็ดจะให้ปริมาณนํ้ามันสูงถึงร้อยละ 35 และได้นํ้ามันที่มีคุณภาพ
สูง ประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวเช่น กรดลิโนเลอิค หรือกรดลิโนเลนิค สูงถึงร้อยละ 60-70 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยลดคลอเรสเตอรอลที่เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ และยังประกอบด้วยไวตามิน เอ ดีอีและเค ซึ่งคุณภาพของไวตามินอีจะสูงกว่าในนํ้ามันพืชอื่น ๆ เมื่อ เก็บไว้เป็นเวลานานจะไม่เกิดกลิ่นหืน ทั้งยังทําให้สีกลิ่น และรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากใช้เป็นนํ้ามันพืชแล้วยังนิยมใช้ในอุตสาหกรรม ทําเนยเทียม สีนํ้ามันชักเงา สบู่และนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์
5. กาก กากที่ได้จากการสกัดนํ้ามันออกแล้ว จะนําไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ได้ในกาก
เมล็ดทานตะวันที่กะเทาะเปลือกและบีบนํ้ามันออกแล้ว จะมีโปรตีนร้อยละ 42 และใช้เป็นแหล่ง
แคลเซียมสําหรับปศุสัตว์ได้ดีแต่จะมีปริมาณกรดอะมิโนอยู่เล็กน้อย และขาดไลซีนจึงต้องใช้อย่างรอบคอบ เมื่อจะเอาไปผสมเป็นอาหารสัตว์ที่มิใช่สัตว์เคี้ยวเอื้อง


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
รูปภาพจาก
อ่าน:3559
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในชมพู่ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในชมพู่ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
เพลี้ยไฟเป็นแมลงตัวเล็กเรียวที่กินน้ำเลี้ยงของพืช ทำให้ใบและดอกเสียหาย พวกมันเป็นศัตรูพืชที่สำคัญในพืชหลายชนิดรวมถึงชมพู่ เพื่อป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟในผลชมพู่ ควรใช้ส่วนผสมของบิวเวอเรียและเมธาริเซียม หรือที่เรียกว่าบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียม (ยี่ห้อบิวทาเร็กซ์)

มันทำงานอย่างไร:

บิวเวอเรียเป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นยาฆ่าแมลงตามธรรมชาติ มันแพร่เชื้อและฆ่าเพลี้ยไฟ ในขณะที่เมธาริเซียมทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งการกินอาหาร ป้องกันไม่ให้เพลี้ยไฟกินต้นชมพู่ เมื่อรวมกันแล้ว Beauveria และ Metharicium จะสร้างวิธีการสองทางในการควบคุมเพลี้ยไฟ เพื่อให้แน่ใจว่าแมลงศัตรูพืชจะได้รับการป้องกันไม่ให้กินอาหารและถูกกำจัด

ข้อดีของบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียม:

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: โบเวอเรียผสมเมธาริเซียมเป็นทางเลือกจากธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมีกำจัดแมลง ลดความเสี่ยงต่ออันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสายพันธุ์ที่ไม่ใช่เป้าหมาย

ปลอดภัยสำหรับมนุษย์: ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายบนผลชมพู่ แตกต่างจากยาฆ่าแมลงทั่วไปคือ Beauveria ผสมเมธาริเซียมไม่เป็นพิษต่อมนุษย์

ประหยัดค่าใช้จ่าย: โบเวอเรียผสมเมธาริเซียมเป็นวิธีแก้ปัญหาที่คุ้มค่าสำหรับการควบคุมเพลี้ยไฟในผลชมพู่ เนื่องจากมีอายุการใช้งานยาวนานและไม่ต้องใช้งานซ้ำ

ใช้งานง่าย: บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมใช้งานง่าย เพียงผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำแล้วนำไปใช้กับต้นชมพู่โดยใช้เครื่องพ่นสารเคมี

บทสรุป:

สรุปได้ว่าบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟในผลชมพู่ ด้วยคุณสมบัติทางธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บวกกับความคุ้มค่าและใช้งานง่าย ทำให้ชมพู่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ปลูกชมพู่

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
3582 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 2 รายการ
|-Page 135 of 359-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 | 359 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ปุ๋ยสำหรับ ผักบุ้ง ส่งเสริมการเจริญเติบโต ฉีดพ่น FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/13 23:39:29 - Views: 3485
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในมังคุด และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/01 09:11:26 - Views: 3471
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในพืชกะหล่ำปลีอย่างมีประสิทธิภาพ
Update: 2566/05/06 10:43:54 - Views: 3487
ฮิวมิค แอซิด: ฟาร์มิคที่ทำให้ดินร่วมรสชาติกับพืช สำหรับต้นงา
Update: 2567/02/13 09:37:15 - Views: 3596
โรคเผือก โรคใบจุดตากบ โรคใบจุดตาเสือ โรคใบไหม้ในเผือก แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2564/06/15 11:30:49 - Views: 4834
เติบโตไร้ขีดจำกัด: ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO เพื่อเร่งการออกดอกและรากของต้นเสาวรส
Update: 2567/02/12 14:00:39 - Views: 3501
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ตัวช่วยเร่งแป้ง เพิ่มน้ำตาล ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และความหวานให้กับต้นข้าวโพด
Update: 2567/03/02 13:46:55 - Views: 3594
โรคเชื้อราในต้นยาสูบ: สาเหตุและการป้องกัน
Update: 2566/05/01 13:15:45 - Views: 3543
แอพผสมปุ๋ย จาก ฟาร์มเกษตร ให้บริการฟรี ในรูปแบบ Web based application ไม่ต้องติดตั้ง ใช้งานได้เลย
Update: 2566/01/20 09:39:46 - Views: 3638
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยอ่อน ในข้าวโพด และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/01/26 11:09:21 - Views: 3477
กำจัดเพลี้ย ใน มังคุด เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/05/03 14:22:50 - Views: 3462
อินทผาลัม ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ สตาร์เฟอร์ 0-0-60
Update: 2567/04/19 11:57:20 - Views: 3525
โรครากเน่าโคนเน่าในต้นส้มเขียวหวาน: สาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันและรักษา
Update: 2566/11/08 09:46:10 - Views: 3446
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยหอย ในมะปราง มะยงชิด และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/20 13:31:12 - Views: 3529
เตือน!! ระวังเพลี้ยแป้ง บุก สวนมะนาว สร้างเสียหายได้มาก จัดการได้อย่างไร?
Update: 2566/11/01 14:23:41 - Views: 3608
ถั่วฝักยาวใบจุด-ราสนิม กำจัดโรคถั่วฝักยาว จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/04 10:30:20 - Views: 3474
มะกรูด ใบเหลือง ใบหงิก ใบไหม้ ราดำ กำจัดโรค เชื้อราต่างๆในมะกรูด ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวน ปุ๋ย
Update: 2565/11/04 11:34:52 - Views: 3599
ทุเรียนผลแตก ทุเรียนผลปลิ และเกิดอาการเน่า รอบรอยปลิแตก เนื่องจาก ทุเรียนขาดธาตุแคลเซียม ผลไม้อื่นก็เช่นกัน ฉีดพ่น FK-1
Update: 2564/03/11 21:55:16 - Views: 3871
ฝรั่ง โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
Update: 2566/04/19 10:28:39 - Views: 3485
การจัดการและควบคุมเพลี้ยในการเพาะปลูกถั่วเหลือง
Update: 2566/11/18 13:49:18 - Views: 3489
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022