[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3576 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 6 รายการ

 
สาหร่าย กับการทำนาของลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้ง
สาหร่าย กับการทำนาของลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้ง
วันก่อน ไปเรียนการหมักจุลินทรีย์ที่บ้านคุณลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้ง ที่สุพรรณบุรี มา แล้วเดินดูโน่นดูนี่รอบๆบ้านของคุณลุง เห็นแล้วน่าอิจฉาวิถีชีวิตของคุณลุงจัง พอดีไปสะดุดตาที่อ่างซีเมนต์ ที่คุณลุงทำการทดลองปลูกข้าวแบบเมล็ดเดียว เห็นบางอ่างต้นสูง แตกกอดี กว่าอ่างอื่นๆ เลยถามคุณลุงดู เห็นคุณลุงบอกว่า แกใช้ “สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ เป็นชีวภาพ สาหร่ายตัวนี้มันดี มันตรีงไนโตรเจนในอากาศมาเป็นอาหารของต้นข้าวได้” และคุณลุงยังบอกอีกว่า เอาไปใช้ในนาข้าวของแกแล้ว ดีมากเลย พอดีแกให้ลูกชายเอาไปใส่ แต่ลูกใส่ไม่ทั่วแปลงนา คราวนี้เลยเห็นชัดเจนเลยว่า “ตรงไหนที่ใส่สาหร่ายตัวนี้ลงไป ต้นข้าวจะสูง และแตกกอดีกว่าต้นที่ไม่ได้โดนสาหร่าย” ซึ่งทางเราเห็นว่าสาหร่ายตัวนี้น่าจะมีประโยชน์กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เลยนำมาเล่าให้ฟัง หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากรู้รายละเอียด ก็ไปสอบถามกับคุณลุงทองเหมาะได้นะคะ เผื่ออาจจะได้ความรู้ดีๆ เพื่อมาปรับใช้กับการทำแปลงนาของเพื่อนๆ
อ่าน:3523
โรคราแป้งทุเรียน (Powdery Mildew)
โรคราแป้งทุเรียน (Powdery Mildew)
โรคราแป้งทุเรียน (Powdery Mildew)
โรคราแป้งทุเรียน มีสาเหตุจาก เชื้อราออยเดียม (Oidium sp.) อาการที่ปรากฎ จะพบกลุ่มของเชื้อราสีขาวมีลักษณะคล้ายฝุ่นแป้งปกคลุมผิวเปลือกทุเรียน

โรคราแป้งทุเรียน จะทำลายผลทุเรียนได้ตั้งแต่ระยะติดผลอ่อน ไปตลอดจนผลแก่ หากเข้าทำลายในช่วงติดผลใหม่ จะทำให้ผลร่วงได้ หากเป็นที่ผลโต ผิวทุเรียนจะผิดปกติ ไม่สวย ไม่น่าซื้อ ราคาตกต่ำ

🎯การป้องกันกำจัด

💦ฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ ในอัตราส่วน 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อระงับการลุกลาระบาดของโรค

💦ฉีดพ่น FK ธรรมชาตินิยม ในอัตราส่วน 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อฟื้นฟู เสริมสร้างเนื้อเยื่อ และการแตกยอดใบ

💦สามารถผสมฉีดพ่นไปได้พร้อมกัน


🍂ข้อมูล ไอเอส

สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อรา สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี “การควบคุมด้วยประจุไฟฟ้า (Ion Control)” โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อรา อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้ใช้และผู้บริโภค

🎗คุณประโยชน์
- ป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา สาเหตุโรคในพืชต่างๆ
- ลดการแพร่กระจายของเชื้อราที่เกิดกับพืช
- ป้องกันการลุกลามของแผลที่เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อรา
- มีความต้านทานโรคเพิ่มขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำ

🌿ข้อมูล FK ธรรมชาตินิยม

ประกอบด้วยแร่ธาตุ อาหารพืช ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต การแตกยอด แตกใบ การเสริมสร้าง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยให้พืชเจริญเติบโตดี มีความสมบูรณ์ แข็งแรง มีภูมิต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น

# http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3523
ถั่วลิสง โตไว ใบเขียว เม็ดใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่าเพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
ถั่วลิสง โตไว ใบเขียว เม็ดใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่าเพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
ถั่วลิสง โตไว ใบเขียว เม็ดใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่าเพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
การปลูกถั่วลิสงเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด: วิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ถั่วลิสงเป็นพืชยอดนิยมและมีคุณค่าทางโภชนาการที่ปลูกทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การเพิ่มผลผลิตและผลผลิตสูงสุดจากต้นถั่วลิสงอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรรายย่อย ทางออกหนึ่งสำหรับความท้าทายนี้คือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ ซึ่งสามารถใช้เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของพืช สุขภาพ และผลผลิต ในบทความนี้จะกล่าวถึงประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกถั่วลิสงและวิธีการใช้เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกถั่วลิสง

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช และเมื่อใช้เป็นสเปรย์ทางใบ พืชสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและนำไปใช้ในการเจริญเติบโตและผลผลิต ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับการปลูกถั่วลิสง ได้แก่ :

เพิ่มการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช: สารอาหารในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 จะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วทางใบพืชและนำไปใช้เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ส่งผลให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตมากขึ้น

เพิ่มประสิทธิภาพการดูดธาตุอาหาร: ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 มีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยปรับปรุงการซึมผ่านและการดูดซึมธาตุอาหารของใบพืช ทำให้มั่นใจได้ว่าพืชจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากปุ๋ย

ปรับปรุงคุณภาพพืชผล: สารอาหารในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยปรับปรุงคุณภาพของพืช ส่งผลให้ถั่วลิสงมีขนาดใหญ่ขึ้นและสม่ำเสมอมากขึ้น

ประหยัดต้นทุน: ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเกษตรกรรายย่อยที่ต้องการเพิ่มผลผลิตถั่วลิสงโดยไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์หรือปุ๋ยราคาแพง

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

หากต้องการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับการปลูกถั่วลิสง ให้ทำตามขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้:

เตรียมส่วนผสม: เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

ใช้ส่วนผสม: เมื่อส่วนผสมพร้อมแล้ว ให้ถ่ายโอนไปยังเครื่องพ่นสารเคมีและนำไปใช้กับต้นถั่วลิสง ให้แน่ใจว่าได้ใช้ส่วนผสมเท่า ๆ กันและครอบคลุมทุกส่วนของพืช รวมทั้งใบ ลำต้น และฝัก

ใช้ซ้ำ: เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด ขอแนะนำให้ใส่ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับต้นถั่วลิสงอย่างน้อยสามครั้งในช่วงฤดูปลูก ควรใช้ครั้งแรกเมื่อพืชมีอายุประมาณ 2 สัปดาห์ ควรใช้ครั้งที่สองเมื่อดอกบาน และครั้งที่ 3 ควรทำหลังจากติดฝักแล้ว

บทสรุป

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับการปลูกถั่วลิสงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการส่งเสริมการเจริญเติบโต สุขภาพ และผลผลิตของพืช ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ที่ระบุไว้ในบทความนี้ เกษตรกรรายย่อยสามารถบรรลุผลผลิตสูงสุดจากการปลูกถั่วลิสงและเพิ่มผลกำไรโดยรวม ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรที่ช่ำชองหรือเพิ่งปลูก ลองพิจารณาใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับโครงการปลูกถั่วลิสงครั้งต่อไปของคุณ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และ ติ๊กต็อก ช้อป http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
อินทผาลัม โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
อินทผาลัม โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
อินทผาลัม โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
การเพิ่มผลผลิตสูงสุด: เคล็ดลับสำหรับการเพาะปลูกอินทผลัมโดยใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

อินทผลัมเป็นหนึ่งในผลไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และการเพาะปลูกเป็นแหล่งอาหารและรายได้ที่จำเป็นสำหรับสังคมจำนวนมากมาหลายศตวรรษ อินทผลัมเติบโตในพื้นที่แห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีฝนตกน้อยและอุณหภูมิสูง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพสูงสุด เกษตรกรผู้ปลูกอินทผลัมจำเป็นต้องใช้วิธีการเพาะปลูกและปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ เช่น FK-1 ฉีดพ่นทางใบ

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของอินทผาลัม ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นอย่างสมดุล เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาที่เหมาะสมของอินทผาลัม นอกจากนี้ สเปรย์ทางใบยังมีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมและประสิทธิภาพของปุ๋ย

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการสำหรับการใช้ FK-1 ฉีดพ่นทางใบเพื่อปลูกอินทผลัมและให้ได้ผลผลิตสูงสุด:

เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
อินทผลัมมีระยะการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน และระยะเวลาในการฉีดพ่นทางใบเป็นสิ่งสำคัญ เวลาที่ดีที่สุดในการใส่ปุ๋ยคือช่วงการเจริญเติบโตของพืชซึ่งเกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูปลูก ระยะนี้มีลักษณะเฉพาะของการพัฒนาของใบ ยอด และรากใหม่ การใส่ปุ๋ยในระยะนี้ ธาตุอาหารจะถูกดูดซึมและนำไปใช้โดยพืช ส่งผลให้การเจริญเติบโตและการพัฒนาเป็นไปอย่างสมบูรณ์

ใช้ปริมาณที่ถูกต้อง
เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด จำเป็นต้องใช้ FK-1 ฉีดพ่นทางใบในปริมาณที่ถูกต้อง ปริมาณที่แนะนำคือปุ๋ย FK-1 เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

ตรวจสอบการใช้งานที่สม่ำเสมอ
เพื่อให้แน่ใจว่าฉีดพ่นทางใบอย่างสม่ำเสมอ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เครื่องพ่นที่ให้ละอองละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าปุ๋ยจะกระจายทั่วใบ ส่งผลให้มีการดูดซึมและการใช้สารอาหารอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าสเปรย์ครอบคลุมพื้นผิวใบทั้งหมด รวมถึงด้านล่างของใบซึ่งเป็นที่ตั้งของปากใบ

ติดตามความคืบหน้า
หลังจากใช้งานแล้ว การติดตามความคืบหน้าของอินทผาลัมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการฉีดพ่นทางใบ สัญญาณของการเติบโตและผลผลิตที่ดีขึ้น ได้แก่ ขนาดใบที่เพิ่มขึ้น สีที่ดีขึ้น และชุดผลไม้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเฝ้าติดตามพืชว่ามีสัญญาณของความเครียดหรือการขาดสารอาหาร ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการใส่ปุ๋ยเพิ่มเติม

สรุปได้ว่า FK-1 ฉีดพ่นทางใบเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของอินทผลัม เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ชาวสวนอินทผลัมจะได้ผลผลิตและคุณภาพสูงสุด ส่งผลให้รายได้และความมั่นคงทางอาหารดีขึ้น

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และ ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะขั้วผลเงาะ ใน เงาะ และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะขั้วผลเงาะ ใน เงาะ และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
เงาะเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศในเขตร้อน มีเนื้อหวานฉ่ำที่ล้อมรอบด้วยขนด้านนอก อย่างไรก็ตาม หนอนเจาะขั้วเงาะเป็นศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายให้กับผลได้อย่างมาก หนอนเจาะเข้าไปในตาของต้นเงาะ ทำให้ผลแคระแกรน ผลผลิตลดลง บาซิลลัส ตรา Baserex เป็นบาซิลลัสที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ป้องกันและกำจัดหนอนเจาะขั้วผลเงาะในผลเงาะโดยเฉพาะ

Bacillus Brand Baserex เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งซึ่งมีอยู่ในดินตามธรรมชาติ ปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ Bacillus Brand Baserex ใช้ได้ผลกับหนอนเจาะขั้วผลเงาะเพราะสร้างสารพิษที่เจาะจงไปที่ตัวอ่อนของหนอนเจาะผล สารพิษทำให้ตัวอ่อนหยุดกินอาหารและตายในที่สุด

ในการใช้ Bacillus Brand Baserex สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ นี่เป็นเพราะต้องมีบาซิลลัสอยู่ในต้นไม้ก่อนที่หนอนเจาะตัวอ่อนจะฟักเป็นตัว การรักษาคือการผสม Bacillus Brand Baserex กับน้ำแล้วทาที่ต้นไม้ จากนั้นบาซิลลัสจะยึดครองต้นไม้ และจะเริ่มผลิตสารพิษที่จะป้องกันไม่ให้หนอนเจาะอาหาร

Bacillus Brand Baserex เป็นวิธีการรักษาเชิงป้องกัน หมายความว่าจำเป็นต้องใช้ก่อนที่จะเกิดการทำลายของหนอนเจาะ อย่างไรก็ตามสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ หากตรวจพบหนอนเจาะต้นในระยะแรก สามารถใช้ Bacillus Brand Baserex กับต้นไม้เพื่อป้องกันไม่ให้หนอนเจาะทำลายสร้างความเสียหายเพิ่มเติม

บาซิลลัส ตรา บาซิเร็กซ์ เป็นวิธีธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะขั้วผลเงาะในผลเงาะ ปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย ทำให้เป็นทางออกที่ดีสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกเงาะที่ต้องการปกป้องผลผลิตเงาะจากศัตรูพืชทำลายนี้

สรุปได้ว่า หนอนเจาะขั้วผลเงาะสามารถสร้างความเสียหายให้กับต้นเงาะได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม Bacillus Brand Baserex ให้วิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชชนิดนี้ ด้วยความสามารถในการผลิตสารพิษที่เจาะจงไปที่หนอนเจาะผล Bacillus Brand Baserex เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกที่ต้องการปกป้องผลผลิตเงาะและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนม้วนใบ หนอนกอข้าว หนอนกระทู้กล้า ในต้นข้าว และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนม้วนใบ หนอนกอข้าว หนอนกระทู้กล้า ในต้นข้าว และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
หนอนกระทู้กล้า (Rice Seedling armyworm)

การทำลาย หนอนชนิดนี้เข้าทำลายกัดกินกล้าข้าวทำให้เกิดความเสียหาย
ในระยะแรกจะกัดกินผิวใบ
เมื่อโตขึ้นจึงเริ่มกัดกินใบข้าวทั้งใบเหลือไว้แต่ก้านใบ
และจะกัดกินลำต้นกล้าระดับพื้นดิน
โดยความเสียหายทั้งหมดนี้มักเกิดขึ้นในเวลารวดเร็วภายใน 1-2 วันเท่านั้น

การระบาด ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน
และปกติหนอนจะกัดกินข้าวในเวลากลางคืน

หนอนกอข้าว (Rice stem borers)

การทำลาย หลังหนอนฟักจากไข่จะเจาะเข้าทำลายกาบใบก่อน
ทำให้กาบใบมีสีเหลืองหรือน้ำตาล ซึ่งจะเห็นเป็นอาการช้ำ ๆ
เมื่อฉีกกาบใบดูจะพบตัวหนอน เมื่อหนอนโตขึ้นจะเข้ากัดกินส่วนของลำต้น
ทำให้เกิดอาการใบเหี่ยวในระยะแรก ใบและยอดที่ถูกทำลายจะเหลืองในระยะต่อมา
ซึ่งการทำลายในระยะข้าวแตกกอนี้ทำให้เกิดอาการ “ยอดเหี่ยว” (deadheart)
ถ้าหนอนเข้าทำลายในระยะข้าวตั้งท้องหรือหลังจากข้าวออกรวงจะทำให้เมล็ดข้าวลีบทั้งรวง
รวงข้าวมีสีขาวเรียกอาการนี้ว่า “ข้าวหัวหงอก” (whitehead)

การระบาด พบระบาดที่แปลงข้าวที่มีการใส่ปุ๋ยอัตราสูง
หรือที่มีดินอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะใต้ร่มเงาต้นไม้รอบแปลงนา

หนอนห่อใบข้าว (Rice leaffolder)

การทำลาย ตัวหนอนจะแทะผิวใบข้าวส่วนที่เป็นสีเขียว
ทำให้เห็นเป็นแถบยาวสีขาว มีผลให้การสังเคราะห์แสงลดลง
หนอนจะใช้ใยเหนียวที่สกัดจากปาก
ดึงขอบใบข้าวทั้งสองด้านเข้าหากันเพื่อห่อหุ้มตัวหนอนไว้หนอนจะทำลายใบข้าว
ทุกระยะการเจริญเติบโตของข้าวถ้าหนอนมีปริมาณมากจะใช้ใบข้าวหลาย ๆ
ใบมาห่อหุ้มและกัดกินอยู่ภายใน
โดยสังเกตใบข้าวห่อหุ้มตัวหนอนมีลักษณะคล้ายหลอด
ซึ่งปกติจะพบตัวหนอนเพียงตัวเดียวในใบห่อนั้น
ในระยะข้าวออกรวงหนอนจะทำลายใบธงซึ่งมีผลต่อผลผลิตเพราะทำให้ข้าวมีเมล็ดลีบ
น้ำหนักลดลง

การระบาด ระบาดมากช่วงฤดูฝน ในขณะที่ข้าวเข้าสู่ระยะแตกกอ

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ
จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช
โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น
สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌
ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
เลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ต้นทุนต่ำ ทำกำไรตัวละ 3 บาทต่อวัน
เลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ต้นทุนต่ำ ทำกำไรตัวละ 3 บาทต่อวัน
ไข่ไก่ ถือเป็นสินค้าเกษตรที่มีความต้องการสูง แต่ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ในแต่ละวันที่ป้อนเข้าสู่ตลาดก็สูงเช่นกัน เมื่อเทียบกับอัตราการบริโภคเฉลี่ยของคนไทยที่น้อยกว่าปริมาณผลผลิตต่อวัน เรียกว่าโอเวอร์ซัพพลาย เพราะฉะนั้นเมื่ออุปสงค์-อุปทานไม่สมดุลกันเช่นนี้ จึงเป็นที่มาของปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรต้องแบกรับภาวะขาดทุนอยู่บ่อยครั้ง เป็นสาเหตุทำให้เกษตรกรหลายรายปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยง จากเคยเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดหรือเลี้ยงในกรงตับ เปลี่ยนมาเลี้ยงในระบบเปิดแทน เน้นปล่อยให้หาอาหารกินเองตามธรรมชาติ หรือบางฟาร์มที่พัฒนาไปกว่านั้นคือการเลี้ยงแบบระบบอินทรีย์ เพื่อลดคู่แข่งทางการตลาด เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรักสุขภาพ แถมยังขายไข่ได้ราคาสูงกว่าไข่ที่เลี้ยงในระบบปิดทั่วไปอีกด้วย

คุณศุภกร ชินบุตร หรือ พี่จี๊ป เจ้าของบ้านสวนสานสุข-ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ฮาร์เวสท์ไลฟ์
คุณศุภกร ชินบุตร หรือ พี่จี๊ป เจ้าของบ้านสวนสานสุข-ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ฮาร์เวสท์ไลฟ์ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 126/10 หมู่ที่ 5 ตำบลอ่างหิน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี อดีตพนักงานประจำของฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผันตัวทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ สร้างระบบหมุนเวียนภายในสวน ลดต้นทุน สร้างรายได้เข้ากระเป๋าทุกวัน

พี่จี๊ป เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ให้ฟังว่า ก่อนที่จะลาออกจากงานประจำตนเองได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วว่าจะทำเกษตรอินทรีย์ แต่ยังไม่เจาะจงว่าจะต้องเลี้ยงไก่ เน้นพุ่งเป้าไปที่การปลูกพืชผสมผสาน ได้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี ก็ต้องประสบกับที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะแล้งจัด ไม่มีน้ำสำหรับการเพาะปลูก ซึ่งในตอนนั้นที่สวนได้เลี้ยงไก่ไข่ไว้ ประมาณ 20 ตัว ไว้สำหรับบริโภคในครัวเรือน แต่บริโภคเองยังไงก็บริโภคไม่หมด พี่ที่ทำเกษตรอินทรีย์ด้วยกันจึงแนะนำให้นำเอาไข่ไก่ส่วนที่เหลือไปขาย แล้วได้ผลตอบรับที่ดีมากๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาวิธีการเลี้ยงไก่เพิ่มเติม และเริ่มเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์เป็นอาชีพสร้างรายได้หลักได้เป็นระยะเวลากว่า 6 ปี

สีของเปลือกไข่เป็นสีน้ำตาล เป็นที่ต้องการของตลาด
เจ้าของบอกว่า ปัจจุบันที่ฟาร์มของตนเองเน้นเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์เป็นอาชีพหลักสร้างรายได้ ส่วนการปลูกพืชผสมผสานถือเป็นการสร้างรายได้เสริมเป็นรายปี โดยตอนนี้ที่ฟาร์มเลี้ยงไก่อยู่ประมาณ 900 ตัว จากจุดเริ่มต้นมาจาก 20 ตัว ค่อยๆ ศึกษาทุกเรื่องที่เกี่ยวกับไก่ ทั้งในเรื่องของโรค และการจัดการต่างๆ แล้วจึงค่อยเพิ่มจำนวนการเลี้ยงขึ้น จาก 20 ตัว เพิ่มเป็น 50 ตัว 100 ตัว 400 ตัว จนปัจจุบันเลี้ยงอยู่ 900 ตัว

เลือกเลี้ยงไก่ไข่ สายพันธุ์ไฮบริด มีจุดเด่นคือ ให้ไข่ดก ฟองใหญ่ สีของเปลือกไข่เป็นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสีของไข่ไก่ที่ตลาดต้องการ ตอบโจทย์กับตลาดในเมืองไทย

แม่ไก่แข็งแรง สมบูรณ์ ทุกตัว

ได้เวลากินอาหาร
ซึ่งการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เนื่องจากว่าไก่สายพันธุ์นี้ถูกออกแบบมาให้เลี้ยงในระบบโรงเรือนปิดหรือเลี้ยงในกรงตับ แต่พอนำมาเลี้ยงในระบบโรงเรือนเปิด เน้นเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติเป็นหลัก จำเป็นต้องใช้การดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ มีการแบ่งพื้นที่เลี้ยงในสัดส่วนที่เหมาะสม และได้มาตรฐานสำหรับการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ในพื้นที่ 1 ไร่ เลี้ยงไก่ได้ประมาณ 400 ตัว ประกอบกับในพื้นที่มีการปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นอื่นๆ ไว้เพื่อให้ร่มเงากับไก่ และเจ้าของสวนสามารถเก็บผลผลิตจากไม้ผล ไปขายในการสร้างรายได้เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง

วิธีการเลี้ยง

ปล่อยให้คุ้ยเขี่ยหาอาหารกินเองตามธรรมชาติ

ถึงเวลาให้อาหารเสริมวิตามินจากธรรมชาติ ทำให้ได้ไข่ไก่ที่มีคุณภาพดี ไม่มีกลิ่นคาว
ที่ฟาร์มเริ่มเลี้ยงไก่ไข่จากลูกเจี๊ยบ ไม่ขังกรง มีพื้นที่ปล่อยให้ไก่สามารถแสดงพฤติกรรมทางธรรมชาติได้ คือการคุ้ยเขี่ยหาอาหารเองตามธรรมชาติ และอาหารที่ใช้เลี้ยงมีแหล่งที่มาเป็นอินทรีย์ทั้งหมด ปราศจากยาปฏิชีวนะ ไม่มีการใช้สารเคมีหรือฮอร์โมนเร่ง แต่จะใช้วิธีให้ผลไม้สุกหรือสมุนไพรตามธรรมชาติเป็นยาแทน ทำให้ได้ไข่ไก่ที่มีคุณภาพดี ไม่มีกลิ่นคาว
ต้องมีโรงเรือนไว้สำหรับให้แม่ไก่หลบแดด หลบฝน ส่วนพื้นที่ปล่อยเป็นพื้นที่ไว้สำหรับให้ไก่ได้ออกกำลังกาย ได้คุ้ยเขี่ยหาอาหาร ได้นอนคลุกฝุ่น จะทำให้ไก่มีสุขภาพที่ดี และหมั่นสังเกตพฤติกรรมของไก่เป็นประจำ

การเอาใจใส่ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด จะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำล้วนแล้วต้องการการเอาใจใส่เหมือนกันเพราะเราปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคการเกษตรแตกต่างจากภาคอุตสาหกรรมอย่างหนึ่งคือ ภาคอุตสาหกรรมเมื่อเราใส่อินพุตไปเท่าไหร่ เอาต์พุตจะได้ออกมาเท่ากับที่เราคำนวณไว้ แต่ภาคเกษตรกรรมบางทีเราใส่อินพุตเข้าไป แต่เอาต์พุตที่ได้อาจจะติดลบ หรืออาจจะบวกมากกว่าปกติ มันขึ้นอยู่กับทั้งปัจจัยสภาพแวดล้อม กับการดูแลเอาใจใส่ เพราะว่าสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิต พอเราไม่เอาใจใส่บางทีเขาก็มีการเจ็บป่วย มีการล้มตาย หรือบางทีทำให้ทั้งฟาร์มเกิดโรคระบาด มันก็ส่งผลเสียในระยะยาว หรือส่งผลเสียทั้งระบบได้ เพราะฉะนั้นเรื่องการเอาใส่ใจ หรือการสังเกตพฤติกรรมของเขาเป็นเรื่องสำคัญ

อาหาร ให้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังจากให้อาหารเช้าเสร็จจะมีการล้างทำความสะอาดถังให้น้ำ และเปลี่ยนน้ำให้ไก่ รวมถึงคอยสังเกตสภาพอากาศในแต่ละวัน หากวันไหนอากาศร้อนจะเปิดสปริงเกลอร์รดน้ำบนหลังคาเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ หรือช่วงไหนอากาศเย็นจะมีการเปิดไฟในโรงเรือน เพื่อเพิ่มความอบอุ่น หากเป็นช่วงที่ไก่อยู่ในช่วงออกไข่ ที่ฟาร์มจะเริ่มเก็บไข่ตั้งแต่ในช่วงสายถึงเที่ยง เพราะจะเป็นช่วงที่ไข่ออกเยอะ หลังจากเก็บไข่เสร็จจะนำมาเช็ดทำความสะอาด คัดไซซ์ และเตรียมส่งให้ลูกค้า

สูตรอาหารลดต้นทุน ไก่แข็งแรง เน้นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นหลัก ประกอบไปด้วย 1. ปลายข้าวหรือเปลือกข้าว 50 เปอร์เซ็นต์ 2. เปลือกหอยป่น 5 เปอร์เซ็นต์ 3. ปลาป่น 5 เปอร์เซ็นต์ 4. รำข้าว 10 เปอร์เซ็นต์ 5. สมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด ขมิ้นชัน สับผสมรวมกัน ประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับการให้ผลไม้สุกและหญ้าสดลงไปด้วย

แม่ไก่แข็งแรง สมบูรณ์ ทุกตัว
ระยะเวลาในการเลี้ยง ประมาณ 5-6 เดือน หรือประมาณ 20 สัปดาห์ เริ่มเก็บไข่ได้ในปริมาณเฉลี่ย 60-70 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 500 ฟองต่อวัน หากเทียบกับปริมาณผลผลิตของไก่ที่เลี้ยงเชิงอุตสาหกรรม จำนวนของที่ฟาร์มจะเก็บได้น้อยกว่า เนื่องจากการเลี้ยงในอุตสาหกรรมจะมีการเลี้ยงแบบขังกรง และมีการให้อาหารเสริมเพื่อเร่งให้ไข่ดก มีข้อเสียคือไข่จะมีอายุประมาณ 1-1 ปีครึ่ง เมื่อเทียบกับไก่ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์จะให้ไข่ได้นานถึง 2 ปี ถึงครบกำหนดปลดระวาง

ระบบจัดการ Zero Waste ที่ฟาร์มจะมีจุดเด่นในเรื่องการใช้เศรษฐกิจหมุนเวียนภายในสวน หรือ Zero Waste ทำให้ในแต่ละวันแทบจะไม่มีขยะหรือของเสียออกจากฟาร์มเลย ด้วยวิธีการนำของเสียจากการผลิตสิ่งหนึ่ง ไปเป็นปัจจัยการผลิตอีกสิ่งหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ที่ฟาร์มจะมีการทำนาปลูกข้าวไว้กิน และใช้เป็นวัตถุดิบในการเลี้ยงไก่ จำนวน 7 ไร่ ที่มีกระบวนการหลังจากการทำนาเสร็จ จะมีฟางข้าวและแกลบที่เป็นเปลือกข้าวเหลือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำกลับมาใช้เลี้ยงไก่ได้ทั้งหมด คือนำปลายข้าวหรือรำข้าวมาเป็นอาหารให้ไก่ ส่วนฟางข้าวนำมาเป็นวัสดุรองพื้นหรือทำรังไว้ให้สำหรับแม่ไก่ฟักไข่ได้ทั้งหมด

และส่วนของเสียจากไก่คือมูลไก่ที่ถ่ายผสมออกมากับแกลบ ก็จะนำกลับไปใช้เป็นปุ๋ยในนาข้าว และตอซังจะใช้วิธีการหมักกับมูลไก่แล้วไถกลบ จะไม่มีการเผาเกิดขึ้น และไม่มีการสร้างมลพิษทางอากาศ

ข้อดีที่เห็นได้ชัด คือ

ช่วยลดต้นทุนได้อย่างแน่นอนเพราะว่าปัจจัยการผลิตต่างๆ ที่ต้องซื้อ เช่น ปุ๋ย หรืออาหารสัตว์ นับเป็นต้นทุนทั้งหมด แต่ถ้ามีการจัดสรรพื้นที่ให้พอเหมาะทั้ง 2 ทาง ทั้งการปศุสัตว์และการปลูกพืช แล้วทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในฟาร์มเราแทบจะไม่ต้องซื้อปัจจัยการผลิตจากภายนอกเลย ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไก่มีค่อนข้างน้อยมากๆ
ทำให้เรารู้ถึงแหล่งที่มาของปัจจัยการผลิต ว่าปัจจัยการผลิตจากฟาร์มไม่ปนเปื้อนสารเคมีหรือไม่ปนเปื้อนสารตกค้างใดๆ ปลอดภัยทั้งกับผู้บริโภค 100 เปอร์เซ็นต์
ต้นทุนการดูแล เฉลี่ยประมาณ 1_800 บาทต่อวัน ราคาขายของไข่อินทรีย์ของที่ฟาร์มจะขายได้ราคาเฉลี่ยฟองละประมาณ 6 บาท ได้ราคาสูงกว่าไข่ที่เลี้ยงในระบบฟาร์มปิด คิดเป็นรายได้ต่อวันประมาณ 3_000 บาท หักต้นทุนออกประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ ตกค่าดูแลตัวละ 3-3.50 บาท ที่เหลือคือกำไร

ความแตกต่างระหว่างไข่อินทรีย์กับไข่ที่เลี้ยงระบบปิด

สีของไข่แดงจะแตกต่างจากไข่ทั่วไปตามท้องตลาด เพราะอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็นอาหารจากธรรมชาติ ไม่มีสารเร่งสีไข่แดง จึงทำให้สีของไข่แดงจะออกเหลืองถึงเหลืองส้ม จะไม่ถึงกับส้มแดง
สีของเปลือกมีสีหลากหลาย มีทั้งสีเข้มและสีอ่อนผสมกัน มีผลมาจากการเลี้ยงแบบปล่อย ไก่แต่ละตัวคุ้ยอาหารตามธรรมชาติได้มากน้อยต่างกัน ส่งผลทำให้สีของเปลือกไข่เปลี่ยนไปตามแต่ละวัน ซึ่งข้อนี้จะต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าให้เข้าใจด้วย

ไข่ 500 ฟอง ขายหมดทุกวัน
เน้นส่งโรงแรม ร้านอาหาร

พี่จี๊ป อธิบายให้ฟังว่า สำหรับการหาตลาดไม่เฉพาะแค่ไข่ไก่อินทรีย์เท่านั้น แต่รวมไปถึงในส่วนของสินค้าเกษตรอินทรีย์หรือสินค้าเกษตรทางเลือกชนิดอื่นๆ จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายลูกค้าให้ตรงกลุ่ม แล้วค่อยเจาะไปกลุ่มเป้าหมายนั้น โดยตลาดหลักของที่ฟาร์มตอนนี้เน้นส่งสินค้าให้กับโรงแรมและร้านอาหารเป็นหลัก รวมถึงการมีหน้าร้านขายประจำอยู่ที่ตลาดสุขใจสวนสามพราน ขายทุกวันเสาร์-อาทิตย์

ถ้าหากท่านใดสนใจการเลี้ยงไก่ไข่ถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจ อย่างผมไม่ได้เลี้ยงแค่ไก่อย่างเดียว แต่ยังมีการปลูกพืชในรูปแบบของเกษตรทางเลือกทุกด้าน ไม่ว่าจะปลูกผักอินทรีย์ ผลไม้อินทรีย์ หรือการแปรรูปจากผลไม้หรือผักอินทรีย์ เพราะผมมองว่าในอนาคตคนจะสนใจในสินค้าทางเลือกมากขึ้น ในเรื่องของเทรนด์รักสุขภาพ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นในการทำเกษตรที่เป็นทางเลือกพวกนี้ มันตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชนในเรื่องของสังคมด้วย เพราะคนสมัยใหม่ไม่ได้มองแค่ตัวสินค้าอย่างเดียว แต่เขามองลึกเข้าไปถึงว่าสินค้าตัวนี้ช่วยอะไรอย่างอื่นเพิ่มได้อีกไหม นอกจากแค่ซื้อกิน แต่สามารถช่วยพัฒนาชุมชน ช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมด้วยไหม พี่จี๊ป กล่าวทิ้งท้าย


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
อันตราย!! สารฟอร์มาลิน ในอาหารทะเล
อันตราย!! สารฟอร์มาลิน ในอาหารทะเล
ในปัจจุบันมีการตรวจพบ ฟอร์มาลีน ในอาหารทะเลมากมาย และที่น่ากลัวคือในปัจจุบันก็ยังสุ่มตรวจเจออยู่เรื่อย ๆ ผู้ประกอบการมักใช้สารนี้เพื่อรักษาความสดของอาหารเอาไว้ให้ได้นานยิ่งขึ้น เราในฐานะผู้บริโภคก็ควรมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้เอาไว้บ้างนะคะ เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารทะเลที่มีส่วนผสมของสารฟอร์มาลีนทั้งกับตัวเอง ครอบครัว และคนที่คุณรัก

ฟอร์มาลีน คืออะไร?
ฟอร์มาลีนเป็นสารมีพิษใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเคมีภัณฑ์ พลาสติก สิ่งทอ และใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรคและเชื้อรา ในปัจจุบันมีการนำมาใช้ในทางที่ผิดเพื่อให้อาหารสดคงความสดอยู่ได้นานไม่เน่าเสียง่าย ส่วนใหญ่จะรู้จักฟอร์มาลินในเชิงการแพทย์ที่เราทราบกันดีว่าเอาไว้ใช้ในการดองศพไม่ให้เน่าเปื่อย ใช้เป็นยาดับกลิ่นฆ่าเชื้อโรคเพราะทำให้โปรตีนแข็งตัว ทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอจะใช้เป็นน้ำยาอาบผ้าไม่ให้ย่น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราในการเก็บรักษาธัญพืชหลังการเก็บเกี่ยว และใช้เพื่อป้องกันแมลง แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร

ส่วนประกอบหลักคือ ฟอร์มาลดีไฮด์ 37% ลักษณะเป็นน้ำใส ไม่มีสี กลิ่นฉุน และมีฤทธิ์ระคายเคือง โดยทั่วไปมีไว้เพื่อการฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ทำให้สิ่งของบางอย่างขึ้นรูปและคงรูปอยู่ ใช้ในอุตสาหกรรม ใช้ในการเกษตร ใช้ในทางการแพทย์ ใช้ในเครื่องสำอาง ซึ่งปัจจุบันมีการนำมาใช้ผิดประเภท คือ ใส่ในอาหารโดยเฉพาะพวกอาหารทะเลที่เน่าเสียไว ซึ่งฟอร์มาลีนก่อให้เกิดอันตรายมากมาย

ฟอร์มาลีนเจือปนในอาหารได้อย่างไร
มีรายงานจากประเทศต่างๆ เช่น อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น และอิตาลี ว่าในผักผลไม้ บางชนิดและเนื้อสัตว์บางประเภทโดยเฉพาะสัตว์ทะเลและเห็ดหอมมีปริมาณของฟอร์มาลดีไฮด์ในธรรมชาติสูง แต่อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี ฟอร์มาลีนที่มีในธรรมชาติหรือที่มาจากปุ๋ยและสารฆ่าแมลงส่วนใหญ่จะมีปริมาณน้อยมาก คือ ไม่เกิน 1 พีพีเอ็ม (ส่วนในล้านส่วน) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ในขณะที่ฟอร์มาลีนที่จงใจฉีดหรือแช่ในผักหรือเนื้อสัตว์นั้น หากใช้ปริมาณมากเกินไปและมีตกค้างย่อมเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแน่นอน

ปัจจุบัน ประเทศไทย ตรวจพบบ่อยครั้งว่า มีการใช้ฟอร์มาลีนแช่ผักปลา และเนื้อสัตว์บางอย่างก่อนนำมาขายเพื่อให้มีความสดและไม่เน่าเสียเร็ว เพราะด้วยความไม่รู้ถึงอันตรายของสารชนิดนี้นอกจากนี้ยังนำฟอร์มาลีนมาใช้กับผักหลายชนิด แทนการใช้สารฆ่าแมลง โดยเฉพาะผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว แตงกวา หน่อไม้ ยอดมะพร้าว และอื่นๆ โดยอ้างว่าใช้ฆ่าแมลงบนผักได้ดีและยังทำให้ผักสดอยู่ได้นานอีกทั้งราคายังถูกกว่าสารฆ่าแมลงชนิดอื่นด้วย นอกจากการปนเปื้อนฟอร์มาลีนจะมาจากการฉีดพ่นผักเพื่อฆ่าแมลงแล้ว บางครั้งฟอร์มาลีนอาจมาจากปุ๋ยก็ได้

ฟอร์มาลีนในอาหารส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย
เมื่อเราทานอาหารที่มีส่วนผสมของฟอร์มาลีนเข้าไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณ ซึ่งจริงๆ แค่เราได้กลิ่นก็จะมีอาการฉุน แสบคอ เกิดอาการผิดปกติต่อระบบทางเดินหายใจได้แล้ว บางคนทานเข้าไปจนเกิดอาเจียน เสียเลือดมากจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี เพราะทางเดินอาหารเกิดการไหม้จากสารฟอร์มาลีนที่มีความเป็นกรด หรือเมื่อได้รับในปริมาณที่เข้มข้นก็จะทำให้เลือดเป็นกรด เกิดภาวะช็อก ความดันตก และตามมาด้วยการเสียชีวิต แต่โดยส่วนใหญ่แล้วหากจะเกิดอาการรุนแรงอย่างที่ว่านี้ได้ มักจะมาจากเหตุจงใจหรือการทำร้ายตัวเองมากกว่า

วิธีสังเกตในการเลือกซื้ออาหารสด หรือตรวจสอบว่ามีสารฟอร์มาลีนหรือไม่
อ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า ให้เราดูว่าร้านอาหารนั้นๆ มีกลิ่นฉุนของสารเคมีแปลกๆ หรือเปล่า ตัวอย่างเช่น หากเนื้อกุ้งมีทั้งส่วนที่แข็งสด และมีส่วนที่เปื่อยยุ่ยในตัวเดียวกัน แสดงว่าต้องมีการแช่ฟอร์มาลีนมาอย่างแน่นอนให้หลีกเลี่ยงในการซื้อมาบริโภค เพราะหากเป็นอาหารสดต้องสดเสมอกัน ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเปื่อยหรือส่วนใดส่วนหนึ่งแข็งสด

ส่วนใหญ่ ฟอร์มาลีน จะนิยมใส่ในอาหารทะเลสดทั่วไป โดยเฉพาะปลาหมึก และแมงกะพรุน รวมถึงอาหารทะเลประเภทอื่น ๆ เช่น ปลาหมึกกรอบ สไบนาง และเล็บมือนาง เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้มีการเน่าเสียง่าย ผักก็มีอยู่บ้างแต่นานๆ เราจะเจอสักทีหนึ่ง และอีกวิธีคือใช้ชุดตรวจสารฟอร์มาลีนในอาหาร เมื่อทำครบตามขั้นตอนผลที่ได้ คือ น้ำจะมีสีชมพูแดง แสดงว่าอาหารนั้นมีสารฟอร์มาลีน ก็จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงอาหารสดที่มีสารอันตรายเหล่านีได้อีกทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น SGE ขอแนะนำให้ทุกคนตรวจดูก่อนซื้ออาหารทะเลทุกครั้งนะคะ

ฟอร์มาลีน มีประโยชน์อะไรบ้าง
จากการศึกษาข้อมูลเพจมหาลัยมหิดลคณะแพทยศาสตร์ได้ให้ข้อมูลว่า สาร ฟอร์มาลีน จะมีประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมและทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามนำมาใส่อาหารเพื่อรักษาสภาพอาหาร ฟอร์มาลีนในทางการแพทย์นั้นใช้ในการดองศพไม่ให้เน่าเปื่อย ใช้เป็นยาดับกลิ่นฆ่าเชื้อโรคเพราะทำให้โปรตีนแข็งตัว ทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอจะใช้เป็นน้ำยาอาบผ้าไม่ให้ย่น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราในการเก็บรักษาธัญพืชหลังการ เก็บเกี่ยว และใช้เพื่อป้องกันแมลง แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นสารในกลุ่มอัลดีไฮด์โดยปกติอยู่ในรูปก๊าซเนื่องจากเป็นสารรีดิวซ์ที่รุนแรงจึงเตรียมให้อยู่ในรูป ของสารละลายฟอร์มาลีน ปัจจุบันมีการนำสารนี้ไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางทั้งด้านการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรม ด้าน ความงาม ด้านการเกษตร และด้านอื่น ๆ ทำให้มีการเจือปนอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา

บทลงโทษสำหรับผู้ประกอบการที่ใช้สารฟอร์มาลีนในอาหาร
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขขอแจ้งว่า ฟอร์มาลีนสามารถเกิดในสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติอยู่แล้วในปริมาณหนึ่ง ซึ่งเทคนิคการตรวจวิเคราะห์ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุความแตกต่างระหว่างฟอร์มาลินที่เกิดตามธรรมชาติ และที่ตั้งใจเติมลงไปในอาหารเพื่อหวังผลในด้านการเก็บรักษาได้ ดังนั้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 151 (พ.ศ.2536) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 กำหนดให้สารละลายฟอร์มัลดีไฮด์หรือฟอร์มาลิน เป็นวัตถุห้ามใช้ในอาหาร ผู้ใช้สารนี้กับอาหาร หรือทำให้อาหารนั้นเกิดพิษภัยต่อผู้บริโภค จัดเป็นการผลิต จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ และถ้าตรวจพบการกระทำดังกล่าว จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20_000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จะเห็นได้ว่าการใช้สารละลายฟอร์มัลดีไฮด์หรือฟอร์มาลินในอาหารไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ยังมีโทษตามกฎหมายด้วย

เป็นอย่างไรบ้างคะ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐฯ อาจจะยังครอบคลุมได้ไม่ทั่วถึง ดังนั้นโอกาสที่เราจะได้รับสารพิษในอาหารทะเลก็คงยังดำเนินต่อไป เพราะฉะนั้นการรู้จักระมัดระวังเลือกบริโภค เลือกซื้อเพื่อสุขภาพของตนเองในระยะยาวกันนะคะ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
เร่งให้ดอกบานสวย รากแข็งแรงกับปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO สำหรับต้นดอกลีลาวดี
เร่งให้ดอกบานสวย รากแข็งแรงกับปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO สำหรับต้นดอกลีลาวดี
เร่งให้ดอกบานสวย รากแข็งแรงกับปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO สำหรับต้นดอกลีลาวดี
เพิ่มผลผลิตด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO

การเพิ่มผลผลิตในการเกษตรมีความสำคัญอย่างมากในยุคที่เกษตรกรต้องการผลผลิตที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในบทความนี้เราจะพูดถึงปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นดอกลีลาวดีที่ต้องการการเร่งการออกดอกและการเร่งรากในช่วงเวลาที่สำคัญ

ประสิทธิภาพของปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO เป็นสารประกอบที่มีส่วนผสมที่สำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้นพืชต้องการพัฒนาระบบรากและการออกดอก เนื่องจากสารอาหารที่มีอยู่ในปุ๋ยนี้มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการพัฒนาดอกและรากของพืชอย่างเหมาะสม สูตรที่มีสัดส่วนสูงของฟอสฟอรัส (P) ช่วยให้พืชมีการพัฒนาดอกอย่างแข็งแรงและมั่นคง ในขณะที่ธาตุแมกนีเซียม (MgO) ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสงและการเจริญเติบโตของพืช

ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO สำหรับต้นดอกลีลาวดี

การเร่งการออกดอก: สูตร 10-40-10 ช่วยกระตุ้นกระบวนการออกดอกของต้นดอกลีลาวดีอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ดอกบานออกมาอย่างสม่ำเสมอและมีคุณภาพ

การเร่งราก: ฟอสฟอรัส (P) ในสูตรช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของระบบราก ทำให้ต้นดอกลีลาวดีมีรากแข็งแรงและสามารถดูดธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่

การพัฒนาคุณภาพ: การใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO ช่วยให้ดอกลีลาวดีมีการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์และมีสีสันสวยงาม เพิ่มคุณค่าทางการค้าของผลผลิต

การใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของต้นดอกลีลาวดีอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีสารอาหารที่สอดคล้องกับความต้องการของพืชในช่วงเวลาที่สำคัญ

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)

ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3522
ประโยชน์ของปุ๋ยเร่งรากและเร่งดอกสำหรับแตงกวา
ประโยชน์ของปุ๋ยเร่งรากและเร่งดอกสำหรับแตงกวา
ปุ๋ยที่มีสูตร 10-40-10+3MgO เหมาะสำหรับการเร่งรากและการพัฒนาดอกของพืช โดยเฉพาะแตงกวาที่ต้องการการพัฒนาระบบรากแข็งแรงและการออกดอกที่ดี สูตรนี้มีส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช ดังนี้:

10 (N): ไนโตรเจนช่วยเร่งการเจริญเติบโตของใบและส่วนบนของพืชทั้งๆที่

40 (P2O5): ฟอสฟอรัสเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการพัฒนาระบบรากและการออกดอก

10 (K2O): โปแตสเซียมเสริมให้พืชมีความแข็งแรงและสามารถต้านการเคลื่อนไหวของน้ำได้ดี

3 (MgO): แมกนีเซียมช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสงและเป็นส่วนสำคัญของโครโมโซม

การใช้ปุ๋ยนี้เป็นการฉีดพ่นทางใบจะช่วยให้พืชได้รับสารอาหารได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำการฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็นในวันที่อากาศไม่ร้อนจัด เพื่อป้องกันการจะเป็นไปได้ของการไหลเวียนน้ำที่เร็วเกินไปในระบบพืช การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตที่ระบุไว้ในฉลากของผลิตภัณฑ์ด้วยเพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุดและป้องกันการใช้เกินขนาดที่แนะนำที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อพืชได้

.
ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ ฉีดพ่น ต้นแตงกวา ปุ๋ยเร่งราก ปุ๋ยเร่งดอก แตงกวา คุณภาพดี
ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ ฉีดพ่นไม้ผลทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3522
3576 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 6 รายการ
|-Page 156 of 358-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ยารักษาโรคพืช กำจัดโรคใบติด ในทุเรียน โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่น ไอเอส ใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่)ผสมน้ำได้1,200ลิตร
Update: 2566/05/29 14:19:58 - Views: 3454
ยารักษาโรคพืช กำจัดโรคแอนแทรคโนส ในมะม่วง โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด(ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่) ผสมน้ำได้ 1,200ลิตร
Update: 2566/05/30 14:40:07 - Views: 3507
กำจัดเชื้อรา สับปะรด ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/09/19 10:39:54 - Views: 3509
หากเราตากฝนตกปรอยๆ จะทำให้เราเป็นหวัดได้ แต่ตากฝนตกหนักนั้นไม่เป็นไร นี่เรื่องจริงนะเออ..
Update: 2564/09/05 01:47:10 - Views: 4153
ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิด ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหารไห้กับพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยไห้ดินร่วยซุย ระบายน้ำดี สร้างระบบรากฝอย สำหรับฉีดพ่น ต้นเงาะ
Update: 2567/02/13 09:47:16 - Views: 3607
ทุเรียนใบไหม้ มีสาเหตุมาจากโรคเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส ราฝ่อ หยุดลุกลาม
Update: 2563/10/28 14:21:37 - Views: 4835
โรคราแป้งทุเรียน (Powdery Mildew)
Update: 2564/08/23 01:06:26 - Views: 3497
หนอนห่อใบข้าว (rice leaffolder, LF) ป้องกัน กำจัด ด้วย ไอกี้
Update: 2564/08/16 23:31:35 - Views: 3771
ยาฆ่าเพลี้ย ใบแมงลัก ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/09/10 10:50:08 - Views: 3521
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตร: เพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของต้นฟักเขียว
Update: 2567/02/12 14:44:27 - Views: 3504
ซูกินี่ (Zucchini)
Update: 2564/08/09 22:29:33 - Views: 3519
โรคราแป้ง (Powdery mildew) โรคราแป้งในพริก ราแป้งมะเขือ
Update: 2564/08/09 22:28:26 - Views: 4189
โรคใบไหม้มันสำปะหลัง มันสำปะหลังใบไหม้ ฉีดพ่นด้วยไอเอส และบำรุงให้ฟื้นตัวได้รวดเร็ว ด้วย FK-1
Update: 2563/06/08 08:49:24 - Views: 3477
มะนาวใบไหม้ ใบเหลือง ขอบใบแห้ง เพราะโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส
Update: 2564/08/03 02:58:39 - Views: 4714
ยารักษาโรคพืช กำจัดโรคราดำ ใน มะนาว โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/01 10:58:13 - Views: 3504
มะเขือเทศก้นเน่า อาการก้นเน่าของมะเขือเทศ เกิดจากการขาดธาตุแคลเซียม
Update: 2564/04/17 09:46:11 - Views: 3585
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตร: การใส่ใจดูแลต้นสละของคุณ โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก หัวใหญ่ ดกเต็มต้น
Update: 2567/02/12 14:49:35 - Views: 3603
หนอนฝรั่ง หนอนเจาะผลฝรั่ง หนอนแมลงวันทอง หนอนผีเสื้อ ศัตรูพืชในฝรั่ง หนอนต่างๆ ฉีดพ่น ไอกี้-บีที
Update: 2564/09/20 05:14:53 - Views: 3500
โรคกุหลาบ โรคใบจุด ราแป้ง ราสนิม โรคหนามดำ โรคตากบ โรคกุหลาบจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2564/12/18 23:12:53 - Views: 3913
การควบคุมวัชพืชด้วยคาร์รอน (Diuron 80% WG) ในไร่สับปะรด
Update: 2567/01/25 12:39:38 - Views: 3571
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022