[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3576 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 6 รายการ

 
การป้องกันกำจัด โรคราสีชมพูในทุเรียน
การป้องกันกำจัด โรคราสีชมพูในทุเรียน
ทุเรียนเป็นผลไม้ยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม มีความไวต่อโรคเชื้อราต่างๆ รวมทั้งโรคราสีชมพูที่เกิดจากเชื้อรา Trichoderma harzianum โรคนี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อผลไม้และลดคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อทั้งผลผลิตและมูลค่าทางการตลาด

เพื่อป้องกันและกำจัดโรคราสีชมพูในทุเรียน เกษตรกรสามารถใช้ IS และ FK-1 ร่วมกันได้ IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ช่วยป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ผสมได้ในอัตรา 50 ซีซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วนำไปใช้กับพืชที่ได้รับผลกระทบ

ในทางกลับกัน FK-1 เป็นสารละลายบำรุงพืชพร้อมใช้ซึ่งประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ยังมีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยปรับปรุงการดูดซึมและประสิทธิภาพ เกษตรกรสามารถใช้ FK-1 ได้โดยการผสม 50 กรัมของถุงแรก (มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม) และ 50 กรัมของถุงที่สอง (มีแมกนีเซียมและสังกะสี) กับน้ำ 20 ลิตร สามารถใช้สารละลายนี้กับดินรอบๆ ต้นพืชหรือฉีดพ่นโดยตรงที่ใบก็ได้

การใช้ IS และ FK-1 ร่วมกัน เกษตรกรสามารถป้องกันและกำจัดโรคราสีชมพูในทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชให้แข็งแรงและเพิ่มผลผลิต การใช้สารอินทรีย์เหล่านี้เป็นประจำยังสามารถช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยสังเคราะห์ ซึ่งนำไปสู่การทำการเกษตรที่ยั่งยืนมากขึ้น
อันตราย!! สารฟอร์มาลิน ในอาหารทะเล
อันตราย!! สารฟอร์มาลิน ในอาหารทะเล
ในปัจจุบันมีการตรวจพบ ฟอร์มาลีน ในอาหารทะเลมากมาย และที่น่ากลัวคือในปัจจุบันก็ยังสุ่มตรวจเจออยู่เรื่อย ๆ ผู้ประกอบการมักใช้สารนี้เพื่อรักษาความสดของอาหารเอาไว้ให้ได้นานยิ่งขึ้น เราในฐานะผู้บริโภคก็ควรมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้เอาไว้บ้างนะคะ เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารทะเลที่มีส่วนผสมของสารฟอร์มาลีนทั้งกับตัวเอง ครอบครัว และคนที่คุณรัก

ฟอร์มาลีน คืออะไร?
ฟอร์มาลีนเป็นสารมีพิษใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเคมีภัณฑ์ พลาสติก สิ่งทอ และใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรคและเชื้อรา ในปัจจุบันมีการนำมาใช้ในทางที่ผิดเพื่อให้อาหารสดคงความสดอยู่ได้นานไม่เน่าเสียง่าย ส่วนใหญ่จะรู้จักฟอร์มาลินในเชิงการแพทย์ที่เราทราบกันดีว่าเอาไว้ใช้ในการดองศพไม่ให้เน่าเปื่อย ใช้เป็นยาดับกลิ่นฆ่าเชื้อโรคเพราะทำให้โปรตีนแข็งตัว ทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอจะใช้เป็นน้ำยาอาบผ้าไม่ให้ย่น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราในการเก็บรักษาธัญพืชหลังการเก็บเกี่ยว และใช้เพื่อป้องกันแมลง แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร

ส่วนประกอบหลักคือ ฟอร์มาลดีไฮด์ 37% ลักษณะเป็นน้ำใส ไม่มีสี กลิ่นฉุน และมีฤทธิ์ระคายเคือง โดยทั่วไปมีไว้เพื่อการฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ทำให้สิ่งของบางอย่างขึ้นรูปและคงรูปอยู่ ใช้ในอุตสาหกรรม ใช้ในการเกษตร ใช้ในทางการแพทย์ ใช้ในเครื่องสำอาง ซึ่งปัจจุบันมีการนำมาใช้ผิดประเภท คือ ใส่ในอาหารโดยเฉพาะพวกอาหารทะเลที่เน่าเสียไว ซึ่งฟอร์มาลีนก่อให้เกิดอันตรายมากมาย

ฟอร์มาลีนเจือปนในอาหารได้อย่างไร
มีรายงานจากประเทศต่างๆ เช่น อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น และอิตาลี ว่าในผักผลไม้ บางชนิดและเนื้อสัตว์บางประเภทโดยเฉพาะสัตว์ทะเลและเห็ดหอมมีปริมาณของฟอร์มาลดีไฮด์ในธรรมชาติสูง แต่อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี ฟอร์มาลีนที่มีในธรรมชาติหรือที่มาจากปุ๋ยและสารฆ่าแมลงส่วนใหญ่จะมีปริมาณน้อยมาก คือ ไม่เกิน 1 พีพีเอ็ม (ส่วนในล้านส่วน) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ในขณะที่ฟอร์มาลีนที่จงใจฉีดหรือแช่ในผักหรือเนื้อสัตว์นั้น หากใช้ปริมาณมากเกินไปและมีตกค้างย่อมเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแน่นอน

ปัจจุบัน ประเทศไทย ตรวจพบบ่อยครั้งว่า มีการใช้ฟอร์มาลีนแช่ผักปลา และเนื้อสัตว์บางอย่างก่อนนำมาขายเพื่อให้มีความสดและไม่เน่าเสียเร็ว เพราะด้วยความไม่รู้ถึงอันตรายของสารชนิดนี้นอกจากนี้ยังนำฟอร์มาลีนมาใช้กับผักหลายชนิด แทนการใช้สารฆ่าแมลง โดยเฉพาะผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว แตงกวา หน่อไม้ ยอดมะพร้าว และอื่นๆ โดยอ้างว่าใช้ฆ่าแมลงบนผักได้ดีและยังทำให้ผักสดอยู่ได้นานอีกทั้งราคายังถูกกว่าสารฆ่าแมลงชนิดอื่นด้วย นอกจากการปนเปื้อนฟอร์มาลีนจะมาจากการฉีดพ่นผักเพื่อฆ่าแมลงแล้ว บางครั้งฟอร์มาลีนอาจมาจากปุ๋ยก็ได้

ฟอร์มาลีนในอาหารส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย
เมื่อเราทานอาหารที่มีส่วนผสมของฟอร์มาลีนเข้าไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณ ซึ่งจริงๆ แค่เราได้กลิ่นก็จะมีอาการฉุน แสบคอ เกิดอาการผิดปกติต่อระบบทางเดินหายใจได้แล้ว บางคนทานเข้าไปจนเกิดอาเจียน เสียเลือดมากจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี เพราะทางเดินอาหารเกิดการไหม้จากสารฟอร์มาลีนที่มีความเป็นกรด หรือเมื่อได้รับในปริมาณที่เข้มข้นก็จะทำให้เลือดเป็นกรด เกิดภาวะช็อก ความดันตก และตามมาด้วยการเสียชีวิต แต่โดยส่วนใหญ่แล้วหากจะเกิดอาการรุนแรงอย่างที่ว่านี้ได้ มักจะมาจากเหตุจงใจหรือการทำร้ายตัวเองมากกว่า

วิธีสังเกตในการเลือกซื้ออาหารสด หรือตรวจสอบว่ามีสารฟอร์มาลีนหรือไม่
อ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า ให้เราดูว่าร้านอาหารนั้นๆ มีกลิ่นฉุนของสารเคมีแปลกๆ หรือเปล่า ตัวอย่างเช่น หากเนื้อกุ้งมีทั้งส่วนที่แข็งสด และมีส่วนที่เปื่อยยุ่ยในตัวเดียวกัน แสดงว่าต้องมีการแช่ฟอร์มาลีนมาอย่างแน่นอนให้หลีกเลี่ยงในการซื้อมาบริโภค เพราะหากเป็นอาหารสดต้องสดเสมอกัน ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเปื่อยหรือส่วนใดส่วนหนึ่งแข็งสด

ส่วนใหญ่ ฟอร์มาลีน จะนิยมใส่ในอาหารทะเลสดทั่วไป โดยเฉพาะปลาหมึก และแมงกะพรุน รวมถึงอาหารทะเลประเภทอื่น ๆ เช่น ปลาหมึกกรอบ สไบนาง และเล็บมือนาง เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้มีการเน่าเสียง่าย ผักก็มีอยู่บ้างแต่นานๆ เราจะเจอสักทีหนึ่ง และอีกวิธีคือใช้ชุดตรวจสารฟอร์มาลีนในอาหาร เมื่อทำครบตามขั้นตอนผลที่ได้ คือ น้ำจะมีสีชมพูแดง แสดงว่าอาหารนั้นมีสารฟอร์มาลีน ก็จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงอาหารสดที่มีสารอันตรายเหล่านีได้อีกทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น SGE ขอแนะนำให้ทุกคนตรวจดูก่อนซื้ออาหารทะเลทุกครั้งนะคะ

ฟอร์มาลีน มีประโยชน์อะไรบ้าง
จากการศึกษาข้อมูลเพจมหาลัยมหิดลคณะแพทยศาสตร์ได้ให้ข้อมูลว่า สาร ฟอร์มาลีน จะมีประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมและทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามนำมาใส่อาหารเพื่อรักษาสภาพอาหาร ฟอร์มาลีนในทางการแพทย์นั้นใช้ในการดองศพไม่ให้เน่าเปื่อย ใช้เป็นยาดับกลิ่นฆ่าเชื้อโรคเพราะทำให้โปรตีนแข็งตัว ทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอจะใช้เป็นน้ำยาอาบผ้าไม่ให้ย่น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราในการเก็บรักษาธัญพืชหลังการ เก็บเกี่ยว และใช้เพื่อป้องกันแมลง แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นสารในกลุ่มอัลดีไฮด์โดยปกติอยู่ในรูปก๊าซเนื่องจากเป็นสารรีดิวซ์ที่รุนแรงจึงเตรียมให้อยู่ในรูป ของสารละลายฟอร์มาลีน ปัจจุบันมีการนำสารนี้ไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางทั้งด้านการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรม ด้าน ความงาม ด้านการเกษตร และด้านอื่น ๆ ทำให้มีการเจือปนอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา

บทลงโทษสำหรับผู้ประกอบการที่ใช้สารฟอร์มาลีนในอาหาร
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขขอแจ้งว่า ฟอร์มาลีนสามารถเกิดในสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติอยู่แล้วในปริมาณหนึ่ง ซึ่งเทคนิคการตรวจวิเคราะห์ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุความแตกต่างระหว่างฟอร์มาลินที่เกิดตามธรรมชาติ และที่ตั้งใจเติมลงไปในอาหารเพื่อหวังผลในด้านการเก็บรักษาได้ ดังนั้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 151 (พ.ศ.2536) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 กำหนดให้สารละลายฟอร์มัลดีไฮด์หรือฟอร์มาลิน เป็นวัตถุห้ามใช้ในอาหาร ผู้ใช้สารนี้กับอาหาร หรือทำให้อาหารนั้นเกิดพิษภัยต่อผู้บริโภค จัดเป็นการผลิต จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ และถ้าตรวจพบการกระทำดังกล่าว จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20_000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จะเห็นได้ว่าการใช้สารละลายฟอร์มัลดีไฮด์หรือฟอร์มาลินในอาหารไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ยังมีโทษตามกฎหมายด้วย

เป็นอย่างไรบ้างคะ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐฯ อาจจะยังครอบคลุมได้ไม่ทั่วถึง ดังนั้นโอกาสที่เราจะได้รับสารพิษในอาหารทะเลก็คงยังดำเนินต่อไป เพราะฉะนั้นการรู้จักระมัดระวังเลือกบริโภค เลือกซื้อเพื่อสุขภาพของตนเองในระยะยาวกันนะคะ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะขั้วผลเงาะ ใน เงาะ และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะขั้วผลเงาะ ใน เงาะ และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
เงาะเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศในเขตร้อน มีเนื้อหวานฉ่ำที่ล้อมรอบด้วยขนด้านนอก อย่างไรก็ตาม หนอนเจาะขั้วเงาะเป็นศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายให้กับผลได้อย่างมาก หนอนเจาะเข้าไปในตาของต้นเงาะ ทำให้ผลแคระแกรน ผลผลิตลดลง บาซิลลัส ตรา Baserex เป็นบาซิลลัสที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ป้องกันและกำจัดหนอนเจาะขั้วผลเงาะในผลเงาะโดยเฉพาะ

Bacillus Brand Baserex เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งซึ่งมีอยู่ในดินตามธรรมชาติ ปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ Bacillus Brand Baserex ใช้ได้ผลกับหนอนเจาะขั้วผลเงาะเพราะสร้างสารพิษที่เจาะจงไปที่ตัวอ่อนของหนอนเจาะผล สารพิษทำให้ตัวอ่อนหยุดกินอาหารและตายในที่สุด

ในการใช้ Bacillus Brand Baserex สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ นี่เป็นเพราะต้องมีบาซิลลัสอยู่ในต้นไม้ก่อนที่หนอนเจาะตัวอ่อนจะฟักเป็นตัว การรักษาคือการผสม Bacillus Brand Baserex กับน้ำแล้วทาที่ต้นไม้ จากนั้นบาซิลลัสจะยึดครองต้นไม้ และจะเริ่มผลิตสารพิษที่จะป้องกันไม่ให้หนอนเจาะอาหาร

Bacillus Brand Baserex เป็นวิธีการรักษาเชิงป้องกัน หมายความว่าจำเป็นต้องใช้ก่อนที่จะเกิดการทำลายของหนอนเจาะ อย่างไรก็ตามสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ หากตรวจพบหนอนเจาะต้นในระยะแรก สามารถใช้ Bacillus Brand Baserex กับต้นไม้เพื่อป้องกันไม่ให้หนอนเจาะทำลายสร้างความเสียหายเพิ่มเติม

บาซิลลัส ตรา บาซิเร็กซ์ เป็นวิธีธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะขั้วผลเงาะในผลเงาะ ปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย ทำให้เป็นทางออกที่ดีสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกเงาะที่ต้องการปกป้องผลผลิตเงาะจากศัตรูพืชทำลายนี้

สรุปได้ว่า หนอนเจาะขั้วผลเงาะสามารถสร้างความเสียหายให้กับต้นเงาะได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม Bacillus Brand Baserex ให้วิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชชนิดนี้ ด้วยความสามารถในการผลิตสารพิษที่เจาะจงไปที่หนอนเจาะผล Bacillus Brand Baserex เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกที่ต้องการปกป้องผลผลิตเงาะและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
ต้นกาแฟ โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
ต้นกาแฟ โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
ต้นกาแฟ โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
การเพิ่มผลผลิตไร่กาแฟสูงสุด: บทบาทของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

กาแฟได้กลายเป็นส่วนสำคัญของกิจวัตรประจำวันของหลายๆ คน และความนิยมก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ การผลิตกาแฟจึงกลายเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญ โดยมีเกษตรกรหลายล้านคนพึ่งพากาแฟในการดำรงชีวิต เพื่อตอบสนองความต้องการกาแฟที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ชาวไร่กาแฟจำเป็นต้องเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุดในขณะที่รักษาคุณภาพของผลผลิต วิธีหนึ่งที่จะบรรลุเป้าหมายนี้คือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ เช่น FK-1

FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารที่จำเป็น ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว การผสมผสานสารอาหารที่เป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้กับต้นกาแฟ เนื่องจากช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพของเมล็ดกาแฟ

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบมีข้อดีกว่าการให้ปุ๋ยทางดินแบบดั้งเดิมหลายประการ ประการแรก ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบจะถูกพืชดูดซึมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้พืชนำธาตุอาหารไปใช้ได้รวดเร็วขึ้น ประการที่สอง ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสามารถใช้ได้ในช่วงฤดูปลูก เพื่อให้แน่ใจว่าพืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นในเวลาที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ในที่สุด ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสามารถใช้ร่วมกับการให้ปุ๋ยทางดินได้ ซึ่งช่วยเพิ่มธาตุอาหารพิเศษเมื่อจำเป็น

หากต้องการใช้ FK-1 เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าควรใช้ FK-1 ร่วมกับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด แนวทางปฏิบัติเหล่านี้รวมถึงการตัดแต่งต้นกาแฟอย่างสม่ำเสมอ การให้น้ำที่เหมาะสม และการควบคุมศัตรูพืชและโรค นอกจากนี้ เกษตรกรควรดูแลให้ต้นกาแฟได้รับแสงแดดเพียงพอและดินมีการระบายน้ำดี

สรุปได้ว่า ชาวไร่กาแฟสามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงสุดโดยใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ เช่น FK-1 ด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็นแก่ต้นกาแฟ FK-1 ส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพของเมล็ดกาแฟ เมื่อใช้ร่วมกับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี FK-1 สามารถช่วยชาวไร่กาแฟให้ตอบสนองความต้องการกาแฟคุณภาพสูงที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะเดียวกันก็รักษาความยั่งยืนของฟาร์มของพวกเขา

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
เคล็ดลับการใช้ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง: วิธีปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มขนาดของผลให้มะม่วง
เคล็ดลับการใช้ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง: วิธีปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มขนาดของผลให้มะม่วง
การให้ปุ๋ยเพื่อเร่งผลมะม่วงและเพิ่มขนาดของผลมีความสำคัญเนื่องจากมีผลต่อคุณภาพและปริมาณของผลผลิต การใช้ปุ๋ยที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยให้มะม่วงเจริญเติบโตได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตมะม่วงที่มีคุณภาพดีมากขึ้นด้วย

ธาตุอาหารที่สำคัญสำหรับการเร่งผลมะม่วงและเพิ่มขนาดของผลรวมถึงการเพิ่มโพแทสเซียม (Potassium) ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาของผลและเพิ่มความหวานในผลมะม่วง โพแทสเซียมยังช่วยเสริมระบบต้านทานทางชีวภาพของพืชต่อโรคและสภาพแวดล้อมที่แปลปวกโดยช่วยให้พืชทนทานต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น การทนทานต่อการขาดน้ำ

นอกจากโพแทสเซียมแล้วยังควรให้ธาตุอาหารอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ไนโตรเจน (Nitrogen) สำหรับการเพิ่มความเขียวของใบและส่งเสริมการเจริญเติบโต ฟอสฟอรัส (Phosphorus) สำหรับการส่งเสริมการเจริญเติบโตของระบบราก และธาตุอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อมะม่วงในระหว่างการเจริญเติบโตและการออกดอก-ผล

การเลือกใช้ปุ๋ยที่มีสูตรที่เหมาะสมตามระยะเวลาและขั้นตอนการเจริญเติบโตของมะม่วงจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติการให้ปุ๋ยตามคำแนะนำที่ระบุในบรรจุภัณฑ์ของปุ๋ยนั้น ๆ

อย่าลืมว่าการดูแลรักษามะม่วงในด้านอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น การให้น้ำ การควบคุมแมลง และการจัดการโรคพืช ก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้มะม่วงเจริญเติบโตและผลิตผลที่มีคุณภาพดี

.
ปุ๋ย FK-3 ฉีดพ่น ต้นมะม่วง ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง ปุ๋ยมะม่วง เพิ่มขนาด ขยายผล คุณภาพดี ให้ ธาตุ โพแทสเซียม ถึง 40% สำหรับเร่งผลโดยเฉพาะ
ปุ๋ย FK-3 ฉีดพ่นไม้ผลทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ปุ๋ย FK-13 ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3511
การจัดการเพลี้ยในต้นข้าวโพด: วิธีและกลยุทธ์ในการควบคุมการระบาดของศัตรูพืช
การจัดการเพลี้ยในต้นข้าวโพด: วิธีและกลยุทธ์ในการควบคุมการระบาดของศัตรูพืช
การจัดการเพลี้ยในต้นข้าวโพดมีหลายวิธีที่สามารถนำมาใช้ได้ ต่อไปนี้คือบางวิธีที่คุณสามารถลองใช้:

การใช้สารเคมี:

น้ำยาล้างจานและน้ำสบู่: ผสมน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่กับน้ำและใช้ส่องต้นข้าวโพด เพลี้ยจะถูกล้างออกไป.
น้ำหล่อเลี้ยงมีน้ำส้มสายชูหรือสารกำจัดเพลี้ย: นำมีน้ำส้มสายชูหรือสารกำจัดเพลี้ยที่มีความอ่อนโยนต่อสิ่งแวดล้อมมาผสมน้ำและฉีดพ่นต้นข้าวโพด.

การใช้ศัตรูธรรมชาติ:

แมลงศัตรูธรรมชาติ: การสนับสนุนแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น ซึ่งเป็นศัตรูธรรมชาติของเพลี้ย.
การปลูกพืชสมุนไพร: การปลูกพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมสามารถดึงดูดและกำจัดเพลี้ยได้ เช่น สะระแหน่ บอสเวลเอีย และโบราซ.

การจัดการทางทางกล:

การใช้ทางกล: ใช้สปริงเกอร์หรือฟอกล้างด้วยน้ำเพื่อล้างเพลี้ยออกจากต้นข้าวโพด.
การใช้วัตถุดิบธรรมชาติ: นำวัตถุดิบธรรมชาติ หรือสารเชื้อราบิวเวอเรียมมาใช้กำจัดเพลี้ย.

การจัดการทางชีววิทยา:

การใช้เชื้อราบิวเวอเรีย: นำเชื้อราบิวเวอเรียมมาฉีดพ่นต้นข้าวโพด เชื้อรานี้สามารถทำลายเพลี้ยได้.

การเลือกใช้พันธุ์ข้าวโพดที่ต้านทานต่อเพลี้ย:

พันธุ์ข้าวโพดที่มีความต้านทานต่อเพลี้ย: บางพันธุ์ข้าวโพดมีความต้านทานต่อเพลี้ยมากกว่าพันธุ์อื่น ๆ ดังนั้นควรเลือกใช้พันธุ์ที่เหมาะสม.
ควรจะตรวจสอบต้นข้าวโพดอย่างสม่ำเสมอและดำเนินการป้องกันหรือกำจัดเพลี้ยทันทีเมื่อพบการระบาด การใช้วิธีผสมผสานจะช่วยให้การจัดการเพลี้ยในต้นข้าวโพดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในต้นข้าวโพด
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3511
ยากำจัดโรครากเน่าแห้ง ใน กาแฟ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรครากเน่าแห้ง ใน กาแฟ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรครากเน่าแห้ง ใน กาแฟ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์ปฏิวัติสุขภาพของต้นกาแฟ

กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีคนชื่นชอบมากที่สุดทั่วโลก ผู้คนหลายล้านคนเริ่มต้นวันใหม่ด้วยจาวาแก้วนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้นกาแฟมักเผชิญกับภัยคุกคามที่สำคัญจากการติดเชื้อราที่ทำลายล้างซึ่งเรียกว่าโรครากเน่าแห้ง โรคที่ไม่หยุดยั้งนี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อต้นกาแฟ ทำให้ผลผลิตลดลงและเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสำหรับชาวไร่ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาเร่งด่วนนี้ นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยได้พัฒนาวิธีการแก้ปัญหาใหม่ที่มีชื่อว่า IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่กำจัดรากเน่าแห้งในต้นกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

IS เป็นผลมาจากความพยายามในการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม โดยมุ่งค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสูงเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อราในต้นกาแฟ ด้วยการคัดสรรและสกัดส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดอย่างระมัดระวัง สารนวัตกรรมนี้ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา IS นำเสนอทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับเกษตรกร คนงาน และผู้บริโภค ซึ่งแตกต่างจากสารกำจัดเชื้อราที่ใช้สารเคมีแบบดั้งเดิม

ความสำเร็จของ IS อยู่ที่เทคโนโลยีเฉพาะของบริษัท ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การควบคุมสิ่งแวดล้อมที่ผิวใบของต้นกาแฟ ด้วยการสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา IS จึงลดการแพร่กระจายของรากเน่าแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้สารช่วยให้แน่ใจว่าพื้นผิวใบของพืชจะไม่เอื้ออำนวยต่อเชื้อรา ป้องกันไม่ให้เชื้อราตั้งหลักและก่อให้เกิดอันตรายต่อพืช

ยิ่งไปกว่านั้น IS ยังแสดงคุณสมบัติการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ติดอยู่กับที่บนพื้นผิวใบพืชได้เป็นระยะเวลานาน คุณลักษณะนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมากในการต่อสู้กับโรครากเน่าแห้ง เมื่อยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น IS จะสร้างเกราะป้องกันที่ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อรา แม้ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ชาวไร่กาแฟสามารถสบายใจได้เมื่อรู้ว่าต้นกาแฟของพวกเขาได้รับการปกป้องจากโรคร้ายแรงนี้

ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของ IS คือองค์ประกอบอินทรีย์ ได้มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้น จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้ สิ่งแวดล้อม และผู้บริโภคปลายทาง ในขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังคงเพิ่มขึ้น IS สอดคล้องอย่างสมบูรณ์แบบกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นสู่แนวทางปฏิบัติที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและออร์แกนิก ด้วยการใช้ IS ชาวไร่กาแฟสามารถรับประกันสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของพืชผลของพวกเขา ในขณะที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจทั่วโลก

การแนะนำ IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโรครากเน่าแห้งในต้นกาแฟ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยซึ่งได้มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ไม่เพียงแต่กำจัดการติดเชื้อราเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อราแบบดั้งเดิมอีกด้วย ด้วยความสามารถในการควบคุมสภาพแวดล้อมบนผิวใบพืชและเพิ่มการยึดเกาะ ระบบ IS นำเสนอการป้องกันที่ไม่มีใครเทียบได้ต่อโรครากเน่าแห้ง การปกป้องพืชผลกาแฟ และสนับสนุนการดำรงชีวิตของเกษตรกร

ในขณะที่เราก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น IS เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของวิธีการที่วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสามารถจัดการกับความท้าทายด้านการเกษตรในขณะที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้ ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของโซลูชันออร์แกนิกเช่น IS เราสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมกาแฟที่ดีต่อสุขภาพและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีเครื่องดื่มที่เราชื่นชอบมากมายสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
การจัดการและควบคุมหนอนในห่อใบกล้วย
การจัดการและควบคุมหนอนในห่อใบกล้วย
การจัดการและควบคุมหนอนในห่อใบกล้วย
หากมีหนอนในห่อใบกล้วย มีโอกาสที่เป็นหนอนแมลงวันผีเสื้อหรือหนอนห่อใบกล้วย (Banana leaf roller). หนอนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะทำลายใบกล้วยโดยการห่อใบเข้าด้วยกันเป็นทรงกระบอก ทำให้ใบกล้วยหงิกงอและสลายไปเรื่อย ๆ หากไม่ดูแล หนอนเหล่านี้สามารถทำให้พืชสูญเสียประโยชน์และเสียหายได้มาก ๆ

นอกจากนี้ยังมีการใช้วิธีการควบคุมทางชีวภาพหรือการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันหรือกำจัดหนอนในห่อใบกล้วยได้ด้วย เช่น:

การใช้ศัตรูธรรมชาติ:

การใช้ศัตรูธรรมชาติ เพื่อควบคุมปริมาณหนอน

การใช้สารเคมี:

การใช้สารเคมีเพื่อควบคุมหนอน สารเคมีที่มีประสิทธิภาพทางการเกษตรและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคจะถูกนำมาใช้ ควรใช้ตามคำแนะนำและคำแนะนำในฉลาก

การตัดใบที่มีหนอน:

การตัดใบที่มีหนอนและทิ้งไปอาจเป็นวิธีที่ดีในการควบคุมปริมาณหนอนได้

การใช้กับดักแสง:

การติดตั้งกับดักแสงที่มีแสงสะท้อนมากจะช่วยดึงดูดหนอนมายังตำแหน่งที่ติดตั้งดัก

การเลือกใช้วิธีการควบคุมต่าง ๆ นี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและวิธีการเกษตรที่คุณต้องการทำให้เหมาะสมกับระบบการเกษตรของคุณ

.
ไอกี้-บีที เป็นสารชีวินทรีย์ ป้องกัน กำจัด หนอน ในต้นกล้วย
ไอกี้-บีที สามารถป้องกันกำจัดหนอนต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอกี้-บีที ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3511
ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ ..ทานตะวัน..
ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ ..ทานตะวัน..
ชื่อสมุนไพร ทานตะวัน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ชอนตะวัน(ภาคกลาง) _ บัวตอง _ บัวผัด (ภาคเหนือ) _ทานหวัน (ภาคใต้)_ ดอกกินตะเวน (ภาคอีสาน) หมากปังเจิญ (ไทยใหญ่) _ เซี่ยงยื่อขุย (จีนกลาง) _ เหี่ยวหยิกขุย (จีนแต้ติ๋ว)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Helianthus annuus Linn.
ชื่อสามัญ Sunflower _ Sunchoke
วงศ์ ASTERACEAE

ถิ่นกำเนิดทานตะวัน
ทานตะวันเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลางโดยเชื่อกันว่ามีการปลูกในประเทศ เม็กซิโก ตั้งแต่ 2600 ปี ก่อนคริสตกาลแล้ว แต่ก็มีข้อมูลในบางแหล่งระบุว่า ทานตะวันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทางตะวันตก ของสหรัฐอเมริกา โดยชาวอินเดียนแดงได้เก็บเมล็ดมาบริโภคเป็นเวลานานมากแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 300 - 400 ปีที่ผ่านมา ชาวยุโรปได้นำทานตะวันไปปลูกเป็นไม้ดอก ในยุโรป

จากนั้นทานตะวันจึงได้แพร่กระจายพันธุ์ไปยัง เขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยเชื่อกันว่าทานตะวันเข้ามาในประเทศในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวฝรั่งเศสนำมาปลูก และในปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในแถบภาคกลางบริเวณจังหวัด ลพบุรี และเพชรบูรณ์ เป็นต้น

ประโยชน์และสรรพคุณทานตะวัน
1.ช่วยขับปัสสาวะ
2.แก้ไอ
3.แก้ขับหนองใน ฝีฝักบัว
4.แก้ไข้หวัด
5.ใช้ลดไขมันในเส้นเลือด
6.แก้พิษแมลงป่อง
7.แก้อาการปวดท้องเสียดแน่นหน้าอก
8.แก้ฟกช้ำ
9.เป็นยาระบาย
10.ขับพยาธิไส้เดือน
11.ช่วยขับลม
12.ช่วยทำให้ตาสว่าง
13.แก้วิงเวียน
14.แก้อาการปวดหัว
15.แก้ปวดฟัน
16.แก้ปวดท้องโรคกระเพาะ
17.แก้ปวดประจำเดือน
18.แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
19.ใช้แก้โรคหืด
20.แก้เบาหวาน
21.แก้อาการหูอื้อ
22.ช่วยขับเสมหะ

ลักษณะทั่วไปทานตะวัน

ทานตะวันจัดเป็นไม้ล้มลุก สูง 2-4 เมตร ลำต้นตั้งตรงเป็นแกนแข็ง มีขนสากแข็งสีขาวปกคลุม โดยส่วนใหญ่ลำต้นจะไม่มีแขนง แต่บางพันธุ์ก็อาจมีการแตกแขนง ส่วนขนาดของลำต้นจะขึ้นอยู่กับพันธุ์และสภาพแวดล้อม รากเป็นระบบรากแก้วหยั่งลึกลงไปประมาณ 1-2.5 เมตร และมีรากแขนงแผ่ขยายไปด้านข้างยาวได้ถึง 1.5 เมตร เพื่อช่วยค้ำจุนลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกันตรงข้ามใบเป็นรูปกลมรึหรือรูปไข่ โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีขนแข็งสากทั้งสองด้าน ก้านใบยาว โดยขนานของใบจะกว้างประมาณ 8-25 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ส่วนสีของใบอาจเป็นสีเขียวอ่อน เขียว หรือเขียวเข้ม แล้วแต่ละพันธุ์ ซึ่งทานตะวัน 1 ต้นอาจมีใบได้ 8-70 ใบ เลยทีเดียว ดอก ออกเป็นดอกเดียวบริเวณปลายยอดลำต้น โดยเป็นรูปจานขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 6-37 เซนติเมตร (ซึ่งขึ้นกับพันธุ์และสภาพแวดล้อม) ดอกมีลักษณะเป็นแบบช่อดอกประกอบด้วยดอกย่อยเป็นจำนวนมาก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

ดอกย่อยที่อยู่รอบนอกจากดอก เป็นดอกที่ไม่มีเพศ (เป็นหมัน) มีกลีบดอกสีเหลืองส้ม
ดอกย่อยที่อยู่ในจานดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ที่พร้อมจะผสมได้ก่อนเกสรตัวเมีย ซึ่งกลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายแหลมมีสีเหลืองสด ส่วนด้านในคือช่อดอก มีลักษณะเป็นจาน ประกอบไปด้วยดอกขนาดเล็กจำนวนมาก กลางดอกมีเกสรสีน้ำตาลอมสีม่วงและภายในมีผลจำนวนมาก โดยในแต่ละจากดอกจะมีดอกย่อยอยู่ประมาณ 700 – 3000 ดอก
ผลเป็นรูปกลมรีและแบนนูน ด้านหนึ่งมน อีกด้านหนึ่งแหลม ผลมีขนาดประมาณ 6-17 มิลลิเมตร มีเปลือกหุ้มผลแข็ง เปลือกผลเป็นสีเทาเข้มหรือสีดำและเป็นลายในแนวตั้ง ภายในผลมีเมล็ดสีเหลืองอ่อน 1 เมล็ด ลักษณะรียาว

การขยายพันธุ์ทานตะวัน

ทานตะวันสามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีการใช้เมล็ด โดยมีการดังนี้ ก่อนอื่นควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่จะนำไปปลูกโดยควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่แก่จัดและเลือกจากต้นพันธุ์ที่แข็งแรงไม่มีโรค จากนั้นควรเตรียมดินในแปลงปลูกโดยไถดอนให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตรหรือลึกกว่านั้น เพราะว่าการไถดินลึกจะช่วยทำลายการอัดแน่นของดินในชั้นไถพรวน ทำให้น้ำซึมลงในดินชั้นล่างได้มากขึ้น และควรกำลัดวัชพืชในแปลงให้สะอาด และไถย่อยดินครั้งสุดท้ายให้ร่วนซุย และหลังจากเตรียมดินเสร็จแล้ว ควรทำร่องสำหรับหยอดเมล็ด โดยให้มีความห่างละร่อง 70-75 เซนติเมตร และให้หลุมปลูกในร่องห่างกัน 25-30 เซนติเมตรแล้วจึงทำการปลูกโดยหยอดเมล็ดลงไปหลุมละ 2 เมล็ด แล้วกลบดินโดยให้เมล็ดอยู่ลึก 5-8 เซนติเมตร จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มและหมั่นคอยรดน้ำตลอด เมื่อพืชงอกได้ 10 วัน หรือมีใบจริง 2-4 คู่ให้ถอนแยกเหลือไว้เฉพาะต้นที่แข็งแรงเพียงหลุมละ 1 ต้น

สำหรับการเก็บเกี่ยวทานตะวัน จะมีอายุการเก็บเกี่ยวแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก ซึ่งวิธีการเก็บเกี่ยวนั้นให้สังเกตจากด้านหลังของจานดอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นช่วงการสร้างน้ำมันในเมล็ดจะเริ่มลดลง และจะหยุดสร้างน้ำมันเมื่อจานดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จึงเริ่มเก็บเกี่ยวได้ หลังจากเก็บเกี่ยวให้นำไปผึ่งแดดจัดๆ 1-2 แดด โดยแขวนให้หัวห้อยลงและหมั่นกลับช่อดอก เพื่อให้ดอกแห้งอย่างสม่ำเสมอ

องค์ประกอบทางเคมี

มีผลการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีจากส่วนต่างๆ ของทานตะวันพบว่า ทั้งต้นพบมีสาร Earotenoids_ Glycocoll_ Seopoline Heliangine_ Quercimeritin_ Phospholipid Methionine_ Cryptoxanthin_ Tocopherol _Globulin ดอก พบสาร quercimeritrin_ triterpenoid saponins_ helianthoside A_ B_ C เป็นต้น กรดอินทรีย์ ได้แก่ oleanolic acid และ echinocystic acid อับเรณูของดอกส่วนใหญ่มี ß-sitosterol ในเมล็ดพบโปรตีน _ ออกไซด์คาร์บอเนต และน้ำมัน โดยในน้ำมันพบสาร Phospholipid_ Linolenic acid_ Glycerol oil_ Phosphatide_ และ B-Sitosterol ใบ พบสาร neochlorogenic acid_ isochlorogenic acid _chlorogenic acid _ 3-o-feruloylquinic acid_ 4-o-caffeoylquinic acid_ caffeic acid_ scopoline heliangine dicarboxylic acid tricarboxylic acid citric acid malic acid fumaric acid เปลือกเมล็ด พบสาร cellulose_ lignin_ pentosan ราก พบสาร cytokinin _ kinetin ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือน zeatin แกนของต้น พบสาร chlorogenicacid_ scopo nine_ 4-o-caffeoylquinic acid_ neochlorogenic acid

นอกจากนี้ในเมล็ดทานตะวันยังมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดทานตะวันแห้ง ต่อ 100 กรัม

พลังงาน 490กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 38.6กรัม
โปรตีน 16.7กรัม
ไขมัน 32.8กรัม
ใยอาหาร 3.7กรัม
วิตามินเอ 50 หน่วยสากล
วิตามินบี 1 1.480 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.07มิลลิกรัม
วิตามินบี 2.4มิลลิกรัม
วิตามินบี 5 1.130 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 1.345 มิลลิกรัม
วิตามินบี 9 227 ไมโครกรัม
วิตามินซี 1.4 มิลลิกรัม
วิตามินอี 35.17 มิลลิกรัม
แคลเซียม 92มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 5.8มิลลิกรัม
ธาตุแมกนีเซียม 325 มิลลิกรัม
ธาตุแมงกานีส 1.950 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 632มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 645 มิลลิกรัม
โครงสร้างทานตะวัน

ที่มา : Wikipedia

รูปแบบและขนาดวิธีใช้

ใช้ขับปัสสาวะ โดยใช้แกนต้น 15 กรัม ต้มน้ำกิน หรือรากสด 15- 30 กรัม คั้นน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้งกินแก้อาการช่วยขับปัสสาวะขุ่นขาว ขับปัสสาวะ ให้ใช้แกนกลางลำต้น ยาวประมาณ 60 ซม. (หรือประมาณ 15 กรัม ) และรากต้นจุ้ยขึ้งฉ่ายราว 60 กรัม ใช้ต้มคั้นเอาน้ำ หรือใช้ผสมกับน้ำผึ้งรับประทาน แก้อาการบิดมูกเลือด ให้ใช้เม็ดประมาณ 30 กรัม ใส่น้ำตาลเล็กน้อย ต้มน้ำนานราว 60 นาที แล้วใช้ดื่ม แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ นิ่วในไต ใช้แกนต้นยาว 2 ฟุต ต้มน้ำ กินวันละครั้ง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ติดต่อกัน หรือใช้รากสด 30 กรัม ต้มน้ำกิน แก้อาการปวดหัว ตาลาย ใช้ฐานรองดอกที่แห้งแล้ว ประมาณ 25- 30 กรัม นำมาตุ๋น กับไข่ 1 ฟอง รับประทานหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง ใช้ปวดท้องน้อยก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ใช้ฐานรองดอก 30- 60 กรัม ต้มน้ำแล้วเติมน้ำตาลแดง 30 กรัมกิน ลดความดันโลหิต ให้ใช้ใบสด 60 กรัม (แห้ง 30 กรัม ) และโถวงู่ฉิกสด 60 กรัม (แห้ง 30 กรัม ) นำมาต้มเอาน้ำรับประทาน แก้ไอกรน ให้ใช้แกนกลางลำต้นโขลกให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับน้ำตาล ทรายขาว ชงด้วยน้ำร้อนรับประทาน ขับพยาธิไส้เดือน ให้ใช้รากสดประมาณ 30 กรัม เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย ต้มน้ำรับประทาน แก้อาการปวดฟัน ให้ใช้ดอกที่แห้งแล้ว ประมาณ 25 กรัม นำมาสูบเหมือนยาสูบ หรือใช้ฐานรองดอก 1 อัน พร้อมรากเก๋ากี้ นำมาตุ๋นกับไข่รับประทานก็ได้ ฝีฝักบัว ฝีเป็นหนองมาก ใช้ฐานรองดอกคั่ว บดเป็นผงผสม น้ำมันงาทา แผลมีเลือดออก ใช้แกนต้นตำพอก แก้ไอ คั่วเมล็ดให้เหลืองทำเป็นยาชงดื่ม หูอื้อ ใช้เปลือกเมล็ด 10-15 กรัม ต้มน้ำกิน


การศึกษาทางเภสัชวิทยา

มีผลการศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาจากส่วนต่างๆ ของทานตะวันหลายฉบับทั่วในประเทศไทยและต่างประเทศ พบว่ามีฤทธิ์ต่างๆ ดังนี้

ฤทธิ์ลดไขมันในเลือด มีการศึกษาถึงการทดลองในการลดไขมันในเลือดของเมล็ดทานตะวันในหนูขาวทดลอง โดยได้ทำการทดลองนานถึง 9 สัปดาห์ ด้วยการกระตุ้นให้หนูขาวเป็นเบาหวาน โดยให้ Alloxan แล้วจึงทำการป้อน น้ำมันดอกทานตะวัน ผลการทดลองพบว่าหนูทดลองมีปริมาณไขมันในเลือดมีระดับลดลง

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาทางคลินิกในการลดไขมันในเลือดของน้ำมันเมล็ดทานตะวันในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนจำนวน 14 คน โดยทำการทดลอง 28 วัน ซึ่งแบ่งกลุ่มการทดลองออกเป็น 3กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มควบคุม ส่วนกลุ่มที่สองให้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมันเมล็ดทานตะวัน และกลุ่มสามคือกลุ่มที่ให้อาหารไขมันสูง ภายหลังการทดลองพบว่ากลุ่มที่สองมีระดับคอเลสเตอรอลลดลงแตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ฤทธิ์ลดความดันโลหิต มีการศึกษาทดลองฤทธิ์ลดความดันโลหิตโดยใช้สารสกัดน้ำจากดอกทานตะวันทดลองกับกระต่ายด้วยวิธีการฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ พบว่าจะทำให้ความดันโลหิตต่ำและกระตุ้นการหายใจ นอกจากนี้เมื่อนำมาหยอดลงบริเวณใบหูของกระต่ายก็ว่าทำให้เส้นเลือดขยายตัวขึ้น และยังทำให้การบีบตัวของลำไส้เล็กเพิ่มขึ้นอีกด้วย

และยังมีการทดลองทางคลินิก โดยใช้ฐานรองดอกแห้ง 45 กรัม บดเป็นผง และทำเป็นยาน้ำเชื่อม 100 มล. ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง จำนวน 10 ราย โดยให้กินครั้งละ 20 มล. วันละ 3 ครั้ง ผลปรากฏว่าหลังจากรักษาแล้ว 2 เดือนแล้ว สังเกตอาการพบว่าอาการดีขึ้น 4 ราย ดีขึ้นเล็กน้อย 4 ราย ไม่ได้ผล 2 ราย (รายหนึ่งแพ้ยาทำให้โรคกำเริบ แต่ภายหลังมีอาการดีขึ้น) สำหรับรายที่ได้ผล ความดันโลหิตจะเริ่มลดลงภายใน 1 สัปดาห์ และไม่มีอาการข้างเคียง

นอกจากนี้ทานตะวันยังมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาต่างๆ อีกเช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยังยั้งมะเร็ง ขับปัสสาวะและกลีบของดอกทานตะวันยังมีสาร triterpene glycosides ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในหนูทดลองได้อีกด้วย

การศึกษาทางพิษวิทยา

มีรายงานการทดสอบความเป็นพิษพบว่าสารสกัดของทานตะวันจากส่วนที่อยู่เหนือดินด้วย 50% เอทานอล มีค่า LD50มากกว่า 1.0 กรัมต่อกิโลกรัมเมื่อทำการฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูถีบจักร ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยสูง

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

ในการใช้ทานตะวันเป็นสมุนไพรควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับการใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ในปริมาณที่พอดีที่ได้ระบุไว้ในตำรับ ตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือใช้ติดต่อกันนานจนเกินไปเพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำ ก่อนจะใช้ทานตะวันเป็นสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาโรคต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ข้อมูลรูปภาพจาก http://ไปที่..link..
อ่าน:3511
ยาฆ่าหนอนกล้วยไม้ หนอนศัตรูพืชทุกชนิด ปลอดสารพิษ ไอกี้และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ยาฆ่าหนอนกล้วยไม้ หนอนศัตรูพืชทุกชนิด ปลอดสารพิษ ไอกี้และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ไอกี้ และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

หนอนกระทู้ผัก _หนอนกระทูฝ้าย _ หนอนกระทู้ยาสูบ
ทำลาย ดอกและใบ โดยหนอนจะกัดกินส่วนดอกและใบ
หนอนกระทู้หอม_ หนอนหนังเหนียว _หนอนเขียว
ทำลาย ดอกและใบ

ไอกี้ เป็นสารชีวินทรีย์ (ชีวภาพ) ปลอดภัย กำจัดหนอนต่างๆหลายชนิด
ขนาด 500 กรัม (แนะนำให้ใช้คู่กับ FK ธรรมชาตินิยม เพื่อเร่งฟื้นฟูบำรุง)
อัตราผสม 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอกี้ และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอกี้ 25 กรัม และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
อ่าน:3511
3576 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 6 รายการ
|-Page 154 of 358-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
โรคข้าว โรคดอกกระถิน (False Smut) เกิดจากเชื้อรา Ustilaginoidea virens (Cke.) เข้าทำลายรวงข้าวในระยะเริ่มออกดอก
Update: 2564/02/01 13:32:31 - Views: 3611
น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ไทย ส่งออกต่างประเทศ
Update: 2565/11/17 13:17:11 - Views: 3484
การควบคุมและป้องกันการระบาดของหนอนในกระหล่ำดอก: วิธีการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ
Update: 2566/11/11 10:32:14 - Views: 3502
โรคใบด่างมะละกอ เชื้อไวรัสในมะละกอ ต้องกำจัดเพลี้ยอ่อน ซึ่งเป็นพาหะนำโรค และมีดตอนกิ่งที่ไม่สะอาดก็มีส่วน
Update: 2563/06/10 16:16:45 - Views: 5068
การควบคุมวัชพืชในสวนแตงไทยด้วยคาร์รอน (Diuron 80% WG)
Update: 2567/01/25 10:24:25 - Views: 3563
การป้องกันและควบคุมเพลี้ยในต้นพุดซ้อน: วิธีการและแนวทาง
Update: 2566/11/18 12:59:55 - Views: 3503
ปลูกพืชในดินลูกรัง การจัดการ ดินลูกรัง ที่ถูกวิธี ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชได้
Update: 2565/07/28 07:10:49 - Views: 3982
เพลี้ยไฟมะม่วงกับวิธีกำจัดและป้องกัน
Update: 2564/01/09 09:40:42 - Views: 3577
กำจัดหนอนชอนใบส้มโอ
Update: 2564/08/17 02:31:34 - Views: 3532
ป้องกัน กำจัด เพลี้ยอ่อนข้าวโพด เพลี้ยต่างๆ และ แมลงจำพวกปากดูดต่างๆ ใช้ได้กับพืชทุกชนิด (1ลิตร ผสมน้ำได้ 400ลิตร)
Update: 2564/08/14 03:08:43 - Views: 3452
การป้องกันและจัดการเพลี้ยศัตรูพืชในมะเขือเทศ
Update: 2566/11/11 10:46:20 - Views: 3485
หนอนใยผัก การกำจัด และป้องกัน
Update: 2564/08/17 00:05:18 - Views: 3725
โรคของฝรั่ง โรคจุดสนิมในฝรั่ง โรคแอนเทรคโนสฝรั่ง ป้องกันกำจัดด้วย ไอเอส
Update: 2564/05/26 12:35:36 - Views: 4429
โรคราสีชมพูในลองกอง
Update: 2564/03/30 09:15:52 - Views: 3769
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 สูตรลับผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก สร้างคุณภาพให้สตรอเบอร์รี่ของคุณ
Update: 2567/03/09 13:50:44 - Views: 3516
เงาะ ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ สตาร์เฟอร์ 0-0-60
Update: 2567/04/12 11:49:44 - Views: 3513
ปุ๋ยบำรุงมะนาว ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ
Update: 2564/04/01 13:41:16 - Views: 3660
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง ในมะกอก และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/17 11:01:33 - Views: 3541
อุตสาหกรรมมันเส้น และการผลิตมันเส้น
Update: 2555/04/11 14:56:21 - Views: 3734
ผลกระทบต่อสุขภาพ จากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
Update: 2564/08/12 22:06:31 - Views: 4786
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022