[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3576 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 6 รายการ

 
เจาะเทคนิคปลูก “มันเทศ” เชิงพาณิชย์ ทำยังไงให้ผลผลิตสูง ราคาดี
การปลูกมันเทศให้ลงหัวได้ดีนั้น ปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ เรื่องของโครงสร้างของดิน ถึงแม้ว่ามันเทศจะสามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด แต่ดินร่วนปนทรายมีความเหมาะสมที่สุด
สภาพดินที่ปลูกมีผลต่อการลงหัวของมัน หรือรูปทรงของหัวมันในสภาพดินปลูกที่มีโครงสร้างของดินแข็ง ดินแน่น และมีการระบายน้ำไม่ดี ควรจะมีการปรับปรุงแก้ไขก่อนที่จะลงมือปลูก สำหรับพื้นที่ดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ก่อนปลูกควรใส่ปุ๋ยคอก เช่น มูลวัว มูลไก่ ฯลฯ ในอัตรา 1-2 ตัน หรือใส่ปุ๋ยคอกพร้อมกับการเตรียมแปลงเลย

วิธีการเตรียมแปลงปลูก
ให้ไถดะก่อน 1 ครั้ง และตากดินไว้ประมาณ 7-10 วัน จากนั้นไถพรวนแปลง 1-2 รอบ หรือใช้โรตารี่ติดรถไถตีดินให้ดินมีความละเอียดยิ่งขึ้น หลังจากนั้นให้ยกร่องแปลงปลูกขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยม กว้างประมาณ 50-80 เซนติเมตร สูง 30-50 เซนติเมตร (ความสูงของแปลงยิ่งมีความสูงยิ่งส่งผลต่อการลงหัวมันดี) ส่วนความยาวของแปลงปลูกขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ อย่างสวนคุณลีนั้นจะปลูกแบ่งเป็นแปลงเล็กขนาด 100-400 ตารางเมตร เนื่องจากต้องการปลูกมันเทศหลากหลายสายพันธุ์ให้ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง มีช่วงเวลาขายอย่างน้อย 7-15 วัน จนหมด ก่อนที่มันเทศแปลงต่อๆ ไปจะสามารถขุดขึ้นมาขายต่อ เนื่องจากตอนนี้สวนคุณลี เน้นการขายมันเทศผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ราคา กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งตรงกับคำพูดที่ว่า “ทำน้อยได้มาก ทำมากได้น้อย” เนื่องจากมีเวลาในการเอาใจใส่ดูแลอย่างทั่วถึง ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดีนั่นเอง
การจัดระบบน้ำในแปลงปลูกมันเทศ
โดยปกติทั่วไปสำหรับเกษตรกรที่ปลูกมันเทศทั่วประเทศมักจะไม่ให้ความสำคัญในเรื่องของระบบน้ำในแปลงปลูก ถ้าปลูกในช่วงฤดูฝนอาจจะพึ่งเพียงน้ำฝนจากธรรมชาติเท่านั้น ถ้าปลูกในฤดูแล้งอาจจะมีการให้น้ำแบบท่วมแปลงบ้างเท่านั้น แต่การปลูกมันเทศสมัยใหม่ควรจะมีการจัดระบบน้ำที่ดี ในแปลงปลูกมันเทศสายพันธุ์ต่างประเทศของสวนคุณลี จะมีการวางระบบน้ำแบบสปริงเกลอร์ ซึ่งมีรัศมีกระจายน้ำได้ 3-5 เมตร

เตรียมท่อนพันธุ์มันเทศอย่างไร
ในการตัดท่อนพันธุ์ ควรจะตัดให้มีความยาวราว 30 เซนติเมตร จะไม่ลิดใบทิ้งหรือลิดทิ้งก็ได้ เนื่องจากยอดมันเป็นพืชที่แตกยอดออกมาใหม่ได้ง่าย ถ้าลิดใบทิ้งก็จะทำให้เสียเวลา แต่ยอดมันเทศเมื่อลงปลูกจะตั้งตัวได้เร็วกว่าไม่ลิดใบ เมื่อตัดท่อนพันธุ์มาแล้วควรจะมัดรวมกันเป็นท่อนหรือเป็นกำ เอาใบตองหรือกระสอบปุ๋ยห่อมัดเอาไว้ ควรนำท่อนพันธุ์แช่น้ำยาฆ่าแมลง ในกลุ่ม “คาร์โบซัลแฟน” (เช่น โกลไฟท์) จุ่มแช่ไว้นานราว 5-10 นาที จะช่วยลดเรื่องแมลงที่จะติดไปกับท่อนพันธุ์ได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้น ให้นำมัดท่อนพันธุ์วางไว้ในที่ร่ม รดน้ำ เช้า-เย็น ประมาณ 2-3 วัน ยอดท่อนพันธุ์ก็จะมีรากงอกออกมาตามข้อ แสดงว่าท่อนพันธุ์พร้อมปลูกลงแปลงแล้ว ถ้าจะให้ดี ท่อนพันธุ์มันเทศที่จะตัด ควรจะตัดจากต้นที่มีอายุไม่เกิน 45 วัน หรือก่อนที่จะมีการฉีดพ่นปุ๋ยหรือสารเคมีเพื่อหยุดยอด ในพื้นที่ปลูกมันเทศสายพันธุ์ต่างประเทศ 1 ไร่ จะใช้ท่อนมันเทศประมาณ 8_000-16_000 ยอด (ขึ้นอยู่กับระยะปลูก)

การปลูกมันเทศสายพันธุ์ต่างประเทศ
ก่อนที่เกษตรกรจะลงมือปลูก ควรจะมีการให้น้ำในแปลงปลูกอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้ดินมีความชื้นและปลูกได้ง่ายและรวดเร็ว วิธีเตรียมหลุมปลูก แบ่งได้ 3 วิธี คือ ปลูกแบบใช้จอบขุด ปลูกแบบใช้ไม้ปลายแหลมกระทุ้งนำไปก่อน หรือจะปลูกแบบนำท่อนพันธุ์เสียบลงแปลงปลูกเลย พบว่า วิธีปลูกแบบใช้ไม้ปลายแหลมกระทุ้งนำไปก่อนได้ผลดีกว่าวิธีอื่นๆ เพราะทำได้ง่าย รวดเร็ว ไม่เสียแรงในการขุดดิน และท่อนพันธุ์ไม่ช้ำ

ระยะปลูกระหว่างต้น ประมาณ 20-30 เซนติเมตร หากใช้จอบขุดปลูกบนสันร่อง หลุมที่ปลูกควรมีความลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร ควรจะวางยอดท่อนพันธุ์ทำมุม 45 องศา ฝังลึกลงดิน 2-3 ข้อ ของท่อนพันธุ์มันเทศ และให้ข้อโผล่พ้นดินขึ้นมา ประมาณ 2-3 ข้อ หลังจากนั้น กลบดินให้แน่นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ท่อนพันธุ์โยกคลอน หากปลูกแบบใช้ไม้ปลายแหลมกระทุ้งนำ จะปลูกท่อนพันธุ์มันเทศให้เป็นคู่บนสันร่องโดยใช้ไม้แหลมกระทุ้งนำไปก่อน ทำมุม 45 องศา จากนั้นเสียบท่อนพันธุ์ลงดิน 2-3 ข้อ ของท่อนมันเทศ ในพื้นที่ปลูกมันเทศสายพันธุ์ต่างประเทศ 1 ไร่ จะใช้ท่อนพันธุ์มันเทศ ประมาณ 11_000-12_000 ยอด ซึ่งพบว่าเป็นจำนวนที่ให้ผลผลิตต่อไร่ค่อนข้างดี

การให้น้ำมันเทศ…ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากที่ปลูกท่อนมันเทศลงดินไปแล้ว จะต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ 3 วันแรก จะต้องให้ทุกวัน เช้า-เย็น ให้ครั้งละประมาณ 1-2 ชั่วโมง (กรณีที่ให้ระบบน้ำแบบสปริงเกลอร์) หลังจากนั้น จะให้น้ำวันเว้นวัน หรือ 3 วัน หรือ 5 วัน หรือ 7 วัน ต่อครั้ง

แต่การให้น้ำนั้นต้องสังเกตจากความชื้นของดินเป็นหลัก เนื่องจากสภาพพื้นที่ปลูกในแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน หลังจากมันเทศอายุได้ 2 เดือน ก็จะเริ่มห่างน้ำ เป็นการบังคับทางหนึ่งที่ให้ต้นมันเทศลงหัวได้ดี อาจจะให้เดือนละ 2-4 ครั้ง ตามความเหมาะสมกับสภาพดินของแต่ละพื้นที่ และควรฉีดปุ๋ยทางใบควบคู่กันไป เช่น สูตร 0-52-34 ทุกๆ 10-15 วัน เพื่อให้การลงหัวดีมากขึ้น

อายุการเก็บเกี่ยวมันเทศ ความจริงแล้ว อายุการเก็บเกี่ยวมันเทศเกือบทุกสายพันธุ์ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 100-140 วัน หลังจากปลูกท่อนพันธุ์ลงไป ในขณะเดียวกันมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เช่น ฤดูกาลปลูก ความสมบูรณ์ของต้น สายพันธุ์ที่ปลูก เป็นต้น จากตัวเลขในการเก็บเกี่ยวผลผลิตมันเทศสายพันธุ์ต่างประเทศทุกสายพันธุ์ในแปลงปลูกของสวนคุณลี ถ้ามีการบำรุงรักษาที่ดี จะให้ผลผลิตได้เฉลี่ย 3_000-4_000 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่

วิธีการปลูกมันเทศในถุงพลาสติกและกระถางบริโภคในครัวเรือน สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย
เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า ในปัจจุบันนี้ การปลูกมันเทศในประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงพันธุ์ ได้มีการนำพันธุ์มันเทศจากต่างประเทศมาปลูกในเชิงพาณิชย์กันมากขึ้น อาทิ มันเทศเนื้อสีเหลือง เนื้อสีม่วงและเนื้อสีส้ม จากประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ เป็นต้น โดยแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีคุณค่าทางอาหารแตกต่างกัน จากข้อมูลพบว่า “มันเทศเนื้อสีส้ม” เป็นแหล่งของสารเบต้าแคโรทีน เมื่อรับประทานแล้วจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ จะช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคตาบอดกลางคืน ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง นอกจากนั้น ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย และใน “มันเทศเนื้อสีม่วง” จะมีสารแอนโทไซยานินสูง มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดอัตราเสื่อมของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน ชะลอความเสื่อมของดวงตา ยับยั้งเชื้ออีโคไลซึ่งเป็นเชื้อที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษและท้องร่วง ที่สำคัญเป็นมันเทศที่มีรสชาติอร่อย

อย่างกรณีของ มันเหลืองญี่ปุ่น ปัจจุบันมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศและนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคคนไทยในราคาไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 100 บาท ทาง “สวนคุณลี” อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ได้นำมันเทศสายพันธุ์จากต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นสายพันธุ์จากญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ประมาณ 10 สายพันธุ์ เข้ามาปลูกในเชิงการค้าในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร จนประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ให้ผลผลิตและรสชาติหวานตรงตามสายพันธุ์ สามารถจำหน่ายได้ กิโลกรัมละ 80-100 บาท ออกจากสวน

นอกจากการปลูกมันเทศในแปลงที่มีการเตรียมดินและระบบน้ำที่ดี ได้มีการประยุกต์วิธีการปลูกในรูปแบบใหม่ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยปลูกเพื่อการบริโภคในครัวเรือน มีพื้นที่น้อย อยู่ในบ้านจัดสรรหรือปลูกเพื่อเป็นรายได้เสริม ด้วยการ “นำมาปลูกในพื้นที่จำกัด” เช่น ถุงพลาสติกดำ กระสอบปุ๋ยเก่า ตะกร้าพลาสติก ยางรถยนต์เก่า วงบ่อปูน ฯลฯ ใช้เวลาปลูกเพียง 3 เดือนครึ่ง ถึง 4 เดือนครึ่งเท่านั้น (ตามอายุเก็บเกี่ยวแต่ละสายพันธุ์) สามารถขุดหัวมาบริโภคหรือจำหน่ายได้

สำหรับวัสดุปลูกที่สำคัญคือ ดินร่วน แกลบดำ แกลบดิบ และปุ๋ยคอกเก่า (หรือประยุกต์ใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น) ในอัตราส่วน 1:1:1:1 ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำวัสดุปลูกใส่ในถุงให้เต็มและอัดให้แน่น นำถุงพลาสติกไปวางไว้บริเวณกลางแจ้ง รดน้ำให้ชุ่ม นำยอดมันเทศที่เตรียมไว้ (ตัดยอด ให้มีความยาว 30 เซนติเมตร) ใช้ไม้แหลมแทงดินในถุงให้เป็นรู ให้รูเฉียงประมาณ 45 องศา โดยประมาณ นำยอดปลูกลงไปให้มีความลึก ประมาณ 3-5 ข้อ โดยจำนวนยอดที่จะปลูกลงไป ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของภาชนะที่เลือกใช้ เช่น ถุงดำ ก็จะใช้ยอดพันธุ์มันเทศราวๆ 3-5 ยอด กดดินให้แน่นพอประมาณ ช่วง 7 วันแรก หลังจากที่ปักยอดมันเทศลงไป ควรจะรดน้ำเป็นประจำทุกเช้า (ระวังอย่าปล่อยให้ถุงแห้งขาดน้ำ) หลังจาก 7-10 วัน จะพบว่า ยอดมันที่ปักชำลงไปเริ่มแทงรากออกมาให้เว้นการให้น้ำให้ห่างขึ้นเป็นวันเว้นวัน และห่างเป็น 2-3 วัน ต่อครั้ง ตามความเหมาะสม เมื่อต้นมันเทศมีอายุต้นได้ 45 วัน และพบว่า ใบมันเทศไม่มีอาการเหี่ยวให้เห็น ก็ไม่จำเป็นจะต้องให้น้ำ เนื่องจากการให้น้ำบ่อยๆ จะทำให้ต้นมันเทศมีอาการบ้าใบและไม่ลงหัว การปลูกมันเทศในถุงพลาสติกและมีความต้องการให้มีการลงหัวและรสชาติที่ดี จำเป็นต้องมีการใส่ปุ๋ยเคมีบ้าง เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ในช่วงแรกใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 เพียง 1 ช้อนชา ทุกๆ 15 วัน และโดยเฉพาะเมื่อต้นมันเทศมีอายุครบ 2 เดือน เป็นช่วงของการลงหัว ควรจะใส่ปุ๋ยเคมีที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น สูตร 16-16-16 หรือ สูตร 13-13-21 ฯลฯ เพื่อให้หัวมันเทศใหญ่ มีรสชาติหวานตามสายพันธุ์ ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตมันเทศ อายุต้นจะต้องเฉลี่ยอยู่ในระหว่าง 100-140 วัน โดยอาจจะสุ่มขุดดูว่าหัวมันเทศมีขนาดที่เราต้องการนำมาบริโภคได้หรือยัง

# http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3576
โรคราน้ำค้าง : DOWNY MILDEW DISEASE
โรคราน้ำค้าง : DOWNY MILDEW DISEASE
เชื้อสาเหตุ : รา Peronospora parasitica (Pers. Ex.Fr.) Fr. ชีววิทยาของเชื้อ : ราสร้างเส้นใยแบบไม่มีผนังกั้นตามขวาง ก้านชูสปอร์ยาวตรง แตกกิ่งก้านเป็น มุมแหลมคล้ายต้นไม้ ปลายสุดของกิ่งก้านมีลักษณะบางเรียวเล็ก สปอร์เป็นรูปไข่ หรือกลมใส ไม่มีสี ติดอยู่ตรง ปลายสุดของก้านชูสปอร์ สปอร์งอกเป็นเส้นใย

ลักษณะอาการ : โรคสามารถแสดงอาการได้ทุกระยะการเจริญของพืช ในระยะกล้า ใบเลี้ยงเกิดเป็น จุดช้ำสีน้ำตาลหรือดำ ลำต้นเน่า ยุบตัว ทำให้พืชตายหรือแคระแกร็น ไม่เจริญเติบโต ในระยะต้นโตอาการระยะ แรกมักเกิดจุดสีเหลืองเป็นหย่อมๆ หรือเป็นปื้นเหลืองด้านหน้าใบ มีเส้นใยสีขาวหรือเทาคล้ายปุยฝ้ายด้าน หลังใบ แต่ในสภาพอากาศแห้งมักจะพบแต่อาการเหลืองซีดเท่านั้น เมื่อเกิดการระบาดรุนแรง แผลขยาย ขนาดใหญ่มากขึ้น เนื้อใบกลายเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล และแห้งตาย ในกะหล่ำดอกและบร๊อคโคลี่ ถ้าเชื้อ เข้าทำลายในระยะสร้างดอก จะเกิดเป็นจุดดำเล็กๆ บนช่อดอก หากอาการรุนแรงดอกอาจยืดหรือบิดเบี้ยวเสีย รูปทรง ในกะหล่ำปลีเกิดแผลเป็นจุดเล็กๆ บนใบ ไม่ค่อยขยายขนาด

การแพร่ระบาด : ราแพร่กระจายไปกับลม น้ำฝนหรือน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก อาการของโรคพบได้ทั่วไป สภาวะอุณหภูมิต่ำและความชื้นสูง หมอกหรือน้ำค้างลงจัด เป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการเกิดโรคและการระบาด เชื้อราอยู่ข้ามฤดูปลูกโดยสร้างสปอร์ผนังหนา ซึ่งติดอยู่ตามเศษซากพืช วัชพืชหรืออาศัยกับต้นที่งอกเองนอกฤดู และสามารถติดไปกับเมล็ดพันธุ์ได้

การป้องกันกำจัด :

1. ใช้เมล็ดพันธุ์ปราศจากเชื้อ หรือแช่เมล็ดในน้ำอุ่นอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นาน 20-30 นาที ก่อนปลูก หรือคลุกเมล็ดด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เมทาแลกซิล หรือ เมทาแลกซิล+แมนโคเซบ

2. ควรปลูกพืชให้มีระยะห่างพอสมควร ไม่เบียดแน่นจนเกินไป

3. หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต ควรเก็บทำลายเศษซากพืชออกจากบริเวณแปลงปลูก

4. ควรหลีกเลี่ยงการปลูกซ้ำในแปลงที่เคยมีการระบาด และควรปลูกพืชหมุนเวียน

5. เมื่อพบอาการของโรคในแปลง ควรฉีดพ่นด้วยสารป้องกันกำจัด

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..

สินค้าจากเรา

ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกัน กำจัดโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ราแป้ง ราน้ำค้าง โรคใบไหม้ ใบจุด

FK-1 ฟื้นฟู บำรุง ส่งเสริมการแตกยอด แตกใบใหม่ ส่งเสริมผลผลิต

รายละเอียดด้านล่างนะคะ
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคแอนแทรคโนส ใน พุทรา ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคแอนแทรคโนส ใน พุทรา ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคแอนแทรคโนส ใน พุทรา ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
เชื้อราไตรโคเดอร์มาเป็นสกุลของเชื้อราที่พบได้ทั่วไปในดิน และพบว่ามีศักยภาพในการเป็นสารควบคุมทางชีวภาพต่อเชื้อโรคพืช รวมทั้งเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคแอนแทรกโนสในพุทรา เชื้อราไตรโคเดอร์มาสายพันธุ์เฉพาะที่เรียกว่า Trichorex เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีการศึกษาอย่างกว้างขวางที่สุดเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกันและกำจัดโรคแอนแทรกโนสในพุทรา

โรคแอนแทรคโนสเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราที่ส่งผลต่อใบ ผล และกิ่งของต้นพุทรา มีสาเหตุมาจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides และอาจนำไปสู่การสูญเสียผลผลิตอย่างมากหากไม่มีการควบคุม

พบว่า Trichorex มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคแอนแทรกโนสในพุทราได้หลายวิธี อย่างแรกคือผลิตเอนไซม์ที่ทำลายผนังเซลล์ของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคและฆ่ามัน ประการที่สองมันสามารถตั้งรกรากไรโซสเฟียร์ของต้นพุทราและแย่งพื้นที่และสารอาหารจากเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคได้ ประการที่สามสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืชทำให้ต้านทานต่อการติดเชื้อได้ดีขึ้น

วิธีหนึ่งในการใช้ Trichorex เป็นสารควบคุมทางชีวภาพคือผสมกับดินที่โคนต้นพุทรา อีกวิธีหนึ่งคือใช้เป็นยารักษาเมล็ดก่อนปลูก เมื่อใช้วิธีนี้ Trichorex สามารถตั้งอาณานิคมที่รากของต้นพุทรา ช่วยป้องกันการติดเชื้อ

เชื้อราไตรโคเดอร์มาได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมทางชีวภาพในการศึกษาและวิจัยมากมาย Trichorex ซึ่งเป็นเชื้อรา Trichoderma สายพันธุ์เฉพาะ ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นสารชีวภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีผลเสียต่อการเจริญเติบโตหรือผลผลิตของต้นพุทรา

โดยสรุป Trichorex ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะของเชื้อรา Trichoderma เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่มีแนวโน้มในการป้องกันและกำจัดโรคแอนแทรกโนสในพุทรา สามารถใช้เป็นดินรดหรือบำบัดเมล็ดพันธุ์ได้ และปลอดภัยในการใช้และมีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคที่ก่อให้เกิดโรคแอนแทรคโนส

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่า

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..
ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟคพี) ตรานกอินทรีคู่ สำหรับ เร่งผล เร่งน้ำหนัก เพิ่มความหวาน พืชออกผลทุกชนิด รวมถึงอ้อย และมันสำปะหลัง
ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟคพี) ตรานกอินทรีคู่ สำหรับ เร่งผล เร่งน้ำหนัก เพิ่มความหวาน พืชออกผลทุกชนิด รวมถึงอ้อย และมันสำปะหลัง
ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟคพี) ตรานกอินทรีคู่ สำหรับ เร่งผล เร่งน้ำหนัก เพิ่มความหวาน พืชออกผลทุกชนิด รวมถึงอ้อย และมันสำปะหลัง
การทำเกษตร คุณต้องการเพิ่มผลผลิตและผลกำไรให้ได้สูงสุดเสมอ วิธีหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายนี้คือการใช้ปุ๋ยให้ถูกประเภทเพื่อบำรุงพืชผลและเพิ่มผลผลิต

ปุ๋ยยี่ห้อหนึ่งที่โดดเด่นในตลาดคือ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟคพี) ตรานกอินทรีคู่ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ธาตุอาหารหลักที่จำเป็นและกรดอะมิโนมากกว่า 18 ชนิด เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของพืชผลไม้ทุกประเภท รวมทั้งอ้อยและมันสำปะหลัง

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟคพี) ตรานกอินทรีคู่ คือความสามารถในการเร่งผลผลิตและเพิ่มขนาดและน้ำหนักของพืชผลของคุณ ด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของพืช ปุ๋ยนี้ช่วยเพิ่มขนาดของผลไม้และป้องกันการร่วงหล่นและการแตกของผลไม้

นอกจากประโยชน์ทางกายภาพเหล่านี้แล้ว ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟคพี) ตรานกอินทรีคู่ ยังช่วยเพิ่มรสชาติและรูปลักษณ์ของพืชผลของคุณอีกด้วย สารอินทรีย์ที่เพิ่มเข้ามาช่วยปรับปรุงรสชาติและความหวานของผลไม้ ในขณะที่กรดอะมิโนที่เพิ่มเข้ามาช่วยส่งเสริมการขนส่งแป้งและน้ำตาล ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพโดยรวมของผลิตผล

ประโยชน์อีกประการหนึ่งของ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟคพี) ตรานกอินทรีคู่ คือความสามารถในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่ดี ธาตุอาหารหลักและกรดอะมิโนที่เพิ่มเข้ามาช่วยเสริมสร้างใบและลำต้นของพืชผล ทำให้มีสีเขียวเข้มและส่งเสริมการเจริญเติบโตใหม่

โดยรวมแล้ว ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 5-3-14 (เพอร์เฟค พี) เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุดที่ช่วยให้คุณได้ผลผลิตและผลกำไรจากพืชผลที่มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรรายย่อยหรือเกษตรกรรายใหญ่ในเชิงพาณิชย์ ปุ๋ยนี้จะให้สารอาหารและสนับสนุนพืชผลของคุณเพื่อให้เจริญเติบโตได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชผล

ทำความเข้าใจกับ การปลดปล่อยธาตุอาหาร ของปุ๋ยสามชนิด

เส้นสีแดง เป็นประสิทธิภาพการปล่อยธาตุอาหารของปุ๋ยเคมี
เส้นสีเขียว เป็นประสิทธิภาพการปล่อยธาตุอาหารของ ปุ๋ยตรานกอินทรีคู่
เส้นสีน้ำเงิน เป็นประสิทธิภาพการปล่อยธาตุอาหารของปุ๋ยอินทรีย์ทั่วไป

ให้เราลองพิจารณาเส้นสีแดง ของปุ๋ยเคมี จะเห็นได้ว่าเมื่อท่านได้ทำการใส่ปุ๋ยเคมีลงในพืช จะเห็นผลได้ชัด ภายในช่วง 3 ถึง 11 วัน จากนั้น พืชผักที่ได้รับปุ๋ยเคมี ก็จะได้รับธาตุอาหารน้อยลง ตามกราฟ ความเขียวจะลดลง หรือกลับสู่สภาพเดิม หลังจากสองสัปดาห์และต่อๆไป และสังเกตุว่า ปีต่อๆไป ต้องใส่ปุ๋ยเคมี ในปริมาณมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

มาดูในส่วนของกราฟเส้นสีเขียว ของปุ๋ยตรานกอินทรีคู่ จากกราฟ แสดงให้เราเห็นว่า หลังจากใส่ปุ๋ย จะเห็นผลช้ากว่าปุ๋ยเคมี คือเริ่มเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 7 วันหลังจากใส่ แต่ช่วงที่ต้นไม้ ได้รับธาตุอาหารจะนานกว่า ไปจนถึงประมาณ สามถึงสี่สัปดาห์ ธาตุอาหารจึงค่อยลดลงไป แต่ลดลงไปไม่มากเท่าปุ๋ยเคมี

และสุดท้ายกราฟเส้นสีน้ำเงิน ของปุ๋ยอินทรีย์ เป็นที่แน่นอน และทราบกันอยู่ทั่วไปว่า ปุ๋ยอินทรีย์จะเห็นผลได้ช้า หลังจากใส่แต่จะทำให้ดินดีขึ้นตลอด และในปีถัดไป ดินก็จะมีธาตุอาหารเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ อย่าง ช้าๆ

สรุปได้ว่า ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16 3 3 บวก 10% อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส) เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตสูงสุดให้กับต้นมันสำปะหลังที่ปลูกในสภาพดินทราย สูตรสารอาหารที่สมดุลและการเติมอินทรียวัตถุสามารถช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินและความพร้อมของสารอาหาร ซึ่งนำไปสู่พืชที่มีสุขภาพดีและให้ผลผลิตมากขึ้น

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:3576
การป้องกันและควบคุมเพลี้ยในเสาวรส: วิธีการธรรมชาติและการใช้สารควบคุมแมลงที่ปลอดภัย
การป้องกันและควบคุมเพลี้ยในเสาวรส: วิธีการธรรมชาติและการใช้สารควบคุมแมลงที่ปลอดภัย
การที่เพลี้ยเข้าทำลายในต้นเสาวรสสามารถเป็นปัญหาที่น่ารำคาญสำหรับสวนผักหรือสวนดอกไม้ของคุณได้ ดังนั้น นอกจากการใช้สารเคมีควบคุมแมลง คุณยังสามารถลองใช้วิธีการธรรมชาติหลายวิธีเพื่อป้องกันและควบคุมเพลี้ยในเสาวรสได้ดังนี้:

การใช้สารสกัดจากพืช:

สารสกัดจากพืชเช่น น้ำสะเดา สะตอ หรือกรดบอริก เป็นต้น สามารถใช้เป็นสารควบคุมเพลี้ยได้ โดยผสมน้ำและฉีดพ่นที่ต้นเสาวรส.

ใช้แตนเจนที่มีประโยชน์:

การใช้แตนเจนที่มีประโยชน์เช่น แตนเจนที่มีเชื้อจุลินทรีย์ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชสามารถต้านทานการทำลายจากแมลงได้ดีขึ้น.


การผสมน้ำและแอลกอฮอล์ (หรือแอซีติกแอลกอฮอล์) แล้วฉีดพ่นที่ต้นเสาวรส สามารถช่วยกำจัดเพลี้ยได้ โปรดทราบว่าการใช้แอลกอฮอล์อาจทำให้พืชแห้งได้ ดังนั้นควรทดลองกับพืชบางประการก่อน.

การใช้แสงสว่างสีเขียว:

การใช้ไฟ LED สีเขียวในยามค่ำคืนอาจช่วยลดจำนวนเพลี้ย เนื่องจากแมลงมักไม่ชอบแสงสีเขียว.
หากปัญหายังคงมีอยู่หลังจากใช้วิธีการธรรมชาตินี้ คุณอาจต้องพิจารณาใช้สารเคมีที่ปลอดภัยตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหรือทีมงานด้านการจัดการแมลงของพืช.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในเสาวรส
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3575
โรคใบด่างข้าวโพด
โรคใบด่างข้าวโพด
โรคใบด่างในข้าวโพด เกิดจากเชื้อไวรัส Maize dwarf mosaic virus วงศ์ Potyviridae เป็น subgroup ของเชื้อ sugarcane mosaic virus (SCMV-MDB)

การแพร่ระบาด อาศัยเพลี้ยอ่อนข้าวโพดเป็นพาหะ (Corn leaf aphid : Rhopalosiphum maidis Fitch) ปริมาณการแพร่ระบาดของเพลี้ยอ่อนข้าวโพดมีผลต่อการแพร่ระบาดของโรค นอกจากนี้ยังแพร่ระบาดโดยการสัมผัส การติดไปกับเครื่องมือทางการเกษตร และสามารถถ่ายทอดไปกับเมล็ดพันธุ์

ที่มา http://www.farmkaset..link..

โรคใบด่างข้าวโพด ยังไม่มียารักษาโดยตรง ทำได้โดยการป้องกันกำจัด แมลงพาหะของโรค เช่น เพลี้ยอ่อนข้าวโพด และเพลี้ยต่างๆ ฉีดพ่น มาคา เพลี้ยป้องกันกำจัดแมลงพาหะ และ FK-1 เพื่อ ฟื้นฟู บำรุง สร้างภูมิต้านทานต่อโรคและแมลง ส่งเสริมการเจริญเติบโต
ใบกระท่อม ออกฤทธิ์กระตุ้นอะไร มีประโยชน์ และโทษอย่างไร ข้อมูลจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ใบกระท่อม ออกฤทธิ์กระตุ้นอะไร มีประโยชน์ และโทษอย่างไร ข้อมูลจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
กระท่อมมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เข็มและกาแฟ (Rubiaceae) เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 4-16 เมตร เติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น ความชื้นสูง ดินอุดมสมบูรณ์ และมีแสงแดดปานกลาง กระท่อมจัดเป็นพืชที่มีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศไทยและมาเลเซีย สามารถพบได้ในเขตร้อนและกึ่งร้อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปแอฟริกา สมัยโบราณมีการใช้ใบกระท่อมเพื่อรักษาการติดเชื้อในลำไส้ บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดไข้ บรรเทาอาการไอและท้องร่วง โดยใช้ใบสดหรือใบแห้งนำมาเคี้ยว สูบ หรือชงเป็นน้ำชา นอกจากนี้ยังมีการใช้กระท่อมในกลุ่มของผู้ใช้แรงงานเพื่อกดความรู้สึกเมื่อยล้า ทนต่อการทำงานกลางแจ้ง ทนร้อน ทนแดด และสามารถทำงานได้ยาวนานมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้เพื่อลดอาการขาดยาจากสิ่งเสพติดอื่น เช่น ฝิ่นและมอร์ฟีน เป็นต้น เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อยกว่ามอร์ฟีนเมื่อใช้ในระยะเวลาที่จำกัด การใช้แทนแอมเฟตามีน (ยาบ้า) เพื่อเพิ่มพละกำลัง ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีการใช้กระท่อมในหลายประเทศทั่วโลกเกินกว่าขอบเขตทางภูมิศาสตร์ที่พบพืชชนิดนี้

ในประเทศไทย ใบกระท่อมมีการแพร่ระบาดในหมู่วัยรุ่นและนักเรียน โดยนำน้ำใบกระท่อมไปผสมกับยาแก้ไอ น้ำอัดลม ยาคลายกล้ามเนื้อ กาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ เพื่อแต่งรส ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ 4 คูณ 100 เพื่อให้รู้สึกสนุกสนาน มึนเมา ขาดสติ และหากได้รับในปริมาณที่สูงมาก จะทำให้เกิดภาวะกดประสาทและกดการหายใจจากฤทธิ์ไม่พึงประสงค์ของยาและภาวะเสริมฤทธิ์ของยาหลายชนิดร่วมกัน ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ การใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดอาการติดได้ อาการถอนยาที่พบได้ เช่น จิตหวาดระแวง อารมณ์รุนแรง ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก มีอาการกระตุกของแขน ขา ไม่อยากอาหาร ไม่มีสมาธิ และนอนไม่หลับ การใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะทำให้มีสีผิวคล้ำขึ้น (hyperpigmentation) กระเพาะกาง (distended stomach) ผิวแห้ง และริมฝีปากคล้ำ เป็นต้น อย่างไรก็ตามยังต้องมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ว่าสารอะไรที่ทำให้เกิดพิษและขนาดของความเข้มข้นที่ทำให้เกิดพิษ

การใช้กระท่อมในขนาดต่ำจะออกฤทธิ์กระตุ้น ลดอาการเมื่อยล้า สามารถทำงานได้นานขึ้น แต่ถ้าใช้ในขนาดที่สูงจะมีฤทธิ์กล่อมประสาทและเสพติด สารที่พบในกระท่อมมากที่สุดเป็นสารกลุ่ม alkaloids และสารกลุ่มอื่นๆ ที่พบรองลงมา เช่น flavonoids terpenoid และ saponins เป็นต้น ใบกระท่อมมีปริมาณ total alkaloids ประมาณ 0.5 – 1.5% โดยพบ mitragynine ซึ่งเป็นสารกลุ่ม indole alkaloids และเป็นสารหลักในการออกฤทธิ์บรรเทาอาการปวด โดยกระตุ้นผ่าน opioid receptors พบสาร mitragynine มากถึง 66% ของสารสกัดใบกระท่อมจากประเทศไทย แต่พบเพียง 12% จากสารสกัดใบกระท่อมจากประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังพบอนุพันธ์อื่นๆ เช่น speciogynine_ paynantheine และ speciociliatine เป็นต้น แต่พบในปริมาณน้อยกว่า 1% ของสารแต่ละชนิด mitrgynine ยังออกฤทธิ์ต้านอักเสบโดยกดการหลั่งสาร prostaglandin E2 (PGE-2) ในวิถี cyclooxygenase 2 (COX-2) อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า 7-hydroxymitragynine ซึ่งพบแค่ 2% จากใบกระท่อม มีฤทธิ์ยับยั้งการตอบสนองต่อความเจ็บปวด (antinoceptive) ในหนู mice ได้ดีกว่า morphine 13 เท่า และดีกว่า mitragynine 46 เท่า โดยออกฤทธิ์จำเพาะต่อ µ- และ κ-receptors นอกจากนี้กระท่อมยังมีผลต่อระบบประสาทและความจำ ผลต่อพฤติกรรม และสามารถทำให้เกิดอาการติดยาได้ อย่างไรก็ตามกลไกการออกฤทธิ์อื่นๆ ของสารจากกระท่อมยังต้องมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

การปลูกและซื้อขายกระท่อมเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในหลายประเทศ สำหรับประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 จัดกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เช่น กัญชา พืชกระท่อม โดยห้ามซื้อ ขาย นำเข้า ส่งออก หรือครอบครอง ซึ่งครอบคลุมถึงการห้ามปลูก ถ้าตรวจพบต้องตัดทิ้งและทำลาย โดยมีบทกำหนดโทษต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี หรือปรับสูงสุดหนึ่งล้านห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในประเทศมาเลเซียกระท่อมเป็นพืชที่ถูกกฎหมาย จนกระทั่งปี 2546 ได้จัดกระท่อมให้อยู่ในพระราชบัญญัติยาพิษ และแม้ว่าจะผิดกฎหมายแต่ยังมีการใช้อย่างแพร่หลายเพราะหาซื้อได้ง่าย ส่วนในประเทศออสเตรเลียและเมียนมาร์ กระท่อมถูกควบคุมภายใต้กฎหมายยาเสพติด กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เช่น เดนมาร์ก โปแลนด์ และสวีเดน ได้จัดให้กระท่อม และ/หรือ mitragynine และ 7-hydroxymitragynine เป็นยาควบคุม อย่างไรก็ตาม ในหลายประเทศมีการซื้อขายกระท่อมได้อย่างถูกกฎหมาย เช่น ในประเทศอินโดนีเซียมีการปลูกกระท่อมอย่างถูกกฎหมายและมีการส่งออกไปประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเยอรมัน ไม่ได้มีกฎหมายควบคุมการใช้กระท่อม มีเพียงแค่การเฝ้าระวัง ในประเทศอังกฤษมีการขายกระท่อมในหลายรูปแบบ เช่น ใบสด ใบแห้ง ผง และสารสกัดเรซิน เป็นต้น โดยผู้บริโภคสามารถซื้อได้ตามร้านกาแฟต่างๆ หรือทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์

กระท่อมมีการใช้มายาวนานตั้งแต่อดีตในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อบรรเทาหรือรักษาโรคต่างๆ และงานวิจัยก็ได้สนับสนุนฤทธิ์ด้านต่างๆ ของกระท่อม เช่น บรรเทาอาการปวด บวม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกระท่อมในการนำมาพัฒนาเป็นยาได้ อย่างไรก็ตามกระท่อมยังมีฤทธิ์ที่ทำให้เกิดการเสพติดและมีอาการไม่พึงประสงค์จากอาการขาดยาได้ ซึ่งมีรายงานปัญหาและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้กระท่อมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นควรมีการวิจัยเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ต่างๆ ผลข้างเคียงจากการใช้และความเป็นพิษ เพื่อนำมาพัฒนาใช้ในทางการแพทย์ ตลอดจนการออกกฎหมายควบคุมเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากกระท่อมได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุด

เอกสารอ้างอิง

1. Dargan PWood D. Novel psychoactive substances. Amsterdam: Elsevier/Academic Press; 2013.

2. Vicknasingam B_ Narayanan S_ Beng G_ Mansor S. The informal use of ketum (Mitragyna speciosa) for opioid withdrawal in the northern states of peninsular Malaysia and implications for drug substitution therapy. International Journal of Drug Policy. 2010;21(4):283-288.

3. Hassan Z_ Muzaimi M_ Navaratnam V_ Yusoff N_ Suhaimi F_ Vadivelu R et al. From Kratom to mitragynine and its derivatives: Physiological and behavioural effects related to use_ abuse_ and addiction. Neuroscience & Biobehavioral Reviews. 2013;37(2):138-151.

4. Digital Signature [Internet]. App-thca.krisdika.go.th. 2016 [cited 20 September 2016]. Available from: http://www.farmkaset..link..

5. EMCDDA | Kratom profile (chemistry_ effects_ other names_ origin_ mode of use_ other names_ medical use_ control status) [Internet]. Emcdda.europa.eu. 2016 [cited 20 September 2016]. Available from: http://www.farmkaset..link..

6. Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. — The Plant List [Internet]. Theplantlist.org. 2016 [cited 20 September 2016]. Available from: http://www.farmkaset..link..

จากเว็บไซต์

ข้อมูลจาก http://www.farmkaset..link..

ภาพจาก http://www.farmkaset..link..
โรคกุ้งแห้ง ไขปริศนาฝันร้ายเชื้อราในไร่พริก
โรคกุ้งแห้ง ไขปริศนาฝันร้ายเชื้อราในไร่พริก
โรคกุ้งแห้ง ซึ่งเป็นเชื้อราที่ทำลายพืชผลพริก ได้กลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับเกษตรกรทั่วโลก บทความนี้เจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลังโรคทำลายล้างนี้ สำรวจผลกระทบต่อการปลูกพริก และนำเสนอวิธีการป้องกันและกำจัดอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้วิธีการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมใหม่

หมวดที่ 1 แหล่งกำเนิดและการแพร่กระจายของโรคกุ้งแห้ง
ในหัวข้อนี้ เราจะกล่าวถึงการค้นพบโรคกุ้งแห้ง การระบาดครั้งแรก และปัจจัยที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในฟาร์มพริก เราตรวจสอบสายพันธุ์ของเชื้อราที่รับผิดชอบต่อโรคและวงจรชีวิตของมัน โดยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับกลไกที่เชื้อราแทรกซึมและแพร่ระบาดในต้นพริก

ส่วนที่ 2: การทำความเข้าใจผลกระทบต่อการผลิตพริก
ส่วนนี้เน้นผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเกษตรของโรคกุ้งแห้ง เราเจาะลึกถึงผลกระทบร้ายแรงต่อผลผลิต พืชผล คุณภาพ และผลกำไรโดยรวมสำหรับเกษตรกร ผ่านเรื่องราวในชีวิตจริงและกรณีศึกษา เราได้นำเสนอความท้าทายที่เกษตรกรผู้ปลูกพริกต้องเผชิญในการต่อสู้กับการติดเชื้อราที่ไม่หยุดยั้งนี้

ส่วนที่ 3: การแนะนำ IS สำหรับการป้องกันและกำจัด
IS (ชื่อย่อสำหรับวัตถุประสงค์ของบทความนี้) กลายเป็นแนวทางพลิกเกมในการต่อสู้กับโรคกุ้งแห้ง เราสำรวจประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์นี้ รูปแบบการทำงาน และอัตราการผสมที่แนะนำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ด้วยการสรุปวิธีการสมัครทีละขั้นตอน เราให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติแก่เกษตรกรเกี่ยวกับวิธีการใช้ IS อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่ 4: FK-1: การเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการเพื่อการต้านทานโรค
ในส่วนนี้ เราขอแนะนำ FK-1 ซึ่งเป็นส่วนผสมสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงพืชและเพิ่มการป้องกันตามธรรมชาติจากโรคเชื้อรา เราให้รายละเอียดองค์ประกอบของ FK-1 รวมถึงองค์ประกอบหลักและองค์ประกอบเสริม และอธิบายอัตราส่วนการผสมที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืชและการป้องกันโรคที่เหมาะสม นอกจากนี้ เราจะหารือเกี่ยวกับบทบาทของสารลดแรงตึงผิวในการปรับปรุงประสิทธิภาพและการดูดซึม

สรุป: การหว่านอนาคตที่ปราศจากโรค
เนื่องจากโรคกุ้งแห้งยังคงคุกคามต่อการปลูกพริก การนำมาตรการป้องกันและกำจัดที่มีประสิทธิภาพมาใช้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ด้วยการใช้โซลูชันอย่าง IS และ FK-1 เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลในเชิงรุกและรับประกันผลผลิตที่ยั่งยืน บทความนี้ทิ้งท้ายด้วยการเรียกร้องให้เกษตรกรผู้ปลูกพริกร่วมต่อสู้กับโรคกุ้งแห้งและปูทางสู่อนาคตที่ปราศจากโรค
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคมัมมี่ ในน้อยหน่า ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคมัมมี่ ในน้อยหน่า ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคมัมมี่ ในน้อยหน่า ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
เชื้อราไตรโคเดอร์มาคือเชื้อราชนิดหนึ่งที่มีการศึกษาอย่างกว้างขวางถึงความสามารถในการปกป้องพืชจากโรคต่างๆ เชื้อราไตรโคเดอร์มาสายพันธุ์หนึ่งที่เรียกว่า Trichorex ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในการป้องกันและกำจัดโรคแอนแทรกโนสในน้อยหน่า

โรคแอนแทรคโนสเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อไม้ผลหลากหลายชนิด รวมทั้งน้อยหน่า มีลักษณะเฉพาะคือมีรอยคล้ำยุบบนผลไม้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเน่าก่อนวัยอันควรและผลผลิตพืชลดลง

Trichorex ทำงานโดยการตั้งรกรากของต้นน้อยหน่าและผลิตสารประกอบหลายชนิดที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรค เช่น เชื้อราที่ทำให้เกิดโรคแอนแทรคโนส นอกจากนี้ยังกระตุ้นกลไกการป้องกันตามธรรมชาติของพืช ทำให้พืชต้านทานโรคได้ดีขึ้น

นอกจากคุณสมบัติในการต่อสู้กับโรคแล้ว Trichorex ยังมีประโยชน์เพิ่มเติมในการปรับปรุงการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิตของพืช สิ่งนี้ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปกป้องพืชผลและเพิ่มผลกำไรสูงสุด

โดยรวมแล้ว เชื้อราไตรโคเดอร์มา ตรา Trichorex เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงและยั่งยืนสำหรับการป้องกันและกำจัดโรคแอนแทรกโนสในน้อยหน่า ความสามารถในการปกป้องพืชจากโรคและส่งเสริมการเจริญเติบโตทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับเกษตรกรที่ต้องการรักษาสวนผลไม้ให้แข็งแรงและให้ผลผลิต

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่า

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ยอินทรีย์เคมี Perfect S สูตร 16-3-3 ตรานกอินทรีคู่: เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารในดินทราย
ปุ๋ยอินทรีย์เคมี Perfect S สูตร 16-3-3 ตรานกอินทรีคู่: เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารในดินทราย
ในฐานะชาวสวนหรือชาวนา การหาปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับต้นไม้ของคุณอาจเป็นงานที่น่ากังวล มีตัวเลือกมากมายให้เลือก แต่ละแบบอ้างว่าดีที่สุดสำหรับดินหรือพืชเฉพาะประเภท ในบทความนี้ เราจะพูดถึงปุ๋ยอินทรีย์เคมี Perfect S ของ ตรานกอินทรีคู่ ซึ่งเป็นสูตรที่ออกแบบมาสำหรับพืชที่ปลูกในสภาพดินทรายโดยเฉพาะ

Perfect S คืออะไรและทำงานอย่างไร?
Perfect S เป็นสูตร 16-3-3 ซึ่งหมายความว่ามีไนโตรเจน 16% ฟอสฟอรัส 3% และโพแทสเซียม 3% สารอาหารทั้งสามนี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และมักเรียกกันว่า สามธาตุหลัก ไนโตรเจนส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง ฟอสฟอรัสจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของรากและการสร้างดอกและผล โพแทสเซียมช่วยเรื่องสุขภาพโดยรวมของพืช รวมทั้งต้านทานโรคและการดูดซึมน้ำ

นอกจากสามสิ่งที่ยิ่งใหญ่แล้ว Perfect S สูตร 16-3-3 ยังมีอินทรียวัตถุ 10% อินทรียวัตถุประกอบด้วยวัสดุจากพืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อย และช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน เพิ่มความสามารถของดินในการอุ้มน้ำและสารอาหาร ทำให้พืชแข็งแรงขึ้น

ทำไม Perfect S สูตร 16-3-3 ถึงเหมาะกับดินทราย?
ดินทรายเป็นที่ทราบกันดีว่ากักเก็บน้ำได้ไม่ดีและความสามารถในการกักเก็บธาตุอาหาร สิ่งนี้อาจทำให้พืชเข้าถึงสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเจริญเติบโตได้ยาก เมื่อเติม Perfect S สูตร 16-3-3 ลงในดินทราย สารอาหารในสูตรจะค่อยๆ ปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆ เพื่อให้พืชเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเพิ่มอินทรียวัตถุใน เพอร์เฟค เอส ยังช่วยปรับโครงสร้างของดินให้อุ้มน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในดินทราย เนื่องจากดินมีแนวโน้มที่จะระบายน้ำได้เร็วและอาจเกิดความแห้งแล้งได้ง่าย

บทสรุป:
โดยสรุป ปุ๋ยอินทรีย์เคมี Perfect S ตรานกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับพืชที่ปลูกในสภาพดินทราย สูตร 16-3-3 ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และการเติมอินทรียวัตถุจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินและการกักเก็บน้ำ หากคุณต้องการให้พืชของคุณเติบโตในดินทราย ให้พิจารณาใช้ Perfect S เพื่อช่วยให้พืชเติบโตได้เต็มศักยภาพ

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:3575
3576 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 6 รายการ
|-Page 70 of 358-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
โรคราน้ำค้างข้าวโพด ข้าวโพดใบลาย โรคข้าวโพดจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส 
Update: 2562/09/03 11:53:43 - Views: 3666
ตั๊กแตนตำข้าว พลางตัวด้วยสีเหมือนกิ้งไม้ ใบหญ้าแห้ง ป้องกันตนจากภัยอันตราย
Update: 2563/05/26 10:24:16 - Views: 3865
ยารักษาโรคกะเพราใบจุด กะเพราใบไหม้ ใบแห้ง โรคต่างๆจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส
Update: 2564/10/10 00:48:22 - Views: 3572
หนอนกออ้อย 3 ชนิดที่พบมากในไทย ป้องกันกำจัดด้วย ไอกี้-บีที ฟื้นฟูด้วย FK-1
Update: 2564/01/30 10:21:58 - Views: 3482
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นมะพร้าวน้ำหอม
Update: 2566/05/06 10:31:36 - Views: 3574
การต่อสู้โรคใบไหม้ในทุเรียน
Update: 2566/05/17 10:02:54 - Views: 3444
แก้เพลี้ยมะละกอ เพลี้ยไฟ ไรแดง เพลี้ยอ่อน ใช้มาคา โรครามะละกอ ราแป้ง ใบด่าง ใบจุด แอนแทรคโนส ใช้ ไอเอส
Update: 2563/02/17 11:20:22 - Views: 3600
ยาแก้เพลี้ย ใน ผักกวางตุ้ง ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ กวางตุ้งดอกฮ่องกง ยากำจัดหนอน ยาแก้โรคใบไหม้ โรคราต่างๆ และ ปุ๋ย สำหรับ ผัก กวางตุ้ง
Update: 2563/06/25 08:51:38 - Views: 4899
โรคใบติดทุเรียน หรืออาการทุเรียนใบไหม้
Update: 2566/03/01 08:45:01 - Views: 3525
ยารักษาโรคพืช กำจัดโรคใบไหม้ ใน มะเขือเทศ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด(ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/05/31 10:29:32 - Views: 3464
ตรวจสอบได้อย่างไร? ผลิตภัณฑ์กัญชา ที่เป็น กัญชาถูกกฎหมาย
Update: 2565/11/17 14:41:25 - Views: 3457
5 สมุนไพรพื้นบ้าน สร้างภูมิป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
Update: 2564/08/12 00:20:39 - Views: 3619
โรคพืช
Update: 2564/03/10 12:22:48 - Views: 3892
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง ในมะนาว และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/01/28 14:44:45 - Views: 3814
การจัดการและป้องกันปัญหาหนอนในต้นอะโวคาโด้: วิธีการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ
Update: 2566/11/16 13:33:07 - Views: 3541
INVET ไดโนเตฟูราน ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้ง ศัตรูพืชสำหรับต้นมะละกอ และเร่งฟื้นฟู ด้วย ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5
Update: 2567/02/23 13:28:03 - Views: 3578
ปุ๋ยสำหรับฝรั่ง ปุ๋ยน้ำสำหรับฝรั่ง FK-1 โตไว ใบเขียว ระบบรากแข็งแรง ผลโต น้ำหนักดี
Update: 2564/09/11 04:37:14 - Views: 3511
สารออกฤทธิ์ ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค: เพื่อปรับปรุงดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช สำหรับต้นเสาวรส
Update: 2567/02/13 09:49:57 - Views: 3468
การป้องกันกำจัด โรคใบจุดสีน้ำตาล และ โรคใบขีดสีน้ำตาล ในนาข้าว ด้วยสารอินทรีย์
Update: 2566/01/07 12:47:25 - Views: 3531
ทุเรียนใบไหม้ ใบจุด แอนแทรคโนส โคนเน่า ราแป้ง ราสีชมพู โรคต่างๆจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2562/08/18 15:11:54 - Views: 5102
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022