ปาล์มน้ำมัน:...
👤
โดย: ผู้ดูแล
📅
2025-10-01 07:22:52
🌐
180.180.26.114
ปาล์มน้ำมัน: การควบคุมสรีรวิทยาการออกทะลายและการสะสมกรดไขมัน – บทบาทของโพแทสเซียมและโบรอน
ปาล์มน้ำมัน (Elaeis guineensis) เป็นพืชน้ำมันที่สำคัญที่สุดของโลกและของไทย โดยให้ผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบซึ่งใช้ทั้งด้านอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานชีวภาพ การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพน้ำมันปาล์มจึงเป็นประเด็นที่นักวิจัยและเกษตรกรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ปัจจัยสำคัญที่กำหนดทั้ง จำนวนทะลาย ความสมบูรณ์ของการติดผล และปริมาณน้ำมันในเนื้อผล (mesocarp) คือความสมดุลของธาตุอาหาร โดยเฉพาะ โพแทสเซียม (K) และ โบรอน (B)
---
บทบาทของโพแทสเซียม (K)
โพแทสเซียมจัดเป็นธาตุอาหารหลักที่มีความต้องการสูงในปาล์มน้ำมัน และมีบทบาทสำคัญต่อหลายกระบวนการ ได้แก่
* การเคลื่อนย้ายคาร์โบไฮเดรต (carbohydrate translocation) → K ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนย้ายน้ำตาลซูโครสจากใบไปยังทะลาย ทำให้ผลสามารถสะสมกรดไขมันได้มากขึ้น
* การควบคุม osmotic regulation → ช่วยให้เซลล์ mesocarp ขยายตัวได้ดี รักษาสมดุลน้ำภายในเนื้อผล
* การกระตุ้น enzyme activity ในเส้นทาง fatty acid biosynthesis เช่น acetyl-CoA carboxylase และ fatty acid synthase ส่งผลต่อการสร้างกรดปาล์มิติก (C16:0) และกรดโอเลอิก (C18:1)
ผลการศึกษาของ Fairhurst & Härdter (2003) ชี้ว่า การขาด K ทำให้ทะลายมีน้ำหนักน้อยลง และเนื้อผลสะสมกรดไขมันไม่สมบูรณ์
---
บทบาทของโบรอน (B)
โบรอนแม้ต้องการในปริมาณน้อย แต่มีความจำเป็นต่อ การออกดอก การผสมเกสร และการติดผล ของปาล์มน้ำมันอย่างยิ่ง
* การเจริญของหลอดละอองเกสร (pollen tube growth) → B มีผลต่อการยืดตัวและการส่งผ่านนิวเคลียสเพศไปยังออวุล ทำให้การผสมเกสรมีประสิทธิภาพ
* การสร้าง cell wall และ middle lamella → B เป็นองค์ประกอบสำคัญของ pectin ทำให้ผนังเซลล์ mesocarp แข็งแรง ลดการหลุดร่วงของผลก่อนกำหนด
* การกระตุ้น metabolic flux → มีหลักฐานว่า B ส่งเสริมการสะสมไขมันในผลปาล์มโดยทำงานร่วมกับ K ในการเคลื่อนย้ายคาร์โบไฮเดรต
งานวิจัยของ Sundram et al. (2012) พบว่า การขาดโบรอนทำให้ปาล์มน้ำมันเกิด crown deformity ทะลายเล็ก และอัตราการติดผลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
---
พลวัตการออกทะลายและสะสมกรดไขมัน
การเกิดดอกของปาล์มน้ำมันสัมพันธ์กับการสะสม คาร์โบไฮเดรตในใบ และความพร้อมของ K และ B ในดิน การจัดการธาตุอาหารที่สมดุลในช่วง pre-flowering stage (ก่อนออกดอก) และ fruit filling stage (ช่วงสะสมเนื้อผล) มีผลต่อคุณภาพทะลายโดยตรง
ในช่วง mesocarp development (12–20 สัปดาห์หลังการผสมเกสร) คือช่วงที่มีการสะสม triacylglycerol (TAG) สูงสุด ความสมดุลของ K และ B จึงเป็นปัจจัยกำหนด เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่อทะลาย (oil to bunch ratio, O/B) และคุณภาพกรดไขมันในน้ำมันปาล์ม
---
แนวทางการจัดการธาตุอาหาร
* โพแทสเซียม: แนะนำให้ใส่ K ในรูป KCl หรือ K2SO4 โดยพิจารณาตามความอุดมสมบูรณ์ของดิน (เช่น ดินพรุหรือดินร่วนทรายมักต้องการ K สูงกว่า)
* โบรอน: ใส่ในรูป Borax หรือ Boric acid ในอัตราต่ำแต่สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการขาดและการสะสมพิษ
* การผสมผสาน K+B: การใส่ร่วมกันจะเสริมฤทธิ์ต่อทั้งการพัฒนาทะลายและการสะสมกรดไขมัน
---
บทสรุป
การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพน้ำมันปาล์มไม่ได้ขึ้นกับการใส่ปุ๋ย N-P-K เพียงอย่างเดียว แต่ โพแทสเซียม (K) และโบรอน (B) เป็นกุญแจสำคัญที่ควบคุมทั้ง การออกทะลาย การติดผล และการสะสมกรดไขมัน การจัดการที่ถูกต้องตามหลักสรีรวิทยาพืชจึงเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการเพิ่มประสิทธิภาพของสวนปาล์มไทย
---
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
* Fairhurst, T., & Härdter, R. (2003). *Oil Palm: Management for Large and Sustainable Yields*. Potash & Phosphate Institute.
* Sundram, S., et al. (2012). Boron deficiency in oil palm and its effect on crown deformity and yield. *Journal of Oil Palm Research*, 24(1), 56–64.
* Corley, R. H. V., & Tinker, P. B. (2016). *The Oil Palm*. 5th Edition. Wiley-Blackwell.
* Singh, R., et al. (2013). Oil palm lipid metabolism: A review of studies on fatty acid biosynthesis and regulation. *Plant Physiology and Biochemistry*, 73, 15–25.
---
#ปาล์มน้ำมัน #โพแทสเซียม #โบรอน #การออกทะลาย #การสะสมกรดไขมัน #ธาตุอาหารพืช #เพิ่มผลผลิต #ฟาร์มเกษตร