กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช มีกรดอะมิโน 18 ชนิดที่พืชต้องการ และแต่ละชนิดมีบทบาทเฉพาะในกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจความสำคัญของอะมิโนโปรตีนจากพืชทั้ง 18 ชนิด และวิธีที่พวกมันสามารถช่วยบำรุงต้นข้าวโพด ใบเขียว ฝักใหญ่ เมล็ดเต็ม เพื่อให้ได้ผลผลิตและน้ำหนักที่ดีในที่สุด

อะมิโนโปรตีนจากพืช 18 ชนิดแบ่งออกเป็นสามประเภท: จำเป็น ไม่จำเป็น และเงื่อนไข กรดอะมิโนที่จำเป็นไม่สามารถสังเคราะห์ได้โดยพืชและต้องได้รับจากดินหรือปุ๋ย กรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นสามารถสังเคราะห์ได้โดยพืช แต่อาจยังได้รับประโยชน์จากแหล่งภายนอก กรดอะมิโนที่มีเงื่อนไขมีความจำเป็นภายใต้เงื่อนไขเฉพาะเท่านั้น เช่น ในช่วงเวลาที่เกิดความเครียดหรือโรค

กรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับพืช ได้แก่ ฮิสทิดีน ไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไทโอนีน ฟีนิลอะลานีน ธรีโอนีน ทริปโตเฟน และวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้มีความสำคัญต่อการสังเคราะห์โปรตีน การทำงานของเอนไซม์ และการเจริญเติบโตของพืชโดยรวม ตัวอย่างเช่น ไลซีนจำเป็นสำหรับการผลิตคลอโรฟิลล์ซึ่งมีหน้าที่ในการสังเคราะห์แสง ในขณะที่เมไธโอนีนมีความสำคัญต่อการผลิตเมล็ดพืช

กรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นสำหรับพืช ได้แก่ อะลานีน อาร์จินีน แอสพาราจีน กรดแอสปาร์ติก ซีสเตอีน กรดกลูตามิก กลูตามีน ไกลซีน โพรลีน ซีรีน และไทโรซีน กรดอะมิโนเหล่านี้ยังมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช และสามารถช่วยปรับปรุงความทนทานต่อความเครียด ความต้านทานต่อโรค และสุขภาพโดยรวมของพืช

กรดอะมิโนที่มีเงื่อนไขสำหรับพืชเรียกว่าออร์นิทีน จำเป็นต้องใช้ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างเท่านั้น เช่น ระหว่างการเผาผลาญไนโตรเจนและการตอบสนองต่อความเครียด

แล้วอะมิโนโปรตีนจากพืชทั้ง 18 ชนิดนี้จะช่วยบำรุงต้นข้าวโพดให้แตกใบเขียว ฝักใหญ่ เมล็ดเต็มต้น ให้ผลผลิตและน้ำหนักดีได้อย่างไร? ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช หากไม่มีกรดอะมิโนเพียงพอ พืชอาจมีปัญหาในการผลิตโปรตีนที่จำเป็นสำหรับกระบวนการเหล่านี้

การให้กรดอะมิโนโปรตีนจากพืช 18 ชนิดแก่ต้นข้าวโพด เกษตรกรสามารถมั่นใจได้ว่าพืชผลของพวกเขามีองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนา สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงการเจริญเติบโตของราก เพิ่มการสังเคราะห์แสง และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของพืช ผลที่ตามมาคือต้นข้าวโพดอาจผลิตใบ ฝัก และเมล็ดที่ใหญ่ขึ้นและมีจำนวนมากขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตและน้ำหนักที่มากขึ้น

นอกจากการปรับปรุงการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชแล้ว กรดอะมิโนยังช่วยปรับปรุงความทนทานต่อความเครียดและความต้านทานต่อโรคอีกด้วย เนื่องจากกรดอะมิโนมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์สารต้านอนุมูลอิสระและโมเลกุลอื่นๆ ที่ช่วยปกป้องพืชจากความเครียดออกซิเดชันและความเสียหายในรูปแบบอื่นๆ การให้กรดอะมิโนที่จำเป็นแก่ต้นข้าวโพด เกษตรกรสามารถช่วยปรับปรุงความสามารถของพืชในการต้านทานโรคและทนต่อความเครียด ซึ่งนำไปสู่การเก็บเกี่ยวที่ดีต่อสุขภาพและให้ผลผลิตมากขึ้น

สรุปได้ว่า อะมิโนโปรตีนจากพืชทั้ง 18 ชนิด มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช ช่วยบำรุงต้น ข้าวโพด ใบเขียว ฝักใหญ่ เมล็ดเต็ม ทำให้ได้ผลผลิตและน้ำหนักดี เพื่อให้แน่ใจว่าพืชผลของพวกเขามีปริมาณกรดอะมิโนเหล่านี้เพียงพอ เกษตรกรสามารถช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่ดี ปรับปรุงความทนทานต่อความเครียดและความต้านทานต่อโรค และเพิ่มปริมาณและคุณภาพของการเก็บเกี่ยวในท้ายที่สุด ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณวางแผนที่จะปลูกข้าวโพดหรือพืชผลอื่นๆ อย่าลืมเกี่ยวกับความสำคัญขององค์ประกอบพื้นฐานที่จำเป็นเหล่านี้ นั่นคือ อะมิโนโปรตีนจากพืช 18 ชนิด

อะมิโน แรปเตอร์ จำเป็นต้องใช้อย่างถูกต้อง ผสมกับน้ำฉีดเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการใช้ สำหรับพืชผัก แนะนำให้ใช้อะมิโนแร็ปเตอร์ 10-20 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร สำหรับนาข้าว พืชไรย์
และไม้ผล แนะนำให้ใช้อะมิโนแร็พเตอร์ 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร เมื่อใช้ระบบน้ำหยด ควรฉีด อะมิโนแร็พเตอร์ อัตรา 500 มล. ต่อไร่ เดือนละ 2 ครั้ง

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

โรคไฟทอฟธอราเกิดจากเชื้อราสกุลไฟทอฟธอรา ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อต้นทุเรียน ส่งผลต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการ และผลผลิตของทุเรียน ในความพยายามที่จะต่อสู้กับปัญหานี้ นักวิจัยได้พัฒนา IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด โซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่โดดเด่นในการควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การเสริมพืชทุเรียนด้วย FKT ซึ่งเป็นธาตุอาหารเฉพาะของพืช ปัญหาต่างๆ เช่น การเจริญเติบโตช้า โครงสร้างอ่อนแอ ใบเหลือง และการออกดอกไม่ดีสามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะสำรวจประโยชน์และศักยภาพของ IS และ FKT ในการฟื้นฟูการปลูกทุเรียน

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์:

IS เป็นผลมาจากการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวางโดยมุ่งค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อสู้กับโรคไฟทอปธอราในต้นทุเรียน ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช IS จะสร้างสภาวะที่ไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อรา สารต้านเชื้อราอินทรีย์นี้ทำหน้าที่โดยการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

คุณสมบัติหลักและประโยชน์ของ IS:

การควบคุมเชื้อราอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Fungal Control: IS) ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา Phytophthora ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านผลกระทบร้ายแรงต่อต้นทุเรียน

ออร์แกนิคและปลอดภัย: IS มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้ปลอดภัยต่อทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารเคมีอันตรายที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์หรือระบบนิเวศ

Enhanced Adherence to Plant Surfaces: IS เพิ่มประสิทธิภาพโดยยึดเกาะกับผิวใบพืชได้ดีขึ้น การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสัมผัสที่ยาวนานและเพิ่มผลต้านเชื้อราของสารให้สูงสุด

ทางออกที่ยั่งยืน: IS สอดคล้องกับหลักการของเกษตรกรรมยั่งยืนโดยเสนอแนวทางอินทรีย์ในการจัดการโรค ช่วยลดการพึ่งพาสารฆ่าเชื้อราสังเคราะห์ ลดผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบนิเวศ

FKT: อาหารเสริมพืชเพื่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสม:

นอกเหนือจากการต่อสู้กับโรคไฟทอฟธอราแล้ว ต้นทุเรียนมักประสบปัญหาการขาดสารอาหารต่างๆ ที่ขัดขวางการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทุเรียน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ การรวมตัวของอาหารเสริมพืช FKT สามารถปรับปรุงความสมบูรณ์ของพืชโดยรวมและผลผลิตได้อย่างมาก

ประโยชน์หลักของ FKT:

การเพิ่มประสิทธิภาพสารอาหาร: อาหารเสริม FKT ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นอย่างสมดุล รวมทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม และอื่น ๆ สารอาหารเหล่านี้ช่วยให้ใบแข็งแรง การพัฒนาของราก และปรับปรุงการออกดอกและติดผล

การแก้ไขปัญหาพืชทั่วไป: อาหารเสริม FKT แก้ไขปัญหาทั่วไปที่พบในต้นทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเจริญเติบโตช้า โครงสร้างอ่อนแอ ใบเหลือง ขาดการขยายตัว ออกดอกไม่ดี ผลเหี่ยวเฉา และขาดสีเขียวสดใส

การดูดซึมปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น: อาหารเสริม FKT ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมและการใช้ปุ๋ย ทำให้มั่นใจได้ว่าพืชจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสารอาหารที่ใช้

ปรับปรุงพลังโดยรวมของพืช: ด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็น อาหารเสริม FKT ช่วยฟื้นฟูพืช ทำให้เติบโตอย่างแข็งแรง เพิ่มความต้านทานต่อโรค และผลไม้ที่มีคุณภาพดีขึ้น

บทสรุป:

IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ควบคู่ไปกับอาหารเสริมพืชของ FKT นำเสนอวิธีแก้ปัญหาแบบบูรณาการเพื่อต่อสู้กับโรคไฟทอปธอรา และปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและผลผลิตของต้นทุเรียน จากการวิจัยและพัฒนา นวัตกรรมใหม่เหล่านี้ให้ประสิทธิภาพสูงในการควบคุมและยับยั้งเชื้อรา ในขณะเดียวกันก็ช่วยบำรุงพืชและแก้ไขปัญหาการเจริญเติบโตทั่วไป การใช้วิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติเหล่านี้ เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลทุเรียนของพวกเขา ส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน และรับประกันการเก็บเกี่ยวที่ดีต่อสุขภาพและให้ผลมากขึ้น

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

โรคเชื้อราเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และอาจทำให้เกิดการสูญเสียผลผลิตและคุณภาพของพืชได้อย่างมาก ข้าวไรซ์เบอร์รี่ซึ่งเป็นข้าวยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณค่าทางโภชนาการสูงและคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ มีโอกาสเกิดโรคเชื้อราได้ง่ายเช่นกัน ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในข้าวไรซ์เบอร์รี่อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ IS และสารอินทรีย์

การป้องกันและกำจัดด้วย IS:
IS หรือ Induced Systemic Resistance เป็นวิธีการเพิ่มการป้องกันตามธรรมชาติของพืชจากโรคเชื้อรา IS ทำได้โดยการใช้สารละลาย IS กับใบของพืช ซึ่งกระตุ้นการตอบสนองที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืช อัตราการผสมที่แนะนำของ IS คือ 50 ซีซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร สารละลายนี้สามารถใช้กับพืชสัปดาห์ละครั้งตั้งแต่ระยะพืชจนถึงระยะออกดอก

สารประกอบอินทรีย์สำหรับป้องกันและกำจัด:
นอกจาก IS แล้ว สารประกอบอินทรีย์ยังสามารถใช้ป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้อีกด้วย สารประกอบเหล่านี้ทำงานโดยสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรเพื่อให้เชื้อราเติบโตและเจริญเติบโต ตัวอย่างของสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถใช้ได้ ได้แก่ สารฆ่าเชื้อราที่มีทองแดง น้ำมันสะเดา และปุ๋ยหมักชา สารกำจัดเชื้อราที่มีทองแดงเป็นส่วนประกอบจะมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในการรักษาโรคเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้และโรคใบจุดสีน้ำตาล ซึ่งพบได้ทั่วไปในข้าวไรซ์เบอร์รี่ ในทางกลับกัน น้ำมันสะเดามีประสิทธิภาพในการรักษาโรคเชื้อราและแมลงศัตรูพืชได้หลากหลายชนิด

พืชพร้อมบำรุงด้วย FK-1:
FK-1 เป็นปุ๋ยพร้อมใช้ที่นอกจากจะช่วยบำรุงพืชแล้ว ยังช่วยป้องกันและกำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อราอีกด้วย FK-1 มีสองถุง โดยถุงแรกบรรจุธาตุหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม และถุงที่สองบรรจุธาตุเสริม เช่น แมกนีเซียมและสังกะสี รวมทั้งสารลดแรงตึงผิว อัตราส่วนผสมที่แนะนำสำหรับ FK-1 คือ 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองผสมกับน้ำ 20 ลิตร สารละลายนี้สามารถใช้ได้กับพืชทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่ระยะพืชจนถึงระยะออกดอก

บทสรุป:
โรคเชื้อราอาจเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว แต่ด้วยวิธีการป้องกันและกำจัดที่เหมาะสม จะสามารถปกป้องต้นข้าวไรซ์เบอร์รี่จากโรคเหล่านี้ได้ IS สารอินทรีย์ และปุ๋ยพร้อมใช้อย่าง FK-1 ล้วนสามารถป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้ การนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของตนและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่ประสบความสำเร็จ

เชื้อราไตรโคเดอร์มาคือเชื้อราชนิดหนึ่งที่ใช้ป้องกันและกำจัดโรคผลเน่าในพืชแคนตาลูปและเมล่อนได้ เชื้อราไตรโคเดอร์มายี่ห้อ Trichorex ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อจัดการกับโรคชนิดนี้โดยเฉพาะ และมอบวิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับเกษตรกร

โรคผลไม้เน่าเกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด รวมทั้งเชื้อรา ซึ่งสามารถโจมตีผลไม้ในระยะการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การสูญเสียผลผลิตและคุณภาพพืชผลอย่างมีนัยสำคัญ

เชื้อราไตรโคเดอร์มา เช่น Trichorex สามารถทำหน้าที่เป็นสารควบคุมทางชีวภาพโดยการตั้งรกรากของรากพืชและสร้างเกราะป้องกันเชื้อโรค นอกจากนี้ยังสามารถผลิตเอนไซม์ที่ทำลายผนังเซลล์ของเชื้อโรคและฆ่าพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Trichorex ยังสามารถให้ประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับพืช เช่น การเจริญเติบโตที่ดีขึ้น เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร และเพิ่มความต้านทานต่อความเครียด

การใช้ Trichorex เป็นมาตรการป้องกันสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและจำกัดการแพร่กระจายของโรคในสนาม เมื่อใช้ในช่วงแรกของการเจริญเติบโต มันสามารถปกป้องพืชจากเชื้อโรคและรับประกันการเจริญเติบโตและการพัฒนาที่เหมาะสม

โดยสรุปแล้วเชื้อราไตรโคเดอร์มา ตรา Trichorex เป็นวิธีการป้องกันและกำจัดโรคผลเน่าในพืชแคนตาลูปและเมล่อนอย่างได้ผล สามารถทำหน้าที่เป็นสารควบคุมทางชีวภาพและให้ประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับพืช จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรที่จะใช้ Trichorex เป็นมาตรการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและจำกัดการแพร่กระจายของโรค

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่า

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

มันสำปะหลังเป็นพืชหลักในหลายส่วนของโลก และเกษตรกรพึ่งพาผลผลิตที่ดีเพื่อตอบสนองความต้องการแหล่งอาหารที่สำคัญนี้ การเลือกปุ๋ยที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในด้านสุขภาพและผลผลิตของต้นมันสำปะหลัง ในบทความนี้ เราจะมาทบทวนประโยชน์ของการใช้อินทรียวัตถุ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10% อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส) เป็นปุ๋ยสำหรับมันสำปะหลังที่ปลูกในสภาพดินทราย

ข้อดีหลักประการหนึ่งของการใช้ปุ๋ยเคมีคือสามารถให้สารอาหารเฉพาะที่เข้มข้นและเชื่อถือได้ซึ่งพืชต้องการสำหรับการเจริญเติบโต เพอร์เฟค เอส สูตร 16-3-3 มีอัตราส่วนที่สมดุลของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาพืชให้แข็งแรง การเพิ่มอินทรียวัตถุ 10% ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินและความพร้อมของธาตุอาหาร ทำให้พืชเข้าถึงธาตุอาหารที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

ดินทรายอาจเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับพืช เนื่องจากดินมีแนวโน้มที่จะมีสารอาหารต่ำและความสามารถในการกักเก็บความชื้น เมื่อใช้ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10% อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส) เกษตรกรจะมั่นใจได้ว่าต้นมันสำปะหลังได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต แม้ในสภาพดินที่ท้าทาย สารอินทรีย์ในปุ๋ยยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้สามารถกักเก็บน้ำและพัฒนารากได้ดีขึ้น

สรุปได้ว่า ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10% อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส) เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตสูงสุดให้กับต้นมันสำปะหลังที่ปลูกในสภาพดินทราย สูตรสารอาหารที่สมดุลและการเติมอินทรียวัตถุสามารถช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินและความพร้อมของสารอาหาร ซึ่งนำไปสู่พืชที่มีสุขภาพดีและให้ผลผลิตมากขึ้น

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset

## ฮิวมิค ฟาร์มิค: ตัวช่วยเพิ่มพลังให้สวนเงาะของคุณ

**เงาะ** ราชินีแห่งผลไม้ เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย แต่การปลูกเงาะให้ได้ผลผลิตดี จำเป็นต้องมีการดูแลอย่างถูกวิธี หนึ่งในนั้นคือการใช้ **ฮิวมิค ฟาร์มิค**

**ฮิวมิค ฟาร์มิค** คือ สารอินทรีย์ธรรมชาติ ประกอบด้วยฮิวมัส กรดฮิวมิก กรดฟุลวิค และธาตุอาหารรอง ช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น

**ประโยชน์ของฮิวมิค ฟาร์มิค ต่อสวนเงาะ**

* **ช่วยให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี:** ป้องกันปัญหาดินแน่น น้ำขัง รากเงาะเน่า
* **เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน:** ช่วยให้ดินมีธาตุอาหารมากขึ้น พืชเจริญเติบโตดี
* **ช่วยให้เงาะดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น:** ช่วยให้เงาะได้รับสารอาหารครบถ้วน
* **ช่วยให้เงาะมีใบเขียว ใบใหญ่:** บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของเงาะ
* **ช่วยให้เงาะออกดอกออกผลมากขึ้น:** เพิ่มผลผลิต
* **ช่วยให้เงาะมีรสชาติหวาน:** ผลมีคุณภาพดี

**วิธีการใช้ฮิวมิค ฟาร์มิค**

* **โรย**: โรยฮิวมิค ฟาร์มิค บนดินบริเวณโคนต้นเงาะ
* **ละลายน้ำ**: ละลายฮิวมิค ฟาร์มิค กับน้ำ รดลงบนดิน
* **ผสมน้ำยาฉีดพ่น**: ผสมฮิวมิค ฟาร์มิค กับน้ำยาฉีดพ่น ฉีดพ่นบนใบเงาะ

**ข้อควรระวัง**

* ไม่ควรใช้ฮิวมิค ฟาร์มิค ในปริมาณที่มากเกินไป
* ควรอ่านฉลากก่อนใช้

**การใช้ฮิวมิค ฟาร์มิค** เป็นวิธีธรรมชาติ ปลอดภัย ช่วยให้สวนเงาะของคุณมีสุขภาพดี ผลผลิตดก และ คุณภาพดี

**แหล่งข้อมูล**

**หมายเหตุ** ข้อมูลนี้เป็นเพียงการแนะนำเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนนำไปใช้

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset

การจัดการกับเพลี้ยในต้นคะน้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาการเจริญเติบโตของพืชและผลผลิตที่ดี นี่คือบางวิธีที่คุณสามารถลองใช้เพื่อป้องกันหรือกำจัดเพลี้ยในต้นคะน้า:


ใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช:

สารจากธรรมชาติ: เช่น น้ำส้มควันไม้ น้ำยาล้างจานผสมน้ำ เป็นต้น
สารเคมี: ใช้สารเคมีที่เป็นประโยชน์และปลอดภัยต่อพืช เช่น น้ำยาล้างจานที่ไม่มีสารสีหรือกลิ่นแอลกอฮอล์

ใช้ส่วนผสมธรรมชาติ:

น้ำส้มควันไม้: ผสมน้ำส้มควันไม้กับน้ำและฉีดพ่นบนต้นคะน้า
น้ำสะเดา: น้ำสะเดามีสารสกัดที่สามารถกำจัดเพลี้ยได้

ใช้แมลงศัตรูธรรมชาติ:

แมลงศัตรูที่กินเพลี้ย: เช่น แตนเบีย แมลงไข่ปีกเสือ พวงแสด
ปล่อยแมลงศัตรูธรรมชาติ: สามารถซื้อแมลงศัตรูธรรมชาติเพื่อปล่อยในสวน

การใช้สารเคมี:

สารกำจัดแมลง: ใช้สารเคมีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ระมัดระวัง: อ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

รักษาความสะอาด:

กำจัดส่วนที่เป็นโรคหรือที่มีเพลี้ยตายออกจากสวนเพื่อลดโอกาสการระบาดของเพลี้ยในอนาคต
ควรตรวจสอบต้นคะน้าอย่างสม่ำเสมอและดำเนินการทันทีเมื่อพบเพลี้ย เพื่อป้องกันการระบาดของศัตรูพืชที่อาจทำให้ผลผลิตลดลงได้.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในต้นคะน้า
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

มะละกอเป็นพืชผลที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ปุ๋ยตามช่วงอายุต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณมากที่สุด ด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรที่พัฒนามาอย่างประณีต สามารถเลือกใช้ตามความต้องการของมะละกอในแต่ละช่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สูตรที่ 1: สูตร 30-20-5 (เร่งการเจริญเติบโต)
สูตรนี้เหมาะสำหรับมะละกอที่ต้องการการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเน้นที่การเพิ่มขนาดของต้นและใบให้ได้มากขึ้น ช่วยให้มะละกอโตไวและใบเขียวสดใส

สูตรที่ 2: สูตรระยะ (เร่งการเจริญเติบโตของรากและการออกดอก)
สำหรับมะละกอที่มีการเจริญเติบโตของรากและการออกดอกเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความแข็งแรงของระบบราก ช่วยให้มะละกอสามารถดูดธาตุอาหารและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สูตรที่ 3: สูตรระยะขยายขนาด (ผลใหญ่ น้ำหนักดี)
สำหรับมะละกอที่ต้องการผลลัพธ์ที่ใหญ่โตและมีน้ำหนักดี สูตรนี้จะช่วยให้มะละกอขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสริมสร้างโครงสร้างให้มะละกอแข็งแรง

คำแนะนำในการใช้
นำปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรไปใช้ในปริมาณที่แนะนำบนบรรจุภัณฑ์
ให้ปุ๋ยเป็นระยะๆตามช่วงอายุของมะละกอ
ควรให้น้ำสม่ำเสมอและเพียงพอตามความต้องการของมะละกอ
ด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรที่ปรับทันทีตามความต้องการของมะละกอในทุกช่วงอายุ คุณจะได้รับผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณมากที่สุด เพื่อสร้างมะละกอที่แข็งแรง สวยงาม และอร่อยมากที่สุดที่เป็นไปได้!

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

Metalaxyl เป็นสารฆ่าเชื้อราที่มีฤทธิ์สูง ให้ประโยชน์อันล้ำค่าสำหรับต้นกระเพรา โดยการควบคุมและป้องกันโรคเชื้อราอย่างมีประสิทธิภาพ สารออกฤทธิ์มุ่งเป้าไปที่เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคราน้ำค้างและความชื้น ช่วยปกป้องพืชกระเพราจากการติดเชื้อที่ทำให้อ่อนแอลง ด้วยการยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อราที่เป็นอันตรายเหล่านี้ Metalaxyl ช่วยให้มั่นใจในความมีชีวิตชีวาของต้นโหระพา ส่งผลให้ใบมีสุขภาพดีขึ้น ผลผลิตดีขึ้น และเพิ่มความแข็งแรงโดยรวมของพืช การป้องกันนี้ไม่เพียงแต่เสริมความต้านทานต่อต้นโหระพาเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมสภาพการเจริญเติบโตที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าเกษตรกรและชาวสวนจะได้รับผลผลิตที่แข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรือง


💦อัตราผสมใช้ เมทาแลคซิล
» เมทาแลคซิล 25กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร
» หรือ เมทาแลคซิล 250กรัม ต่อน้ำ 200ลิตร

📌ช่องทางสั่งซื้อ สอบถาม ได้ที่

» LineID: @FarmKaset คลิกแอดไลน์ http://ไปที่..link..
.

» โทร 090-592-8614
.

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้ TikTok
.

» ซื้อเมทาแลคซิล กับช้อปปี้ คลิกที่นี่ http://ไปที่..link..
.
» ซื้อเมทาแลคซิล กับลาซาด้า คลิกที่นี่ http://ไปที่..link..
.
» ซื้อเมทาแลคซิล กับTikTok คลิกที่นี่ http://ไปที่..link.. .

Metalaxyl เป็นยาฆ่าเชื้อราสำหรับพืชที่มีศักยภาพ ให้ประโยชน์อันล้ำค่าสำหรับการเพาะปลูกหัวหอมและกระเทียม ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อต่อสู้กับโรคเชื้อรา Metalaxyl มอบเกราะป้องกัน รับรองสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของพืชสำคัญเหล่านี้ ด้วยการกำหนดเป้าหมายและกำจัดเชื้อราที่เป็นอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพ Metalaxyl ช่วยให้เกษตรกรป้องกันการสูญเสียผลผลิตที่เกิดจากโรคต่างๆ เช่น โรคราน้ำค้างและความชื้นที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักสร้างความเสียหายให้กับหัวหอมและกระเทียม สารฆ่าเชื้อรานี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพโดยรวมของพืชผลเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมผลผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยเสริมผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย ด้วยการใช้ Metalaxyl เกษตรกรสามารถปลูกหัวหอมและกระเทียมได้อย่างมั่นใจ โดยรู้ว่าพืชของพวกเขาได้รับการปกป้องจากการติดเชื้อราที่ทำลายล้าง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมีส่วนทำให้อุตสาหกรรมการเกษตรมีความยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น

💦อัตราผสมใช้ เมทาแลคซิล
» เมทาแลคซิล 25กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร
» หรือ เมทาแลคซิล 250กรัม ต่อน้ำ 200ลิตร

📌ช่องทางสั่งซื้อ สอบถาม ได้ที่

» LineID: @FarmKaset คลิกแอดไลน์ http://ไปที่..link.. .

» โทร 090-592-8614
.

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้ TikTok
.

» ซื้อเมทาแลคซิล กับช้อปปี้ คลิกที่นี่ http://ไปที่..link.. .

» ซื้อเมทาแลคซิล กับลาซาด้า คลิกที่นี่ http://ไปที่..link.. .

» ซื้อเมทาแลคซิล กับTikTok คลิกที่นี่ http://ไปที่..link.. .