[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3569 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 9 รายการ

โรคใบไหม้ลีลาวดี ลั่นทม เกิดจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #ลีลาวดีใบไหม้ #ลั่นทมใบไหม้



ไอเอส สารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด ยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ โรคใบไหม้ ใบจุด ยอดแห้ง ราสนิม ราน้ำค้าง แอนแทรคโนส ไฟทอปโธร่า

และ FKธรรมชาตินิยม ฟื้นฟู แก้ต้นโทรม รากพืชไม่กินปุ๋ย อาการใบซีด ใบเหลือง ต้นแคระ อาการขาดธาตุอาหารของพืช

http://www.farmkaset..link..

อัตราส่วนผสม

*สำหรับท่านที่พ่นด้วย ฟ็อกกี้ ขนาด 1-2ลิตร
ใช้ฝา FKธรรมชาตินิยมตวงประมาณ 2ฝา ทั้งไอเอส และ FK

*สำหรับท่านที่ใช้ถัง 16-20ลิตร
ใช้ไอเอส 50ซีซี และ FKธรรมชาตินิยม 50ซีซี ต่อน้ำ 16-20ลิตร

*สามารถผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันได้

ทั้งอาการใบไหม้ และใบเหลือง เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดได้จากโรค และการขาดธาตุอาหารพืชที่จำเป็น รวมถึงการให้น้ำ และการได้รับแสงแดด ซึ่งการพิจารณาสาเหตุนั้น ต้องสังเกตุอาการ และแก้ปัญหาทีละจุด

การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
จากช่างซ่อมรถ รายได้เดือนหมื่นห้า เปลี่ยนมาเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง สร้างรายได้กว่า 200000 บาท สองแสนบาทต่อเดือน
จากช่างซ่อมรถ รายได้เดือนหมื่นห้า เปลี่ยนมาเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง สร้างรายได้กว่า 200000 บาท สองแสนบาทต่อเดือน

การเลี้ยงปลาทับทิม
รูปแบบการเลี้ยงปลาทับทิม จำแนกตามลักษณะแหล่งน้ำที่เลี้ยง ได้แก่
1. การเลี้ยงในบ่อดิน
เป็นการเลี้ยงในบ่อที่ขุดบริเวณพื้นที่ว่าง โดยคันบ่อ ขอบบ่อ และก้นบ่อเป็นดิน และไม่ใช้วัสดุกันน้ำใดๆรองพื้นหรือที่เรียกว่า บ่อน้ำหรือสระ บ่อเลี้ยงในลักษณะนี้มักเป็นบ่อขนาดใหญ่เป็นไร่หรือมากกว่า มีความลึกของบ่อตั้งแต่ 2 เมตร การเลี้ยงในลักษณะนี้จำเป็นต้องมีปริมาณน้ำมากเพียงพอ เพราะจำเป็นต้องใช้น้ำมาก

2. การเลี้ยงในเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
การเลี้ยงในเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จะเป็นลักษณะการเลี้ยงในกระชังเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ปลาอยู่ในพื้นที่เลี้ยง ขนาดความลึกของน้ำไม่ควรต่ำกว่า 5 เมตร มีค่าความขุ่นใสไม่น้อยกว่า 70 เซนติเมตร

3. การเลี้ยงในแม่น้ำ
การเลี้ยงในแม่น้ำจัดเป็นการเลี้ยงในกระชังเช่นกัน แม่น้ำควรมีน้ำไหลตลอดฤดูกาลเลี้ยง หากเป็นพื้นที่ใกล้ปากอ่าว ควรให้กระชังห่างจากปากอ่าวมากที่สุด อย่างน้อย 20 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้น้ำมีการเปลี่ยนแปลงความเค็มหรือคุณภาพมากเกินไป

4. การเลี้ยงในบ่อซีเมนต์
เป็นการเลี้ยงที่ใช้วิธีการสร้างบ่อน้ำด้วยการก่อบ่อซีเมนต์สี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมักเลี้ยงในโรงเรือนที่สามารถป้องกันน้ำฝนได้ การเลี้ยงลักษณะนี้จะเลี้ยงได้ในปริมาณน้อย จากปัญหาเรื่องพื้นที่จำกัด และอาจต้องใช้เครื่องเติมอากาศเข้าช่วยเพื่อให้ออกซิเจน

การเลี้ยงตามลักษณะการจำหน่าย
1. การเลี้ยงแบบกึ่งพัฒนา เป็นการเลี้ยงเพื่อการบริโภค และเพื่อการจำหน่าย โดยส่วนที่จำหน่ายจะเป็นส่วนที่เหลือจากการบริโภค การเลี้ยงลักษณะนี้มุ่งเน้นให้มีต้นทุนต่ำ โดยใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหรือวัสดุที่หาได้ตามท้องถิ่นเป็นอาหารแก่ปลาเป็นหลัก ร่วมกับการหากินเองของปลาตามธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยคอก เศษพืชผัก ปลวก เป็นต้น

2. การเลี้ยงเชิงพาณิชย์ หรือการเลี้ยงแบบเข้มข้นเพื่อการจำหน่ายเป็นหลัก อาหารที่เลี้ยงจะเป็นอาการสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดเป็นหลัก เพราะเป็นการเลี้ยงเพื่อให้ปลาได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ทำหให้ปลาเจริญเติบโตเร็ว ปลาที่มีขนาดใหญ่ และเป็นไปตามความต้องการของตลาด อัตราการปล่อยเลี้ยงจะใช้แบบหนาแน่น และให้อาหารมาก เพื่อย่นระยะเวลาการเลี้ยงให้สั้นลง

3. การเลี้ยงระบบฟาร์มลูก เป็นรูปแบบการเลี้ยงที่เกษตรเป็นเครือข่ายของบริษัทผู้พัฒนาพันธุ์ปลา โดยบริษัทจะให้การสนับสนุนในหลายด้าน อาทิ พันธุ์ปลา ยา และอาการ รวมถึงการให้คำปรึกษา และการแก้ปัญหาตลอดระยะเวลาการเลี้ยง ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถผลิตปลาทับทิมได้มีคุณภาพดี และสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ในด้านการตลาด บริษัทเครือข่ายจะเป็นผู้รับชื้อในราคาต่อหน่วยกิโลกรัมปลา โดยที่เกษตรกรไม่จำเป็นต้องวิ่งหาตลาดเอง

พันธุ์ปลาที่เลี้ยง
ลูกพันธุ์ปลาทับทิมที่นำมาเลี้ยง ควรหาซื้อจากฟาร์มที่มีความน่าเชื่อถือ หรือจากบริษัทผู้ผลิตพันธุ์ปลาโดยตรง นอกจากนั้น หากเกษตรกรมีการเลี้ยงจำนวนมาก และเป็นผู้มีความรู้ในด้านการเพาะขยายพันธุ์ปลา อาจทำการเพาะขยายพันธุ์ปลาเอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเรื่องพันธุ์ปลาลงได้มาก


ที่มา http://pasusat.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5...
https://www.youtube.com/watch?v=kK31Ch6-b5E
อ่าน:3408
กัญชา กัญชง: จากสิ่งต้องห้ามเป็นสิ่งต้องมี
กัญชา กัญชง: จากสิ่งต้องห้ามเป็นสิ่งต้องมี
กัญชานั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายมาเกือบร้อยปีในเกือบทุกประเทศทั่วโลก เนื่องด้วยสารที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาทในต้นกัญชา อย่างไรก็ตาม ด้วยประโยชน์ทางการแพทย์ของกัญชาที่นักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบันได้ค้นพบพืชสมุนไพรชนิดนี้ จึงกลายเป็นโอกาสใหม่ของนักธุรกิจ_ นักลงทุน_ ผู้บริโภค และผู้ป่วยทั่วโลก

ช่วงปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา หลังรัฐประกาศอนุญาตให้ภาคเอกชนไทยปลูกกัญชงได้ หุ้นไทยที่มีแผนทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชงได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ โดยประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่อนุญาตให้มีการปลูกทั้งกัญชงและกัญชา โดยกัญชงนั้นทางภาครัฐอนุญาตให้ภาคเอกชนมาขออนุญาตปลูกได้ ส่วนการปลูกกัญชานั้นยังคงจำกัดให้เพียงบางหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต เช่น โรงพยาบาล_ สถาบันการศึกษา และวิสาหกิจชุมชน

แม้ว่ากัญชาและกัญชงจะเป็นพืชที่คล้ายคลึงกันมาก เส้นแบ่งที่ชัดเจนที่สุดคือปริมาณสารที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท (tetrahydrocannabinol หรือ THC) โดยเหตุผลที่รัฐเปิดกว้างให้กับพืชกัญชงมากกว่านั้นเป็นเพราะกัญชงมีสาร THC น้อยจนไม่ก่อให้เกิดการนำมาสูบจนมึนเมาได้ ในขณะที่ในกัญชามีปริมาณ THC ในระดับที่สูงกว่าและเมื่อนำกัญชามาสูบแล้วจะมีสารออกฤทธิ์มึนเมา แต่สำหรับสารสำคัญที่ทำให้ทั้งกัญชาและกัญชงได้รับความนิยมเพื่อใช้ทางการแพทย์ คือสาร Cannabidiol หรือ CBD ซึ่งสามารถรักษาและบรรเทาโรคและอาการได้หลากหลาย เช่น โรคลมชัก_ พาร์กินสัน หรือแม้กระทั่งช่วยลดความทรมานจากการทำคีโมรักษามะเร็ง ประโยชน์ของ CBD นั้นมีหลายประการจนในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลกได้ทำการปลดล็อกให้กัญชงและกัญชาสำหรับใช้ทางการแพทย์ถูกกฎหมาย

นอกจากประโยชน์ด้านการแพทย์ของ CBD อีกสาเหตุที่นักลงทุนให้ความสนใจต่อการเข้ามาของธุรกิจกัญชงถูกกฎหมายนั้นก็เพราะกัญชาและกัญชงนับเป็นพืชที่มีมูลค่าสูงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก สำหรับเกษตรกรไทย ถ้าเลือกที่จะปลูกข้าวอาจมีรายได้เพียงหลักหมื่นต่อไร่ต่อปี ในขณะที่ปลูกกัญชงอาจได้ผลิตผล (โดยเฉพาะดอกกัญชงแห้งที่มีสาร CBD สูง) ที่มีมูลค่าหลักล้านบาทต่อไร่ต่อปี และการที่กัญชาเป็นพืชล้มลุก ระยะเวลา 1 การเก็บเกี่ยวประมาณสี่เดือน ทำให้ปีหนึ่งสามารถปลูกได้ถึง 1-3 รอบ ในขณะที่ผลไม้ยืนต้น เช่น ทุเรียน มังคุด สามารถเก็บเกี่ยวได้เพียงหนึ่งครั้งต่อปี

สำหรับภาพตลาดกัญชาทั่วโลก อ้างอิงข้อมูลจาก MarketsandMarkets ปี 2020 ตลาดกัญชาทั่วโลกมีขนาด 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์จะเติบโตได้ต่อเนื่องในอัตรา 28% ต่อปี จนมีขนาด 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2026 การเติบโตที่แข็งแกร่งนี้ก็จะมาจากการค่อยๆ ทยอยปลดล็อกกฎหมายกัญชาในแต่ละประเทศทั่วโลก และการเพิ่มการใช้ในประเทศที่กัญชาถูกกฎหมายอยู่แล้ว โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดของการบริโภคกัญชาถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งประเทศแคนาดาได้มีการออกกฎหมายให้กัญชาถูกกฎหมาย ทั้งการใช้เพื่อการแพทย์และสันทนาการไปแล้วตั้งแต่ปี 2018 ส่วนในประเทศอเมริกาแต่ละรัฐก็มีการทยอยแก้กฎหมายกัญชาอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาเดียวกันกับกระแสหุ้นกัญชงในประเทศไทย หุ้นกัญชาที่จดทะเบียนในอเมริกาก็ปรับตัวขึ้นอย่างมากเช่นกันตั้งแต่ต้นปี 2021 ได้แก่ Tilray ปรับตัวขึ้น 227%_ Aphria 192%_ Canopy Growth 37%_ Aurora 26% (หมายเหตุ: หุ้นสองตัวแรกขึ้นแรงเป็นพิเศษจากปัจจัยการควบรวมกันและจากการถูกดันโดยชาว Reddit) หลักๆ จากความหวังว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะแก้กฎหมายให้กัญชาถูกกฎหมายในระดับสหพันธรัฐ (Federal level) หรือหมายถึงกฎหมายที่บังคับใช้ทั่วประเทศอเมริกา จากที่ปัจจุบันการใช้กัญชายังถือเป็นความผิดทางอาญาระดับสหพันธรัฐ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแต่ละรัฐสามารถออกกฎหมายกัญชาแยกแตกต่างกันไปได้ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนียกัญชาถูกกฎหมายทั้งเพื่อใช้ในการแพทย์และเพื่อสันทนาการ ในขณะที่รัฐเพนซิลเวเนียกัญชานั้นถูกกฎหมายเฉพาะเพื่อการแพทย์ โดยปัจจุบันมีทั้งสิ้น 15 รัฐที่สามารถใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้ และ 34 รัฐที่สามารถใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้

X

แม้ว่าหุ้นกัญชาที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ โดยภาพรวมจะยังขาดทุนอยู่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงโดยเฉพาะค่า R&D แต่ถ้าการเติบโตของยอดขายมีอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถกำไรได้ในที่สุด โดยหุ้นกัญชาบางตัวก็เริ่มมี EBITDA เป็นบวกแล้ว (EBITDA คือ กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย)

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในธุรกิจกัญชาต่างประเทศก็ควรจะศึกษาในรายละเอียดเพื่อเพิ่มความรู้และความเข้าใจในธุรกิจ เลือกบริษัทที่ผู้บริหารมีความสามารถและมีศักยภาพในการเติบโต ประกอบกับเลือกหุ้นที่มูลค่าสมเหตุผล นอกจากนี้ ควรกระจายการลงทุนในหลายบริษัท ไม่ลงทุนกระจุกตัวจนเกินไปเพื่อลดความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละบริษัท นักลงทุนควรศึกษากฎระเบียบของตลาดที่จะลงทุนรวมถึงภาษี รวมถึงการเปิดบัญชี Broker ซื้อขายหลักทรัพย์ และการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน อีกทางเลือกหนึ่ง นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือ Exchange Traded Fund (ETF) ที่ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกัญชาหลายๆ ตัวไว้ด้วยกัน ตัวอย่างเช่น ETFMG Alternative Harvest ที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ยาสูบ และอื่นๆ ครอบคลุมถึงกัญชาเพื่อการแพทย์และสันทนาการ

ในอดีตนักลงทุนอาจจะมองว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติด แต่หากเรามองถึงประโยชน์ทางการแพทย์ของสาร CBD ในกัญชา การลงทุนในหุ้นกัญชาก็ไม่ต่างจากการลงทุนธุรกิจนวัตกรรมสุขภาพ ที่จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยนานาประเทศ

Reference: โดย ผู้จัดการออนไลน์
อ่าน:3408
โรคใบไหม้มันสำปะหลัง มันสำปะหลังใบไหม้ ฉีดพ่นด้วยไอเอส และบำรุงให้ฟื้นตัวได้รวดเร็ว ด้วย FK-1
โรคใบไหม้มันสำปะหลัง มันสำปะหลังใบไหม้ ฉีดพ่นด้วยไอเอส และบำรุงให้ฟื้นตัวได้รวดเร็ว ด้วย FK-1
โรคใบไหม้มันสำปะหลัง มันสำปะหลังใบไหม้ ฉีดพ่นด้วยไอเอส และบำรุงให้ฟื้นตัวได้รวดเร็ว ด้วย FK-1
โรคใบไหม้มันสำปะหลัง (Cassava Bacterial Blight : CBB)

เกิดจากเชื้อ Xanthomonas campestris pv. manihotis มีรายงานการพบครั้งแรกในประเทศบราซิลในปี 2455 หลังจากนั้นมีรายงานการแพร่ระบาดเกือบทุกประเทศที่มีการปลูกมันสำปะหลังทั้งทวีปเอเชียและลาตินอเมริกา ในประเทศไทยพบครั้งแรกที่จังหวัดระยอง เมื่อปี 2518 และต่อมาพบทั่วทุกภาค ระดับความเสียหายเนื่องจากโรคนี้มีตั้งแต่ 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อใช้ท่อนพันธุ์จากต้นที่เป็นโรคถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการเกิดโรคและใช้ต้นพันธุ์ที่เป็นโรคติดต่อกัน 3 ถึง 4 ปี โดยไม่มีการป้องกันกำจัด อาจมีความเสียหายถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ระดับความเสียหายจะขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์การใช้ท่อนพันธุ์ที่มีเชื้อปะปนมา (Contaminated cutting) ปลูกในแปลงและความเสียหายอาจรุนแรงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เมื่อมีเชื้อโรค เช่น เชื้อ Colletrotrichum spp. และ Choanephora cucurbitarum ร่วมเข้าทำลาย นอกจากจะทำความเสียหายกับผลผลิตโดยตรงแล้วยังทำให้ขาดแหล่งโปรตีนและไวตามินที่สำคัญสำหรับประชากรในบางประเทศ เนื่องจากคนเหล่านั้นรับประทานใบมันสำปะหลังแทนผัก ฉะนั้น โรคใบไหม้จึงมีความสำคัญเป็นอันดับ 1 ในแถบอัฟริกา และลาตินอเมริกา สำหรับประเทศทางแถบเอเชีย เช่น ประเทศจีน และประเทศไทย ความเสียหายจัดอยู่ในระดับปานกลาง

ลักษณะอาการเริ่มแรกของ อาการมันสำปะหลังใบไหม้ ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อรา

แสดงอาการใบจุดเหลี่ยมฉํ่านํ้า ใบไหม้ ใบเหี่ยว ยางไหลจนถึงอากยอดเหี่ยวและแห้งตายลงมา นอกจากนี้ยังทำให้ระบบท่อนํ้าอาหารของลำต้นและรากมันสำปะหลังเน่า


ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังที่เป็นโรค เป็นอีกสาเหตุ ที่ทำให้เกิดโรคใบไหม้ ควรคัดเลือกที่มาของท่อนพันธุ์ที่นำมาปลูก จากแปลงที่ไม่มีโรคระบาด

มันสำปะหลังจะแสดงอาการ คือ ยอดที่ผลิตใหม่ เหี่ยว มียางไหล และมีอาการแห้งตายจากยอดอย่างรวดเร็ว และแพร่ระบาดไปยังต้นข้างเคียง ซึ่งมักจะแสดงอาการเป็นจุดชํ้าเล็กที่ต้นแล้วแผลขยายใหญ่เปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลเข้มลุกลามเป็นแผลใหญ่ บางครั้งจะพบวงสีเหลือง (yellow halo) ลามเป็นใบไหม้ และใบร่วง ลำต้นแห้งตาย เมื่อผ่าดูระบบท่อนํ้าและอาหารทั้งของลำต้น และรากจะมีสีคลํ้า เนื่องจากเนื้อเยื่อของส่วนนี้ถูกทำลาย ในบางครั้งจะพบอาการยางไหลบนส่วนลำต้นที่ยังอ่อนหรือก้านใบ และแผลจุดบนใบ พบระบาดมากได้ในช่วงฤดูฝน

การแพร่ระบาดของโรคมันสำปะหลังใบไหม้ที่สำคัญ

คือ ติดไปกับท่อนพันธุ์ที่เป็นโรค แพร่กระจายไปโดยฝนหรือกับดิน หรือกับเครื่องมือที่ใช้ในการเกษตร เช่น มีดที่ใช้ในการตัดท่อนพันธุ์ ในบางประเทศมีรายงานว่า แมลงเป็นตัวการในการแพร่ระบาด เชื้อสาเหตุของโรคสามารถอยู่รอดในดินบนเศษซากพืชได้นานกว่า 2 ปี

การป้องกันกำจัด โรคมันสำปะหลังใบไหม้

1. ใช้พันธุ์ต้านทาน พันธุ์ที่แนะนำในปัจจุบัน มีความต้านทานต่อโรคปานกลาง

2. ใช้ท่อนพันธุ์ที่ปราศจากเชื้อ

3. ปลูกพืชอายุสั้นเป็นพืชหมุนเวียน หรือหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังในแปลงที่ระบาดรุนแรงนาน 6 เดือน

4. ใช้ชีววิธี (Biological control) การฉีดพ่นเชื้อบักเตรีเรืองแสง เช่น Pseudomonas fluorescens บนใบมันสำปะหลังพันธุ์ Mcol 22 ซึ่งอ่อนแอต่อโรคใบไหม้ ทำให้จำนวนจุดบนใบและจำนวนใบไหม้ต่อต้นลดลง และทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 2.7 เท่า

5. ฉีดพ่นด้วย ไอเอส เพื่อยังการเจริญเติบโตของเชื้อรา ไม่ให้ลุกลามแพร่ระบาด และหากให้พืชฟื้นตัวไว สามารถผสม FK-1 ฉีดพ่นไปด้วยพร้อมกัน

อ้างอิงข้อมูลจาก กรมวิชาการเกษตร
อ่าน:3408
การปลูกกัญชาถูกกฎหมาย ทำได้อย่างไร
ผู้ที่สนใจปลูกกัญชา ต้องปลูก เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ หรือศึกษาวิจัยและพัฒนา เท่านั้น โดยยื่นคำขออนุญาต ณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และต้องมีคุณสมบัติเป็น

หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด
แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง เภสัชกร แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน
สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีการสอนทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์
วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร โดยร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ หรือ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ในช่วง 5 ปีแรก นับแต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ (19 กุมภาพันธ์ 2562 – 2567) ผู้ขออนุญาตปลูกต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐดำเนินการร่วมกับผู้ขออนุญาตข้างต้น

สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นคำขออนุญาตปลูกกัญชา

ผู้ยื่นคำขอฯ ต้องไม่เคยมีประวัติการถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
สถานที่ปลูก มีเลขที่ตั้งและที่อยู่ชัดเจน มีระบบและมาตรการรักษาความปลอดภัย พื้นที่เพาะปลูกใช้วัสดุในการสร้างที่มีความมั่นคงแข็งแรงและปิดกั้นเพื่อป้องกันการเข้าถึงจากบุคคลภายนอก
** ต้องแสดงหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองของสถานที่ปลูก หรือหนังสือให้ความยินยอมจากผู้ให้เช่า หรือผู้ให้ใช้ที่ดิน ในกรณีขอเช่าหรือขอใช้ที่ดินของบุคคลอื่นในการเพาะปลูก **

สถานที่จัดเก็บ เมล็ดพันธุ์กัญชา ผลผลิตกัญชาที่ได้ภายหลังจากการเก็บเกี่ยว รวมถึงส่วนที่เหลือของกัญชาเพื่อรอทำลาย ควรมีมาตรการรักษาความปลอดภัย แยกเก็บเป็นสัดส่วนและไม่ปะปนกับวัตถุอื่นๆ

แผนการผลิต แผนการจำหน่าย และแผนการใช้ประโยชน์
วิธีการดำเนินการ เช่น รายละเอียดและแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์ วิธีการปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว ระยะเวลาในการดำเนินการ เป็นต้น
** รายละเอียดเพิ่มเติมตาม “แนวทางการปฏิบัติ ด้านการจัดเตรียมสถานที่ การเก็บรักษาและการควบคุมการใช้สำหรับ ผู้ขอรับอนุญาตปลูก ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา” และ “แนวทางการพิจารณาอนุญาตให้ปลูกกัญชา พ.ศ. 2563” จากเว็บไซต์ http://www.farmkaset..link.. **

หน้าที่ของผู้รับอนุญาตภายหลังได้รับอนุญาตแล้ว
ดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ป้องกันมิให้มีการรั่วไหลออกจากระบบการควบคุม และจัดทำรายงานและบัญชีรับ - จ่าย ตามแบบที่กฎหมายกำหนด


ประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชาได้หรือไม่
ปัจจุบันกฎหมายยังไม่ได้มีการอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปปลูกกัญชาได้เอง อย่างไรก็ตาม สามารถรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร โดยร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อขออนุญาตปลูกกัญชาได้ ทั้งนี้ กรณีปลูกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500_000 บาท ถ้าเป็นการกระทำเพื่อจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100_000 บาท ถึง 1_500_000 บาท


บทความโดย กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข


อ้างอิง: http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3408
แคลเซียม ช่วยเพิ่มผลผลิตและ ปรับปรุงดิน ได้อย่างไร
แคลเซียม ช่วยเพิ่มผลผลิตและ ปรับปรุงดิน ได้อย่างไร
สำหรับเกษตรกรมือใหม่ หรือผู้ที่เริ่มต้นปลูกพืชอาจจะไม่ทราบว่า พืชที่จะเจริญเติบโตได้ดี ออกผลผลิตได้มากและมีน้ำหนักดี จำเป็นจะต้องพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่า ธาตุอาหารในการเจริญเติบโต ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้หากพืชได้ไม่ครบก็อาจจะแสดงอาการผิดปกติบางประการออกมา หรืออาจจะถึงขั้นไม่สามารถดำรงชีพได้ครบวงจร ไม่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปและแน่นอนว่าอาจตายลงในที่สุด

ยกตัวอย่างธาตุอาหารจำเป็นสำหรับพืช เช่น

ไนโตรเจน (N) ช่วยให้พืชมีสีเขียว ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบ และลำต้น ทำให้ลำต้น และใบมีสีเขียวเข้ม ควบคุมการออกดอก และติดผลของพืช อีกทั้งเพิ่มปริมาณโปรตีนให้แก่พืช

ฟอสฟอรัส (P) ส่งเสริมการออกดอกและผล ติดเมล็ด การพัฒนาเมล็ดและผล เร่งการเจริญเติบโตของราก พร้อมช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคพืช และมีส่วนช่วยในการเร่งการสุกแก่ของผลให้เร็วขึ้น

โพแทสเซียม (K) ช่วยพืชสร้างอาหาร (สังเคราะห์แสง) และมีส่วนช่วยทำให้รากแข็งแรง ทำให้รากดูดน้ำ และธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทนทานต่อโรคแมลง อีกทั้งเพิ่มขนาดผลผลิต เมล็ด และช่วยเพิ่มคุณภาพของพืช ผัก และผลไม้ ทำให้พืชมีสีสัน เพิ่มขนาด และเพิ่มความหวาน

ซึ่งธาตุทั้งสามนี้ นับเป็นธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องการเพียงแค่นี้ ยังมีธาตุอาหารรองอีกหลายชนิดที่พืชเองก็ต้องการด้วยเช่นเดียวกัน โดยเราจะขอยกตัวอย่างหนึ่งในธาตุอาหารรองที่แสนจะสำคัญสำหรับพืช เพราะมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์ของพืช บริเวณเนื้อเยื่อเจริญทั้งที่ปลายยอด ปลายราก ใบอ่อน การแตกตาอ่อนของกิ่ง ของตาดอก และการเจริญของดอกและผลเป็นสำคัญ นั่นก็คือ ธาตุแคลเซียม นั่นเอง

ทำความรู้จัก “ธาตุแคลเซียมช่วยเพิ่มผลผลิต”

ธาตุแคลเซียม มีความสำคัญในการเป็นธาตุอาหารรองสำหรับพืช โดยจัดเป็นส่วนประกอบของสารที่เชื่อมเซลล์สองเซลล์ให้ติดกัน เรียกว่า แคลเซียมเพคเตต ช่วยคงสภาพโครงสร้างของเซลล์พืชให้ทำงานปกติ ช่วยการดูดซึมธาตุโพแทสเซียม ช่วยลดพิษของธาตุแมกนีเซียม ทำให้พืชดูดซึมธาตุแมกนีเซียมมากขึ้น และนำธาตุแมกนีเซียมไปสร้างคลอโรฟิลล์ แคลเซียมจึงเป็นธาตุอาหารที่มีความสำคัญในด้านที่ช่วยให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ

หน้าที่สำคัญของธาตุแคลเซียมในพืช

มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับโครงสร้างของผลไม้ คือ ช่วยเสริมสร้างเซลล์ และการแบ่งเซลล์ของพืช ซึ่งพืชต้องการอย่างต่อเนื่อง

ช่วยในการสร้างเซลล์และโครงสร้างของเซลล์ของพืช ช่วยให้เซลล์ติดต่อกัน และจะช่วยเชื่อมผนังเซลล์ให้เป็นรูปร่าง และขนาดให้เป็นไปตามลักษณะของพืชแต่ละชนิด ทำให้พืชแข็งแรง

ช่วยเพิ่มการติดผล

ช่วยให้สีเนื้อและสีผิวของผลสดใส

ช่วยลดการเกิดเนื้อของผลแข็งกระด้าง และเนื้อแฉะ

ช่วยป้องกันผลร่วง ผลแตก

มีบทบาทที่สำคัญในระยะการเจริญเติบโตและการออกดอกของพืช

มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการย่อยธาตุไนโตรเจน และช่วยให้พืชดูดไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นตัวช่วยลดการหายในของพืช ทำให้พืชเหี่ยวช้า

เป็นตัวช่วยเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล ทำให้ผักผลไม้มีรสชาติดี

ควบคุมการดูดน้ำเข้าไปในเซลล์พืช และป้องกันผลแตก

ทนทานต่อการเข้าทำลายของโรคและแมลง ไม่เน่าง่าย

วิธีการเติมแคลเซียมเพิ่มผลผลิตให้กับพืช

ปกติแล้วแคลเซียมนั้นเป็นธาตุที่ไม่เคลื่อนย้ายในพืช ดังนั้น การเพิ่มปริมาณแคลเซียมในดินเพื่อเพิ่มปริมาณแคลเซียมในผลไม้มักไม่ค่อยได้ผลดี การให้แคลเซียมที่ใบหรือผลโดยตรงดูจะเป็นวิธีการเพิ่มปริมาณแคลเซียมในผลที่ได้ผลที่สุด ซึ่งวิธีการเติมแคลเซียมเพิ่มผลผลิตให้กับพืชจะให้แคลเซียมช่วงก่อนการเก็บเกี่ยวโดยการฉีดพ่นที่ผลบนต้น โดยสามารถใช้ผสมรวมไปกับสารเคมีฆ่าแมลงและฉีดพ่นต้นตามปกติได้เลย หรือการให้แคลเซียมกับผลหลังการเก็บเกี่ยวโดยการจุ่มผล หรือแช่ผลในระบบสุญญากาศหรือให้ความดันพาสารละลายแคลเซียมเข้าไปในผล

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรคำนึงถึงปริมาณของแคลเซียมที่เหมาะสมเอาไว้ด้วย เพราะเกลือแคลเซียมบางชนิดอาจละลายน้ำได้ไม่ดี ถ้าหากความเข้มข้นของแคลเซียมไม่เหมาะสมอาจทำให้มีปริมาณแคลเซียมในผลไม่มากพอ หรือในทางตรงกันข้ามหากผลไม้ได้รับแคลเซียมมากเกินไปอาจทำให้ผลไม้เกิดความผิดปกติได้ ดังนั้น จึงควรนำแคลเซียมมาใส่ในน้ำส้มสายชูกลั่น (5%) 2 มิลลิลิตร ต่อสารละลาย 5 ลิตร เพื่อช่วยในการละลาย นอกจากนี้เกลือแคลเซียมในรูปต่างๆ อาจไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ และบางชนิดอาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติกับผลไม้ได้ จึงควรระมัดระวังในการใช้งาน

สรุป

จะเห็นได้ว่า พืชที่ได้รับแคลเซียมเพียงพอ โดยเฉพาะในส่วนของผลผลิต จะทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีอายุการเก็บรักษาได้นาน เป็นที่ต้องการของตลาด ในส่วนของการเพิ่มแคลเซียมให้พืชอย่างมีประสิทธิภาพนั้น นอกจากคำนึงถึงสภาพแวดล้อมดิน ที่มีความสมดุลของธาตุที่เมื่อเสริมธาตุแล้วจะทำให้พืชดูดซึมได้ดีแล้ว ควรคำนึงถึงวิธีการให้ธาตุอาหารด้วยการฉีดพ่นทางใบ หรือผลที่ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้อย่างทันท่วงทีร่วมด้วย

ข้อมูลจาก http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3408
กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่งด้วย ไอกี้ ปลอดภัย 490 บาท ฟื้นฟูบำรุง FK-T 890 บาท โปรฯซื้อคู่ เพียง 990 บาท
กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่งด้วย ไอกี้ ปลอดภัย 490 บาท ฟื้นฟูบำรุง FK-T 890 บาท โปรฯซื้อคู่ เพียง 990 บาท
ไอกี้ และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

หนอนกระทู้ผักเป็นแมลงที่มีพืชอาหารมากมาย พบทำลายทั้งในพืชผัก พืชไร่ และผลไม้ ในกรณีของหน่อไม้ฝรั่งการทำลายที่ก่อให้เกิดความเสียหายเกิดจากตัวโตกัดกินหน่อไม้ฝรั่งที่กำลังเติบโต ทำให้เกิดรอยแหว่งเป็นรูลึก และหน่อไม้ฝรั่งเสียคุณภาพ

ไอกี้ เป็นสารชีวินทรีย์ (ชีวภาพ) ปลอดภัย กำจัดหนอนต่างๆหลายชนิด
ขนาด 500 กรัม (แนะนำให้ใช้คู่กับ FK ธรรมชาตินิยม เพื่อเร่งฟื้นฟูบำรุง)
อัตราผสม 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอกี้ และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอกี้ 25 กรัม และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
อ่าน:3408
กำจัดเพลี้ย ใน มะม่วงหาว มะนาวโห่ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดเพลี้ย ใน มะม่วงหาว มะนาวโห่ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียม หรือที่รู้จักในชื่อแบรนด์ บิวทาเร็กซ์ เป็นสารกำจัดแมลงทางชีวภาพที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในมะม่วงหาว และมะนาวโห่ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นจากส่วนผสมของเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Metarhizium anisopliae ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการฆ่าแมลงกับศัตรูพืชหลากหลายชนิดรวมถึงเพลี้ย

เพลี้ยเป็นแมลงขนาดเล็กที่กินน้ำเลี้ยงของพืชและสร้างความเสียหายให้กับพืชผลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอันตรายต่อไม้ผล เช่น มะม่วงหาว และมะนาวโห่ เนื่องจากอาจทำให้ผลผลิตลดลง คุณภาพลดลง และอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ ยาฆ่าแมลงแบบดั้งเดิมที่ใช้ในการควบคุมเพลี้ยอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและยังส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย เช่น ผึ้งและแมลงที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นสำหรับตัวเลือกการควบคุมศัตรูพืชที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

Beauveria Mix Methharicium ยี่ห้อ Butarex เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแทนยาฆ่าแมลงแบบดั้งเดิม มันทำงานโดยการติดเชื้อเพลี้ยด้วยสปอร์ของเชื้อราที่เจาะเข้าไปในหนังกำพร้าและทำให้พวกมันตายภายในสองสามวัน จากนั้นเชื้อราจะขยายพันธุ์และแพร่กระจายต่อไป ทำให้เพลี้ยชนิดอื่นในบริเวณใกล้เคียงติดเชื้อ สิ่งนี้ทำให้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในไม้ผล

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมคือไม่เป็นพิษต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังปลอดภัยที่จะใช้กับผึ้งและแมลงที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ซึ่งจำเป็นต่อการผสมเกสรและสุขภาพโดยรวมของระบบนิเวศ ซึ่งหมายความว่าเกษตรกรสามารถผลิตพืชผลคุณภาพสูงต่อไปได้ในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

นอกจากความปลอดภัยและประสิทธิผลแล้ว โบเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมยังใช้งานง่ายอีกด้วย มาในขวดสเปรย์พร้อมใช้ที่สามารถนำไปใช้โดยตรงกับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบของต้นไม้ ควรฉีดพ่นในตอนเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ เมื่ออุณหภูมิเย็นลง เนื่องจากเป็นช่วงที่เพลี้ยจะเคลื่อนไหวมากที่สุด สิ่งสำคัญคือต้องฉีดพ่นให้ทั่วต้นไม้ รวมถึงด้านล่างของใบและปลายกิ่ง เพื่อให้ครอบคลุมทั่วถึง

สรุปได้ว่า บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธฮาริเซียม ตรา บิวทาเร็กซ์ เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ได้ผล และยั่งยืนสำหรับการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในมะม่วงหาว และมะนาวโห่ การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Metarhizium anisopliae ทำให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการควบคุมศัตรูพืชที่ปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์นี้ เกษตรกรสามารถผลิตพืชผลคุณภาพสูงต่อไปได้ในขณะที่ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่ แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
ปุ๋ยฉีดพ่นมันสำปะหลัง FK-1 คุณภาพสูง ลดต้นทุน 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ยฉีดพ่นมันสำปะหลัง FK-1 คุณภาพสูง ลดต้นทุน 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์



ผลผลิตของมันสำปะหลังสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างมากจาก การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ และวิธีปฏิบัติในการเพาะปลูกที่เหมาะสม
_
ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 มีธาตุอาหารที่จำเป็นหลายชนิด ทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมันสำปะหลัง และมีบทบาทสำคัญในการผลิตพืชที่สมบูรณ์แข็งแรง
_
ปุ๋ย FK-1 มาในกล่องที่มีน้ำหนัก 2 กก. บรรจุถุง 2 ถุง แต่ละถุงหนัก 1 กก. การใช้ปุ๋ยนี้จะต้องผสมกันในอัตราส่วนที่กำหนด สำหรับน้ำ 20 ลิตร ใช้ถุงแรก 50 กรัมและถุงที่สอง 50 กรัม กวนส่วนผสมจนกว่าปุ๋ยจะละลายในน้ำจนหมด
_
ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ทางใบของมันสำปะหลังโดยให้คลุมใบ วิธีการให้ปุ๋ยนี้เรียกว่าการให้อาหารทางใบ มีประสิทธิภาพสูงในการให้ธาตุอาหารแก่พืชอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สารลดแรงตึงผิวในปุ๋ยช่วยให้ใบดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ทำให้พืชได้รับประโยชน์สูงสุดจากปุ๋ย
_
การใช้ปุ๋ย FK-1 สามารถส่งผลให้ผลผลิตมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปุ๋ยให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ส่งผลให้พืชมีสุขภาพแข็งแรงและแข็งแรง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตของมันสำปะหลัง และปรับปรุงคุณภาพของหัว และขนาด และน้ำหนักได้
_
สรุปได้ว่าการปลูกมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตสูงสุดนั้น ต้องใช้ปุ๋ยและวิธีปฏิบัติในการเพาะปลูกที่เหมาะสม ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับชาวไร่มันสำปะหลัง เนื่องจากมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช การใช้ปุ๋ยนี้ทำให้ชาวไร่มันสำปะหลังสามารถเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพของพืชผลได้

http://ไปที่..link..
ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยในประเทศไทย
ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยในประเทศไทย
อ้อยเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย โดยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลอันดับหนึ่งของโลก แม้ว่าวิธีการปลูกอ้อยแบบดั้งเดิมมักจะใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของต้นอ้อย แต่การใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนก็มีประโยชน์หลายประการ

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของปุ๋ยอินทรีย์คือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปุ๋ยเคมีสามารถส่งผลเสียต่อดิน เช่น ลดจำนวนจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และเพิ่มความเสี่ยงของการพังทลาย ในทางตรงกันข้าม ปุ๋ยอินทรีย์ได้มาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยหมักหรือมูลสัตว์ ซึ่งช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินและความอุดมสมบูรณ์เมื่อเวลาผ่านไป

ข้อดีอีกอย่างของปุ๋ยอินทรีย์คือมักจะประหยัดกว่าปุ๋ยเคมี แม้ว่าการลงทุนครั้งแรกอาจสูงกว่า แต่ปุ๋ยอินทรีย์ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยนัก และสามารถช่วยลดต้นทุนโดยรวมของการปลูกอ้อยได้ในระยะยาว

นอกจากนี้ปุ๋ยอินทรีย์ยังสามารถปรับปรุงคุณภาพของต้นอ้อยได้ ปุ๋ยเคมีมักทิ้งรสชาติตกค้างไว้ในผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ในขณะที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่มีปัญหานี้ สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการขายอ้อยของตนไปยังตลาดระดับบนหรือเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์พิเศษ เช่น น้ำตาลออร์แกนิก

โดยรวมแล้ว การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยในประเทศไทยมีประโยชน์มากมายทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและผลกำไร แม้ว่าการเปลี่ยนจากการใช้ปุ๋ยเคมีอาจใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่ประโยชน์ระยะยาวก็คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกอ้อยอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
อ่าน:3408
3569 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 9 รายการ
|-Page 308 of 357-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ภาคใต้ เป็นที่ยอมรับทั้งภาครัฐและเอกชน
Update: 2563/06/20 11:31:06 - Views: 3467
เพลี้ยกัญชา กัญชาใบหยิก กัญชาใบจุด เป็นดวงเล็กๆ เพราะ เพลี้ยดูดกินน้ำเลี้ยงที่ใบ ใช้สินค้าจาก FK
Update: 2565/06/16 23:11:29 - Views: 3428
เตือน!! ระวังหนอนกินใบ ทำลาย ต้นแตงกวา ของคุณ ... สร้างเสียหายได้มาก จัดการได้อย่างไร?
Update: 2566/11/02 14:59:49 - Views: 3424
แตงโม โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ น้ำหนักดี ฉีดพ่น ปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
Update: 2566/03/29 15:30:47 - Views: 3502
ยารักษา บวบใบไหม้ โรคราน้ำค้างในบวบ โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/30 10:19:45 - Views: 3443
นาโนอะมิโน ฉีดพ่นได้หลายพืช เหม็น แต่.. ดี ส่งฟรีถึงบ้าน เก็บเงินปลายทาง สะดวกไม่ต้องโอน
Update: 2564/06/05 01:27:17 - Views: 3435
ลำไย โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ แข็งแรง ผลผลิตดี อะมิโนโปรตีนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด อะมิโนแรปเตอร์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/05 13:33:28 - Views: 3406
ท้าวเวสสุวรรณ สลักบนแผ่นเหล็กน้ำพี้ : พลังแห่งศรัทธา ปกป้องคุ้มครอง เสริมมงคล
Update: 2567/02/16 10:18:08 - Views: 3439
เพิ่มผลผลิตน้อยหน่า ด้วยการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ส่งเสริมผลผลิตได้ ในต้นทุนที่ไม่สูง
Update: 2566/11/08 06:59:28 - Views: 3437
เลี้ยงหมูป่า รายได้เดือนละแสนกว่าบาท หนุ่มพะเยา เพาะเลี้ยงหมูป่าเป็นอาชีพเสริม
Update: 2563/06/15 20:11:28 - Views: 3616
ยากำจัดเพลี้ยอ่อนคะน้า ยากำจัดหนอนในคะน้า ยาป้องกันกำจัด โรคคะน้าเน่าคอดิน โรคราน้ำค้างในคะน้า และปุ๋ยสำหรับเพิ่มผลผลิตคะน้า
Update: 2563/06/19 20:22:23 - Views: 3521
ผลักดันกฎหมาย กระจายถือครองที่ดิน ช่วยเกษตรกร-รายย่อย-แรงงาน
Update: 2564/03/24 22:13:07 - Views: 3396
ยากำจัด เพลี้ยชวนชม เพลี้ยอ่อนชวนชม เพลี้ยแป้งชวนชม เพลี้ยต่างๆ ฉีดพ่น มาคา
Update: 2564/09/29 02:16:15 - Views: 3483
ยากำจัดโรคใบจุดสีน้ำตาล ใน ชาเขียว โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/10 11:49:44 - Views: 3389
แช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังก่อนปลูกด้วย กู๊ดโซค น้ำยาแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง เร่งราก ป้องกันโรค สะสมอาหารในท่อนพันธุ์
Update: 2564/08/27 23:48:10 - Views: 4567
โรคดอกรัก ใบไหม้ ราน้ำค้าง ราสนิม ใบจุด ขาดธาตุอาหาร ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #ดอกรักใบไหม้ #ปุ๋ยดอกรัก
Update: 2564/11/03 03:38:11 - Views: 3414
ป้องกันกำจัดเพลี้ย น้อยหน่า เพลี้ยแป้งน้อยหน่า เพลี้ยน้อยหน่าต่างๆ
Update: 2566/10/25 20:51:23 - Views: 3413
มะม่วง ใบไหม้ ช่อดำ ใบจุด กำจัดโรคมะม่วง จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/18 10:32:20 - Views: 3449
ปุ๋ยสำหรับต้นกระท่อม ปุ๋ยเร่งต้นกระท่อม ปุ๋ยเร่งใบกระท่อม ส่งเสริมการเจริญเติบโต ฉีดพ่น FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/14 01:32:23 - Views: 3591
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในส้ม และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/04 09:21:38 - Views: 3402
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022