[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3562 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 2 รายการ

ควบคุมวัชพืชในสวนทับทิมด้วยคาร์รอน (Diuron 80% WG): วิธีการและประสิทธิภาพที่สูง
ควบคุมวัชพืชในสวนทับทิมด้วยคาร์รอน (Diuron 80% WG): วิธีการและประสิทธิภาพที่สูง
ควบคุมวัชพืชในสวนทับทิมด้วยคาร์รอน (Diuron 80% WG): วิธีการและประสิทธิภาพที่สูง
สวนทับทิมเป็นที่นิยมมากในการผลิตผลไม้ที่มีความอร่อยและเป็นที่นิยมในตลาดโลก แต่พืชไม้ทำให้สวนทับทิมมีปัญหาในการควบคุมวัชพืชที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการผลิต ดังนั้นการควบคุมหญ้าและวัชพืชในสวนทับทิมเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของทับทิมได้มากที่สุด

คาร์รอน (Diuron 80% WG) คืออะไร?

คาร์รอน เป็นสารสกัดที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมวัชพืชที่สำคัญในสวนทับทิม โดยสารนี้มีประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืชทั้งใบแคบและใบกว้าง มีชื่อสามัญว่า Diuron ซึ่งมักจะมีในรูปแบบ WG (Water Dispersible Granules) ทำให้สามารถละลายน้ำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมวัชพืช

ข้อดีของการใช้คาร์รอน

ป้องกันการแย่งอาหาร: คาร์รอนทำให้วัชพืชไม่สามารถดูดซึมอาหารได้ถูกต้อง ทำให้พืชทับทิมได้รับอาหารมากขึ้น

ป้องกันการแย่งน้ำ: การใช้คาร์รอนช่วยลดการแย่งน้ำที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของทับทิม

ป้องกันการแย่งแสง: การควบคุมวัชพืชทำให้แสงส่องเข้าถึงพืชทับทิมได้มากขึ้น ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง

วิธีการใช้คาร์รอนในสวนทับทิม

การเตรียมพื้นที่: ก่อนการใช้คาร์รอน ควรเตรียมพื้นที่ให้พร้อม ลดหญ้าและวัชพืชที่อาจมีอยู่ในสวนทับทิม

การผสมรวม: ให้ผสมคาร์รอนในน้ำในอัตราที่แนะนำ โดยใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อให้สารละลายทั่วถึง

การพ่น: ใช้เครื่องพ่นที่เหมาะสม เพื่อการกระจายสารทั่วทั้งพื้นที่ของสวนทับทิม

ควบคุมการใช้: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามขั้นตอนการใช้งานที่ถูกต้อง

คำแนะนำในการใช้คาร์รอน

การใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม: คาร์รอนมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเมื่อใช้ในช่วงที่วัชพืชกำลังเจริญเติบโต

การใช้ร่วมกับวิธีการควบคุมอื่นๆ: สามารถใช้คาร์รอนร่วมกับวิธีการควบคุมวัชพืชอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การตรวจสอบผลกระทบ: ตรวจสอบผลกระทบต่อพืชทับทิมเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาย


การใช้คาร์รอน (Diuron 80% WG) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมวัชพืชในสวนทับทิม และช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของทับทิมได้มากที่สุด อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและใช้วิธีการที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้คาร์รอนเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สูงที่สุดในการควบคุมวัชพืชในสวนทับทิมของคุณ


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อFK-1 ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อFK-1 ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3464
เงาะ ผลใหญ่ ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ 0-0-60 โพแทสเซี่ยม สูตรเร่งผล เพิ่มผลผลิต ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และคุณภาพ
เงาะ ผลใหญ่ ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ 0-0-60 โพแทสเซี่ยม สูตรเร่งผล เพิ่มผลผลิต ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และคุณภาพ
เงาะ ผลใหญ่ ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ 0-0-60 โพแทสเซี่ยม สูตรเร่งผล เพิ่มผลผลิต ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และคุณภาพ
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 : สูตรเร่งผล ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิตเงาะ

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 0-0-60 เป็นปุ๋ยเคมีมาตรฐานประเภทโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ (KCl) ละลายน้ำง่าย เหมาะสำหรับการฉีดพ่นทางใบเพื่อเร่งการขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และยกระดับคุณภาพผลผลิตเงาะโดยเฉพาะ

จุดเด่นของปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60

ธาตุอาหารโพแทสเซียมสูง (60%): โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการสังเคราะห์แสง ช่วยให้พืชสร้างอาหารและสะสมแป้ง ส่งผลต่อขนาด น้ำหนัก และความหวานของผลเงาะ
เสริมสร้างระบบราก: โพแทสเซียมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำและธาตุอาหารของราก ช่วยให้ต้นเงาะแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
เพิ่มคุณภาพผลผลิต: โพแทสเซียมช่วยส่งเสริมการพัฒนาสีสัน รสชาติ และความคงทนหลังการเก็บเกี่ยวของผลเงาะ
ละลายน้ำง่าย: ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ละลายน้ำง่าย ซึมซาบรวดเร็ว พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
ใช้สะดวก: เหมาะสำหรับการฉีดพ่นทางใบ ช่วยให้ประหยัดเวลา แรงงาน และปุ๋ย

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60

หลังการติดดอก: ช่วงนี้เป็นช่วงที่เงาะเริ่มสร้างผล ควรใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ฉีดพ่นทางใบเพื่อเร่งการขยายขนาดผล
ก่อนเก็บเกี่ยว: ประมาณ 15-20 วันก่อนเก็บเกี่ยว ควรใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ฉีดพ่นทางใบอีกครั้งเพื่อเพิ่มน้ำหนักและยกระดับคุณภาพผลผลิต

อัตราการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60

ฉีดพ่นทางใบ: ละลายปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ในอัตรา 25 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วใบและลำต้น
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น: หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นตอนแดดจัด

ข้อควรระวัง

เก็บปุ๋ยในที่แห้ง มิดชิด ห่างไกลจากเด็กและสัตว์เลี้ยง
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก ถุงมือ ยางรองเท้า เมื่อใช้ปุ๋ย
ล้างมือให้สะอาดหลังการใช้

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรเงาะเพิ่มผลผลิตและยกระดับคุณภาพผลผลิตเงาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หมายเหตุ

ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสภาพต้นเงาะ
ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)

ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3464
เทคโนโลยีสุดล้ำ กับ การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น
เทคโนโลยีสุดล้ำ กับ การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น

 

แหงนมองรอบๆ ตัวเราแล้ว เชื่อเหลือเกินว่าอย่างน้อยก็ต้องมีผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัดชนิด
 
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากรูปแบบ หรือแม้แต่ออกไปตามท้องถนนก็จะเห็นรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นวิ่งกันเกลื่อนเมือง ซึ่งไม่ใช่เป็นเฉพาะแค่ในประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายประเทศทั่วโลก ในความเป็นจริงประเทศญี่ปุ่นเราก็รู้จักกันมาเนิ่นนานแล้ว แต่โดยส่วนตัวนั้นกลับไม่เคยทำความรู้จัก และหาที่มาที่ไปว่า เหตุไฉนประเทศนี้ถึงได้มีสินค้าต่างๆ ส่งออกไปทั่วโลก และทำไมจึงเป็นหนึ่งในผู้นำทางเทคโนโลยีของโลก
 
ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นหมู่เกาะทอดตัวยาวเหนือจรดใต้ มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับกับที่ราบเล็กน้อย ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ก็ไม่ได้มีปริมาณมากพอในเชิงพาณิชย์ มิหนำซ้ำผลจากความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ได้สร้างความย่อยยับทั่วทุกระแหงในประเทศ แต่ ณ วันนี้ ญี่ปุ่นกลับกลายมาเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ญี่ปุ่นทำได้อย่างไร? คำตอบก็คือว่า ภายหลังสงครามโลก ญี่ปุ่นใช้นโยบายเศรษฐกิจนำหน้าการทหาร เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ารัฐธรรมนูญญี่ปุ่นหลังสงครามระบุไว้ว่า ญี่ปุ่นมีพันธสัญญาว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับสงครามใดๆ ดังนั้นการจะสร้างความมั่นคงให้กับประเทศได้ ก็จะต้องสร้างให้ประเทศเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจนั่นเอง ซึ่งในช่วงระยะเวลาของการเริ่มต้นนโยบายนี้ ญี่ปุ่นมุ่งเน้นในทางด้านอุตสาหกรรมหนักเป็นพิเศษ จึงมีการนำเข้าเทคโนโลยีการผลิตจากต่างประเทศจำนวนมาก และอย่างที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นเป็นชาตินักประดิษฐ์ที่เก่งกาจไม่แพ้ใครในโลก ดังจะเห็นได้จากอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความล้ำสมัยในสงครามโลก ดังนั้นการนำเอาเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาปรับประยุกต์ด้วยการดัดแปลงแก้ไขและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับญี่ปุ่นแต่อย่างใด ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ของญี่ปุ่นตามมาอีกมากมายภายหลัง
 
ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่มีการวิจัยและพัฒนาก้าวล้ำที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก โดยมีรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนและมีเอกชนเป็นผู้ลงทุนเป็นหลัก จากข้อมูลของ OEDC หรือองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ระบุว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการขอสิทธิบัตรและมีจำนวนสิทธิบัตรต่อจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก ซึ่งสิ่งที่ขอจดสิทธิบัตร ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ หุ่นยนต์ เครื่องจักรกล วิศวกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยีด้านการผลิตพลังงาน หากเราได้มีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่น แน่นอนว่าเราคงได้มีโอกาสสัมผัสกับเทคโนโลยีอันเกิดจากการวิจัยและพัฒนาของญี่ปุ่น เช่น อาคารทุกอาคารในญี่ปุ่นจะต้องสร้างบนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่สามารถป้องกันแผ่นดินไหว การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ชิงกันเซ็ง” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ญี่ปุ่นคิดค้นเป็นที่แรกในโลก การนำหุ่นยนต์มาใช้ในการประกอบรถยนต์ที่มีความแม่นยำสูง และสามารถกำหนดปริมาณสายพานการผลิตที่แน่นอนได้ และการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินที่มีการนำเอาเทคโนโลยีกำจัดมลพิษจากการเผาไหม้ ซึ่งสอดคล้องกับการที่ญี่ปุ่นมีกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเข้มงวด และภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากที่สุดในโลก เป็นต้น
 
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยี คือ ส่วนสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่อีกหนึ่งแรงสนับสนุนสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี นั่นก็คืออัตลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีระเบียบวินัยสูง มีความละเอียดรอบคอบ และมีความซื่อสัตย์ต่อผู้บังคับบัญชาและหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะที่ได้รับการสืบทอดมาจากสายเลือด “บูชิโด” หรือนักรบนั่นเอง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ เมื่อ
 
นำมาผสมผสานกับวิธีการทำงานเกิดเป็นอีกหนึ่งปรัชญาในการทำงานที่เรียกว่า “โมโนซูคูริ” (Monozukuri) นั่นก็คือการให้ความสำคัญและการใส่ใจในรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อย ตั้งแต่กระบวนการคิด การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่าย เพื่อให้สินค้าเหล่านั้นเกิดความพึงพอใจต่อลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นจึงต้องมีการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตและตัวสินค้าอยู่เสมอ เป็นผลทำให้ต้องมีการคิดค้นและพัฒนา
 
เทคโนโลยีใหม่ๆ จึงไม่แปลกที่ญี่ปุ่นจะมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและมีสินค้า ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าแปลกใหม่และหลากหลายมากที่สุดในโลก แต่กว่าที่ญี่ปุ่นจะมีศักยภาพในการทำสิ่งเหล่านั้นได้ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้ผ่าน 5 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ Imitation คือการลอกเลียนแบบ Improvement คือการทำให้ดีกว่าเดิม Initiative คือการริเริ่มพัฒนาให้แตกต่างไปจากเดิม Innovative คือการสรรค์สร้างให้เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่จากสิ่งที่มีอยู่เดิม และสุดท้าย Invention คือการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยสร้างมาก่อน ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ในญี่ปุ่นดูเหมือนว่าจะสะท้อนถึงวิวัฒนาการเหล่านี้ได้อย่างดี จึงขอยกตัวอย่างกรณีของโตโยต้า โดยแรกเริ่มเดิมที โตโยต้าเป็นผู้ผลิตและพัฒนาเครื่องทอผ้า ต่อมาได้มีการสั่งนำเข้ารถยนต์จากยุโรปเพื่อนำมาถอดประกอบและศึกษา ซึ่งเป็นโมเดลที่หลายบริษัทในญี่ปุ่นนิยมใช้ในช่วงเวลานั้น จากนั้นจึงทดลองสร้างรถยนต์ต้นแบบขึ้นมาด้วยตัวเอง จากนั้นค่อยๆ พัฒนาให้มีรูปแบบสอดคล้องกับความเป็นญี่ปุ่น และในที่สุดโตโยต้าเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องยนต์ที่ทำงานผสมผสานระหว่างน้ำมันและไฟฟ้าเป็นรายแรกของโลก นอกจากนั้นยังเป็นผู้นำเอานวัตกรรมการประกอบรถยนต์ด้วยแขนกลมาใช้เป็นลำดับต้นๆ ของโลก ทำให้โตโยต้าก้าวขึ้นมาครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดของโลก
 
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนให้โลกก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ณ เวลานี้ไม่เพียงแค่ญี่ปุ่นและชาติตะวันตกอีกหลายชาติเท่านั้นที่กำลังแข่งขันกันในเรื่องของเทคโนโลยี แต่ตอนนี้คงต้องเหลียวมองดูละแวกใกล้เคียงอย่างประเทศจีนและประเทศเกาหลีใต้ ที่ต่างก็กำลังมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีตามมาไม่ห่าง ณ เวลานี้ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าทั้งสองประเทศนี้ มีโมเดลในการพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายคลึงกับญี่ปุ่น ดังนั้นจึงน่าจับตามองต่อไปว่าญี่ปุ่นจะพัฒนาเทคโนโลยีของตนไปในทิศทางไหน
อ่าน:3464
คำนิยม - ลูกค้าท่านนี้ ใช้ FK-1 เร่งบำรุง และ ไอเอสกำจัดโรคพืชค่ะ
คำนิยม - ลูกค้าท่านนี้ ใช้ FK-1 เร่งบำรุง และ ไอเอสกำจัดโรคพืชค่ะ
คำนิยม - ลูกค้าท่านนี้ ใช้ FK-1 เร่งบำรุง และ ไอเอสกำจัดโรคพืชค่ะ

อ่าน:3464
ธนาคารน้ำใต้ดินคืออะไร?
ธนาคารน้ำใต้ดินคืออะไร?
ธนาคารน้ำใต้ดินคืออะไร?
ธนาคารน้ำใต้ดินจะมี 2 ประเภท คือธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิด และธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบเปิดถ้าทำธนาคารน้ำใต้ดินทั้ง 2 ประเภท ควบคู่ไปด้วยกันจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิด

ใช้หลักการขุดบ่อเพื่อส่งน้ำไปเก็บไว้ที่ชั้นน้ำบาดาล ขนาดและความลึกของบ่อขึ้นอยู่กับสภาพ และชั้นดินของแต่ละพื้นที่ โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขุดบ่อให้ลึกถึงชั้นหินอุ้มน้ำ จากนั้นใส่ยางรถยนต์เพื่อป้องกันขอบบ่อพังทลาย

จากนั้นใส่วัสดุที่หาได้ในพื้นที่ เช่นขวดน้ำ (ใส่น้ำ 1 ใน 3 ส่วน)_ ท่อนไม้ หรือเศษปูนให้เต็มช่องว่างด้านนอกยางรถยนต์

นำท่อ PVC มาวางตรงกลางบ่อเพื่อเป็นช่องระบายอากาศ นำวัสดุชนิดเดียวกับที่ใส่ช่องว่างด้านนอกมาเติมใส่ช่องว่างด้านในให้เต็ม

คลุมด้วยผ้าไนล่อน แล้วทับด้วยก้อนหิน และตามด้วยหินละเอียดอีกที เพื่อเป็นตัวกรองให้เศษดิน หรือขยะไม่ให้เข้าไปอุดตันในบ่อ เมื่อฝนตกลงมาน้ำจะไหลสู่ชั้นใต้ดินโดยตรง ผ่านธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิดที่ทำขึ้นมา

ธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบเปิด

เป็นการเปิดผิวดินเพื่อที่จะสามารถใช้น้ำในระดับผิวดินได้เลย โดยจะมีการขุดบ่อขนาดใหญ่ แต่ขนาดเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ และความต้องการ โดยมีขั้นตอนดังนี้

เจาะพื้นบ่อเป็นหลุม 3 หลุมให้ลึกถึงชั้นหินอุ้มน้ำ เพื่อให้น้ำไหลลงชั้นหินอุ้มน้ำได้ดี และมีช่องสำหรับถ่ายเทอากาศจากโพรงใต้ดินเมื่อถูกน้ำเข้าไปแทนที่

โดยน้ำที่นำมาเก็บนั้นมาจากหลายแหล่งด้วยกัน เช่น น้ำฝน หรือน้ำจากการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิด ซึ่งเมื่อน้ำถูกเติมลงชั้นใต้หินอุ้มน้ำปริมาณมากพอ น้ำจะเอ่อล้นมาที่บ่อโดยอัตโนมัติ ซึ่งเกษตรกรสามารถสูบน้ำจากบ่อนี้มาใช้ได้ทันที วิธีนี้จะช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องขุดเจาะหาแหล่งน้ำ หรือสูบน้ำจากแหล่งน้ำไกลๆ ประหยัดพลังงาน แถมช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ปีละหลายล้านบาทเลยทีเดียว

ประโยชน์ของธนาคารน้ำใต้ดิน

1. ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ เพราะช่วยให้น้ำซึมลงใต้ดินได้ดีขึ้น

2. ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง เพราะสามารถสูบน้ำจากธนาคารน้ำใต้ดินใช้ได้ตลอดเวลา

3. แก้ปัญหาน้ำเค็ม เพราะมวลน้ำเค็มจะมีน้ำหนักมากกว่าน้ำจืด ฉะนั้นน้ำเค็มจะอยู่ด้านล่าง

4. แก้ปัญหาน้ำสกปรก เพราะระบบน้ำแบบปิดจะช่วยกรองน้ำให้สะอาดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : รู้ค่าพลังงาน WATCHDOG | ธนาคารน้ำแบบปิด และ ธนาคารน้ำแบบเปิด

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..
NSUT10-266: โคลนอ้อยดีเด่นน้ำตาลสูง
NSUT10-266: โคลนอ้อยดีเด่นน้ำตาลสูง
อ้อยโคลน NSUT10-266 ได้จากการผสมของพันธุ์แม่ Q76 กับพันธุ์พ่อ CP63-588 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี ในปี 2553 แล้วนำมาคัดเลือกครั้งที่ 1 และ 2 แบบ Individual selection ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ในปี 2554-2556 นำเข้าประเมินผลผลิตตามขั้นตอนปรับปรุงพันธุ์ ในอ้อยปลูก ตอ 1 และตอ 2 ซึ่งดำเนินการในศูนย์วิจัย และแปลงเกษตรกร จำนวน 12 แปลง รวมทั้งศึกษาข้อมูลปฏิกิริยาต่อโรคเหี่ยวเน่าแดงและแส้ดำ ระหว่างปี 2556-2563

ลักษณะเด่น
อ้อยโคลน NSUT10-266 ให้ผลผลิตน้ำตาลสูง 2.64 ตันซีซีเอสต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 (2.27 ตันซีซีเอสต่อไร่) และขอนแก่น 3 (2.63 ตันซีซีเอสต่อไร่) ร้อยละ 16 และ 1 ตามลำดับ และมีความหวาน 15.7 ซีซีเอส ซึ่งสูงกว่าพันธุ์ขอนแก่น 3 และ LK92-11 ที่มีความหวานเท่ากับ 14.6 ซีซีเอส ร้อยละ 7 ให้ผลผลิตอ้อย 17.0 ตันต่อไร่ ไม่แตกต่างจากพันธุ์ LK92-11 (16.5 ตันต่อไร่) นอกจากนี้ยังต้านทานปานกลางต่อโรคเหี่ยวเน่าแดง ทรงกอตั้งตรง ทำให้มีการหักล้มน้อย กาบใบหลุดร่วงง่าย ประกอบกับไม่มีขนบนใบ จึงเหมาะกับการเก็บเกี่ยวด้วยแรงงานคน และรถเก็บเกี่ยว

พื้นที่ที่เหมาะสม
อ้อยโคลน NSUT10-266 เหมาะสมกับพื้นที่ดินร่วน ร่วนเหนียว และดินเหนียว เขตอาศัยน้ำฝน

ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอขอรับรองพันธุ์ เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรได้ใช้พันธุ์ดีที่มีความหลากหลายมากขึ้น

สอบถามเพิ่มเติม : ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ 60190 โทรศัพท์ 0 5624 1019 โทรสาร 0 5624 1498 Email: [email protected]

ที่มา http://www.farmkaset..link..
ผักบุ้งในทุกระยะการเจริญเติบโต ระวังโรคราสนิมขาว(เชื้อรา ALBUGO IPOMOEA-PANDURATAE)
ผักบุ้งในทุกระยะการเจริญเติบโต ระวังโรคราสนิมขาว(เชื้อรา ALBUGO IPOMOEA-PANDURATAE)
ผักบุ้งในทุกระยะการเจริญเติบโต ระวังโรคราสนิมขาว(เชื้อรา ALBUGO IPOMOEA-PANDURATAE)
สภาพอากาศร้อนจัดและมีฝนตก ผักบุ้งในทุกระยะการเจริญเติบโต ระวังโรคราสนิมขาว(เชื้อรา Albugo ipomoea-panduratae)

โรคราสนิมขาวผักบุ้ง White Rust

สาเหตุ เชื้อรา Albugo ipomoea-aquaticae Sawada เป็นเชื้อราชั้นต่ำ

อาการ จุดสีเหลืองซีดด้านบนของใบ ด้านใต้ใบตรงกันข้ามจะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ขนาด 1-2 มิลลิเมตร อาจพบลักษณะปุ่มปม หรือบวมพองโตขึ้นในส่วนของก้านใบและลำต้น

การป้องกันรักษา

1. กำจัดวัชพืชในแปลงปลูก

2. แปลงที่เกิดโรคระบาด ควรงดการให้น้ำแบบพ่นฝอย และ ไม่ควรให้น้ำจนชื้นแฉะเกินไป

3. ตรวจแปลงปลูกสม่ำเสมอ โดยเฉพาะใบล่างๆ เมื่อพบโรค ตัดส่วนที่เป็นโรค ไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก

4. หลังการเก็บเกี่ยว ควรนำเศษซากพืชไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก

5. พื้นที่ที่เกิดโรคระบาด ควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียนอย่างน้อย 2–3 ปี

6. ฤดูปลูกถัดไป

– การเตรียมดินก่อนปลูก ควรไถดินตากแดดให้นาน หรือ หว่านปูนขาว อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วไถกลบทิ้งไว้ ประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนปลูก จะช่วยลดการเกิดโรค

– ใช้เมล็ดพันธุ์ จากแหล่งที่ไม่มีโรคระบาดมาก่อน

– ไม่หว่านผักบุ้งแน่นเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสูง


โรคผักบุ้งใบไหม้ Leaf blight

สาเหตุ เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas compestris pv. (pathovar กำลังอยู่ในขึ้นตอนของการทดสอบ)

อาการ เกิดจุดตุ่มใสเล็ก ๆ ใต้ใบ ต่อมาจุดแผลจะขยายออกกลายเป็นสีน้ำตาล-สีดำ ฉ่ำน้ำ ใบจะเหลืองซีดและแห้งเหี่ยวร่วงหล่นจากต้น

การป้องกันรักษา

1. เก็บรวบรวมพืชที่เป็นโรค เผาทำลาย

2. ใช้ปูนขาวอัตรา 500 กิโลกรัมต่อไร่ คลุกดินแล้วตากดินไว้อย่างน้อย 1 เดือน

3. ปลูกพืชชนิดอื่นหนุนเวียน

อ้าอิง http://www.farmkaset..link..

สินค้าจากเรา

ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกันและยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา

FKธรรมชาตินิยม ฟื้นฟู แก้อาการขาดธาตุ ส่งเสริมการเจริญเติบโต ส่งเสริมผลผลิต
การปลูกลองกอง และการดูแลรักษา
การปลูกลองกอง และการดูแลรักษา
ลองกองเป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน ดังนั้นสภาพอากาศที่ปลูกลองกองควรมีอากาศร้อนและชุ่มชื้น

- อุณหภูมิ 20-30 องศาเซลเซียส

- ความชื้นในอากาศ 70-80%

- ปริมาณน้ำฝน 2000-3000 มิลลิเมตรต่อปี

- ระดับความสูงน้อยกว่า 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล

- ดินควรเป็นดินร่วนปนทรายมีอินทรียวัตถุสูง มีการระบายน้ำดีและต้องมีแหล่งน้ำเพียงพอที่จะให้กับลองกองตามเวลาที่ต้องการ

ลองกองสามารถปลูกด้วยต้นกล้าที่เพาะจากเมล็ดโดยตรง หรือต้นกล้าที่เปลี่ยนยอดแล้ว การเปลี่ยนยอดทำได้หลายวิธี คือ การเสียบยอด การเสียบข้าง การทาบกิ่ง และติดตา ก่อนปลูกลองกอง ควรเตรียมพื้นที่วางระบบน้ำ และปลูกพืชให้ร่มเงาให้เรียบร้อย

การเตรียมต้นกล้าต้นกล้าที่ใช้ควรมีอายุตั้งแต่ 1 ปี สมบูรณ์แข็งแรง ใบยอดคู่สุดท้ายแก่เต็มที่ ก่อนปลูกค่อย ๆ งดน้ำและปุ๋ย และเพิ่มแสงให้มากขึ้นทีละน้อย

การปรับพื้นที่ควรขุดตอและรากไม้เก่าออกให้หมด ไถตากดินไว้ 10-15 วัน แล้วปรับพื้นที่ให้เสมอ

การวางระบบน้ำการปลูกลองกองเป็นการค้า จำเป็นต้องมีระบบน้ำ ควรใช้ระบบพ่นฝอย (มินิสปริงเกอร์) เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและดูแลรักษา

ระยะปลูกลองกอง ถ้าปลูกแซมกับพืชอื่นระยะปลูกที่ใช้ขึ้นกับพืชหลัก (พืชประธาน) ถ้าปลูกเป็นพืชเดี่ยว ควรใช้ระยะระหว่างต้น 4-6 เมตรและ ระหว่างแถว 6-8 เมตร

พืชที่ให้ร่มเงาปลูกในสวนที่ปลูกลองกองพืชเดี่ยว เช่น กล้วย ยอป่า ทองหลาง แคฝรั่ง และสะตอ เป็นต้น และควรมีพืชบังลม เช่น กระถิน ไผ่ และสน รอบ ๆ สวนด้วย

การเตรียมหลุมปลูกลองกอง ขึ้นกับสภาพของดิน และการวางระบบน้ำกรณีที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ การขุดหลุมไม่จำเป็นต้องทำ หลังจากกำหนดแนวและจุดปลูกแล้ว ให้โรยหินฟอสเฟตบริเวณก้นหลุม ประมาณ 500 กรัม พรวนคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน

ฤดูปลูกควรปลูกต้นฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน) แต่ถ้ามีน้ำรดเพียงพอก็สามารถปลูกในฤดูร้อนได้

การดูแลรักษาลองกอง

การปฏิบัติดูแลหลังจากปลูกหลังจากปลูกควรมีวัสดุคลุมโคน เช่น ฟางข้าว แกลบ ใบกล้วย หรือทางมะพร้าว และทำร่มเงาโดยใช้ ตาข่ายพรางแสง ทางมะพร้าว หรือปาล์มน้ำมัน และทำการพรวนดินบริเวณรอบโขด(ความลึกประมาณ 1 หน้าจอบหรือ 20-30 เซนติเมตร) เป็นวงกว้าง 1 เมตรรอบโขดเดิมหรือจากชายพุ่ม ทุก ๆ ปี ปีละ 1 ครั้ง ประมาณ 3 ปี ก็จะทำให้ต้นลองกองเจริญเติบโต แตกรากหาอาหารได้ดี ให้ผลผลิตเร็ว

การให้น้ำลองกอง ควรให้อย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในฤดูแล้งที่ฝนทิ้งช่วง ในต้นที่ให้ผลผลิตแล้ว ควรให้น้ำสม่ำเสมอ จนกระทั่งแก่เต็มที่ จึงจะลดปริมาณน้ำและงดให้น้ำในที่สุดเพื่อกระตุ้นให้ลองกองสร้างตาดอก หลัง จากนั้น 30-50 วัน จึงเริ่มให้น้ำ

การตัดแต่งกิ่งลองกอง ควรตัดแต่งกิ่งแห้ง เป็นโรค และกิ่งกระโดงออก โดยให้แสงแดดสามารถส่องผ่านเข้าในทรงพุ่มได้บ้าง อย่าให้ทึบจนเกินไป จะทำให้เป็นแหล่งเพาะโรคและแมลงได้ หลังตัดแต่งแล้วควรใช้ยาป้องกันเชื้อราผสมน้ำ หรืออาจใช้น้ำผสมปูนกินหมาก ทาบริเวณแผลที่ตัดแต่ง เพื่อป้องกันเชื้อรา

การตัดแต่งช่อดอกลองกอง ควรทำในระยะที่ช่อดอกยาว 5-10 ซม. (สัปดาห์ที่ 3-5) ตัดให้เหลือ 1 ช่อต่อหนึ่งจุด (โดยให้แต่ละช่อห่างกัน 10-15 ซม.) แล้ว เลือกตัดช่อบริเวณปลายกิ่งที่มีขนาดเล็ก (เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 3 ซม.) ช่อที่ชี้ขึ้นบน ช่อที่สั้นและไม่สมบูรณ์ออก จำนวนช่อต่อต้นขึ้นกับขนาดทรงพุ่ม อายุ ความสมบูรณ์ ของต้น

การตัดแต่งช่อผลลองกอง ควรทำเมื่อผลมีอายุ 2-3 สัปดาห์หลังดอกบาน ตัดช่อที่มีผลร่วงมาก และช่อที่ผลเจริญเติบโตช้า ควรตรวจช่อผล ถ้าหากมีผลแตกหรือผลที่แคระแกร็น ควรเด็ดออกเพื่อให้ผลในช่อมีขนาดสม่ำเสมอ

การกำจัดวัชพืชลองกอง ควรใช้วิธีการตัด หรือถาก ขุด หรือถอน หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพราะจะทำให้รากลองกองได้รับผลกระทบด้วย

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..

สินค้าจากเรา

FK-1 ฉีดพ่นลองก่อง เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต และผลผลิต

ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกันและยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ลองกองใบไหม้ เชื้อราต่างๆที่เกิดกับลองกอง
กำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ใน ดอกกุหลาบ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ไตรโครเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ใน ดอกกุหลาบ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ไตรโครเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
เชื้อราไตรโคเดอร์มา ตรา Trichorex ทางออกสุดท้ายของการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในดอกกุหลาบ

กุหลาบเป็นดอกไม้ที่รักและหวงแหนมากที่สุดชนิดหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ชื่นชมในความงามอันวิจิตรและกลิ่นหอม อย่างไรก็ตาม ชาวสวนกุหลาบมักเผชิญกับความท้าทายในการจัดการกับโรคเชื้อราที่สามารถทำลายดอกกุหลาบอันมีค่าของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว โรคจากเชื้อรา เช่น โรคราแป้ง โรคจุดดำ และเชื้อบอตริติสสามารถทำให้เกิดตำหนิที่ไม่น่าดู การร่วงหล่น และแม้แต่การตายของต้นกุหลาบ แต่อย่ากลัวไปเลย เพราะมีอาวุธที่ทรงพลังในการต่อสู้กับศัตรูของเชื้อราเหล่านี้ นั่นคือ Trichoderma ยี่ห้อ Trichorex

Trichorex เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งใช้ประโยชน์จากเชื้อรา Trichoderma ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเพื่อป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในดอกกุหลาบ เชื้อราไตรโคเดอร์มาคือสกุลของเชื้อราที่อาศัยอยู่ในดินซึ่งมีคุณสมบัติเป็นปฏิปักษ์กับเชื้อโรคพืช พบได้ทั่วไปในดิน รากไม้ และอินทรียวัตถุที่เน่าเปื่อย และได้รับการศึกษาและใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในการเกษตรสำหรับศักยภาพการควบคุมทางชีวภาพของพวกมัน

Trichorex เป็นผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษที่ประกอบด้วยเชื้อ Trichoderma สายพันธุ์ที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งคัดเลือกมาอย่างดีเพื่อประสิทธิภาพในการต่อต้านโรคเชื้อราทั่วไปในดอกกุหลาบ เมื่อนำไปใช้กับดินหรือใบของต้นกุหลาบ Trichorex จะสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์กับพืช โดยสร้างเกราะป้องกันเชื้อโรคจากเชื้อรา ทำหน้าที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติ แข่งขันและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่เป็นอันตราย ดังนั้นจึงป้องกันการตั้งรกรากบนผิวพืชและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ

คุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Trichorex คือความสามารถในการกระตุ้นกลไกการป้องกันตามธรรมชาติของพืช เชื้อราไตรโคเดอร์มากระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของพืช ส่งเสริมการผลิตเอนไซม์ป้องกันและสารประกอบทางชีวเคมีอื่น ๆ ที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรค ความต้านทานที่เหนี่ยวนำโดยระบบนี้ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืชทำให้ต้านทานโรคเชื้อราได้ดีขึ้น

นอกจากการป้องกันแล้ว Trichorex ยังช่วยในการกำจัดเชื้อราที่มีอยู่ในดอกกุหลาบอีกด้วย มันผลิตเอนไซม์ที่ย่อยสลายผนังเซลล์ของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรค ทำให้เกิดการยุบตัวและตาย สิ่งนี้ช่วยในการควบคุมการแพร่กระจายของโรคและส่งเสริมการฟื้นตัวของพืชที่ติดเชื้อ Trichorex สามารถใช้เป็นยารักษากุหลาบที่เป็นโรคเชื้อราอยู่แล้ว หรือเป็นมาตรการป้องกันในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง

ข้อดีอย่างหนึ่งของ Trichorex คือธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นสารควบคุมทางชีวภาพ จึงปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง และแมลงที่มีประโยชน์ ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายในดินหรือบนพืช ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการทำสวนออร์แกนิกและแนวทางปฏิบัติในการปลูกกุหลาบอย่างยั่งยืน Trichorex ยังมีคุณสมบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดการดื้อยาฆ่าแมลงหรือผลที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย

Trichorex ใช้งานง่ายและสามารถฉีดพ่นทางใบหรือใช้ร่วมกับดินได้ สามารถใช้ในทุกขั้นตอนของการเจริญเติบโตของดอกกุหลาบ ตั้งแต่การขยายพันธุ์จนถึงต้นโตเต็มที่ และสามารถรวมเข้ากับโปรแกรมการจัดการโรคที่มีอยู่ การใช้ Trichorex เป็นประจำในช่วงฤดูปลูกสามารถป้องกันโรคเชื้อราได้ในระยะยาว ช่วยให้ชาวสวนกุหลาบมีดอกกุหลาบที่แข็งแรงและปราศจากโรค

สรุปได้ว่า เชื้อรา Trichorex ตรา Trichorex มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในดอกกุหลาบ โหมดการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ ความสามารถในการกระตุ้นการป้องกันพืช และธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับชาวสวนกุหลาบ ด้วย Trichorex คุณสามารถเพลิดเพลินกับความงามของดอกกุหลาบที่แข็งแรงปราศจากโรคและปลูกสวนกุหลาบที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งทุกคนอิจฉา

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่ แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
กำจัดหนอนเจาะผล ศัตรูพืชในต้นทุเรียน AiKi-BT ฟื้อนฟูจากการเข้าทำลายของหนอน FK-T อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ โดย FK
กำจัดหนอนเจาะผล ศัตรูพืชในต้นทุเรียน AiKi-BT ฟื้อนฟูจากการเข้าทำลายของหนอน FK-T อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ โดย FK
แมลงศัตรูพืชเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพืชผลทางการเกษตร ซึ่งมักสร้างความเสียหายและความสูญเสียให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก มีการใช้สารเคมีกำจัดแมลงแบบดั้งเดิมอย่างแพร่หลายเพื่อต่อสู้กับแมลงศัตรูพืชเหล่านี้ แต่ก็มีข้อเสียในตัวเอง รวมถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ปัญหาที่ก้าวหน้าที่เรียกว่า Aiki-BT (Biological Toxin) กำลังปฏิวัติการควบคุมศัตรูพืชในการปลูกทุเรียน ด้วยการใช้พลังของสารชีวภาพที่มีประสิทธิภาพสูง Aiki-BT สามารถกำจัดหนอนเจาะผลในทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้ด้วย

พลังของ Aiki-BT:
Aiki-BT ใช้ประสิทธิภาพการฆ่าแมลงของแบคทีเรียเพื่อต่อสู้กับแมลงศัตรูพืช เมื่อสัมผัสกับสารพิษนี้ ศัตรูพืชจะมีอาการทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การตายภายใน 24-48 ชั่วโมง Aiki-BT ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายในสิ่งแวดล้อม ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดแมลงทั่วไป ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเกษตรกร นอกจากนี้ ลักษณะที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของผู้ที่จัดการผลิตภัณฑ์

เสริมสุขภาพพืชผลด้วยอาหารเสริมพืช FKT:
นอกเหนือจากคุณสมบัติในการฆ่าแมลงแล้ว Aiki-BT ยังได้รับการเสริมด้วยธาตุอาหารพืช FKT เพื่อฟื้นฟูพืชผลที่ได้รับผลกระทบจากการรบกวนของหนอน เมื่อพืชประสบปัญหาดังกล่าว มักจะแสดงอาการต่างๆ เช่น การเจริญเติบโตช้า แตกกอ เหี่ยว ใบเหลือง และขาดดอกหรือผล อย่างไรก็ตาม การผสมผสานอาหารเสริมพืชของ FKT เข้ากับระบบการควบคุมศัตรูพืช เกษตรกรสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาหารเสริมพืช FKT ให้สารอาหารสำคัญที่ช่วยในการฟื้นตัวและการเจริญเติบโตของพืช พวกมันช่วยบำรุงพืชที่ได้รับผลกระทบโดยให้องค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟู ด้วยการเติมสารอาหารที่หมดไปซึ่งเกิดจากการเข้าทำลาย อาหารเสริม FKT ช่วยให้การเจริญเติบโตแข็งแรงส่งผลให้ต้นทุเรียนแข็งแรงและให้ผลผลิตมากขึ้น

ข้อดีสำหรับเกษตรกร:
การใช้ Aiki-BT ในการปลูกทุเรียนมีข้อดีหลายประการสำหรับเกษตรกร ประการแรก ประสิทธิภาพสูงในการกำจัดหนอนเจาะผล ช่วยลดการสูญเสียพืชผล ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากขึ้น การกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้ทำให้เกษตรกรสามารถปกป้องต้นทุเรียนของตนจากความเสียหายที่รุนแรงและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตโดยรวม

ยิ่งไปกว่านั้น ธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ Aiki-BT ยังมีส่วนช่วยในการทำฟาร์มอย่างยั่งยืน ด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย เกษตรกรลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมระบบนิเวศที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีการควบคุมศัตรูพืชที่เชื่อถือได้และปลอดภัย

บทสรุป:
ด้วยการเปิดตัว Aiki-BT และการผสมผสานอันทรงพลังของสารชีวภาพที่มีประสิทธิภาพสูงและอาหารเสริมพืช FKT ชาวสวนทุเรียนสามารถต่อสู้กับหนอนเจาะผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมใหม่นี้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมีกำจัดแมลงทั่วไป เมื่อใช้ Aiki-BT เกษตรกรสามารถปกป้องต้นทุเรียนของพวกเขาจากแมลงศัตรูพืช ฟื้นฟูสุขภาพของพืช และรับประกันการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งหมดนี้ในขณะที่ส่งเสริมการทำฟาร์มอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
3562 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 2 รายการ
|-Page 114 of 357-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
หนอนมะม่วง หนอนเจาะผลมะม่วง หนอนเจาะลำต้นมะม่วง หนอนต่างๆ ฉีดพ่น ไอกี้-บีที
Update: 2564/09/19 23:13:53 - Views: 3573
ยากำจัดโรคใบจุด ใน มังคุด โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/07 15:44:38 - Views: 3413
กำจัด โรคใบติด ในต้นทุเรียน แก้ปัญหาโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ไอเอส สารอินทรีย์คุณภาพสูง จาก FK ขนาด 250 ซีซี
Update: 2566/05/23 14:36:05 - Views: 3431
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) ขององุ่น
Update: 2564/08/10 05:03:03 - Views: 3747
มะระเหี่ยว ใบเหลือง กำจัดโรคมะระ จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/03 11:59:14 - Views: 3422
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้สูงสุดด้วยปุ๋ย FK-1 และ FK-3
Update: 2566/01/05 13:07:55 - Views: 3391
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคดอกร่วง ในน้อยหน่า ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2566/01/07 10:00:14 - Views: 3395
เตือน!! ระวังเพลี้ยอ่อน บุก สวนผักกวางตุ้ง สร้างเสียหายได้มาก จัดการได้อย่างไร?
Update: 2566/11/01 14:10:47 - Views: 3454
ปุ๋ยแตงโม ปุ๋ยน้ำแตงโม ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตแตงโม ผลผลิตดี ฉีดพ่น FK-1
Update: 2564/09/25 00:49:02 - Views: 3397
หนอนแตงโม หนอนชอนใบแตงโม หนอนเจาะแตงโม หนอน แตงโม ฉีดพ่น ไอกี้-บีที
Update: 2564/09/25 04:14:30 - Views: 3474
กำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อรา โรคใบจุด ใบไหม้ รากเน่า แอนแทรคโนส ราต่างๆ ฯลฯ ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราในพืช ขนาด3ลิตร)
Update: 2566/06/29 16:12:11 - Views: 3385
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นทับทิม
Update: 2566/05/09 11:14:22 - Views: 3552
การต่อสู้กับโรคเชื้อราในต้นฟักทอง: วิธีป้องกันและรักษา
Update: 2566/11/18 10:24:18 - Views: 3438
กำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในต้นยางพารา เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ไตรโครเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/29 15:46:35 - Views: 3400
ป้องกันกำจัดหนอนกอข้าว สาเหตุข้าวเมล็ดลีบ อาการข้าวฝักดาบ ทำให้ข้าวมีผลผลิตต่ำ
Update: 2567/05/20 12:01:05 - Views: 3542
ฟาร์มเกษตร ให้ความรู้การเพิ่มผลผลิต ข้าว และมันสำปะหลังให้กับพี่น้องเกษตรกร
Update: 2563/06/19 18:22:54 - Views: 3396
กำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ใน พริก เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ไตรโครเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/18 16:15:35 - Views: 3398
การป้องกันและกำจัดเชื้อ โรคใบแห้ง ใบเหลือง (ดายแบค) Botryosphaeria Dieback ในมะม่วง
Update: 2566/01/17 19:50:48 - Views: 3390
โรคเชื้อราในกัญชา: คู่มือเบื้องต้นการป้องกันและการรักษาโรคกัญชาจากเชื้อราต่างๆ
Update: 2566/05/02 07:44:19 - Views: 3518
กำจัดเพลี้ย ใน กะหล่ำดอก เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/05/15 14:13:01 - Views: 3413
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022