กำมะถัน (S) กับการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำตาลในอ้อย:...
👤
โดย: ผู้ดูแล
📅
2025-09-17 20:06:50
🌐
125.25.212.119
กำมะถัน (S) กับการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำตาลในอ้อย: กลไกและการจัดการ
บทนำ
อ้อย (Saccharum officinarum L.) เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย โดยคุณภาพผลผลิตวัดจาก เปอร์เซ็นต์น้ำตาล (Commercial Cane Sugar: CCS) ซึ่งมีผลโดยตรงต่อราคาที่เกษตรกรได้รับ การจัดการธาตุอาหารที่เหมาะสมถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการสะสมน้ำตาลในลำอ้อย แม้ว่านักเกษตรจำนวนมากจะคุ้นเคยกับไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม แต่ กำมะถัน (S) กลับมักถูกละเลย ทั้งที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการทางสรีรวิทยาและเมแทบอลิซึมของพืชที่เกี่ยวข้องกับการสะสมน้ำตาล
---
บทบาทของกำมะถันต่อสรีรวิทยาอ้อย
1. การสังเคราะห์โปรตีนและเอนไซม์
กำมะถันเป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโนจำเป็น ได้แก่ เมไทโอนีน (Methionine) และซิสทีน (Cysteine) รวมถึงเป็นโครงสร้างของโคเอนไซม์หลายชนิด เช่น CoA ซึ่งจำเป็นต่อการหายใจและการสร้างพลังงานในรูป ATP
2. การสร้างคลอโรฟิลล์และการสังเคราะห์แสง
พืชที่ได้รับกำมะถันเพียงพอมีการพัฒนาคลอโรฟิลล์สมบูรณ์ ใบมีสีเขียวเข้ม ส่งผลให้การสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถผลิตน้ำตาลสะสมได้มากขึ้น
3. การเคลื่อนย้ายและสะสมน้ำตาล
กำมะถันเกี่ยวข้องกับการทำงานของเอนไซม์ invertase และ sucrose synthase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสังเคราะห์และเคลื่อนย้ายน้ำตาลซูโครสจากใบไปยังลำต้นอ้อย
4. ความสมดุลธาตุอาหาร
กำมะถันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจน ทำให้การสร้างกรดอะมิโนและโปรตีนสมบูรณ์ขึ้น หาก S ขาดสมดุล อ้อยจะมีใบเหลืองซีดคล้ายขาดไนโตรเจน แต่การสะสมน้ำตาลในลำต้นกลับต่ำลง
---
กลไกที่กำมะถันส่งผลต่อการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำตาลในอ้อย
* เพิ่มการสังเคราะห์แสง → เพิ่มการสร้างน้ำตาลต้นทาง
* กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับซูโครส → เร่งการสะสมน้ำตาลในลำต้น
* ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจน → ลดการสูญเสียพลังงานไปกับการสร้างโปรตีนที่ไม่จำเป็น
* รักษาสมดุลระหว่างธาตุหลัก (N-P-K) และธาตุรอง ทำให้ต้นอ้อยเจริญเติบโตอย่างสมดุลและสะสมน้ำตาลได้ดีกว่า
---
การจัดการกำมะถันในแปลงอ้อย
1. แหล่งธาตุกำมะถัน
* ปุ๋ยซัลเฟต เช่น แอมโมเนียมซัลเฟต (NH₄)₂SO₄, แคลเซียมซัลเฟต (ยิปซัม), โพแทสเซียมซัลเฟต (K₂SO₄)
* ปุ๋ยคอมโพสิตหรือปุ๋ยอินทรีย์ที่มี S ผสมอยู่
2. ปริมาณและวิธีการใช้
* ควรใส่กำมะถันร่วมกับธาตุอาหารหลัก โดยเฉพาะในดินร่วนทรายที่มีการชะล้างสูง
* งานวิจัยในประเทศไทยชี้ว่าการใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต 25–50 กก./ไร่ สามารถเพิ่มค่า CCS ได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับการใช้เฉพาะยูเรีย
3. ช่วงเวลาในการให้
* ระยะต้นอ้อยกำลังเจริญ (3–5 เดือนแรก) เพื่อส่งเสริมการสร้างคลอโรฟิลล์และใบ
* ระยะก่อนการสะสมน้ำตาล (ประมาณ 7–9 เดือน) เพื่อสนับสนุนการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสะสมซูโครส
4. บำรุงอ้อยด้วยปุ๋ยทางใบ FK-1 ซึ่งประกอบด้วย N, P, K, Mg, Zn อย่างสม่ำเสมอ เพื่อการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ต่อเนื่อง และให้ผลผลิตที่ดี
---
สรุป
กำมะถันเป็นธาตุอาหารที่มักถูกมองข้ามในการจัดการอ้อย แต่มีบทบาทสำคัญต่อการสังเคราะห์โปรตีน เอนไซม์ การสังเคราะห์แสง และที่สำคัญที่สุดคือการสะสมซูโครสในลำต้น การจัดการกำมะถันอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านปริมาณ แหล่ง และช่วงเวลาการให้ จะช่วยเพิ่มทั้งปริมาณผลผลิตและเปอร์เซ็นต์น้ำตาล (CCS) ได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในประเทศไทย
---
เอกสารอ้างอิง
* Marschner, H. (2012). Marschner's Mineral Nutrition of Higher Plants. Academic Press.
* Havlin, J. L., Tisdale, S. L., Nelson, W. L., & Beaton, J. D. (2014). Soil Fertility and Fertilizers. Pearson.
* ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี (2563). รายงานผลการวิจัยธาตุอาหารรองต่อคุณภาพอ้อย. กรมวิชาการเกษตร.
---
#อ้อยไทย #เปอร์เซ็นต์น้ำตาล #กำมะถันกับอ้อย #ธาตุอาหารพืช #CCSสูง #วิชาการเกษตร #ปุ๋ยซัลเฟต #อ้อยคุณภาพ #เพิ่มผลผลิตอ้อย #ฟาร์มเกษตร