ปุ๋ย FK-1 และ FK-3 ใช้ฉีดพ่นยางพารา เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต และส่งเสริมกระบวนการสร้างน้ำยางพารา FK-1 ให้ฉีดพ่นเพื่อเร่งโต เร่งการแตกยอดใบ ทำให้โตไว ใบเขียว เสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงให้กับต้นยางพารา ส่วน FK-3 เน้นไปที่ธาตุโพแทสเซียม (K) สูง เพื่อส่งเสริมการสร้างน้ำยางให้มากขึ้นเป็นพิเศษ

บทบาทการทำงานของธาตุอาหารในปุ๋ย FK ซึ่งประกอบด้วย ธาตุ Mg_ Zn_ N_ P_ K สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ และสารจับใบ ทำงานอย่างไร ในการส่งเสริมการเจริญเติบโต และเพิ่มผลผลิตยางพารา เรามาดูรายละเอียดของบทบาทในแต่ละธาตุอาหารที่ประกอบในปุ๋ย FK

แมกนีเซียมและสังกะสีเป็นธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ในสวนยาง องค์ประกอบเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการทางสรีรวิทยาหลายอย่างที่สนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นไม้

แมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบของโมเลกุลคลอโรฟิลล์ซึ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ฮอร์โมนพืชและการสร้างผนังเซลล์ ดังนั้นการขาดแมกนีเซียมอาจทำให้การเจริญเติบโตลดลงและคลอโรซีส (สีเหลือง) ของใบ

ในทางกลับกันสังกะสีมีบทบาทในการทำงานของเอนไซม์และการสังเคราะห์โปรตีนและฮอร์โมน นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบรากของพืชและการสร้างเซลล์ใหม่ การขาดธาตุสังกะสีอาจทำให้การเจริญเติบโตแคระแกร็นและผลผลิตลดลง

เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเจริญเติบโตและผลผลิตที่เหมาะสม ผู้จัดการสวนยางจำเป็นต้องให้ความสนใจกับระดับของแมกนีเซียมและสังกะสีในดิน การทดสอบดินสามารถใช้เพื่อกำหนดระดับของธาตุอาหารรองเหล่านี้และพิจารณาว่าจำเป็นต้องฉีดพ่นปุ๋ยเพิ่มหรือไม่

นอกจากการให้สารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้แล้ว แมกนีเซียมและสังกะสียังมีบทบาทในการต้านทานโรคอีกด้วย ตัวอย่างเช่น การขาดสังกะสีสามารถทำให้พืชติดเชื้อราได้ง่าย ในขณะที่การขาดแมกนีเซียมสามารถทำให้พืชอ่อนแอต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ผู้จัดการสวนสามารถช่วยรักษาต้นไม้ให้แข็งแรงและให้ผลผลิตได้โดยการรักษาระดับสารอาหารรองเหล่านี้ให้เหมาะสม

สรุปได้ว่าแมกนีเซียมและสังกะสีเป็นธาตุอาหารรองที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของสวนยางที่ดี พวกมันมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์แสง การสังเคราะห์ฮอร์โมน และการต้านทานโรค และต้องรักษาระดับของสารอาหารเหล่านี้ให้เพียงพอในดินเพื่อรองรับการเจริญเติบโตและผลผลิตที่เหมาะสม

ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเป็นธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งต้นยาง องค์ประกอบเหล่านี้เรียกว่า NPK มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสวนยาง

ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นสารสีที่ช่วยให้พืชเปลี่ยนแสงแดดเป็นพลังงานผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของกรดอะมิโนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน ในสวนยาง ไนโตรเจนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นไม้อย่างเหมาะสม เช่นเดียวกับการผลิตยางคุณภาพสูง

ฟอสฟอรัสเป็นธาตุที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งสำหรับพืช เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการถ่ายเทพลังงานภายในพืช มีส่วนร่วมในการสังเคราะห์ ATP ซึ่งเป็นโมเลกุลที่เก็บและขนส่งพลังงานภายในเซลล์ ในสวนยาง ฟอสฟอรัสมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของรากที่เหมาะสม รวมทั้งการผลิตดอกและผลที่สมบูรณ์

โพแทสเซียมเป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับพืช เนื่องจากมีส่วนในกระบวนการทางสรีรวิทยาที่สำคัญหลายอย่าง ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำภายในพืช ตลอดจนการขนส่งสารอาหารและการสังเคราะห์โปรตีน ในสวนยาง โพแทสเซียมมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นไม้อย่างเหมาะสม เช่นเดียวกับการผลิตยางคุณภาพสูง

นอกจากหน้าที่ที่สำคัญเหล่านี้แล้ว NPK ยังมีบทบาทต่อสุขภาพโดยรวมของสวนยางอีกด้วย ด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช NPK ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของต้นไม้และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ผลผลิตที่สูงขึ้นและผลกำไรที่ดีขึ้นสำหรับพื้นที่เพาะปลูก

โดยรวมแล้ว บทบาทและหน้าที่ของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสวนยาง ด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช NPK ช่วยให้มั่นใจในสุขภาพและผลผลิตของต้นไม้ ซึ่งนำไปสู่ผลผลิตที่สูงขึ้นและผลกำไรที่ดีขึ้นสำหรับพื้นที่เพาะปลูก

สั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset

ลาซาด้า http://ไปที่..link..

ช้อปปี้ http://ไปที่..link..

เซ็นทรัล http://ไปที่..link..

พืชเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ ให้อาหาร ออกซิเจน และที่พักพิงแก่เรา เพื่อให้พืชเติบโตและพัฒนาได้อย่างถูกต้อง พวกมันต้องการสารอาหารที่จำเป็นต่างๆ หนึ่งในสารอาหารที่สำคัญเหล่านี้คือกรดอะมิโน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน กรดอะมิโนจำเป็นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมของพืช และมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนพืช ซึ่งควบคุมกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ

กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่มีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และเป็นแหล่งสำคัญของสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ พืชชนิดนี้เป็นที่รู้จักจากความสามารถในการเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและแห้ง ทำให้เป็นพืชที่ได้รับความนิยมในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน กระเจี๊ยบต้องการกรดอะมิโนจำนวนมากเพื่อผลิตฮอร์โมนพืชที่ช่วยในการสร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อและการพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของพืช

ในบทความนี้ เราจะสำรวจกรดอะมิโนที่จำเป็น 18 ชนิดที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของกระเจี๊ยบเขียว

อะลานีน: กรดอะมิโนนี้ช่วยในการสังเคราะห์โปรตีนและมีส่วนร่วมในกระบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆ

อาร์จินีน: อาร์จินีนมีความสำคัญต่อการผลิตไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

แอสพาราจีน: แอสพาราจีนจำเป็นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมของระบบประสาทและการสังเคราะห์ฮอร์โมนพืช

กรดแอสปาร์ติก: กรดแอสปาร์ติกมีบทบาทสำคัญในวงจร Krebs ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิต ATP ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับเซลล์

ซีสเตอีน: ซีสเตอีนมีส่วนร่วมในการผลิตกลูตาไธโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย

กรดกลูตามิก: กรดกลูตามิกจำเป็นต่อการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและการสังเคราะห์โปรตีน

กลูตามีน: กลูตามีนมีส่วนร่วมในการสังเคราะห์นิวคลีโอไทด์และกรดอะมิโนและช่วยในการควบคุมเมแทบอลิซึมของไนโตรเจน

Glycine: Glycine จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนและมีส่วนร่วมในกระบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆ

ฮิสทิดีน: ฮิสทิดีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์นิวคลีโอไทด์และโปรตีนทางชีวภาพ และมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

ไอโซลิวซีน: ไอโซลิวซีนมีส่วนร่วมในการสังเคราะห์โปรตีนและจำเป็นสำหรับการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

ลิวซีน: ลิวซีนจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนและมีส่วนร่วมในกระบวนการเมแทบอลิซึมต่างๆ

ไลซีน: ไลซีนมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์โปรตีนและมีส่วนร่วมในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

เมไธโอนีน: เมไทโอนีนจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนและเกี่ยวข้องกับการควบคุมเมแทบอลิซึมของไนโตรเจน

Phenylalanine: Phenylalanine จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนและเกี่ยวข้องกับการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

Proline: Proline มีส่วนร่วมในการสังเคราะห์โปรตีนและช่วยในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

ซีรีน: ซีรีนจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนและมีส่วนร่วมในกระบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆ

ธรีโอนีน: ธรีโอนีนจำเป็นต่อการสังเคราะห์โปรตีนและมีส่วนร่วมในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

วาลีน: วาลีนจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์โปรตีนและเกี่ยวข้องกับการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

โดยสรุปแล้ว กรดอะมิโนมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช กระเจี๊ยบเขียวจะเติบโตได้เต็มที่นั้นต้องการกรดอะมิโนจำเป็น 18 ชนิดดังกล่าวข้างต้น กรดอะมิโนเหล่านี้ช่วยในการผลิตฮอร์โมนพืช ซึ่งควบคุมกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ รวมถึงการสร้างและการขยายตัวของเซลล์เนื้อเยื่อและการพัฒนาส่วนต่างๆ ของพืช โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเจี๊ยบเขียวได้รับอะมิโนที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม

วิธีการใช้
ผสมน้ำฉีดพ่น
พืชผัก 10-20 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร
นาข้าว พืชไร่ ไม้ผล 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร
ผสมระบบน้ำหยด 500 มล.ต่อ 1 ไร่
ควรฉีดพ่น 2 ครั้งต่อเดือน
ไม่ควรฉีดพ่นระยะพืชออกดอก

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

โรคเมลาโนสที่เกิดจากเชื้อราเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อต้นส้มเขียวหวานและอาจทำให้คุณภาพและผลผลิตของผลไม้ลดลง เพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ นักวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นสารประกอบอินทรีย์ชื่อ IS ได้สำเร็จ สกัดจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด IS แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพสูงในการควบคุมและยับยั้งเชื้อรา ขณะเดียวกันก็มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง IS จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยบนพื้นผิวของใบพืช ขัดขวางการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อรา นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับผิวใบ เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการต่อสู้กับโรคเมลาโนสในต้นส้มเขียวหวาน

ความท้าทายของโรคเมลาโนส:
โรคเมลาโนสคือการติดเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลต่อต้นส้มเขียวหวาน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความชื้นสูงและฝนตก เชื้อราจะแทรกซึมเข้าไปในใบของต้นส้มและทำให้เกิดรอยโรคนูนขึ้นเป็นสีดำ ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังผล ทำให้เกิดรอยตำหนิและมูลค่าทางการตลาดลดลง มีการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อราแบบดั้งเดิมเพื่อควบคุมโรคเมลาโนส แต่การใช้มากเกินไปทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นสำหรับผู้ใช้

ป้อน IS: โซลูชันอินทรีย์:
นักวิจัยได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในการต่อสู้กับโรคเมลาโนสในต้นส้มเขียวหวาน ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม พวกเขาประสบความสำเร็จในสูตร IS ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด IS นำเสนอความก้าวหน้าในด้านการควบคุมโรคทางการเกษตร โดยเสนอทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนสารกำจัดเชื้อราแบบดั้งเดิม

การควบคุมและยับยั้งที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี:
IS ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราบนต้นส้มเขียวหวาน ด้วยการจัดการสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช IS จะสร้างสภาวะที่ไม่เหมาะสำหรับการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา เทคโนโลยีนี้แทรกแซงกระบวนการสำคัญที่จำเป็นต่อการอยู่รอดของเชื้อรา ระงับการเจริญเติบโตของเชื้อราอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม

การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น:
ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือคุณสมบัติการยึดเกาะที่เหนือกว่ากับพื้นผิวใบของพืช สารฆ่าเชื้อราแบบดั้งเดิมมักจะติดได้ไม่ดี นำไปสู่การกระจายที่ไม่ได้ผลและประสิทธิภาพลดลง อย่างไรก็ตาม IS ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ยึดติดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ครอบคลุมได้ดีขึ้นและขยายการป้องกันต่อโรคเมลาโนส การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสารประกอบอินทรีย์ยังคงอยู่ และต่อสู้กับเชื้อราอย่างแข็งขันเป็นระยะเวลานาน

ความปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม:
IS ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากได้มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด จึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมีฆ่าเชื้อรา ผู้ใช้สามารถใช้ IS ได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสารพิษตกค้างในผลไม้หรือผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ นอกจากนี้ ธรรมชาติอินทรีย์ของ IS ยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้มั่นใจได้ถึงการอนุรักษ์แมลง นก และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ในระบบนิเวศ

บทสรุป:
การพัฒนา IS ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีสูตรเฉพาะเพื่อต่อสู้กับโรคเมลาโนสในต้นส้มเขียวหวาน แสดงถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการควบคุมโรคทางการเกษตร ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม ทำให้ IS มีประสิทธิภาพระดับสูงในการควบคุมและยับยั้งเชื้อรา ขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการจัดการกับสภาพแวดล้อมที่ผิวใบและเพิ่มการยึดเกาะทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคเมลาโนส ด้วย IS ผู้ปลูกส้มเขียวหวานสามารถปกป้องต้นไม้ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับประกันผลผลิตที่ดีต่อสุขภาพและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืน

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

พุทรา เป็นไม้ผลยอดนิยมที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย แต่หากต้องการผลผลิตที่ดกใหญ่ คุณภาพดี จำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่าง ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ปุ๋ยเคมีมาตรฐาน โพแทสเซี่ยมคลอไรด์ ที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของต้นพุทราของคุณ

คุณสมบัติของปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60:

สูตรปุ๋ย: 0-0-60 ไนโตรเจน 0% ฟอสฟอรัส 0% โพแทสเซียม 60%
ธาตุอาหารรอง: แมกนีเซียม แคลเซียม ซัลเฟอร์ สังกะสี เหล็ก ทองแดง โบรอน โมลิบดีนัม
ละลายน้ำง่าย พืชดูดซึมไปใช้ได้รวดเร็ว
ช่วยขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ
ช่วยให้ผลดก ผลใหญ่ สีสันสวยงาม
ช่วยให้พืชต้านทานโรค แมลง และสภาพอากาศแปรปรวน
ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

วิธีการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 กับต้นพุทรา:

ช่วงเวลาที่เหมาะสม:
ระยะหลังติดผล 15-30 วัน
ระยะก่อนเก็บเกี่ยว 15-30 วัน

อัตราการใช้:
25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร
วิธีการ:
ฉีดพ่นทางใบ ให้ทั่วถึง
ฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น
หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงที่มีแสงแดดจัด

ข้อควรระวัง:

สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา หน้ากาก
ระวังอย่าให้เข้าปาก ตา จมูก
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามรับประทานอาหารและสูบบุหรี่ระหว่างการใช้
อาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดหลังการใช้

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง:

ต้นพุทราเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง
ใบพุทราเขียวเข้ม หนา เงางาม
ออกดอกติดผลดก
ผลพุทราใหญ่ สีสันสวยงาม
รสชาติหวาน กรอบ อร่อย
เก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานขึ้น

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกพุทราที่ต้องการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลพุทรา

หมายเหตุ:

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำทั่วไป เกษตรกรควรปรับอัตราและวิธีการใช้ให้เหมาะสมกับสภาพดิน สภาพอากาศ และสายพันธุ์ของต้นพุทรา
ควรอ่านฉลากก่อนใช้ปุ๋ยทุกครั้ง

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ เป็นปุ๋ยเคมีมาตรฐาน สูตร 0-0-60 ประกอบไปด้วยโพแทสเซียมคลอไรด์ 60% ปราศจากไนโตรเจนและฟอสฟอรัส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ในช่วงออกดอก ติดผล ช่วยให้พริกมีผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ และเพิ่มผลผลิต

คุณสมบัติเด่นของปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60:

กระตุ้นการออกดอก: โพแทสเซียมช่วยกระตุ้นการออกดอก เพิ่มจำนวนดอก เพิ่มโอกาสการติดผล
ผลใหญ่: โพแทสเซียมช่วยขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก ทำให้ผลพริกใหญ่ขึ้น
ผลดก: โพแทสเซียมช่วยเพิ่มจำนวนผล เพิ่มผลผลิต
คุณภาพดี: โพแทสเซียมช่วยเพิ่มความหวาน กรอบ ทำให้ผลพริกมีคุณภาพดี
ใช้สะดวก: ละลายน้ำง่าย ฉีดพ่นได้ทันที

วิธีการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60:

ละลายน้ำ: ละลายปุ๋ย 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่น: ฉีดพ่นให้ทั่วใบและลำต้น ในช่วงออกดอก ติดผล ทุก 7-10 วัน

ข้อควรระวัง:

เก็บปุ๋ยให้มิดชิด พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก เมื่อใช้ปุ๋ย
ห้ามรับประทาน และ ระวังอย่าให้เข้าตา หรือ ถูกผิวหนัง
ล้างมือ และ อุปกรณ์ให้สะอาด หลังการใช้

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ตัวช่วยลับ เพิ่มผลผลิตพริกให้ใหญ่ ดก และคุ้มค่า หาซื้อได้ที่ร้านค้าเกษตรทั่วไป

หมายเหตุ:

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ควรอ่านฉลากและวิธีการใช้ปุ๋ยอย่างละเอียดก่อนใช้งาน
ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ และ สายพันธุ์ของพริก

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

เพลี้ยแป้งเป็นแมลงที่สามารถคาบเชื้อโรคและทำให้พืชที่ทำลายเสียหายได้ ขนาดเล็กมาก พวกเพลี้ยแป้งสามารถระบาดไปยังพืชอื่นๆ ได้ด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากพวกเพลี้ยแป้งสามารถสามารถทำลายพืชโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบพืชและปล่อยสารกัดกร่อนที่สามารถทำให้พืชเสียหายได้ นอกจากนี้ เพลี้ยแป้งยังเป็นพาหะในการแพร่กระจายโรคพืชต่างๆ ด้วย.

การควบคุมเพลี้ยแป้งมักเริ่มจากการตรวจสอบสวนของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อระบุการระบาดของเพลี้ยแป้ง

วิธีการต่อไปนี้เพื่อควบคุมเพลี้ยแป้ง:

การใช้น้ำฉีดพ่น: ใช้น้ำฉีดพ่นเพลี้ยแป้งด้วยน้ำแรงดันสูงเพื่อล้างพวกเขาออกจากพืช.

การใช้สารเคมี: มีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อเพลี้ยแป้งที่สามารถใช้ได้_ เช่น อิมิดาโคลพริด (imidacloprid) หรือมาลาไทออน (malathion) แต่ควรใช้ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบ.

การใช้แตนเต็มแทนเรียกเกลือ: แตนเต็มแทนเรียกเกลือเป็นวิธีการธรรมชาติที่สามารถช่วยในการควบคุมเพลี้ยแป้ง โดยการโรยเกลือที่ไม่มีไอโอดีนบนใบพืชที่มีเพลี้ยแป้ง.

การใช้ศัตรูธรรมชาติ: การใช้แตนเต็มแทนเรียกศัตรูธรรมชาติ เช่น แตนเต็มแทนเรียกแมลงจิ้งหรีด หรือการเปิดที่รูเพื่อให้นกเข้ามาล่าเพลี้ยแป้ง.

ควรระวังอย่าให้เพลี้ยแป้งระบาดเนื่องจากสามารถทำให้พืชเสียหายอย่างรวดเร็ว การควบคุมเพลี้ยแป้งอย่างสม่ำเสมอและระวังก่อนที่จะเกิดระบาดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสียหายให้กับพืชของคุณ
.
การป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้งในต้นน้อยหน่าง ทำได้โดยการตรวจสอบดูแลแปลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อตรวจพบเพลี้ย เร่งใช้ยาฉีดพ่น เพื่อป้องกันกำจัด ไม่ให้ลุกลามสร้างความเสียหายมากขึ้น
.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยต่างๆ ในต้นน้อยหน่า
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อมาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสามารถช่วยให้มะละกอได้รับสารอาหารในทันทีและเข้าสู่ระบบพืชได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการป้องกันและควบคุมโรคและแมลงที่ติดมากับใบของมะละกอได้ดี โดยปกติแล้ว ปุ๋ยฉีดทางใบนี้จะประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิดที่ช่วยในการเจริญเติบโตของพืช เช่น ไนโตรเจน (Nitrogen) ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและส่งเสริมการสร้างโครงสร้างเซลล์ของพืช ฟอสฟอรัส (Phosphorus) ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากและการออกดอก และแมกนีเซียม (Magnesium) ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครโมโซมสีเขียวของพืช นอกจากนี้ยังมีธาตุอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อมะละกอด้วย

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบในมะละกอควรทำในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อลดโอกาสให้น้ำและแสงแดดทำลายสารอาหาร นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงที่มีลมแรงหรือในวันที่ฝนตก เพราะอาจทำให้สารอาหารไปตกลงพื้นและไม่ได้รับประโยชน์

โดยปกติแล้ว ควรใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบตามคำแนะนำที่ระบุในบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและทดลองในพื้นที่เล็ก ๆ ก่อนการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบในปริมาณมาก ๆ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการแก่มะละกอของคุณ

ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะละกอ ลูกใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่นพืชทุกชนิดได้เช่นกัน

.
สั่งซื้อ ปุ๋ย FK-1 ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

การเกษตรมี permaculture หรือ การเกษตรทรงยศ ที่นำเสนอแนวคิดในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบที่ยั่งยืน การใช้สารออกฤทธิ์จากฮิวมิค แอซิด ยี่ห้อ ฟาร์มิค จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปลูกปาล์ม ซึ่งเป็นพืชที่มีความสำคัญในการผลิตน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในทุกวันนี้ โดยเฉพาะในการฉีดพ่นที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณมากขึ้น

สารออกฤทธิ์ฮิวมิค แอซิด:

ฮิวมิค แอซิด เป็นสารที่ได้มาจากสารอินทรีย์ที่มีต้นทางมาจากสัตว์และพืช มีประโยชน์มากมายในการเกษตร เนื่องจากมีส่วนผสมที่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชได้ โดยเฉพาะที่ดินที่อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสม ซึ่งมีปริมาณธาตุอาหารไม่เพียงพอ

ประสิทธิภาพของฮิวมิค แอซิด ยี่ห้อ ฟาร์มิค:

ฟื้นฟูระบบราก: ฮิวมิค แอซิดช่วยในการฟื้นฟูระบบรากของพืช ทำให้รากเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและสามารถดูดธาตุอาหารได้มากขึ้น

ปลดปล่อยธาตุอาหาร: สารสกัดจากฮิวมิค แอซิดช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารในดินออกมาทำให้พืชสามารถดูดซึมและนำเข้ามาใช้ได้เป็นประสิทธิภาพ

ปรับปรุงโครงสร้างดิน: การใช้ฮิวมิค แอซิดช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินทำให้ดินร่วนซุย ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกปาล์ม

ช่วยในการระบายน้ำ: สารที่ประกอบด้วยช่วยในการระบายน้ำออกจากดินอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของปัญหาน้ำขังที่อาจเกิดขึ้นในแปลงปลูก

สร้างระบบรากฝอย: ฮิวมิค แอซิดช่วยในการสร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของการดูดน้ำและธาตุอาหาร

ในที่สุด การใช้สารออกฤทธิ์ฮิวมิค แอซิดจากยี่ห้อ ฟาร์มิค นี้ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพของการปลูกปาล์ม ทำให้เกษตรกรสามารถเติบโตไปพร้อมกับแนวทางการเกษตรทรงยศที่มีประสิทธิภาพในยุคปัจจุบัน


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

การมีหนอนในต้นหน่อไม้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ และขึ้นอยู่กับชนิดของหนอนที่เจอได้ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อม_ การดูแลรักษา_ และสภาพอากาศ เป็นต้น

นอกจากนี้มีหลายประการที่สามารถใช้เพื่อควบคุมหนอนในต้นหน่อไม้ ดังนี้:

การตัดแต่ง: การตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคหรือที่มีการทำลายโดยหนอนออกจากต้นหน่อไม้ เพื่อลดการขยายพันธุ์ของหนอนและป้องกันการลามเพิ่มเติม

การใช้สารเคมี: การใช้สารเคมีเป็นวิธีที่พบได้บ่อยในการควบคุมหนอน โปรดใช้สารเคมีที่ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและติดตามคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัย

การใช้ศัตรูธรรมชาติ: การใช้ศัตรูธรรมชาติเช่น แตนเบียนและปีกผีเสื้อ เพื่อควบคุมหนอนโดยธรรมชาติ แต่ในบางกรณีอาจจะไม่เพียงพอต่อการควบคุมทั้งหมด

การใช้วิธีชีวภาพ: การใช้วิธีชีวภาพเช่น การใช้พืชที่มีสมบัติทำลายศัตรูและป้องกันการระบาดของหนอน

หากคุณพบหนอนในต้นหน่อไม้ของคุณ ควรเร่งฉีดพ่นจัดการศัตรูพืช เพื่อไม่ไห้หนอนทำลายพืชในวงกว้างขึ้น

.
ไอกี้-บีที เป็นสารชีวินทรีย์ ป้องกัน กำจัด หนอนในต้นหน่อไม้
ไอกี้-บีที สามารถป้องกันกำจัดหนอนต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอกี้-บีที ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

ประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุเสริม ยารักษาโรคใบไหม้ โรคราต่างๆ ยากำจัดเพลี้ย ยากำจัดหนอน

http://www.farmkaset..link..

ปลูกน้อย เลือก
FKธรรมชาตินิยม : ปุ๋ยสำหรับไม้ดอก ไม้ประดับ พืชพักสวนครัว สำหรับท่านที่ปลูกน้อย
อัตราผสม 1 ฝา ต่อน้ำ 1 ลิตร
ราคา 490 บาท บรรจุ 250 ซีซี

ปลูกเยอะ เลือก
FK-1 : ปุ๋ยสำหรับ พืชไร่ พืชสวน ไม้ยืนต้น ไม้ผล หรือสำหรับท่านที่ปลูกพืชเยอะ ทำแปลงเพาะชำ หรือขายพันธุ์ไม้
อัตราผสม แกะกล่องมามีสองถุง ต้องใช้พร้อมกัน ถุงละ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 890 บาท บรรจุ 2 กิโลกรัม

ไอเอส : ยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ เช่น โรคใบไหม้ ราสนิม ราน้ำค้าง ใบจุดสีน้ำตาล ราดำ ราเขม่าผง
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 450 บาท บรรจุ 1 ลิตร

มาคา : ป้องกัน กำจัด เพลี้ยต่างๆ เช่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดด แมลงหวีขาว
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 470 บาท บรรจุ 1 ลิตร

ไอกี้-บีที : ป้องกันกำจัดหนอนต่างๆ เช่น หนอนชอนใบ หนอนเจาะผล หนอนคืบ หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนแมลงวัน
อัตราผสม 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 490 บาท บรรจุ 500 กรัม


สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..