[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3518 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 351 หน้า, หน้าที่ 352 มี 8 รายการ

 
โรค แครอทใบไหม้
โรค แครอทใบไหม้
โรคต้นใบไหม้แห้ง ในแครอท เชื้อราสาเหตุ Cercospora (Cercospora blight)_ Alternaria (Alternaria blight)

Cercospora ที่เป็นสาเหตุโรคต้นใบไหม้แห้งของแครอทคือ Cercospora carotae เชื้อนี้จะเข้าทำลายและก่อให้เกิดอาการกับต้นแครอทได้ทุกส่วนที่อยู่เหนือดินไม่ว่าจะเป็น ต้น กิ่ง ใบ ก้านใบ และดอก บนใบ แผลจะมีลักษณะค่อนข้างกลม สีนํ้าตาลเทา หรือดำ เมื่อเป็นมากๆ เนื้อใบจะถูกทำลายทำให้เกิดอาการเหี่ยวแห้งกลายเป็นสีดำทั้งใบ บนกิ่งก้านและก้านใบแผลจะมีลักษณะยาวรี ขอบสีเข้ม ตอนกลางซีดจาง สำหรับดอกหากถูกเชื้อเข้าทำลายในระยะที่ดอกยังอ่อนจะแห้งตายทั้งดอก ถ้าเป็นดอกที่ผสมติดฝักแล้ว เชื้อราก็จะเข้าทำลายฝักต่อไปแต่จะไม่ทำอันตรายเมล็ดที่มี ภายในฝักนั้นแต่อย่างไร เพียงแต่เส้นใยจะไปอาศัยเกาะพักตัวอยู่ตามเปลือกและผิวของเมล็ดดังกล่าวเพื่อข้ามฤดู และใช้เมล็ดนั้นเป็น seed-borne ต่อไป

Alternaria เป็นราอีกชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคต้นและใบไหม้แห้งกับพืชผักต่างๆ ได้แพร่หลาย เช่น เดียวกับเชื้อ Cercospora ชนิดที่ทำลายแครอทนั้น ได้แก่ Alternaria dauci

การแพร่ระบาด

การแพร่ระบาดที่จัดว่าสำคัญและดีที่สุดของโรคนี้ เกิดจากเชื้อที่ติดอยู่กับเมล็ดในลักษณะของ seed-borne ดังกล่าวแล้ว ส่วนราพวกที่เกาะกินอยู่บนต้นพืชเมื่อพืชตายก็จะติดอยู่กับเศษซากที่เป็นโรคและถูกปล่อยทิ้งอยู่ตามดินแปลงปลูก พวกนี้ต่อมาจะรวมตัวกันสร้าง stroma เกิดเป็นจุดสีดำเล็กๆ ขึ้นตามบริเวณแผลที่เป็นอยู่เดิม บน stroma นี้ ก็จะเป็นที่เกิดของสปอร์หรือโคนีเดียอีกทีหนึ่ง สปอร์พวกนี้ทำหน้าที่แพร่ระบาดก่อให้เกิดโรคกับพืชในฤดูปลูกต่อไป โดยปลิวไปตามลม นํ้า หรือติดไปกับสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ต่างๆ ที่ไปถูกต้องสัมผัสเข้า เมื่อตกลงบนพืช และสิ่งแวดล้อมเหมาะสม เช่น ได้รับความชื้นพอเพียงอากาศอบอุ่น (19- 28∘ซ.) ก็จะงอกเจริญเติบโตเป็นเส้นใยจากนั้นก็จะเข้าไปใน โดยผ่านทางช่อง stomata ก่อให้เกิดโรคและสร้างสปอร์ เพื่อใช้ในการแพร่ระบาดต่อไปได้อีกภายใน 2-3 วัน ใบอ่อนของแครอทจะถูกเชื้อทำลายและเสียหายได้ง่ายกว่าใบแก่

การป้องกันกำจัด

1. หลีกเลี่ยงการปลูกแครอทซํ้าลงในดินหรือแปลงที่เคยเกิดโรคมาก่อนหรือปลูกพืชอย่างอื่นสลับเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี

2. เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่สะอาดปราศจากเชื้อ หากไม่แน่ใจควรนำเมล็ดมาแช่ในน้ำอุ่น 50°ซ. นาน 15-20 นาที หรือแช่เมล็ดด้วย ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ในอัตรส่วน 20ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร

3. เมื่อเกิดโรคขึ้นกับแครอทในแปลงปลูกให้ทำการ ฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ ยับยั้งโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา ในอัตตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ทุก 5-7 วัน

4. ฉีดพ่น FK-1 เพื่อบำรุงพืช ให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ โตไว ผลผลิตดี

[FK-1 แกะกล่องมาจะมีสองถุง ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สองเป็นสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร]

* สามารถผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกับ ไอเอส
* ควรฉีดพ่นช่วยเช้าก่อนแดดออก หรือ ช่วงเย็น หลังแดดร่มลมตก ไม่ควรฉีดพ่นตอนแดดร้อนจัด

# http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3418
ซูกินี่ (Zucchini)
ซูกินี่ (Zucchini)
ซูกินี่ (Zucchini) เป็นพืชตระกูลแตง รสหวานกรอบ มีกลิ่นเฉพาะตัว ทานสด หรือปรุงทานก็ได้ ดีต่อสุขภาพ รักษาโรคหอบหืด บำรุงผิวพรรณ ลดความดันเลือด

หากพูดถึงผักเพื่อสุขภาพที่ควรหามารับประทาน ซูกินี่ หรือ ซุกินี (Zucchini) ก็กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้ผักชนิดอื่นๆ เรามีข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของซูกินีที่ดีต่อสุขภาพมาแนะนำดังต่อไปนี้

ซูกินี คืออะไร

ซูกินี เป็นพืชตระกูลแตง มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเม็กซิโก มีรสชาติหวานกรอบ จะมีกลิ่นเฉพาะตัว นิยมนำมารับประทานกันแบบสดหรือปรุงเป็นอาหารชนิดต่างๆ ใช้แทนบวบหรือแตงในอาหารชนิดต่างๆ เช่น ผัด แกงจืด แกงเลียง ต้มจิ้มน้ำพริก หรือใช้เป็นผักสด สามารถนำไปดองได้ด้วย อีกทั้งยังเป็นผักที่มีแคลอรี่ต่ำ ไม่มีไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควมคุบน้ำหนักเป็นอย่างมาก
ซูกินี เป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 วิตามินเค เบตาแคโรทีน แคลเซียมและแมกนีเซียม โปแทสเซียม คอปเปอร์ โฟเลต ฟอสฟอรัส และแมงกานีส omega-3

สำหรับสรรพคุณของซูกินีนั้นจะช่วยช่วยรักษาโรคหอบหืด บำรุงสุขภาพของดวงตา ป้องกันต้อกระจก ลดความดันเลือด ลดความเสี่ยงของโรคภูมิต้านทานบกพร่อง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยบำรุงประสาท และช่วยเพิ่มความจำได้ดีมากๆ

ที่มา http://www.farmkaset..link..

ไอเอส ใช้ป้องกัน กำจัด โรคราน้ำค้างซูกินี่ โรคราแป้งซูกินี่

FK-1 ฉีดพ่น บำรุง เสริมสร้างภูมิต้านทานต่อโรค ให้กับซูกินี่ ส่งเสริมการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี เพิ่มผลผลิต ทั้งด้านปริมาณ คุณภาพ ช่วยให้ผลโต มีน้ำหนักดี คุณภาพดี
ปวยเล้ง ทานเป็นมีประโยชน์สูงมาก ทานไม่เป็น เป็นได้ทั้งเก้าต์ ทั้งนิ่ว !
ปวยเล้ง ทานเป็นมีประโยชน์สูงมาก ทานไม่เป็น เป็นได้ทั้งเก้าต์ ทั้งนิ่ว !

ปวยเล้งมีทั้งธาตุเหล็กบำรุงเลือด แคลเซียมบำรุงกระดูก โพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจ และความดันเลือด มีวิตามินซีป้องกันหวัด วิตามินบี 2 ช่วยในการเจริญเติบโต บำรุงเล็บ ผิวหนัง ผม มีกรดโฟลิกที่จำเป็นต่อการสร้างสารที่ให้ความสุขอย่างซีโรโทนิน ที่มีส่วนสำคัญในการควบคุมอารมณ์ไม่ให้หงุดหงิดงุ่นง่าน รวมถึงช่วยลดอาการนอนไม่หลับได้ ช่วยบำรุงสายตา กระดูก และผิวพรรณ

.

มีงานวิจัยว่า ปวยเล้ง ช่วยบำรุงสมอง ลดโอกาสในการเกิดโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ได้ และยังช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย

.

แม้ว่าปวยเล้งจะมีประโยชน์มากมาย แต่ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ หรือโรคนิ่ว อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการทานปวยเล้ง หรือควบคุมการทานไม่ให้มากเกินไป เพราะปวยเล้งมีกรดออกซาลิคอยู่มากพอสมควร ซึ่งเมื่อรวมตัวกับแคลเซียม ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคนิ่วได้ และอาจทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก และโฟเลตได้น้อยลง นอกจากนี้ยังมีกรดยูริกหรือทำให้อาการของโรคเกาต์แย่ลงได้

.

การทานปวยเล้ง ควรจะลวกน้ำร้อนก่อน และนำมาปรุงอาหาร เพราะความร้อนจะช่วยทำลายกรด ออกซาลิกได้มากถึง 80% จากนั้นเรามาทำอาหารทาน ก็ได้ทั้งประโยชน์ที่มาก และความอร่อยตามความชอบได้เลย

อ่าน:3418
การปลูกทานตะวัน
การปลูกทานตะวัน
ทานตะวัน เป็นพืชนํ้ามันที่มีความสําคัญพืชหนึ่ง นํ้ามันที่ได้จากการสกัดจากเมล็ดทานตะวันจะ
มีคุณภาพสูง ที่ประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว เช่น กรดลิโนเลนิค หรือกรดลิโนเลอิค ที่จะช่วยลด
โคเลสเตอรอลที่เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด นอกจากนี้นํ้ามันจากทานตะวันยังประกอบด้วย วิตามิน เอ ดีอีและเคด้วย ผลผลิตส่วนใหญ่อยู่ในเขตอบอุ่น เช่น สหภาพโซเวียต อาร์เจนตินา และประเทศ ในแถบยุโรปตะวันออก สําหรับประเทศไทย ได้มีการส่งเสริมให้มีการ ปลูกทานตะวันเป็นอาชีพเสริมมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอกับอุตสาหกรรมพืชนํ้ามันและความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ เพราะ ทานตะวันเป็นพืชที่มีอายุสั้นระบบรากลึก มีความทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดีกว่าพืชอื่น ๆ แหล่งปลูกที่สําคัญ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี เพชรบูรณ์ และสระบุรี

สภาพแวดล้อม
ทานตะวัน เป็นพืชที่มีการปรับตัวเข้ากับสภาพของเขตร้อนได้ดีพอสมควรไม่ไวต่อแสง สามารถ
ออกดอกใหผลได้ทุกสภาพช่วงแสง ปลูกได้ในบริเวณที่มีการปลูกข้าวโพด ข้าวฟาง เมื่่อทานตะวันตั้งตัวได้แล้ว จะมีความทนทานต่อสภาพแห้งและร้อนได้พอสมควร และจะเริ่มเติบโตทันทีเมื่อมีฝน นอกจากนี้ทานตะวันยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศเย็นจัดได้ดีกว่าข้าวโพด ข้าวฟ่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต้นกล้า ทานตะวันขึ้นได้กับดินหลายประเภท แต่จะขึ้นได้ดีในสภาพดินที่มีผิวดินหนาและอุ้มความชื้นไว้ได้ดี สามารถทนต่อสภาพความอุดมสมบูรณ์ตํ่า ตลอดจนสภาพดินเกลือและเป็นด่างจัดได้พอสมควร ซึ่งดินเหล่านี้จะมีอยู่เป็นจํานวนมากในเขตแห้งแล้งทั่วๆไป

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ทานตะวัน เป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับเบญจมาศ คําฝอย ดาวเรือง เป็นพืชล้มลุกที่มีปลูกกัน
มากในเขตอบอุ่น การที่มีชื่อเรียกว่า ทานตะวัน เพราะลักษณะการหันของช่อดอกและใบจะหันไปทาง
ทิศของดวงอาทิตย์คือ หันไปทางทิศตะวันออกในตอนเช้า และทิศตะวันตกในตอนเย็น แต่การหันจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ หลังจากมีการผสมเกสรแล้วไปจนกระทั่งถึงช่วงดอกแก่ ซึ่งช่อดอกจะหันไปทิศตะวันออกเสมอ

ราก เป็นระบบรากแก้วหยั่งลึกลงไปประมาณ 150-270 เซนติเมตร มีรากแขนงค่อนข้างแข็ง
แรงแผ่ขยายไปด้านข้างได้ยาวถึง 60-150 เซนติเมตร เพื่อช่วยคํ้าจุนลําต้นได้ดีและสามารถใช้ความชื้นระดับผิวดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลําต้น ส่วนใหญ่ไม่มีแขนง แต่บางพันธุ์มีการแตกแขนง ขนาดของลําต้น ความสูง การแตก
แขนงขึ้นอยู่กับพันธุ์และสภาพแวดล์อม ความสูงของต้นอยู๋ระหว่าง 1-10 เซนติเมตร การโค้งของลําต้น ตรงส่วนที่เป็นก้านช่อดอกมีหลายแบบ แบบที่ต้องการคือแบบที่ ส่วนโค้งตรงก้านช่อดอกคิดเป็นร้อยละ15 ของความสูงของลําต้น พันธุ์ที่มีการแตกแขนง อาจมีความยาวของแขนงสูงกวาลําตนหลักแขนง อาจแตกมาจากส่วนโคนหรือยอด หรือตลอดลําต้นก็ได้

ใบ เป็นใบเดี่ยวเกิดตรงกันข้าม หลังจากที่มีใบเกิดแบบตรงกันข้ามอยู่ 5 คู่แล้ว ใบที่เกิดหลัง
จากนั้นจะมีลักษณะวน จํานวนใบบนต้นอาจมีตั้งแต่ 8-70 ใบ รูปร่างของใบแตกต่างกันตามพันธุ์สีของ
ใบอาจมีตั้งแต่เขียวอ่อน เขียว และเขียวเข้ม ใบที่เกิดออกมาจากตายอดใหม่ๆ ก้านใบจะอยู่ในแนวตั้งจนกระทั้งใบมีความยาว 1 เซนติเมตร ปลายยอดจะค่อย ๆ โค้งลงจนเมื่อใบแก่แล้วก็จะโค้งลงมาเป็นรูปตัวยู (U) การสร้างใบจะมีมากจนกระทั่งดอกบาน หลังจากนั้นการสร้างใบจะลดน้อยลง
ดอก เป็นรูปจาน เกิดอยู่บนตายอดของลําต้นหลัก หรือแขนงลําต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอก
อยู่ระหว่าง 6-37 เซนติเมตร ซึ่งขึ้นกับพันธุ์และสภาพแวดล้อม ดอกมีลักษณะเป็นแบบช่อดอก
ประกอบด้วยดอกย่อยเป็นจํานวนมาก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

1. ดอกย่อยที่อยู่รอบนอกจานดอก เป็นดอกที่ไม่มีเพศ (เป็นหมัน) มีกลับดอกสีเหลืองส้ม
2. ดอกย่อยที่อยู่ในจานดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ที่พร้อมจะผสมได้ก่อนเกสรตัว
เมีย และสายพันธุ์ผสมเป็นส่วนใหญ่ผสมตัวเองน้อยมาก
ในแต่ละจานดอกจะมีดอกย่อยอยู่ประมาณ 700-3_000 ดอก ในพันธุ์ที่ให้นํ้ามัน ส่วนพันธุ์
อื่นๆ อาจมีดอกย่อยถึง 8_000 ดอก การบานหรือการแก่ของดอกจะเริ่มจากวงรอบนอกเข้าไปสู่ศูนย์
กลางของดอก ดอกบนกิ่งแขนงจะมีขนาดเล็ก แต่ถ้าเป็นแขนงที่แตกออกมาตอนแรกๆ ดอกจะมีขนาด
ใหญ่เกือบเท่ากับดอกบนลําต้นหลัก ส่วนใหญ่พันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้า มักจะเลือกต้นชนิดที่มีดอกเดี่ยว
เพื่อความสมบูรณ์ของดอก และให้เมล็ดที่มีคุณภาพดี

เมล็ด (หรือผล) ประกอบด้วยเนื้อใน ซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลือกที่แข็งแรง เมื่อผลสุกส่วนของ
ดอกที่อยู่เหนือรังไข่จะร่วง ผลที่มีขนาดใหญ่จะอยู่วงรอบนอก ส่วนผลที่อยู่ข้างในใกล้ๆ กึ่งกลางจะมีผลเล็กลง

เมล็ดทานตะวัน แบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ คือ
1. เมล็ดใช้สกัดนํ้ามัน จะมีเมล็ดเล็ก สีดํา เปลือกเมล็ดบางให้นํ้ามันมาก
2. เมล็ดใช้รับประทาน จะมีเมล็ดโตกว่าพวกแรก เปลือกหนาไม่ติดกับเนื้อในเมล็ด เพื่อสะดวก
ในการกะเทาะแล้วใช้เนื้อในรับประทาน โดยอบหรือปรุงแต่งขนมหวาน หรือทําเป็นแป้งประกอบอาหารหรือใช้เมล็ดคั่วกับเกลือแล้ว แทะเปลือกออกรับประทานเนื้อข้างในเป็นอาหารว่าง เช่นเดียวกับเมล็ดแตงโม
3. เมล็ดใช้เลี้ยงนก ใช้เมล็ดเป็นอาหารเลี้ยงนก หรือไก่ โดยตรง

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ทานตะวันชอบอากาศอบอุ่นในเวลากลางวันและอากาศเย็นในเวลากลางคืน อุณหภูมิที่เหมาะ
สมคือ อยู่ระหว่าง 18-25 องศาเซลเซียส สภาพความเป็นกรด-ด่าง ของดินประมาณ 5.7-8 สามารถ
ขึ้นได้ในดินแทบทุกประเภท แต่ที่ขึ้นได้ดีคือดินที่มีหน้าดินลึกที่อุ้มนํ้าได้ดี แต่ไม่ชอบนํ้าขังและไม่ชอบดินที่มีลักษณะเป็นกรด หากดินที่ปลูกมีความชื้นตํ่า ผลผลิตของเมล็ดจะตํ่าลงมาก

พันธุ์
ทานตะวันมี 3 สายพันธุ์พันธุ์ผสมเปิด ซึ่งเป็นพันธุ์เดิมที่ใช้ปลูก ซึ่งในดอกจะมีจํานวนเรณูที่ติด
อยู่ที่ก้านชูเกสรตัวเมียน้อย ทําให้การติดเมล็ดด้วยการผสมตัวเองตํ่า ต้องอาศัยแมลงช่วยในการผสม
เกสร จึงจะทําให้ติดเมล็ด การปลูกจึงไม่ประสบผลสําเร็จเพราะได้เมล็ดลีบ ผลผลิตตํ่าเนื่องจากไม่ค่อยมีแมลงช่วยผสมเกสร แต่ปัจจุบันมีพันธุ์ลูกผสมสามารถติดเมล็ดได้ดีโดยไม่ต้องอาศัยแมลงช่วยผสมเกสร เพราะในดอกมีละอองเรณูที่ติดอยู่ก้านชูเกสรตัวเมียมากกว่าพันธุ์ผสมเปิด 3-4 เท่า จึงทําให้การติดเมล็ดด้วยการผสมตัวเองดีกว่าสายพันธุ์ผสมเปิด

ปัจจุบันยังไม่มีการผลิตเมล็ดทานตะวันลูกผสมในประเทศไทย ต้องนําเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่
พันธุ์ไฮซัน 33 และพันธุ์เอส 101 ซึ่งมีลักษณะของจานดอกค่อนข้างใหญ่กลีบดอกสีเหลืองสดใสและให้ปริมาณนํ้ามันสูง สายพันธุ์สังเคราะห์ซึ่งยังไม่มีการส่งเสริมในปัจจุบัน แต่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการวิจัยของหน่วยงานวิจัย สําหรับทานตะวันที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในขณะนี้คือ สายพันธุ์ลูกผสม

ลักษณะดีเด่นของพันธุ์ลูกผสม ได้แก่
1. ผลผลิต เฉลี่ย 254.82 กิโลกรัมต่อไร่
2. การติดเมล็ด เฉลี่ยร้อยละ 76.3
3. เส้นผ่าศูนย์กลาง เฉลี่ย 15.4 เซนติเมตรของจานดอก
4. ความสูงของต้น เฉลี่ย 168.9 เซนติเมตร
5. อายุเก็บเกี่ยว เฉลี่ย 90-100 วัน
6. ปริมาณนํ้ามัน เฉลี่ยร้อยละ 48 ที่มา
1-4 การเปรียบเทียบพันธุ์ทานตะวันในท้องถิ่น จํานวน 5 พันธุ์ฤดูแล้ง ปี 2529 ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่ 5-6 บริษัทแปซิฟิค เมล็ดพันธุ์จํากัด

ลักษณะที่ดีของพันธุ์ ลูกผสม คือ สามารถผสมเกสรภายในดอกเดียวกันได้สูง การติดเมล็ดค่อน
ข้างดี การหาผึ้งหรือแมลงช่วยผสมเกสรจึงไม่จําเป็นมากนัก แต่ถ้ามีแมลงช่วยผสมก็มีลักษณะประจํา
พันธุ์ที่มีผลต่อการดึงดูดแมลง เช่น กลีบดอกสีสดใส กลิ่นของเรณูปริมาณและคุณภาพของนํ้าหวานก็ดีกว่าพันธุ์ผสมเปิด ทนทานต่อการโค่นล้มและต้านทานต่อโรคราสนิม

ฤดูปลูก
ทานตะวันเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ในทุกฤดูกาล เพราะเป็นพืชที่ไม่ไวต่อช่วงแสง อย่าง
ไรก็ตามการปลูกในบางท้องที่อาจไม่มีความเหมาะสม เช่น ในที่ลุ่มภาคกลาง ในฤดูฝนจะมีนํ้าขังแฉะ
เกินไป หรือที่ดินในฤดูแล้งที่ไม่มีนํ้าชลประทาน ดังนั้นฤดูที่เหมาะสมที่สุดมี 2 ฤดูคือ

1. ปลายฤดูฝน ในสภาพพื้นที่ที่เป็นดินร่วนเหนียว ควรปลูกทานตะวันในปลายฤดูฝน คือ ตั้ง
แต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน แต่ถ้าสภาพพื้นที่ที่ปลูกเป็นดินร่วนทราย ควรปลูกในเดือนสิงหาคมตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูฝน
2. ฤดูแล้ง ถ้าในแหล่งปลูกนั้นสามารถใช้นํ้าจากชลประทานได้ก็สามารถปลูกเป็นพืชเสริมได้
โดยปลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว
เนื่องจากพันธุ์ลูกผสมนี้ดอกค่อนข้างใหญ่ เวลาเมล็ดแก่จานดอกจะห้อยลงมาและด้านหลังของ
จานดอกจะมีลักษณะเป็นแอ่งเหมือนกระทะก้นแบน เมื่อฝนตกลงมานํ้าฝนจะขังในแอ่งดังกล่าว จะทําให้เกิดโรคเน่าได้มากและทําให้เมล็ดเน่าเสียหาย ดังนั้นจึงควรปลูกในปลายฤดูฝน หรือในฤดูแล้งถ้ามี
ฝนตกนํ้าขังในแอ่งของจานดอก ให้เขย่าต้นเพื่อทําให้นํ้าไหลออกให้หมด

การเตรียมดิน
การเตรียมดินก้อนปลูก ควรไถดินให้ลึกในระดับ30 เซนติเมตรหรือลึกกว่านั้น เพราะว่า เมื่อฝนตกดินจะสามารถรับนํ้าให้ซึมซับอยู่ในดินได้มากขึ้น การไถดินลึกจะช่วยทําลายการอัดแน่นของดินในชั้นไถพรวน ทําให้นํ้าซึมลงในดินชั้นล่างได้มากขึ้น ควรกําจัดวัชพืชในแปลงให้สะอาด และไถย่อยดินครั้งสุดท้ายให้ร่วนซุย หากมีการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปพร้อมกับการย่อยดินครั้งสุดท้ายจะช่วย
เสริมธาตุอาหารต่างๆเพื่อให้พืชนําไปใช้ประโยชน์

การปลูก
หลังจากเตรียมดินเสร็จแล้ว ควรทําร่องสําหรับหยอดเมล็ด โดยให้แต่ละร่องห่างกัน 70-75 เซนติเมตร และให้หลุมปลูกในร่องห่างกัน 25-30เซนติเมตร หยอดหลุมละ 2 เมล็ด แลวกลบดินโดยให้เมล็ดอยู่ลึก 5-8เซนติเมตร เมื่อพืชงอกได้ 10 วัน หรือมีใบจริง 2-4 คู่ให้ถอนแยกเหลือไว้
เฉพาะต้นที่แข็งแรงเพียงหลุมละ 1 ต้น และถ้าหากดินมีความชื้นตํ่าควรใช้
ระยะปลูกกว้างขึ้น

การยกร่องนี้ เพื่อเป็นการสะดวกในการให้นํ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกในฤดูแล้งที่ต้องการนํ้ามาก ส่วนการปลูกในฤดูฝน ถ้าเป็นดินที่มีการระบายนํ้าดีก็ไม่จําเป็นต้องยกร่องและใช้ระยะปลูกเช่นเดียวกับยกร่องการปลูกวิธีนี้ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ลูกผสมจํานวน 0.7 กิโลกรัมต่อไร่และปลูกตามระยะที่แนะนํานี้
จะได้จํานวนต้น 6_400-8_500 ต้นต่อไร่

ใส่ปุ๋ย
ทานตะวันเป็นพืชที่ให้โปรตีน และแร่ธาตุสูง จึงควรใส่ปุ๋ยในปริมาณที่พืชต้องการตามสภาพดิน
ที่ปลูกด้วยสําหรับปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมที่แนะนํา คือ สูตร 15 – 15 - 15 หรือ 16 - 16 - 8 อัตรา 30
- 50 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใส่รองพื้นพร้อมปลูก และใช้ปุ๋ยยูเรีย 46 – 0 - 0 อัตรา 20-30 กิโลกรัมต่อ
ไร่ เมื่อทานตะวันอายุได้ 30 วัน หรือมีใบจริง 6-7 คู่ ซึ่งเป็นระยะกําลังจะออกดอก หากมีการตรวจ
วิเคราะห์ดินก่อนปลูก จะช่วยให้การใช้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและในกรณีที่เป็นดินทรายและขาดธาตุ
โบรอน ควรใส่ผงโบแรกซ์ประมาณ 2 กิโลกรัมต่อไร่ จะทําให้เพิ่มผลผลิตได้มากและทําให้คุณภาพของเมล็ดทานตะวันดีขึ้น

ให้นํ้า
นํ้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการผลิตทานตะวัน หากความชื้นในดินมีน้อยก็จะทําให้ผล
ผลิตลดลงด้วย การให้นํ้าที่เหมาะสมแก่ทานตะวันจึงจะทําให้ได้รับผลผลิตดีด้วย ดังนั้นการให้นํ้าควร
ปฏิบัติดังนี้
ครั้งที่ 1 หลังจากปลูกเสร็จแล้วรีบให้นํ้าทันทีหรือควรทําการปลูกทันทีหลังฝนตกเพื่อใช้ความชื้นในดินให้เต็มที่โดยไม่ต้องรดนํ้า
ครั้งที่ 2 ระยะมีใบจริง 2 คู่ หรือประมาณ 10-15 วัน หลังงอก
ครั้งที่ 3 ระยะเริ่มมีตาดอก หรือประมาณ 30-35 วัน หลังงอก
ครั้งที่ 4 ระยะดอกเริ่มบาน หรือประมาณ 50-55 วัน หลังงอก
ครั้งที่ 5 ระยะกําลังติดเมล็ด หรือประมาณ 60-70 วัน หลังงอก การให้นํ้าควรให้นํ้าอย่างเพียง
พอให้ดินชุ่ม แต่ไม่ต้องถึงกับแฉะและนํ้าขังการให้นํ้าควรคํานึงถึงความชุ่มชื้นในดินด้วย ไม่ควรปล่อย
ให้ดินแห้งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงแรกของการเจริญเติบโตจนถึงระยะติดเมล็ด

การกําจัดวัชพืช
ควรกําจัดวัชพืชอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อทานตะวันมีใบจริง 2-4 คู่ ซึ่งการทํารุ่นครั้งแรก
นี้ทําพร้อมกับการถอนแยกต้นพืชให้เหลือ 1 ต้นต่อหลุม เป็นการสะดวกสําหรับเกษตรกรในการปฏิบัติ
และครั้งที่สองทําพร้อมกับการใส่ปุ๋ยครั้งที่สอง เมื่อทานตะวันมีใบจริง 6-7 คู่ ทํารุ่นพร้อมกับใส่ปุ๋ยและ
พูนโคนต้นไปด้วย ในแปลงที่มีปัญหาวัชพืชขึ้นรบกวน ควรทําการกําจัดวัชพืชเพื่อป้องกันการแย่งอาหารและความชื้นในดิน ตั้งแต่ต้นยังเล็กหรือใช้สารเคมีคุมกําเนิดหรือใช้สารเคมีคุมกําเนิดพวกอะลาคลอร์ หรือเมโธลาคลอร์ฉีดพ่นหลังหยอดเมล็ดก่อนที่จะงอกในอัตรา 300-400 ซีซีผสมนํ้า 4 ปี๊บ สําหรับฉีดพ่นในเนื้อที่ปลูก 1 ไร่ โดยฉีดให้สมํ่าเสมอกันสามารถคุมการเกิดวัชพืชได้นานถึง 2 เดือน และควรใช้แรงงานคน สัตว์หรือเครื่องทุ่นแรง ทํารุ่นได้ตามความจําเป็น

ข้อควรระวัง
ห้ามใช้สารเคมีกําจัดวัชพืชอะทราซีนในทานตะวันโดยเด็ดขาด

การเก็บเกี่ยว
ทานตะวัน จะมีอายุการเก็บเกี่ยวแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก (พันธุ์ลูกผสม อายุเก็บเกี่ยว 90-100 วัน)

วิธีการ
เก็บเกี่ยวนั้นให้สังเกตจากด้านหลังของจานดอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นช่วงการสร้างนํ้ามันในเมล็ดจะเริ่มลดลง และจะหยุด
สร้างนํ้ามันเมื่อจานดอกเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลก็เริ่มเก็บเกี่ยวได้หลัง
จากนั้นให้นําไปผึ่งแดดจัด ๆ 1-2 แดด โดยแขวนให้หัวห้อยลงและ
หมั่นกลับช่อดอก เพื่อให้ดอกแห้งอย่างสมํ่าเสมอ ถ้าเก็บเกี่ยวในช่วงที่ยังมีฝนชุกให้นํามาผึ่งในร่ม
หลายๆ วันจนแห้งสนิท แล้วจึงรวบรวมไปนวด อาจใช้แรงคนหรือสัตว์หรือใช้เครื่องนวดเมล็ดถั่วเหลืองหรือถั่วลิสงก็ได้เสร็จแล้วนําไปทําความสะอาดแล้วเก็บไว้ในยุ้งฉางที่ป้องกันแดด-ฝน และแมลงศัตรูได้ เพื่อรอจําหน่าย (ความชื้นของเมล็ดที่จะเก็บรักษาไว้ควรไม่เกิน 10%)

การให้ผลผลิต
การปลูกทานตะวันในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการบํารุงรักษาดีจะให้ผลผลิตไม่ตํ่ากว่า
300 กิโลกรัมต่อไร่แต่โดยเฉลี่ยประมาณไม่ตํ่ากว่า 200 กิโลกรัมต่อไร่

โรคแมลงและศัตรูทานตะวัน
- โรคใบและลําตำนไหม้อัลเทอร์นาเรีย
- โรคโคนเน่าหรือลําต้นเน่า
แมลงศัตรูทานตะวัน
- หนอนกระทู้ผัก
- หนอนเจาะสมอฝ้าย
- หนอนม้วนใบส้ม
- หนอนเจาะลําต้นข้าวโพด

ศัตรูทานตะวัน
นก หนูและอื่น ๆ นับว่าเป็นศัตรูสําคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะทําความเสียหายให้แก่ทานตะวัน
โดยเฉพาะในแหล่งปลูกใหญ่ๆ ฉะนั้นเกษตรจะต้องหมั่นออกสํารวจตรวจแปลงเสมอ เมื่อพบว่ามีการ
ระบาดก็ให้รีบทําการป้องกันกําจัด โดยวิธีกลคือ การวางกับดัก การล้อมตีเป็นต้น

ประโยชน์ของทานตะวัน
แต่เดิมทานตะวันเป็นเพียงไม้ดอกไม้ประดับเท่านั้น ต่อมาได้นําเมล็ดมาเป็นของขบเคี้ยว และ
สกัดเป็นนํ้ามัน จึงทําให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญพืชหนึ่ง การใช้ประโยชน์จากทานตะวันมีหลายลักษณะดังนี้

1. เมล็ด ใช้บริโภคโดยตรง เพื่อเป็นแหล่งโปรตีนแทนเนื้อสัตว์ได้ในเมล็ด มีธาตุเหล็กสูงไม่แพ้
ธาตุเหล็กจากไข่แดงและตับสัตว์เมื่อบดทําแป้งจะได้แป้งสีขาว มีไขมันสูง มีโปรตีนมากกว่าร้อยละ 50ของปริมาณแป้ง
2. เปลือกของลําต้น มีลักษณะเหมือนเยื่อไม้นํามาทํากระดาษสีขาวได้คุณภาพดีลําต้นใช้ทํา
เชื้อเพลิงได้เมื่อไถกลบจะเป็นปุ๋ยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินได้ดี
3. ราก ใช้ทําแป้งเค้ก สปาเก็ตตี้ในรากมีวิตามินบี1 และธาตุอีกหลายชนิด แพทย์แนะนําให้ใช้ รากทานตะวันประกอบอาหารสําหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
4. นํ้ามัน นํ้ามันที่สกัดจากเมล็ดจะให้ปริมาณนํ้ามันสูงถึงร้อยละ 35 และได้นํ้ามันที่มีคุณภาพ
สูง ประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวเช่น กรดลิโนเลอิค หรือกรดลิโนเลนิค สูงถึงร้อยละ 60-70 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยลดคลอเรสเตอรอลที่เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ และยังประกอบด้วยไวตามิน เอ ดีอีและเค ซึ่งคุณภาพของไวตามินอีจะสูงกว่าในนํ้ามันพืชอื่น ๆ เมื่อ เก็บไว้เป็นเวลานานจะไม่เกิดกลิ่นหืน ทั้งยังทําให้สีกลิ่น และรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากใช้เป็นนํ้ามันพืชแล้วยังนิยมใช้ในอุตสาหกรรม ทําเนยเทียม สีนํ้ามันชักเงา สบู่และนํ้ามันหล่อลื่นเครื่องยนต์
5. กาก กากที่ได้จากการสกัดนํ้ามันออกแล้ว จะนําไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ได้ในกาก
เมล็ดทานตะวันที่กะเทาะเปลือกและบีบนํ้ามันออกแล้ว จะมีโปรตีนร้อยละ 42 และใช้เป็นแหล่ง
แคลเซียมสําหรับปศุสัตว์ได้ดีแต่จะมีปริมาณกรดอะมิโนอยู่เล็กน้อย และขาดไลซีนจึงต้องใช้อย่างรอบคอบ เมื่อจะเอาไปผสมเป็นอาหารสัตว์ที่มิใช่สัตว์เคี้ยวเอื้อง


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
รูปภาพจาก
อ่าน:3418
ชุดผลิตภัณฑ์คู่หู ดูแลต้นมะม่วง ปู๋ยน้ำอะมิโน บำรุงต้นมะม่วง แก้โรคเชื้อรา เพลี้ย หนอน ศัตรูมะม่วง โดย ไดโนเร็กซ์
ชุดผลิตภัณฑ์คู่หู ดูแลต้นมะม่วง ปู๋ยน้ำอะมิโน บำรุงต้นมะม่วง แก้โรคเชื้อรา เพลี้ย หนอน ศัตรูมะม่วง โดย ไดโนเร็กซ์
ต้นมะม่วงมีค่าสำหรับผลที่อร่อยและใบที่เขียวขจี แต่ก็เหมือนกับต้นไม้อื่นๆ พวกมันต้องการการดูแลอย่างเหมาะสมจึงจะเติบโตได้ ตั้งแต่การใส่ปุ๋ยไปจนถึงการจัดการศัตรูพืชและโรค ต่อไปนี้คือเคล็ดลับสำคัญบางประการสำหรับการดูแลและบำรุงรักษาต้นมะม่วง พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยรักษาต้นมะม่วงของคุณให้แข็งแรงและให้ผลผลิต

ปุ๋ยน้ำอะมิโนสำหรับต้นมะม่วง:
การใส่ปุ๋ยต้นมะม่วงมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการออกผล ปุ๋ยน้ำอะมิโน เช่น ตรา Trichorex เป็นสูตรเฉพาะสำหรับต้นมะม่วงและมีสารอาหารที่จำเป็นในรูปแบบที่ดูดซึมง่าย ให้การผสมผสานที่สมดุลของกรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุที่ส่งเสริมการเจริญเติบโต การออกดอก และการพัฒนาผลไม้ การใช้ปุ๋ยน้ำอะมิโนเป็นประจำในช่วงฤดูปลูกสามารถปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและผลผลิตของต้นมะม่วงได้อย่างมาก

เชื้อราไตรโคเดอร์มาป้องกันโรคเชื้อรา:
โรคเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้และโรคแอนแทรคโนส อาจเป็นอันตรายต่อต้นมะม่วงได้ เชื้อราไตรโคเดอร์มา เช่น ตรา Trichorex เป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ช่วยป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นมะม่วง มันทำหน้าที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติ แข่งขันกับเชื้อราที่เป็นอันตรายเพื่อแย่งชิงสารอาหารและพื้นที่ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาในดินรอบโคนต้นมะม่วงสามารถช่วยสร้างเกราะป้องกันและส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากให้แข็งแรง

Beauveria Mix Methharicium สำหรับควบคุมเพลี้ย:
เพลี้ยเป็นศัตรูพืชทั่วไปที่สามารถทำลายต้นมะม่วงและทำให้ใบ ดอก และผลเสียหายได้ Beauveria Mix Methharicium เช่น Butarex เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่มี Beauveria bassiana และ Methharicium anisopliae ซึ่งเป็นเชื้อราที่สามารถควบคุมเพลี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื้อราเหล่านี้ติดเชื้อและฆ่าเพลี้ยป้องกันไม่ให้สร้างความเสียหายต่อต้นมะม่วง บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมสามารถใช้ฉีดพ่นทางใบเพื่อควบคุมเพลี้ยอ่อนและป้องกันต้นมะม่วงจากการรบกวน

บาซิลลัสสำหรับควบคุมหนอน:
หนอนผีเสื้อและหนอนอื่น ๆ สามารถกัดกินใบและผลมะม่วง ทำให้ใบร่วงและผลเสียหาย บาซิลลัส เช่น ตราบาซิลิสก์ เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งที่สร้างสารพิษที่ทำลายหนอน รวมทั้งตัวหนอนด้วย ทำหน้าที่เป็นยาฆ่าแมลงตามธรรมชาติ โดยมุ่งเป้าไปที่หนอนโดยเฉพาะในขณะที่ปลอดภัยต่อแมลงที่มีประโยชน์และสัตว์ป่าอื่นๆ บาซิลลัสสามารถใช้ฉีดพ่นทางใบเพื่อควบคุมประชากรหนอนและป้องกันต้นมะม่วงจากการรบกวน

Leaf Binder เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น:
สารยึดเกาะใบไม้ เช่น ยี่ห้อไดโน เป็นสารลดแรงตึงผิวที่สามารถเติมลงในสารละลายสเปรย์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการกระจายและยึดเกาะกับใบไม้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกัน เช่น ปุ๋ยน้ำอะมิโน เชื้อราไตรโคเดอร์มา บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียม และบาซิลลัส กระจายอย่างสม่ำเสมอและนำไปใช้กับใบของต้นมะม่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในการส่งเสริมการเติบโตอย่างแข็งแรง ป้องกันโรค และควบคุมแมลงศัตรูพืช

โดยสรุปแล้ว การดูแลและบำรุงรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับต้นมะม่วงที่แข็งแรงและให้ผลผลิต การใช้ผลิตภัณฑ์ร่วม เช่น ปุ๋ยน้ำอะมิโน เชื้อราไตรโคเดอร์มา บิวเวอเรียมิกซ์เมธาริเซียม บาซิลลัส และสารจับใบ สามารถให้การสนับสนุนเพิ่มเติมในการส่งเสริมสุขภาพของต้นมะม่วง ป้องกันและควบคุมโรคเชื้อรา เพลี้ย หนอนผีเสื้อ และแมลงศัตรูพืชอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวัง และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ด้วยการดูแลที่เหมาะสมและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ต้นมะม่วงของคุณสามารถเจริญเติบโตและให้ผลที่อุดมสมบูรณ์และอร่อยเป็นเวลาหลายปี

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
ยาฆ่าเชื้อรา สาเหตุของโรคต่างๆ ใน พืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ยาฆ่าเชื้อรา สาเหตุของโรคต่างๆ ใน พืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
IS แก้ปัญหาโรคพืชด้วยระบบควบคุมประจุไฟฟ้า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีในอาหาร สิ่งนี้นำไปสู่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตผลเกษตรอินทรีย์ ซึ่งปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ ยาฆ่าแมลง หรือสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs)

IS Brand ส่วนผสมอินทรีย์ได้กลายเป็นผู้นำในด้านเกษตรอินทรีย์ โดยใช้เทคโนโลยีควบคุมประจุไฟฟ้าที่ทันสมัย พวกเขาได้พัฒนาวิธีการแก้ปัญหาโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคใบไหม้ โรคราน้ำค้าง และอื่นๆ อีกมากมาย ความก้าวหน้านี้มีศักยภาพในการปฏิวัติการเกษตรและช่วยให้เกษตรกรทั่วโลกปลูกพืชผลที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น

หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญในการทำเกษตรอินทรีย์คือการหาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคพืชโดยไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรออร์แกนิกจำนวนมากพึ่งพาการรักษาธรรมชาติ เช่น สเปรย์ทองแดงและกำมะถัน แต่สิ่งเหล่านี้อาจมีราคาแพงและมีประสิทธิภาพจำกัด ส่วนผสมออร์แกนิคยี่ห้อ IS ใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป โดยใช้การควบคุมประจุไฟฟ้าเพื่อฆ่าเชื้อราเมื่อสัมผัส

เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยใช้ประจุไฟฟ้าพิเศษเพื่อดึงดูดและฆ่าเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคพืช ทำได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมี ทำให้เป็นทางออกที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์ ประจุไฟฟ้าได้รับการปรับเทียบอย่างระมัดระวังเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังเชื้อราในขณะที่ปล่อยให้โรงงานและสภาพแวดล้อมโดยรอบไม่เป็นอันตราย

อัตราการใช้สารอินทรีย์ ตราไอเอส คือ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายสูง ผลิตภัณฑ์นี้ใช้งานง่ายและสามารถใช้ได้กับพืชหลากหลายชนิด รวมถึงผลไม้ ผัก และธัญพืช

ประโยชน์ของการใช้ส่วนผสมออร์แกนิกของ IS Brand มีมากมาย โดยการควบคุมโรคพืช เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตพืชผลและปรับปรุงคุณภาพของผลิตผลได้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้พวกเขาได้รับผลกำไรที่สูงขึ้นและมีส่วนร่วมในระบบอาหารที่ยั่งยืนมากขึ้น ผู้บริโภคยังได้รับประโยชน์จากอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าซึ่งปราศจากสารเคมีอันตราย

โดยสรุปแล้ว IS Brand Organic Ingredients ได้พัฒนาวิธีการแก้ปัญหาโรคพืชในการทำเกษตรอินทรีย์ พวกเขาได้สร้างวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อราโดยไม่ต้องใช้สารเคมีอันตรายโดยใช้พลังของการควบคุมประจุไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีสูง ความก้าวหน้านี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการเกษตรและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับทุกคน

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอเอส 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และ ติ๊กต็อก ช็อป http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ยาฆ่าหนอน ใน ลำไย และพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอกี้-บีที และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ยาฆ่าหนอน ใน ลำไย และพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอกี้-บีที และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ไอกี้: สารอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับหนอนในลำไย

ลำไยเป็นผลไม้ที่ฉ่ำน้ำซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในหลายส่วนของโลก โดยเฉพาะในเอเชีย อย่างไรก็ตามมักถูกรบกวนด้วยเวิร์มซึ่งอาจทำให้ผลไม้เสียหายและทำให้คุณภาพของผลไม้ลดลง วิธีการแบบดั้งเดิมในการควบคุมแมลงศัตรูพืชในลำไยมักเกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม สารอินทรีย์ชนิดใหม่ที่เรียกว่า Aiki ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการควบคุมหนอนในลำไย

ไอกี้เป็นสารอินทรีย์ที่เกิดจากการรวมกันของแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis สองสายพันธุ์ ได้แก่ Kustaki และ Aizawai สายพันธุ์เหล่านี้มีสารพิษจากผลึกโปรตีน เดลต้า-เอนโดท็อกซินที่ทำลายแมลงศัตรูพืชหลายชนิด รวมทั้งหนอนที่เข้าทำลายลำไย เมื่อแมลงสัมผัสกับ Aiki พวกมันจะเป็นอัมพาตและตายอย่างรวดเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง

ข้อดีอย่างหนึ่งของไอกิคือเป็นสารชีวภาพที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไอกิมุ่งเป้าหมายเฉพาะแมลงศัตรูพืชที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าศัตรูพืชตามธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จะไม่ได้รับอันตราย ทำให้ Aiki เป็นทางออกที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับการควบคุมหนอนในลำไย

ข้อดีอีกอย่างของไอกิคือใช้งานง่าย เกษตรกรเพียงผสมไอกี้ 40-60 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วต้นลำไยทุก 4-7 วัน สิ่งนี้ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ใช้ได้จริงสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายในการควบคุมแมลงศัตรูพืชในลำไย

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ Aiki คือเอนไซม์สกัด Bt ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการควบคุมศัตรูพืชสำหรับเกษตรกร ด้วยการรวมประสิทธิภาพการฆ่าแมลงของ Bacillus thuringiensis สองสายพันธุ์ ได้แก่ Kustaki และ Aizawai เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มการปล่อยสารพิษ Aiki สามารถทำลายแมลงศัตรูพืชได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สรุปได้ว่า Aiki ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัย ได้ผล และยั่งยืนในการควบคุมหนอนในลำไย องค์ประกอบอินทรีย์ของมันทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่ยังคงให้ผลผลิตสูง ด้วยการใช้งานที่ง่ายและผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว ไอกิจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับแมลงศัตรูพืชในลำไย

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอกี้ และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอกี้ 25 กรัม และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ป้องกันกำจัดโรค ทุเรียนใบไหม้ โรคใบติดทุเรียน โรคใบจุด โรคราต่างๆ ด้วยสารอินทรีย์ IS และ FK-1
ป้องกันกำจัดโรค ทุเรียนใบไหม้ โรคใบติดทุเรียน โรคใบจุด โรคราต่างๆ ด้วยสารอินทรีย์ IS และ FK-1
ป้องกันกำจัดโรค ทุเรียนใบไหม้ โรคใบติดทุเรียน โรคใบจุด โรคราต่างๆ ด้วยสารอินทรีย์ IS และ FK-1
ทุเรียนเป็นผลไม้เมืองร้อนที่เป็นที่รักของหลายๆ คน ด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ก็อ่อนแอต่อโรคทางใบที่เกิดจากเชื้อราได้เช่นกัน โรคเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืช ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของพืชลดลง หากปล่อยทิ้งไว้ โรคต่างๆ สามารถแพร่กระจายและทำลายพืชได้ในที่สุด

เพื่อป้องกันและกำจัดโรคทางใบในทุเรียน สามารถใช้สารอินทรีย์ IS ร่วมกับ FK-1 ได้ สารประกอบอินทรีย์ IS ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมบนใบพืช ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา เมื่อผสมกับ FK-1 สารประกอบอินทรีย์ของ IS สามารถกำจัดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ FK-1 จะช่วยเร่งกระบวนการงอกใหม่ของพืช

FK-1 ประกอบด้วยธาตุที่จำเป็น เช่น แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสารลดแรงตึงผิวที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช การรวมกันขององค์ประกอบเหล่านี้ใน FK-1 ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสำหรับการฟื้นฟูจากความเสียหายของโรค

หากต้องการใช้ส่วนผสมนี้ เพียงผสมสารประกอบอินทรีย์ IS และ FK-1 เข้าด้วยกันแล้วฉีดพ่นลงบนใบที่ได้รับผลกระทบ การรวมกันของผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้จะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันและกำจัดโรคใบในทุเรียน ช่วยให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิต

สรุปได้ว่าการใช้สารอินทรีย์ IS และ FK-1 เป็นวิธีการป้องกันและกำจัดโรคใบในทุเรียนที่ได้ผล ไม่เพียงแต่กำจัดโรค แต่ยังส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับผู้ปลูกทุเรียน

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงอีกนิดนะคะ
กำจัดเพลี้ย ใน ดอกมะลิ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดเพลี้ย ใน ดอกมะลิ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดเพลี้ย ใน ดอกมะลิ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Beauveria mix Methharicium หรือที่รู้จักกันในชื่อแบรนด์ Butarex เป็นยาฆ่าแมลงที่ทรงพลังที่ใช้ในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในต้นมะลิ เพลี้ยอ่อนเป็นแมลงขนาดเล็กที่มีลำตัวนิ่มซึ่งกินน้ำเลี้ยงของพืชและสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผล รวมถึงการเจริญเติบโตแคระแกร็น ใบม้วนงอ และการเปลี่ยนสี

Butarex เป็นการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของสารออกฤทธิ์ 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Methharicium anisopliae ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ย Beauveria bassiana โจมตีเพลี้ยโดยการเจาะผิวหนังชั้นนอกของพวกมัน ในขณะที่ Methharicium anisopliae ทำงานโดยการผลิตเอนไซม์ที่ทำลายไคตินของแมลง ซึ่งเป็นวัสดุที่สร้างโครงกระดูกภายนอกของพวกมัน

ข้อได้เปรียบที่สำคัญประการหนึ่งของ Butarex คือเป็นวิธีการทางธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการควบคุมสัตว์รบกวน แตกต่างจากยาฆ่าแมลงที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ Butarex มีความเสี่ยงน้อยที่สุดต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย และปลอดภัยที่จะใช้กับเด็กและสัตว์เลี้ยง

นอกจากประสิทธิภาพในการต่อต้านเพลี้ยแล้ว Butarex ยังแสดงฤทธิ์ในวงกว้างต่อศัตรูพืชอื่นๆ รวมถึงแมลงหวี่ขาว เพลี้ยไฟ และไร ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลายสำหรับการป้องกันพืช ผลิตภัณฑ์นี้ยังใช้งานง่ายด้วยการฉีดพ่นแบบธรรมดาที่สามารถทำได้โดยใช้เครื่องพ่นแบบมือถือหรือเครื่องพ่นแบบกลไก

เมื่อใช้ Butarex สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างระมัดระวังเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด ควรใช้ผลิตภัณฑ์นี้เมื่อเพลี้ยอ่อนถึงจุดสูงสุด โดยทั่วไปจะเป็นช่วงเดือนที่อบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงเวลาที่มีลมแรงหรือฝนตก เนื่องจากอาจทำให้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ลดลงได้

โดยสรุป บิวทาเร็กซ์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติสำหรับการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในต้นมะลิ ด้วยการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของเชื้อราตามธรรมชาติและกิจกรรมในวงกว้าง Butarex เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลายและปลอดภัยสำหรับการควบคุมศัตรูพืชที่สามารถช่วยเกษตรกรในการรักษาพืชผลที่แข็งแรงและให้ผลผลิตในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่ แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
การป้องกันกำจัด ไฟทอฟธอร่า ในแปลง มะพร้าว ด้วยสารอินทรีย์ ไอเอส
การป้องกันกำจัด ไฟทอฟธอร่า ในแปลง มะพร้าว ด้วยสารอินทรีย์ ไอเอส
ไฟทอฟธอร่า เป็นโรคพืชที่ทำลายล้างซึ่งเกิดจากเชื้อราที่สามารถสร้างความหายนะให้กับไร่มะพร้าว นำไปสู่การสูญเสียผลผลิตพืชอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มีวิธีป้องกันและกำจัดไฟทอฟธอร่าในไร่มะพร้าวที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ: การใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส

สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ทำงานโดยรบกวนสมดุลของไอออนบนใบพืช ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา หากต้องการใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ในการควบคุมไฟทอฟธอร่า ให้ผสมกับ FK-1 แล้วฉีดพ่นลงบนพืชที่ได้รับผลกระทบ

ไอเอส ไม่เพียงแต่กำจัดไฟทอฟธอราเท่านั้น แต่ FK-1 ยังช่วยเร่งการงอกใหม่ของพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตอีกด้วย FK-1 เป็นสารส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็น เช่น แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารเหล่านี้โดยพืช

การใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ร่วมกับ FK-1 ชาวสวนมะพร้าวสามารถป้องกันและกำจัดไฟทอปธอร่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็บำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชผล ดังนั้นหากคุณต้องการปกป้องทุ่งมะพร้าวของคุณจากไฟทอฟธอร่าและเพิ่มผลผลิตของคุณให้สูงสุด

สินค้าเลื่อนลงด้านล่างอีกนิดนะคะ
3518 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 351 หน้า, หน้าที่ 352 มี 8 รายการ
|-Page 153 of 352-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
โรงงานรับจ้างผลิตปุ๋ย OEM/ODM เป็นแบรนด์สินค้าของคุณ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเม็ด ไตรโคเดอร์มา บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม จุลินทรีย์ย่อยสลาย ยาปราบฯ สารปรับสภาพดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ปุ๋ยเคมี ทำได้ทุกชนิด
เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท
ปุ๋ยยาฯ จุลินทรีย์ต่างๆ ปุ๋ยน้ำต่างๆ ปุ๋ยน้ำอะมิโน ไตรโคฯ ประเภทน้ำ ประเภทผง บรรจุขวด บรรจุซอง ทุกชนิด ฯลฯ
เริ่มต้นเพียง 45,000 บาท
ปุ๋ยเม็ดทุกชนิด บรรจุกระสอบ 50 กิโลกรัม บิ๊กแบ็ค 1 ตันเพื่อส่งออก กระสอบ 25 กิโลกรัม ทำได้ทุกชนิด ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สารปรับสภาพดิน อะมิโนเม็ดสกัด ฮิวมิค ฯลฯ
โทร 090-592-8614
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ลองกอง การเพิ่มผลผลิตในฤดูและนอกฤดู
Update: 2564/06/05 12:06:02 - Views: 3727
เพิ่มผลผลิตถั่วลิสง ด้วย ฟาร์มิค ฮิวมิคประสิทธิภาพสูง
Update: 2567/03/12 13:21:02 - Views: 3415
เมนูยอดนิยม เฉาก๊วยนมสด ทำเองก็ได้ ขายก็รวย
Update: 2565/11/15 11:50:18 - Views: 3467
การจัดการโรคเชื้อราในมะเขือเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
Update: 2566/05/04 10:47:26 - Views: 3401
มังคุด ใบไหม้ ใบจุด กำจัดโรคมังคุด จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/21 09:48:28 - Views: 3408
ฮิวมิค แอซิด: เทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ของการเพิ่มผลผลิตพืช สำหรับต้นผักคะน้า
Update: 2567/02/13 09:45:33 - Views: 3373
การปรับปรุงดินลูกรัง ให้ปลูกพืชได้ดีขึ้น
Update: 2565/08/23 18:03:34 - Views: 3494
กำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืชในต้นทุเรียน ด้วย มาคา สารอัลคาลอยด์สกัดจากธรรมชาติ โดย FK ใช้ได้กับพืชทุกชนิด
Update: 2566/05/27 10:05:37 - Views: 3401
โรคข้าว: โรคใบจุดสีน้ำตาล (Brown Spot Disease)
Update: 2564/01/28 10:57:12 - Views: 3540
ใบบัวบก ใบไหม้ โคนเน่า กำจัดโรคใบบัวบก จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/11 10:33:48 - Views: 3364
การป้องกันกำจัด เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยต้นทุเรียน
Update: 2566/05/06 08:15:02 - Views: 6824
โรคมะระ โรคราน้ำค้างในมะระ
Update: 2564/04/25 07:59:05 - Views: 3566
กำจัด โรคราดำ ในต้นทุเรียน แก้ปัญหาโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ไอเอส สารอินทรีย์คุณภาพสูง จาก FK ขนาด 250 ซีซี
Update: 2566/05/23 10:56:29 - Views: 3395
ปุ๋ยสำหรับนาข้าว ปุ๋ยเร่งโตแตกกอ ปุ๋ยรับรวงข้าว ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตข้าว ตรา FK
Update: 2564/09/19 02:30:45 - Views: 3478
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยจักจั่น ในดอกกุหลาบ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/11 13:25:43 - Views: 3418
คู่มือป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆในดาวเรือง ดาวเรืองใบไหม้ ดอกไหม้ ดอกเป็นจุด ราแป้ง ฯลฯ
Update: 2566/05/01 10:27:34 - Views: 8970
กุหลาบ โตไว ดอกสวย สมบูรณ์ แข็งแรง ใช้ FK ธรรมชาตินิยม 1ขวด ผสมน้ำได้ 100ลิตร
Update: 2564/08/29 05:06:43 - Views: 3405
ปุ๋ยสำหรับข้าว และ ยาฯสำหรับข้าว ปุ๋ยเร่งโต แตกกอ ปุ๋ยรับรวง เพิ่มผลผลิต
Update: 2564/10/25 22:17:53 - Views: 3401
มะม่วงเจริญเติบโตได้ดี และให้ผลผลิตสูง ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ซิงค์ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
Update: 2566/11/10 07:07:37 - Views: 8403
วันนี้ที่ฟาร์มเกษตร เปลี่ยนน้ำปลาคาร์ฟ พบลูกปลาคาร์ฟ ที่เกิดเองจำนวนมาก
Update: 2567/06/08 08:01:46 - Views: 8842
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022