[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3562 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 2 รายการ

โรคใบจุดมันสำปะหลัง โรคราแป้ง โรคราต่างๆในมันสำปะหลัง เร่งป้องกันกำจัด ด้วย เมทาแลกซิล
โรคใบจุดมันสำปะหลัง โรคราแป้ง โรคราต่างๆในมันสำปะหลัง เร่งป้องกันกำจัด ด้วย เมทาแลกซิล
## โรครา: ภัยร้ายทำลายมันสำปะหลัง ป้องกันและฟื้นฟูได้ด้วย เมทาแลคซิล และ ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5

**มันสำปะหลัง** พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย เผชิญภัยคุกคามจาก **โรคราต่างๆ** โรคพืชที่สร้างความเสียหายร้ายแรง บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับโรคราต่างๆ วิธีการป้องกัน และวิธีการฟื้นฟูต้นมันสำปะหลังด้วย **เมทาแลคซิล** และ **ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5**

**โรคราที่พบในมันสำปะหลัง**

* **โรคราใบจุด** เกิดจากเชื้อรา Cercospora henningsii
* **โรคราแป้ง** เกิดจากเชื้อรา Erysiphe polygoni
* **โรครากเน่า** เกิดจากเชื้อรา Phytophthora spp.

**อาการ**

* **โรคราใบจุด**: ใบมีจุดสีน้ำตาล ขยายวงกว้าง แห้งตาย
* **โรคราแป้ง**: ใบมีราสีขาว คล้ายแป้ง
* **โรครากเน่า**: ต้นเหี่ยว ใบเหลือง รากเน่า

**สภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเกิดโรค**

* อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส
* ความชื้นสูง
* ฝนตกชุก

**วิธีป้องกัน**

1. เลือกพันธุ์มันสำปะหลังที่ต้านทานโรค
2. ปลูกมันสำปะหลังในแปลงที่มีการระบายน้ำดี
3. หลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไป
4. เก็บกวาดเศษซากพืชที่เป็นโรค นำไปเผาทำลาย
5. หมุนเวียนการปลูกพืช

**วิธีการกำจัด**

1. ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรค
2. **เมทาแลคซิล**: สารป้องกันกำจัดโรคกลุ่มอะมิด โปรโมเตอร์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา

**วิธีการใช้เมทาแลคซิล**

1. ผสมเมทาแลคซิลกับน้ำตามอัตราส่วนที่แนะนำ
2. ฉีดพ่นลงบนต้นมันสำปะหลัง
3. ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน

**การฟื้นฟูต้นมันสำปะหลัง**

1. **ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5**: ปุ๋ยสูตรเร่งโต ช่วยให้ต้นมันสำปะหลังฟื้นตัว
2. ธาตุอาหารเสริม: แมกนีเซียม แคลเซียม โบรอน
3. สารฮิวมัส: ช่วยปรับสภาพดิน

**การป้องกันและกำจัด โรคราต่างๆ** เป็นสิ่งที่เกษตรกรควรให้ความสำคัญ การใช้ **เมทาแลคซิล** ร่วมกับ **ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5** จะช่วยให้มันสำปะหลังของคุณปลอดภัยจากโรคราต่างๆ และ ฟื้นตัวกลับมามีผลผลิตที่ดี

**หมายเหตุ** ข้อมูลนี้เป็นเพียงการแนะนำเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนนำไปใช้


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset
อ่าน:3439
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เทคโนโลยีเพื่อความรุ่งเรืองและปลอดภัยของลำไย
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เทคโนโลยีเพื่อความรุ่งเรืองและปลอดภัยของลำไย
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เทคโนโลยีเพื่อความรุ่งเรืองและปลอดภัยของลำไย
การเพิ่มผลผลิตของลำไยไม่เพียงแค่ต้องพัฒนาพันธุกรรมของพืชเอง แต่ยังต้องให้คำแนะนำในการจัดการดินและสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช การใช้เทคโนโลยีฮิวมิค แอซิดที่มีคุณภาพ เช่น ฮิวมิค แอซิดจากยี่ห้อฟาร์มิค จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อฟื้นฟูระบบรากของลำไย ปรับปรุงโครงสร้างดิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ธาตุอาหาร

1. ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิค

ยี่ห้อฟาร์มิคเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีฮิวมิค แอซิดที่ได้รับความไว้วางใจจากเกษตรกรทั่วโลก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของฟาร์มิคถูกพัฒนาขึ้นจากวิจัยและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งมีฤทธิ์ที่จะช่วยให้ลำไยเติบโตแข็งแรงและมีผลผลิตที่ดีมากขึ้น

2. สารออกฤทธิ์ของฮิวมิค แอซิด

สารออกฤทธิ์ของฮิวมิค แอซิดมีหลายประการที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลำไย ซึ่งรวมถึง:

ฟื้นฟูระบบราก: สารสกัดจากฮิวมัส (Humus) ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากลำไย ทำให้ระบบรากเสถียรและสามารถดูดธาตุอาหารได้มากขึ้น

ปรับปรุงโครงสร้างดิน: ฮิวมิค แอซิดมีฤทธิ์ที่ช่วยในการกระตุ้นกระบวนการทางชีวภาพในดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีและมีสภาพพื้นที่ในการเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อลำไย

ช่วยในการระบายน้ำ: ฮิวมิค แอซิดช่วยลดปัญหาการขังน้ำในดิน ทำให้น้ำซึมผ่านดินได้ดีขึ้น ลำไยจึงไม่ต้องเผชิญกับปัญหาของการขังน้ำที่อาจทำให้รากเสียหาย

3. การใช้งานฮิวมิค แอซิดในการปลดปล่อยธาตุอาหาร

การใช้ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิคเป็นวิธีที่ดีในการปลดปล่อยธาตุอาหารจากดินให้แก่ลำไย ซึ่งสารออกฤทธิ์จะช่วยลดการยึดติดของธาตุอาหารในดินและทำให้พืชสามารถนำธาตุอาหารไปใช้ได้มากขึ้น

4. สร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง

การให้ฮิวมิค แอซิดในลำไยช่วยในการสร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ ทำให้ลำไยสามารถดูดธาตุอาหารและน้ำได้มากมาย ทำให้พืชเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

5. การใช้ฮิวมิค แอซิดในการฉีดพ่น

การใช้ฮิวมิค แอซิดในลำไยผ่านการฉีดพ่นเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถผสมน้ำกับฮิวมิค แอซิดตามอัตราที่แนะนำ แล้วฉีดพ่นทางใบของลำไย เพื่อให้สารสามารถดูดซึมเข้าสู่พืชได้ดี


การใช้ฮิวมิค แอซิดจากยี่ห้อฟาร์มิคเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับปรุงสภาพดินและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ธาตุอาหารสำหรับลำไย ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งานที่ระบุไว้ในฉลากหรือคู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link.. .
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3439
ยกเลิกกองทุนน้ำมัน แก้ไขปัญหาพลังงานอย่างยั่งยืนได้จริงหรือ??

 

หลังจากที่มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงคัดค้านการยกเลิกกองทุนน้ำมันออกมามากมาย จนทำให้หลายคน          เกิดความสงสัยกับเจ้ากองทุนน้ำมันว่ามันคืออะไร และถ้ายกเลิกไปแล้วมันจะทำให้อะไรๆ  ดีขึ้นจริงเหรอ วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อม กันนะครับ
                ก่อนอื่นผมขอเล่าประวัติความเป็นมาและประโยชน์ของกองทุนน้ำมันโดยย่อแล้วกันว่า กองทุนน้ำมันจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522 ประเทศไทยประสบกับวิกฤติราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจาก OPEC ประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบ 4 ครั้ง  ซึ่งรัฐบาลโดยพลเอกเกรียงศักดิ์  ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรีพยายามที่จะรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศให้มีเสถียรภาพไม่ต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศให้มีเสถียรภาพ ไม่ต้องปรับราคาขายปลีกตามราคาน้ำมันดิบทุกครั้งที่ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลง และต้องการรวมกองทุนต่างๆ ที่มีอยู่แล้วเข้าด้วยกัน     จึงได้อาศัยอำนาจพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ สร. 0201/9 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2522  จัดตั้ง กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งรวมกองทุนรักษาระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง กับกองทุนรักษาระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (เงินตราต่างประเทศ) เข้าด้วยกัน โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อใช้เป็นกลไกของรัฐในการป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศ ในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเดือดร้อน ของประชาชน น้อยที่สุด
                ในปี 2534 รัฐบาลได้ยกเลิกการควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน ก๊าด ดีเซลและเตา                             โดยเหลือเพียงก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ) ที่ยังคงมีการควบคุมราคาอยู่ ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จึ              งใช้ในการรักษาระดับราคาของก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นหลัก ซึ่งบทบาทนี้เองทำให้เกิดปัญหาการบิดเบือนราคาก็ชื่อมันก็บอกอยู่นี่ครับว่าเป็นกองทุนน้ำมัน เอาไปอุดหนุน LPG มันก็ดูจะผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อย แต่เอาหล่ะ ในเมื่อรู้แล้วว่าทำผิดกันมานาน ปล่อยไว้ปัญหาก็คงไม่จบไม่สิ้น หนทางที่ดีที่สุดคือการแก้ไขปัญหา     โดยใช้วิธีการลอยตัวก๊าซหุงต้มจึงส่งผลให้ก๊าซหุงต้มขึ้นราคา แต่ว่าขึ้นแบบทยอยขึ้นไม่ได้พรวดพราด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่สะสมมานานให้มันถูกต้องเข้าที่เข้าทางสักทีครับ
                 แต่ในเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป เรื่องพลังงานก็ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องการยกเลิกกองทุนน้ำมัน มีหลายสงสัยนะครับว่าการยกเลิกกองทุนน้ำมันนั้นมันสามารถทำให้น้ำมันราคาถูกลงได้จริงๆ เหรอ?? ตอบกันตามตรงก็จริงครับ  แต่...มันถูกลงแค่บางชนิด และน้ำมันบางชนิดก็จะปรับตัวสูงขึ้นด้วยครับ                            อาทิเช่น  เบนซิน 95 จะปรับลดลง 10.70 บาท จากปัจจุบันขายลิตรละ 48.75 บาท เหลือ 38.05 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 3.53 บาท เหลือ 37.20 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 1.28 บาท เหลือ 37 บาท  แต่ที่น่าตกใจคือ อี 85 ราคาจะเพิ่มขึ้น 12.41 บาท เป็น 37 บาทต่อลิตร ส่วนราคาแอลพีจีจะถูกลอยตัวโดยอัตโนมัติ โดยทุกภาคส่วน  ทั้งครัวเรือน ภาคขนส่ง ฯลฯ จะใช้ในราคาเดียวกัน    ดังนั้นผลกระทบที่จะตามมาคือ ผู้ใช้น้ำมันจะเลิกใช้ แก๊สโซฮอล์เพราะราคาไม่เป็นที่จูงใจ จะส่งผลอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการผลิต เอทานอล และเกษตรกร  จำนวนมากที่หันมาปลูกพืชพลังงานทดแทนตามการสนับสนุนของทุกรัฐบาล ที่ดำเนินงานมาเกือบ 9 ปี ต้องยุติลง เพราะที่ผ่านมามีการใช้เงินกองทุนน้ำมันฯไปสนับสนุนให้กับผู้ผลิตเอทานอล ที่นำมาผสมกับน้ำมันเบนซินกลายเป็นแก๊สโซฮอล์ ช่วยลดภาระการนำเข้าน้ำมันของประเทศ ตามนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ถือว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงที่ประชาชนหันมาใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อรู้ถึงข้อดีและข้อเสียจากการยกเลิกกองทุนน้ำมันแล้ว สิ่งที่เราต้องมองกันต่อไปก็คือ “อนาคต” ครับ สิ่งไหนที่ทำแล้วมันส่งผลกระทบต่ออนาคตน้อยที่สุด เราก็ควรเลือกวิธีนั้น แต่ทั้งนี้ก็สุดแท้แล้วแต่ประชาชนอย่างเราๆ ว่าจะสามารถตีโจทย์อันนี้ให้แตกได้หรือไม่ ถ้าตีโจทย์แตกแก้ปัญหาถูกก็ได้สบายระยะยาวไปถึงลูกถึงหลานกันเลยทีเดียวครับ

อ่าน:3439
12 อาการต้นไม้ขาดธาตุอาหาร พร้อมวิธีดูแลต้นไม้ให้ฟื้นคืนชีพ
12 อาการต้นไม้ขาดธาตุอาหาร พร้อมวิธีดูแลต้นไม้ให้ฟื้นคืนชีพ
เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราดูแลต้นไม้ รดน้ำเอาใจใส่ทุกวัน แต่พืชยังใบเหลือง ใบไหม้ ม้วนงอ หรือมีจุดสีน้ำตาลขึ้นตามใบ นั่นก็เพราะว่าต้นไม้ของเราขาดแร่ธาตุยังไงล่ะ

ในทีนี้เราได้กล่าวถึงอาการของต้นไม้ขาดธาตุอาหารไว้ 12 แร่ธาตุ ได้แก่ ไนโตรเจน (N)_ ฟอสฟอรัส (P)_ โพแทสเซียม (K)_ แมกนีเซียม (Mg)_ โมลิบดินัม (Mo)_ สังกะสี (Zn)_ ทองแดง (Cu)_ แมงกานีส (Mn)_ เหล็ก (Fe)_ กำมะถัน (S)_ แคลเซียม (Ca) และโบรอน (B) พร้อมทั้งวิธีดูแลต้นไม้เมื่อขาดแร่ธาตุนั้น ๆ

อ่านต่อ ที่ http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3439
ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ ..ทานตะวัน..
ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ ..ทานตะวัน..
ชื่อสมุนไพร ทานตะวัน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ชอนตะวัน(ภาคกลาง) _ บัวตอง _ บัวผัด (ภาคเหนือ) _ทานหวัน (ภาคใต้)_ ดอกกินตะเวน (ภาคอีสาน) หมากปังเจิญ (ไทยใหญ่) _ เซี่ยงยื่อขุย (จีนกลาง) _ เหี่ยวหยิกขุย (จีนแต้ติ๋ว)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Helianthus annuus Linn.
ชื่อสามัญ Sunflower _ Sunchoke
วงศ์ ASTERACEAE

ถิ่นกำเนิดทานตะวัน
ทานตะวันเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลางโดยเชื่อกันว่ามีการปลูกในประเทศ เม็กซิโก ตั้งแต่ 2600 ปี ก่อนคริสตกาลแล้ว แต่ก็มีข้อมูลในบางแหล่งระบุว่า ทานตะวันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทางตะวันตก ของสหรัฐอเมริกา โดยชาวอินเดียนแดงได้เก็บเมล็ดมาบริโภคเป็นเวลานานมากแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 300 - 400 ปีที่ผ่านมา ชาวยุโรปได้นำทานตะวันไปปลูกเป็นไม้ดอก ในยุโรป

จากนั้นทานตะวันจึงได้แพร่กระจายพันธุ์ไปยัง เขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยเชื่อกันว่าทานตะวันเข้ามาในประเทศในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวฝรั่งเศสนำมาปลูก และในปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในแถบภาคกลางบริเวณจังหวัด ลพบุรี และเพชรบูรณ์ เป็นต้น

ประโยชน์และสรรพคุณทานตะวัน
1.ช่วยขับปัสสาวะ
2.แก้ไอ
3.แก้ขับหนองใน ฝีฝักบัว
4.แก้ไข้หวัด
5.ใช้ลดไขมันในเส้นเลือด
6.แก้พิษแมลงป่อง
7.แก้อาการปวดท้องเสียดแน่นหน้าอก
8.แก้ฟกช้ำ
9.เป็นยาระบาย
10.ขับพยาธิไส้เดือน
11.ช่วยขับลม
12.ช่วยทำให้ตาสว่าง
13.แก้วิงเวียน
14.แก้อาการปวดหัว
15.แก้ปวดฟัน
16.แก้ปวดท้องโรคกระเพาะ
17.แก้ปวดประจำเดือน
18.แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
19.ใช้แก้โรคหืด
20.แก้เบาหวาน
21.แก้อาการหูอื้อ
22.ช่วยขับเสมหะ

ลักษณะทั่วไปทานตะวัน

ทานตะวันจัดเป็นไม้ล้มลุก สูง 2-4 เมตร ลำต้นตั้งตรงเป็นแกนแข็ง มีขนสากแข็งสีขาวปกคลุม โดยส่วนใหญ่ลำต้นจะไม่มีแขนง แต่บางพันธุ์ก็อาจมีการแตกแขนง ส่วนขนาดของลำต้นจะขึ้นอยู่กับพันธุ์และสภาพแวดล้อม รากเป็นระบบรากแก้วหยั่งลึกลงไปประมาณ 1-2.5 เมตร และมีรากแขนงแผ่ขยายไปด้านข้างยาวได้ถึง 1.5 เมตร เพื่อช่วยค้ำจุนลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกันตรงข้ามใบเป็นรูปกลมรึหรือรูปไข่ โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีขนแข็งสากทั้งสองด้าน ก้านใบยาว โดยขนานของใบจะกว้างประมาณ 8-25 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ส่วนสีของใบอาจเป็นสีเขียวอ่อน เขียว หรือเขียวเข้ม แล้วแต่ละพันธุ์ ซึ่งทานตะวัน 1 ต้นอาจมีใบได้ 8-70 ใบ เลยทีเดียว ดอก ออกเป็นดอกเดียวบริเวณปลายยอดลำต้น โดยเป็นรูปจานขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 6-37 เซนติเมตร (ซึ่งขึ้นกับพันธุ์และสภาพแวดล้อม) ดอกมีลักษณะเป็นแบบช่อดอกประกอบด้วยดอกย่อยเป็นจำนวนมาก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

ดอกย่อยที่อยู่รอบนอกจากดอก เป็นดอกที่ไม่มีเพศ (เป็นหมัน) มีกลีบดอกสีเหลืองส้ม
ดอกย่อยที่อยู่ในจานดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ที่พร้อมจะผสมได้ก่อนเกสรตัวเมีย ซึ่งกลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายแหลมมีสีเหลืองสด ส่วนด้านในคือช่อดอก มีลักษณะเป็นจาน ประกอบไปด้วยดอกขนาดเล็กจำนวนมาก กลางดอกมีเกสรสีน้ำตาลอมสีม่วงและภายในมีผลจำนวนมาก โดยในแต่ละจากดอกจะมีดอกย่อยอยู่ประมาณ 700 – 3000 ดอก
ผลเป็นรูปกลมรีและแบนนูน ด้านหนึ่งมน อีกด้านหนึ่งแหลม ผลมีขนาดประมาณ 6-17 มิลลิเมตร มีเปลือกหุ้มผลแข็ง เปลือกผลเป็นสีเทาเข้มหรือสีดำและเป็นลายในแนวตั้ง ภายในผลมีเมล็ดสีเหลืองอ่อน 1 เมล็ด ลักษณะรียาว

การขยายพันธุ์ทานตะวัน

ทานตะวันสามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีการใช้เมล็ด โดยมีการดังนี้ ก่อนอื่นควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่จะนำไปปลูกโดยควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่แก่จัดและเลือกจากต้นพันธุ์ที่แข็งแรงไม่มีโรค จากนั้นควรเตรียมดินในแปลงปลูกโดยไถดอนให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตรหรือลึกกว่านั้น เพราะว่าการไถดินลึกจะช่วยทำลายการอัดแน่นของดินในชั้นไถพรวน ทำให้น้ำซึมลงในดินชั้นล่างได้มากขึ้น และควรกำลัดวัชพืชในแปลงให้สะอาด และไถย่อยดินครั้งสุดท้ายให้ร่วนซุย และหลังจากเตรียมดินเสร็จแล้ว ควรทำร่องสำหรับหยอดเมล็ด โดยให้มีความห่างละร่อง 70-75 เซนติเมตร และให้หลุมปลูกในร่องห่างกัน 25-30 เซนติเมตรแล้วจึงทำการปลูกโดยหยอดเมล็ดลงไปหลุมละ 2 เมล็ด แล้วกลบดินโดยให้เมล็ดอยู่ลึก 5-8 เซนติเมตร จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มและหมั่นคอยรดน้ำตลอด เมื่อพืชงอกได้ 10 วัน หรือมีใบจริง 2-4 คู่ให้ถอนแยกเหลือไว้เฉพาะต้นที่แข็งแรงเพียงหลุมละ 1 ต้น

สำหรับการเก็บเกี่ยวทานตะวัน จะมีอายุการเก็บเกี่ยวแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก ซึ่งวิธีการเก็บเกี่ยวนั้นให้สังเกตจากด้านหลังของจานดอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นช่วงการสร้างน้ำมันในเมล็ดจะเริ่มลดลง และจะหยุดสร้างน้ำมันเมื่อจานดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จึงเริ่มเก็บเกี่ยวได้ หลังจากเก็บเกี่ยวให้นำไปผึ่งแดดจัดๆ 1-2 แดด โดยแขวนให้หัวห้อยลงและหมั่นกลับช่อดอก เพื่อให้ดอกแห้งอย่างสม่ำเสมอ

องค์ประกอบทางเคมี

มีผลการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีจากส่วนต่างๆ ของทานตะวันพบว่า ทั้งต้นพบมีสาร Earotenoids_ Glycocoll_ Seopoline Heliangine_ Quercimeritin_ Phospholipid Methionine_ Cryptoxanthin_ Tocopherol _Globulin ดอก พบสาร quercimeritrin_ triterpenoid saponins_ helianthoside A_ B_ C เป็นต้น กรดอินทรีย์ ได้แก่ oleanolic acid และ echinocystic acid อับเรณูของดอกส่วนใหญ่มี ß-sitosterol ในเมล็ดพบโปรตีน _ ออกไซด์คาร์บอเนต และน้ำมัน โดยในน้ำมันพบสาร Phospholipid_ Linolenic acid_ Glycerol oil_ Phosphatide_ และ B-Sitosterol ใบ พบสาร neochlorogenic acid_ isochlorogenic acid _chlorogenic acid _ 3-o-feruloylquinic acid_ 4-o-caffeoylquinic acid_ caffeic acid_ scopoline heliangine dicarboxylic acid tricarboxylic acid citric acid malic acid fumaric acid เปลือกเมล็ด พบสาร cellulose_ lignin_ pentosan ราก พบสาร cytokinin _ kinetin ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือน zeatin แกนของต้น พบสาร chlorogenicacid_ scopo nine_ 4-o-caffeoylquinic acid_ neochlorogenic acid

นอกจากนี้ในเมล็ดทานตะวันยังมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดทานตะวันแห้ง ต่อ 100 กรัม

พลังงาน 490กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 38.6กรัม
โปรตีน 16.7กรัม
ไขมัน 32.8กรัม
ใยอาหาร 3.7กรัม
วิตามินเอ 50 หน่วยสากล
วิตามินบี 1 1.480 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.07มิลลิกรัม
วิตามินบี 2.4มิลลิกรัม
วิตามินบี 5 1.130 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 1.345 มิลลิกรัม
วิตามินบี 9 227 ไมโครกรัม
วิตามินซี 1.4 มิลลิกรัม
วิตามินอี 35.17 มิลลิกรัม
แคลเซียม 92มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 5.8มิลลิกรัม
ธาตุแมกนีเซียม 325 มิลลิกรัม
ธาตุแมงกานีส 1.950 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 632มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 645 มิลลิกรัม
โครงสร้างทานตะวัน

ที่มา : Wikipedia

รูปแบบและขนาดวิธีใช้

ใช้ขับปัสสาวะ โดยใช้แกนต้น 15 กรัม ต้มน้ำกิน หรือรากสด 15- 30 กรัม คั้นน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้งกินแก้อาการช่วยขับปัสสาวะขุ่นขาว ขับปัสสาวะ ให้ใช้แกนกลางลำต้น ยาวประมาณ 60 ซม. (หรือประมาณ 15 กรัม ) และรากต้นจุ้ยขึ้งฉ่ายราว 60 กรัม ใช้ต้มคั้นเอาน้ำ หรือใช้ผสมกับน้ำผึ้งรับประทาน แก้อาการบิดมูกเลือด ให้ใช้เม็ดประมาณ 30 กรัม ใส่น้ำตาลเล็กน้อย ต้มน้ำนานราว 60 นาที แล้วใช้ดื่ม แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ นิ่วในไต ใช้แกนต้นยาว 2 ฟุต ต้มน้ำ กินวันละครั้ง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ติดต่อกัน หรือใช้รากสด 30 กรัม ต้มน้ำกิน แก้อาการปวดหัว ตาลาย ใช้ฐานรองดอกที่แห้งแล้ว ประมาณ 25- 30 กรัม นำมาตุ๋น กับไข่ 1 ฟอง รับประทานหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง ใช้ปวดท้องน้อยก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ใช้ฐานรองดอก 30- 60 กรัม ต้มน้ำแล้วเติมน้ำตาลแดง 30 กรัมกิน ลดความดันโลหิต ให้ใช้ใบสด 60 กรัม (แห้ง 30 กรัม ) และโถวงู่ฉิกสด 60 กรัม (แห้ง 30 กรัม ) นำมาต้มเอาน้ำรับประทาน แก้ไอกรน ให้ใช้แกนกลางลำต้นโขลกให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับน้ำตาล ทรายขาว ชงด้วยน้ำร้อนรับประทาน ขับพยาธิไส้เดือน ให้ใช้รากสดประมาณ 30 กรัม เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย ต้มน้ำรับประทาน แก้อาการปวดฟัน ให้ใช้ดอกที่แห้งแล้ว ประมาณ 25 กรัม นำมาสูบเหมือนยาสูบ หรือใช้ฐานรองดอก 1 อัน พร้อมรากเก๋ากี้ นำมาตุ๋นกับไข่รับประทานก็ได้ ฝีฝักบัว ฝีเป็นหนองมาก ใช้ฐานรองดอกคั่ว บดเป็นผงผสม น้ำมันงาทา แผลมีเลือดออก ใช้แกนต้นตำพอก แก้ไอ คั่วเมล็ดให้เหลืองทำเป็นยาชงดื่ม หูอื้อ ใช้เปลือกเมล็ด 10-15 กรัม ต้มน้ำกิน


การศึกษาทางเภสัชวิทยา

มีผลการศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาจากส่วนต่างๆ ของทานตะวันหลายฉบับทั่วในประเทศไทยและต่างประเทศ พบว่ามีฤทธิ์ต่างๆ ดังนี้

ฤทธิ์ลดไขมันในเลือด มีการศึกษาถึงการทดลองในการลดไขมันในเลือดของเมล็ดทานตะวันในหนูขาวทดลอง โดยได้ทำการทดลองนานถึง 9 สัปดาห์ ด้วยการกระตุ้นให้หนูขาวเป็นเบาหวาน โดยให้ Alloxan แล้วจึงทำการป้อน น้ำมันดอกทานตะวัน ผลการทดลองพบว่าหนูทดลองมีปริมาณไขมันในเลือดมีระดับลดลง

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาทางคลินิกในการลดไขมันในเลือดของน้ำมันเมล็ดทานตะวันในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนจำนวน 14 คน โดยทำการทดลอง 28 วัน ซึ่งแบ่งกลุ่มการทดลองออกเป็น 3กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มควบคุม ส่วนกลุ่มที่สองให้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมันเมล็ดทานตะวัน และกลุ่มสามคือกลุ่มที่ให้อาหารไขมันสูง ภายหลังการทดลองพบว่ากลุ่มที่สองมีระดับคอเลสเตอรอลลดลงแตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ฤทธิ์ลดความดันโลหิต มีการศึกษาทดลองฤทธิ์ลดความดันโลหิตโดยใช้สารสกัดน้ำจากดอกทานตะวันทดลองกับกระต่ายด้วยวิธีการฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ พบว่าจะทำให้ความดันโลหิตต่ำและกระตุ้นการหายใจ นอกจากนี้เมื่อนำมาหยอดลงบริเวณใบหูของกระต่ายก็ว่าทำให้เส้นเลือดขยายตัวขึ้น และยังทำให้การบีบตัวของลำไส้เล็กเพิ่มขึ้นอีกด้วย

และยังมีการทดลองทางคลินิก โดยใช้ฐานรองดอกแห้ง 45 กรัม บดเป็นผง และทำเป็นยาน้ำเชื่อม 100 มล. ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง จำนวน 10 ราย โดยให้กินครั้งละ 20 มล. วันละ 3 ครั้ง ผลปรากฏว่าหลังจากรักษาแล้ว 2 เดือนแล้ว สังเกตอาการพบว่าอาการดีขึ้น 4 ราย ดีขึ้นเล็กน้อย 4 ราย ไม่ได้ผล 2 ราย (รายหนึ่งแพ้ยาทำให้โรคกำเริบ แต่ภายหลังมีอาการดีขึ้น) สำหรับรายที่ได้ผล ความดันโลหิตจะเริ่มลดลงภายใน 1 สัปดาห์ และไม่มีอาการข้างเคียง

นอกจากนี้ทานตะวันยังมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาต่างๆ อีกเช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยังยั้งมะเร็ง ขับปัสสาวะและกลีบของดอกทานตะวันยังมีสาร triterpene glycosides ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในหนูทดลองได้อีกด้วย

การศึกษาทางพิษวิทยา

มีรายงานการทดสอบความเป็นพิษพบว่าสารสกัดของทานตะวันจากส่วนที่อยู่เหนือดินด้วย 50% เอทานอล มีค่า LD50มากกว่า 1.0 กรัมต่อกิโลกรัมเมื่อทำการฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูถีบจักร ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยสูง

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

ในการใช้ทานตะวันเป็นสมุนไพรควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับการใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ในปริมาณที่พอดีที่ได้ระบุไว้ในตำรับ ตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือใช้ติดต่อกันนานจนเกินไปเพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำ ก่อนจะใช้ทานตะวันเป็นสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาโรคต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ข้อมูลรูปภาพจาก http://ไปที่..link..
อ่าน:3439
หนอนแครอท หนอนนกแครอท หนอน ศัตรู แครอท ป้องกัน กำจัด ไอกี้ บีที จาก FK
หนอนแครอท หนอนนกแครอท หนอน ศัตรู แครอท ป้องกัน กำจัด ไอกี้ บีที จาก FK
หนอนแครอท หนอนนกแครอท หนอน ศัตรู แครอท ป้องกัน กำจัด ไอกี้ บีที จาก FK
ป้องกัน กำจัด หนอนแครอท หนอนต่างๆ ใช้

ไอกี้-บีที

อัตราการผสมใช้

25กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร หรือ 250กรัม ต่อน้ำ 200ลิตร

ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3 วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง

การผสม FK ธรรมชาตินิยม ฉีดพ่นไปด้วยพร้อมกัน จะช่วยให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของ โรค และ แมลงศัตรูพืช ได้เร็วยิ่งขึ้น
อ่าน:3439
การป้องกันกำจัด โรคมะนาว แคงเกอร์ ราดำ กรีนนิ่ง โรคยางไหล รากเน่าโคนเน่า
การป้องกันกำจัด โรคมะนาว แคงเกอร์ ราดำ กรีนนิ่ง โรคยางไหล รากเน่าโคนเน่า
อ่านที่ http://www.farmkaset..link..
#โรคแคงเกอร์ #โรคมะนาว #โรคกรีนนิ่ง #โรคราดำมะนาว
อ่าน:3439
ยาป้องกันกำจัด รักษา โรคแอนแทรคโนสในกาแฟ
ยาป้องกันกำจัด รักษา โรคแอนแทรคโนสในกาแฟ
โรคแอนแทรคโนสกาแฟ สาเหตเกิดจากเชื้อรา Glomerella cingulataแบบใช้เพศ (teleemorph) หรือเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides แบบไม่..
อ่านที่ http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3439
ดอกเยอบีร่า รากเน่า โคนเน่า ราแป้ง กำจัดโรคดอกเยอบีร่า จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช) โดย FK
ดอกเยอบีร่า รากเน่า โคนเน่า ราแป้ง กำจัดโรคดอกเยอบีร่า จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช) โดย FK
ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

โรคราแป้ง เกิดจากเชื้อรา Oidiopsis sp. โดยพบเส้นใยและสปอร์สีขาวของเชื้อราปกคลุมอยู่ด้านหลังใบและท้องใบ เมื่ออาการรุนแรงใบจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ-ดำ มักพบในช่วงที่บรรยากาศมีความชื้นสัมพัทธ์สูง

โรครากเน่า-โคนเน่า ที่เกิดในเยอบีร่า เกิดจากเชื้อรา Sclerotium rofsii โดยอาการเริ่มแรกต้นจะเหี่ยว พอรุ่งเช้าจะฟื้นและกลับเหี่ยวอีกในตอนสายๆ ซึ่งเป็นเช่นนี้ประมาณ 2-3 วัน ต้นก็จะเหี่ยวโดยสิ้นเชิงและตายในที่สุด เมื่อถอนต้นขึ้นมาจะพบโคนต้นและรากเน่าเปื่อย

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย การควบคุมประจุไฟฟ้า สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ธาตุแคลเซียม - CALCIUM สำคัญ และเป็นพระโยชน์ต่อพืชเป็นอย่างมาก เสริมแคลเซียมด้วย FK-1
ธาตุแคลเซียม - CALCIUM สำคัญ และเป็นพระโยชน์ต่อพืชเป็นอย่างมาก เสริมแคลเซียมด้วย FK-1

หน้าที่สำคัญของธาตุแคลเซียมในพืช
มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับโครงสร้างของผลไม้
ช่วยเสริมสร้างเซลล์และการแบ่งเซลล์ของพืช ซึ่งพืชต้องการอย่างต่อเนื่อง
ช่วยในการสร้างเซลล์และโครงสร้างของเซลล์ของพืช
ช่วยให้เซลล์ติดต่อกัน และจะช่วยเชื่อมผนังเซลล์ให้เป็นรูปร่าง และขนาดให้เป็นไปตามลักษณะของพืชแต่ละชนิด
ช่วยเพิ่มการติดผล
ช่วยให้สีเนื้อและสีผิวของผลสดใส
ช่วยลดการเกิดเนื้อของผลแข็งกระด้าง และเนื้อแฉะ
ช่วยป้องกัน ผลร่วง ผลแตก
มีบาทบาทที่สำคัญในระยะการเจริญเติบโตและการออกดอกของพืช
มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการย่อยธาตุไนโตรเจน
เป็นตัวช่วยลดการหายในของพืช
เป็นตัวช่วยเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล
.
การแสดงอาการของพืชที่ขาดธาตุแคลเซียม
ใบอ่อนที่แตกออกมาใหม่จะหดสั้นและเหี่ยว แม้ว่าใบเก่าจะมีธาตุแคลเซียมอยู่ เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายจากใบเก่าสู่ใบใหม่
ใบอ่อนที่ขาดธาตุแคลเซียมจะมีสีเขียวแต่ปลายใบจะเหลือง และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและจะตายในที่สุด
ถ้าขาดธาตุแคลเซียมที่บริเวณขั้วหรือข้อต่อของผลจะทำให้เกิดแก๊สเอธีลีน(Ethylene) เป็นเหตุให้ผลร่วง
พืชหลายชนิดที่ขาดธาตุแคลเซียม เช่น มะเขือเทศ แตงโม พริก แตงกวา จะเกิดการเน่าที่ส่วนล่างผล,
ในผักขึ้นฉ่ายจะแสดงอาการไส้ดำ, ในแครอดจะแสดงอาการฟ่ามที่หัว, ในแอปเปิลจะมีรสขม,
ในมันฝรั่งจะแสดงอาการเป็นสีน้ำตาลบริเวณกลางหัว,
ในพืชลงหัวต่าง ๆ เช่น ผักกาดหัว(หัวไชเท้า) หอม กระเทียม จะแสดงอาการไม่ลงหัว หรือลงหัวแต่หัวจะไม่สมบูรณ์
ในพืชไร่ ต้นจะแตกเป็นพุ่มแคระเหมือนพัด
แสดงอาการที่ราก คือ รากจะสั้น โตหนามีสีน้ำตาล ดูดอาหารไม่ปกติ
ในระยะพืชออกดอก ติดผล ถ้าพืชขาดธาตุแคลเซียม ตาดอกและกลีบดอกจะไม่พัฒนา ดอกและผลจะร่วง
.
สภาพแวดล้อมที่พืชขาดธาตุแคลเซียม
ในดินที่มีค่าของความเป็นกรดเป็นด่าง(pH) ระหว่าง 4.0-7.0 และ 8.5 ขึ้นไป
เมื่อให้ธาตุไนโตรเจนมาก
เมื่อให้ธาตุโพแทสเซียมมาก
เมื่อพืชแตกใบอ่อน แม้ว่าใบแก่จะมีธาตุแคลเซียม ทั้งนี้เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายในพืช
เมื่อพืชแตกใบอ่อนต้องให้ธาตุแคลเซียมอยู่เสมอ
ธาตุแคลเซียมจะมีความสมดุลกับธาตุโบรอนและธาตุแมกนีเซียมในพืช ถ้าไม่มีความสมดุลระหว่างธาตุทั้ง 3 ชนิด พืชจะแสดงอาการผิดปกติ
ธาตุแคลเซียมจะสูญเสียไปในดิน กลายเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งพืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้
ในดินที่เป็นกรด จะตรึงธาตุแคลเซียมไว้ ทำให้พืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้

.

ปุ๋ยน้ำ FK-1 เข้มข้น สำหรับเร่งการเจริญเติบโตพืช เสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรง
ปุ๋ยน้ำ FK-1 หรือ เอฟเค-วัน ใช้ฉีดพ่นทางใบ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต เพิ่มความเขียว และสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคและแมลง

.

ในหนึ่งกล่อง ประกอบด้วยปุ๋ยบัวแก้ว 1 ถุง และเควัน 1 ถุง บรรจุถุงละ 1,000 กรัม รวมน้ำหนัก 2,000 กรัม
- ถุงแรก บัวแก้ว คือธาตุหลัก N-P-K ในสูตร​ 20-20-20 ทำหน้าที่ เร่ง ต้น ดอก ผล เพิ่มความเขียว เร่งการเจริญเติบโต ทำให้พืชโตไว เขียว ให้ผลผลิตดี
- ถุงที่สอง K-1 คือ ธาตุรอง ธาตุเสริม และสารจับใบ ลดแรงตรึงผิว ทำให้ ปุ๋ยธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม เกาะใบพืชและซึ่มเข้าในใบพืชได้เป็นอย่างดี พืชจึงได้รับธาตุอาหารเต็มที่ ส่วน ธาตุรอง ธาตุเสริมนั้น จะช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ให้กับพืช เมื่อพืชสมบูรณ์แข็งแรง จึงมีภูมิต้านทางต่อโรคและแมลงสูงขึ้นนั่นเอง

.

การผสมใช้
ผสม ถุงแรก บัวแก้ว 50 กรัม ถุงที่สอง K-1 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ
ผสม ถุงแรก บัวแก้ว 500 กรัม ถุงที่สอง K-1 500 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร
คนให้เข้ากันและฉีดพ่นทั่วแปลงพืช เพื่อเร่งการเจริญเติบโต
*หมายเหตุ 50 กรัม เท่ากับ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

.

สนใจ โทรสั่งซื้อ 090-592-8614

ไลน์ไอดี FarmKaset หรือ ไอดี PrimPB

สั่งทางเฟสบุ๊คได้เช่นกัน https://www.facebook.com/farmkaset

หรือลาซาด้า https://www.lazada.co.th/products/fk-1-i512689-s591186.html

อ่าน:3439
3562 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 2 รายการ
|-Page 169 of 357-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
การใช้คาร์รอน (Diuron 80% WG) เพื่อควบคุมวัชพืชในไร่ข้าวโพด
Update: 2567/02/13 09:22:09 - Views: 3577
การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นเพิ่มประสิทธิภาพในการเลี้ยงแตงโม: สู่การผลิตที่โตไว รากแข็งแรง และใบสวยงาม
Update: 2566/11/24 14:38:53 - Views: 3441
การรับมือกับโรคที่เกิดจากเชื้อราในฟักเขียว: การป้องกันและการจัดการเพื่อผลผลิตที่สมบูรณ์
Update: 2566/11/24 09:17:41 - Views: 3457
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค: การปลดปล่อยธาตุอาหารแบบชั้นพรีเมียมเพื่อสุขภาพดีของมะเขือ
Update: 2567/02/13 09:33:15 - Views: 3421
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนแมลงวันทอง ใน น้อยหน่า และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/09 12:23:38 - Views: 3428
แจกสูตร หมูสวรรค์ หมูหวาน หมูนุ่มไม่แข็งกระด้าง เมนูทำขายสร้างอาชีพ !
Update: 2565/09/12 14:39:44 - Views: 3432
ยารักษาโรคพืช กำจัดโรคใบไหม้ ใน มะเขือเทศ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด(ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/05/31 10:29:32 - Views: 3420
กำจัดเพลี้ย เพลี้ยอ่อน แมลงศัตรูพืช เชื้อบิวเวอร์เรีย ผสม เชื้อเมธาไรเซียม บิวทาเร็กซ์ ปลอดภัยเพาะเชื้อจาก Lab 100%
Update: 2566/07/15 11:52:50 - Views: 3410
อะมิโนโปรตีนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด อะมิโนแรปเตอร์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/20 15:22:19 - Views: 3603
โรครากเน่าโคนเน่าในต้นส้มเขียวหวาน: สาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันและรักษา
Update: 2566/11/08 09:46:10 - Views: 3373
มะละกอผลเน่า มะละกอใบไหม้ ราขาวมะละกอ ราดำมะละกอ ควบคุม ป้องกันกำจัด ก่อนโรคจะสร้างความเสียหาย
Update: 2566/11/04 19:44:55 - Views: 9562
คำนิยม : โรคเชื้อรา ในกุหลาบ ขอบคุณลูกค้าท่านนี้ ที่สั่งซื้อต่อเนื่อง และช่วยโพสลงกลุ่มกุหลาบให้ค่ะ
Update: 2564/07/01 07:46:29 - Views: 3411
ระวัง !! โรคใบจุด ใบไหม้ ใบเหลือง ในผักคะน้า สร้างเสียหายได้มาก ป้องกันได้อย่างไร?
Update: 2566/10/31 15:45:52 - Views: 3465
กะเจี๊ยบเขียว โตไว ใบเขียว แข็งแรง ผลผลิตดี อะมิโนโปรตีนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด อะมิโนแรปเตอร์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/07 15:11:23 - Views: 3395
กล้วย ใบไหม้ ใบจุด โรคตายพลาย ราแป้ง รากเน่า โรคราต่างๆ กำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟูด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/04/04 11:24:46 - Views: 3505
เร่งการออกดอกและแตกราก ด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO
Update: 2567/02/12 14:02:42 - Views: 3409
ยากำจัดโรครากเน่า โคนเน่า ใน มะละกอ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/01 14:58:39 - Views: 3419
โรคราน้ำค้าง
Update: 2564/08/10 05:02:30 - Views: 3492
เลี้ยงหมูป่า รายได้เดือนละแสนกว่าบาท หนุ่มพะเยา เพาะเลี้ยงหมูป่าเป็นอาชีพเสริม
Update: 2563/06/15 20:11:28 - Views: 3602
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยอ่อน ในดอกกุหลาบ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/11 12:48:01 - Views: 3401
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022