คะน้าเป็นผักใบเขียวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในด้านคุณค่าทางโภชนาการ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับพืชผลอื่นๆ คะน้ามีความไวต่อศัตรูพืชและโรคต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของมันอย่างมาก ศัตรูพืชชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุดที่ส่งผลต่อผักคะน้าคือหนอนคืบคลาน ซึ่งอาจทำให้พืชเสียหายอย่างรุนแรงหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา โชคดีที่มีผลิตภัณฑ์จาก Bacillus ที่เรียกว่า Basilisk จากแบรนด์ Basirex ที่สามารถป้องกันและกำจัดเวิร์มเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บาซิลิสก์เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่ประกอบด้วย Bacillus thuringiensis (Bt) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งผลิตสารพิษที่มุ่งเป้าไปที่ตัวอ่อนของแมลงบางชนิดโดยเฉพาะ สารพิษนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ผึ้ง ทำให้เป็นทางออกที่ดีสำหรับการควบคุมศัตรูพืชในเกษตรอินทรีย์และเกษตรทั่วไป

เมื่อนำไปใช้กับต้นคะน้า บาซิลิสก์จะถูกกลืนกินโดยตัวอ่อนของหนอนที่กำลังคืบคลานเข้ามา ซึ่งทำให้เยื่อบุลำไส้แตก นำไปสู่การตายภายในสองสามวัน ผลิตภัณฑ์นี้ยังใช้ได้ผลกับแมลงศัตรูพืชอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผักคะน้า เช่น หนอนกะหล่ำปลี แมงกระพรุนหลังเพชร และแมลงหวี่

บาซิลิสก์ใช้งานง่ายและสามารถฉีดพ่นทางใบหรือรด ปริมาณที่แนะนำจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการรบกวนและขนาดของพืชผล

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้บาซิลิสก์คือไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งสารพิษตกค้างบนดินหรือพืช ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้ปลอดภัยต่อการบริโภคของมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากไม่เป็นอันตรายต่อแมลงที่เป็นประโยชน์ จึงสามารถช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์ในแปลงนาได้

ข้อดีอีกประการของการใช้บาซิลิสก์คือความคุ้มค่า แม้ว่าในแวบแรกอาจดูเหมือนมีราคาแพงกว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช แต่ก็ให้ประโยชน์ในระยะยาวในแง่ของความยั่งยืนและผลผลิต ด้วยการใช้สารควบคุมทางชีวภาพ เช่น บาซิลิสก์ เกษตรกรสามารถลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งอาจนำไปสู่การเสื่อมโทรมของดิน การต้านทานศัตรูพืช และผลเสียอื่นๆ ในระยะยาว

สรุปได้ว่า Basilisk จากแบรนด์ Basirex เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนที่คืบคลานในผักคะน้า สูตรที่มีพื้นฐานของ Bacillus ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการทำเกษตรแบบออร์แกนิกและแบบดั้งเดิม ในขณะที่ธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดต้นทุนนั้นให้ประโยชน์ระยะยาวแก่เกษตรกรและสิ่งแวดล้อม เมื่อใช้บาซิลิสก์ เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของพวกเขาในขณะที่รักษาสุขภาพและความยั่งยืนของไร่นาของตน

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

โรคใบจุดมุม เป็นโรคพืชทั่วไปที่เกิดจากเชื้อราซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของแตงกวา อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถป้องกันและกำจัดได้โดยใช้สารอินทรีย์ ไอเอส ร่วมกับ FK-1

สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ทำงานโดยการควบคุมไอออนในสิ่งแวดล้อมบนใบพืช ทำให้ไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา เมื่อผสมกับ FK-1 และฉีดพ่นบนพืช ไอเอส จะกำจัดโรคในขณะที่ FK-1 เร่งการงอกใหม่ของพืช ส่งเสริมการเจริญเติบโต และเพิ่มผลผลิต

FK-1 เป็นสูตรเฉพาะที่มีสารอาหารที่จำเป็น เช่น แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมทั้งสารลดแรงตึงผิว สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชที่แข็งแรง และเมื่อรวมกับ ไอเอส จะให้วิธีแก้ปัญหาที่ทรงพลังในการป้องกันและกำจัดโรคใบจุดมุมฉาก

การใช้สารประกอบเหล่านี้ร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจาก FK-1 จะช่วยเร่งการงอกใหม่และการฟื้นตัวของพืชหลังจากความเสียหายที่เกิดจากโรค ในขณะที่ ไอเอส กำจัดโรค FK-1 ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตที่ดีขึ้น

หากต้องการใช้สารเหล่านี้ เพียงผสม ไอเอส และ FK-1 เข้าด้วยกันแล้วฉีดพ่นสารละลายบนพืช สิ่งนี้จะป้องกันและกำจัดจุดใบเชิงมุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นแตงกวาของคุณแข็งแรงและให้ผลผลิต

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทำสวนเป็นเรื่องดีเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สรุปแล้ว โรคใบจุดเหลี่ยมเป็นปัญหาทั่วไปของเกษตรกรผู้ปลูกแตงกวา แต่สามารถป้องกันและกำจัดได้โดยใช้สารอินทรีย์ ไอเอส ร่วมกับ FK-1 วิธีแก้ปัญหาอันทรงพลังนี้จะกำจัดโรค ส่งเสริมการเจริญเติบโต และเพิ่มผลผลิต ทำให้ต้นแตงกวาของคุณแข็งแรงและให้ผลผลิต

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงอีกนิดนะคะ

โรคราแป้งเป็นโรคพืชทั่วไปที่เกิดจากเชื้อราที่สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นทุเรียน มีลักษณะเป็นผงแป้งสีขาวหรือสีเทาบนใบและลำต้นของพืชที่ติดเชื้อ ไม่เพียงแต่จะไม่น่าดูเท่านั้น แต่ยังทำให้พืชอ่อนแอลงและทำให้อ่อนแอต่อโรคอื่นๆ อีกด้วย

วิธีหนึ่งที่ได้ผลในการป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในทุเรียนคือการใช้สารอินทรีย์ ไอเอส_ สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ทำงานโดยสร้างสภาพแวดล้อมบนใบพืชที่ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อรา สิ่งนี้ทำได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการควบคุมไอออน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับความสมดุลของไอออนในสภาพแวดล้อมของพืช

นอกจากสารประกอบอินทรีย์ ไอเอส แล้ว FK-1 ยังสามารถนำมาใช้ช่วยป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในทุเรียนได้อีกด้วย FK-1 เป็นส่วนผสมพิเศษของสารอาหารซึ่งประกอบด้วยแมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสารลดแรงตึงผิว ช่วยเร่งการงอกใหม่ของพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตที่ดี

ในการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ให้ผสมและฉีดพ่นพืชที่ได้รับผลกระทบตามคำแนะนำบนฉลาก ซึ่งจะช่วยป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในทุเรียนและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตที่ดี

เลื่อนลงล่างอีกนิด เพื่อสั่งซื้อ ไอเอส และ FK-1 จากเรา ในช่องทางต่างๆที่คุณสะดวก

มะม่วงเป็นผลไม้รสอร่อยที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ แต่พวกมันไม่มีภูมิคุ้มกันต่อการคุกคามของโรคราแป้ง ซึ่งเป็นโรคเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อพืช การควบคุมและกำจัดโรคราแป้งมักพึ่งพาสารเคมีฆ่าเชื้อรา ซึ่งอาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยและการพัฒนาที่กว้างขวาง ทำให้มีการค้นพบสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่เรียกว่า IS เทคโนโลยีนี้ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับโรคราแป้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ทั้งหมดนี้โดยไม่ลดทอนความปลอดภัยของผู้ใช้

การวิจัยและพัฒนาการควบคุมเชื้อราที่มีประสิทธิภาพสูง

การพัฒนา IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์เกี่ยวข้องกับกระบวนการวิจัยและพัฒนาที่เข้มงวด นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรได้ทุ่มเทความพยายามในการหาทางออกที่สามารถต่อสู้กับโรคราแป้งในมะม่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีสังเคราะห์ที่เป็นอันตราย ด้วยการใช้หลักการทางโรคพืช การควบคุมสิ่งแวดล้อม และเคมีอินทรีย์ พวกเขาสามารถระบุส่วนผสมจากธรรมชาติที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา

การสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการแพร่กระจายของเชื้อรา

IS ทำหน้าที่โดยการควบคุมสภาพแวดล้อมบนผิวใบพืช ขัดขวางสภาวะที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อรา โรคราแป้งเติบโตในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น แต่ IS เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศขนาดเล็กรอบใบทำให้ไม่เหมาะกับเชื้อรา ด้วยการผสมผสานส่วนผสมที่ผ่านการสอบเทียบอย่างระมัดระวัง IS ช่วยลดระดับความชื้นและสร้างเกราะป้องกันที่ป้องกันการงอกของสปอร์และการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา

เพิ่มการยึดเกาะและประสิทธิภาพ

ข้อดีอย่างหนึ่งของ IS คือการยึดเกาะกับผิวใบพืชได้ดีขึ้น สารฆ่าเชื้อราแบบดั้งเดิมอาจชะล้างออกไปได้ง่ายในช่วงที่มีฝนตกหรือการให้น้ำ ซึ่งลดประสิทธิภาพลง อย่างไรก็ตาม IS ได้รับการออกแบบมาให้ยึดติดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าสัมผัสกับใบไม้เป็นเวลานาน การสัมผัสแบบขยายนี้ช่วยเพิ่มคุณสมบัติต้านเชื้อรา ทำให้สามารถควบคุมโรคราแป้งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

ความปลอดภัยของทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมเป็นข้อกังวลสูงสุดในการพัฒนาโซลูชันด้านการเกษตร IS ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ตรงตามเกณฑ์เหล่านี้ ด้วยการใช้ส่วนผสมออร์แกนิคและจากธรรมชาติทั้งหมด ช่วยลดความเสี่ยงของการสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตรายสำหรับเกษตรกร คนงาน และผู้บริโภค นอกจากนี้ IS ยังไม่คงอยู่ในสิ่งแวดล้อม หมายความว่าไม่ทิ้งสิ่งตกค้างที่เป็นอันตรายซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของดินหรือปนเปื้อนในแหล่งน้ำ

บทสรุป

การพัฒนา IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการควบคุมโรคราแป้งสำหรับมะม่วง ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถัน ทำให้สามารถระบุวัตถุดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงได้ และคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ซึ่งขัดขวางการเจริญเติบโตของเชื้อรา นอกจากนี้ การยึดเกาะที่ดีขึ้นของ IS ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสัมผัสที่ยาวนานและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดและหลีกเลี่ยงสารตกค้างที่เป็นอันตราย ด้วยระบบ IS ผู้ปลูกมะม่วงสามารถต่อสู้กับโรคราแป้งได้อย่างมั่นใจ ในขณะเดียวกันก็รักษาความสมบูรณ์และคุณภาพของผลผลิต ซึ่งมีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมการเกษตรที่ยั่งยืนและมีสุขภาพดีขึ้น

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

เชื้อราไตรโคเดอร์มาคือเชื้อราชนิดหนึ่งที่ใช้ป้องกันและกำจัดโรคใบจุดสีน้ำตาลในผลเบอร์รี่และต้นกาแฟได้ ผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ใช้เชื้อราชนิดนี้โดยเฉพาะคือ Trichorex แบรนด์ของเชื้อราไตรโคเดอร์มา

โรคใบจุดสีน้ำตาลใบกาแฟเป็นปัญหาทั่วไปของชาวไร่กาแฟทั่วโลก มีสาเหตุมาจากเชื้อรา Hemileiavastrix และสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นกาแฟ ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดกาแฟลดลง

เชื้อราไตรโคเดอร์มา เช่น Trichorex สามารถทำหน้าที่เป็นสารควบคุมทางชีวภาพเพื่อต่อต้านโรคใบจุดสีน้ำตาล เชื้อราจะเกาะกินรากและใบของต้นกาแฟ สร้างเกราะป้องกันเชื้อราที่ทำให้เกิดโรค เชื้อราไตรโคเดอร์มายังผลิตเอนไซม์ที่สามารถย่อยสลายผนังเซลล์ของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคและฆ่าเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Trichorex เป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่มี Trichoderma สายพันธุ์เฉพาะ Trichoderma asperellum T34 สายพันธุ์นี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมโรคใบจุดสีน้ำตาลในต้นกาแฟ นำไปใช้เป็นยาเพาะเมล็ดหรือใช้รดหน้าดิน

นอกจากคุณสมบัติในการควบคุมทางชีวภาพแล้ว เชื้อราไตรโคเดอร์มายังมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายประการสำหรับต้นกาแฟ สามารถปรับปรุงการเจริญเติบโตของพืชและการดูดซับสารอาหาร เพิ่มความต้านทานต่อปัจจัยความเครียด เช่น ความแห้งแล้ง และแม้กระทั่งเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติของเมล็ดกาแฟ

การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา เช่น เชื้อรา Trichorex เป็นสารควบคุมชีวภาพเป็นวิธีที่ปลอดภัย เป็นธรรมชาติ และยั่งยืนในการจัดการโรคใบจุดสีน้ำตาลในต้นกาแฟ สามารถช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพของเมล็ดกาแฟ ซึ่งนำไปสู่รายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่า

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

อัลคาลอยด์: ควบคุมพลังของธรรมชาติเพื่อปกป้องพืชผลและต่อสู้กับการดื้อยา

ในโลกของเกษตรกรรม การต่อสู้กับแมลงศัตรูพืชและการพัฒนาของเชื้อดื้อยาเป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรและนักวิจัยต่างแสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องพืชผล ในขณะที่ลดผลกระทบที่เป็นอันตรายของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวคือคุณสมบัติที่โดดเด่นของอัลคาลอยด์ ซึ่งเป็นกลุ่มสารประกอบธรรมชาติที่หลากหลายซึ่งพบได้ในพืชต่างๆ ในหมู่พวกเขา Maca โดดเด่นในฐานะอัลคาลอยด์ที่เป็นแบบอย่างที่มีศักยภาพมหาศาล

Maca เป็นอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติ คัดสรรอย่างพิถีพิถันด้วยหลักการเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อรวมเอาอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง สารประกอบตามธรรมชาตินี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมในการต่อสู้กับแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะเพลี้ยแป้งในสวนทุเรียน วิธีการดำเนินการที่ไม่เฉพาะเจาะจงของ Maca แตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั่วไป ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้โดยไม่ส่งเสริมการพัฒนาของการดื้อยา นี่เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ เนื่องจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นเวลานานมักจะทำให้แมลงปรับตัวและเกิดการดื้อยา ทำให้สารเคมีไม่ได้ผล

เอกลักษณ์ของ Maca อยู่ที่ความสามารถในการทำลายกลไกทางชีววิทยาของแมลงศัตรูพืชโดยไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ ทำให้ไม่เพียงแต่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้และผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ด้วย Maca เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของตนได้โดยไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของระบบนิเวศหรือทำลายคุณภาพของผลผลิต

นอกจากนี้ Maca ยังให้ประโยชน์เพิ่มเติมในรูปของอาหารเสริมพืช FKT อาหารเสริมเหล่านี้ช่วยให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของเพลี้ยซึ่งเป็นศัตรูพืชทั่วไปอีกชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผล ด้วยการบำรุงพืชด้วยอาหารเสริม FKT เกษตรกรสามารถกระตุ้นกลไกการป้องกันตามธรรมชาติ ทำให้พวกเขาฟื้นตัวจากการโจมตีของเพลี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการแบบผสมผสานนี้เป็นการรวมคุณสมบัติขับไล่แมลงของ Maca เข้ากับความสามารถในการฟื้นฟูของอาหารเสริมพืชของ FKT มอบโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับการปกป้องและฟื้นฟูพืชผล

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้อาหารเสริมพืช Maca และ FKT ร่วมกันคือการฉีดพ่นร่วมกัน ด้วยการรวมเครื่องมืออันทรงพลังทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน เกษตรกรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมศัตรูพืชได้ การฉีดพ่นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Maca และ FKT ร่วมกันมีผลเสริมฤทธิ์กัน สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อศัตรูพืช ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความยืดหยุ่นและการฟื้นตัวของพืช แนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ช่วยให้มั่นใจถึงกลยุทธ์การป้องกันพืชผลที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น ลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ และลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด

ผลลัพธ์ของการฉีดพ่นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพืช Maca และ FKT ร่วมกันมีแนวโน้มสูง เกษตรกรที่ใช้แนวทางนี้ได้รายงานว่าผลผลิตพืชผลดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ลดความเสียหายจากศัตรูพืช และสุขภาพของพืชดีขึ้น นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Maca และ FKT ยังช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาวของการเกษตรโดยลดความจำเป็นในการแทรกแซงทางเคมีและป้องกันการพัฒนาของเชื้อดื้อยา

กล่าวโดยสรุป สารอัลคาลอยด์เช่น Maca ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้ในขอบเขตของการป้องกันพืชผลและการจัดการศัตรูพืช ด้วยการควบคุมพลังแห่งธรรมชาติและใช้หลักการเทคโนโลยีขั้นสูง อัลคาลอยด์เข้มข้นเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม โหมดการทำงานที่ไม่เฉพาะเจาะจงของ Maca ป้องกันไม่ให้แมลงพัฒนาความต้านทาน ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในระยะยาว เมื่อรวมกับอาหารเสริมพืชของ FKT Maca นำเสนอแนวทางแบบองค์รวมในการปกป้องพืชผล ส่งเสริมการฟื้นฟูพืชและลดการพึ่งพาสารเคมีสังเคราะห์ ด้วยการฉีดพ่นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Maca และ FKT ร่วมกัน เกษตรกรสามารถยอมรับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืนในขณะที่ปกป้องผลผลิตของพวกเขาและสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์สำหรับการควบคุมโรคแอนแทรกโนสอย่างมีประสิทธิภาพในสารสกัดจากมะม่วง

โรคแอนแทรกโนสซึ่งเกิดจากเชื้อราก่อโรค เป็นปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมมะม่วง โรคทำลายล้างนี้ไม่เพียงแต่ลดคุณภาพและผลผลิตของผลมะม่วงเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงชีวิตของเกษตรกรและความสามารถในการทำกำไรของอุตสาหกรรมโดยรวมอีกด้วย เพื่อต่อสู้กับความท้าทายนี้ การวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวางได้นำไปสู่การค้นพบ IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่กำจัดโรคแอนแทรคโนสได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด

IS ย่อมาจาก "Inhibitor of Spores" ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมและยับยั้งเชื้อราด้วยวิธีการทางเทคโนโลยีขั้นสูง โซลูชั่นที่ก้าวล้ำนี้ทำงานโดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยบนพื้นผิวของใบพืช ป้องกันการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคแอนแทรคโนส ด้วยการปรับเปลี่ยนสภาพที่ผิวใบ IS กำหนดเป้าหมายที่ต้นตอของโรค โดยนำเสนอแนวทางที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการควบคุมโรคในผลมะม่วง

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือประสิทธิภาพสูงในการดับเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคแอนแทรกโนส จากการวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถัน นักวิทยาศาสตร์ได้ระบุสารประกอบออกฤทธิ์เฉพาะที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อราที่มีศักยภาพ ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์เหล่านี้ได้รับการคิดค้นสูตรอย่างพิถีพิถันและปรับให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดโรคแอนแทรคโนส

นอกจากนี้ IS ยังแสดงคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ทำให้สามารถอยู่บนพื้นผิวใบพืชได้เป็นระยะเวลานาน คุณลักษณะนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันการติดเชื้อราที่ยาวนาน ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดเชื้อราทั่วไปที่อาจถูกชะล้างได้ง่ายโดยสายฝนหรือการชลประทาน IS สร้างเกราะป้องกันบนผิวใบ ปกป้องพืชจากสปอร์ของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของ IS คือธรรมชาติอินทรีย์ ด้วยการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด IS จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อราแบบดั้งเดิม ลักษณะนี้มีความสำคัญต่อการส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืนและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสารประกอบสังเคราะห์ เกษตรกรและผู้บริโภคสามารถได้รับประโยชน์จากการใช้ IS เนื่องจากไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายบนผลมะม่วงหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้

การพัฒนา IS นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสในสารสกัดจากมะม่วง วิธีการที่ไม่เหมือนใครในการกำหนดเป้าหมายเชื้อราที่ก่อโรคที่ผิวใบ เมื่อรวมกับองค์ประกอบอินทรีย์ทำให้แตกต่างจากสารฆ่าเชื้อราทั่วไป ด้วยการให้ประสิทธิภาพระดับสูง การยึดเกาะที่ยาวนาน และความปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม IS นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่มีแนวโน้มสำหรับเกษตรกรที่ต้องการต่อสู้กับโรคแอนแทรคโนสอย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่อุตสาหกรรมมะม่วงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การดำเนินมาตรการควบคุมโรคที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ด้วยการกำเนิดของ IS เกษตรกรมะม่วงสามารถใช้พลังแห่งธรรมชาติเพื่อปกป้องพืชผลของพวกเขาจากผลกระทบร้ายแรงของโรคแอนแทรคโนส สารต้านเชื้อราอินทรีย์นี้ไม่เพียงรับประกันผลผลิตที่มีคุณภาพสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนความสามารถในการผลิตมะม่วงในระยะยาว ซึ่งส่งผลดีต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมโดยรวมในที่สุด

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ต้นยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับประเทศไทย โรคใบไหม้อเมริกาใต้ จะมีลักษณะเฉพาะต่างจากโรคใบไหม้ปกติทั่วไป ดังแสดงในภาพ ยางพาราอ่อนแอต่อโรคราที่เรียกว่า โรคใบไหม้ โรคนี้สามารถทำลายสวนยางและนำไปสู่ความสูญเสียอย่างมากสำหรับเกษตรกร อย่างไรก็ตาม การควบคุมและกำจัดโรคนี้ ใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส

สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส เป็นเทคนิคการควบคุมไอออนประเภทหนึ่งที่ทำให้สภาพแวดล้อมบนใบพืชไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา เมื่อฉีดพ่นบนใบของต้นยางที่ติดเชื้อ ไอเอส สามารถฆ่าเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคใบไหม้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ ไอเอส ในการต่อสู้กับโรคใบไหม้ในอเมริกาใต้ สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นที่เรียกว่า FK-1 ซึ่งเป็นสารเร่งการเจริญเติบโตของพืชที่มีสารอาหารหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสารลดแรงตึงผิว เมื่อผสมกับ ไอเอส และฉีดพ่นบนต้นยางที่เป็นโรค FK-1 สามารถช่วยบำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตที่ดี ในขณะที่ยังช่วยเร่งการฟื้นตัวของพืชจากการทำลายของโรค

โดยสรุป การใช้สารอินทรีย์ ไอเอส ร่วมกับ FK-1 เป็นวิธีการป้องกันและกำจัดโรคใบไหม้ในต้นยางที่ได้ผลดี ด้วยการควบคุมสภาพแวดล้อมไอออนบนใบพืชและให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตที่ดี

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ

ปุ๋ยเร่งรากและปุ๋ยเร่งดอกสำหรับมะละกอสามารถช่วยเสริมสร้างรากและส่งเสริมการออกดอกได้เช่นกัน สูตรที่คุณกล่าวถึงคือ 10-40-10+3 MgO ซึ่งเป็นสูตรที่มีสัดส่วนตัวท้ายสูงในฟอสฟอรัส (P) ที่ช่วยกระตุ้นการออกดอกและการพัฒนาดอก ส่วนมากนิยมใช้ในช่วงเวลาที่ต้นมะละกอกำลังเตรียมต้นก่อนการออกดอกหรือในช่วงที่ต้นกำลังออกดอก.

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสามารถช่วยให้พืชได้รับสารอาหารเสริมได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ควรให้ความสำคัญกับปริมาณที่ใช้และช่วงเวลาที่ให้ปุ๋ย เพื่อป้องกันการสะสมสารอาหารที่สามารถก่อให้เกิดพิษได้.

นอกจากนี้ควรปฏิบัติการดูแลเพิ่มเติม เช่น การให้น้ำ การตัดแต่งกิ่ง และการควบคุมโรคแมลง เพื่อให้มะละกอสามารถเจริญเติบโตและออกดอกได้ดี.

คำแนะนำในการใช้ปุ๋ยเร่งรากและเร่งดอกมีทั้งนี้:

ปุ๋ยเร่งราก (สูตร 10-40-10):

ใช้ในช่วงที่ต้นกำลังเตรียมต้นก่อนการออกดอก.
ให้ปุ๋ยโดยการกระจายบริเวณรอบโคนต้น.
ปริมาณการให้ปุ๋ยต้องอยู่ในขอบเขตที่แนะนำบนบรรจุภัณฑ์.

ปุ๋ยเร่งดอก (สูตร 10-40-10):

ใช้ในช่วงที่ต้นกำลังเตรียมต้นก่อนการออกดอกและในช่วงที่มีการพัฒนาดอก.
ให้ปุ๋ยโดยการกระจายบริเวณรอบโคนต้น.
ปริมาณการให้ปุ๋ยต้องอยู่ในขอบเขตที่แนะนำบนบรรจุภัณฑ์.

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ (10-40-10+3 MgO):

ใช้ในช่วงที่ต้นกำลังเตรียมต้นก่อนการออกดอกและในช่วงที่มีการพัฒนาดอก.
ปริมาณการให้ปุ๋ยต้องอยู่ในขอบเขตที่แนะนำบนบรรจุภัณฑ์.

หลีกเลี่ยงการให้ปุ๋ยในช่วงเวลาที่แดดแรงหรือในช่วงร้อน เพื่อป้องกันการสะสมสารอาหารที่สามารถก่อให้เกิดพิษ.

คำแนะนำเหล่านี้เป็นทั่วไป และควรปรับให้เหมาะสมตามเงื่อนไขและสภาพของพื้นที่ปลูกและประสบการณ์การดูแลมะละกอของคุณ.

.
ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ ฉีดพ่น ต้นมะละกอ ปุ๋ยเร่งราก ปุ๋ยเร่งดอก มะละกอ คุณภาพดี
ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ ฉีดพ่นไม้ผลทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ พลังเร่งความเจริญ ผลผลิตดกโตสำหรับต้นพุทรา

พุทราผลไม้รสเด็ด ขวัญใจคนไทย หลายคนคงอยากปลูกไว้ทานเองที่บ้าน แต่การจะได้พุทราผลดกใหญ่ หวานฉ่ำ นั้น ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ "ปุ๋ย" ตัวช่วยสำคัญในการบำรุงต้นพุทราให้เจริญเติบโต ออกดอก ออกผลดก

วันนี้ขอแนะนำ "ปุ๋ยสตาร์เฟอร์" ปุ๋ยสูตรพิเศษ ผลิตโดยบริษัท ฟาร์อีสท์ นีโอเทค จำกัด ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของต้นพุทราในแต่ละช่วงวัย มาพร้อม 3 สูตรเด็ด ดังนี้

สูตร 1: 30-20-5 สูตรเร่งการเจริญเติบโต โตไว ใบเขียว

เหมาะสำหรับต้นพุทราที่มีอายุ 1-3 ปี
ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของลำต้นและใบ
ทำให้ต้นพุทราแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดี
อัตราส่วน N-P-K อยู่ที่ 30-20-5

สูตร 2: 10-40-10+3 MgO สูตรเร่งการเจริญเติบโตของราก และการออกดอก

เหมาะสำหรับต้นพุทราที่มีอายุ 3-5 ปี
ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของรากและสะสมตาดอก
ช่วยให้ต้นพุทราออกดอกติดผลดี
อัตราส่วน N-P-K-MgO อยู่ที่ 10-40-10+3

สูตร 3: 15-5-30+3 MgO สูตรขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต

เหมาะสำหรับต้นพุทราที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป
ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของผล
ช่วยให้ผลพุทรามีขนาดใหญ่ น้ำหนักดี คุณภาพดี
อัตราส่วน N-P-K-MgO อยู่ที่ 15-5-30+3

วิธีใช้:

ฉีดพ่นทางใบ อัตราส่วน 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
ข้อแนะนำ:

ควรอ่านคู่มือการใช้อย่างละเอียดก่อนใช้งาน
เก็บปุ๋ยในที่แห้ง มิดชิด ห่างไกลจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ตัวช่วยให้ต้นพุทราของคุณเจริญเติบโต ออกดอก ออกผลดกโต หวานฉ่ำ น่าทาน

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลและวิธีการใช้ปุ๋ยอย่างละเอียดก่อนใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และความปลอดภัยต่อต้นไม้และสิ่งแวดล้อม

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..