ความจริงเรื่องคาร์บอนเครดิต:...
👤
โดย: JANE FK
📅
2025-10-02 10:35:02
🌐
1.20.189.54
ความจริงเรื่องคาร์บอนเครดิต: เกษตรกรไทยจะขายรายได้จากอากาศได้อย่างไร?
บทนำ
“คาร์บอนเครดิต” (Carbon Credit) กำลังกลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในภาคเกษตรกรรมไทย ด้วยกระแสความตื่นตัวด้าน **ภาวะโลกร้อน (Climate Change)** และความต้องการของตลาดโลกที่เน้น **Carbon Neutral** และ **Net Zero** คำถามที่น่าสนใจคือ เกษตรกรไทยจะสามารถสร้างรายได้จาก “อากาศ” หรือ “การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” ได้จริงหรือไม่?
บทความนี้จะอธิบายเชิงวิชาการ พร้อมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ **กลไกคาร์บอนเครดิต**, **วิธีที่เกษตรกรไทยสามารถเข้าร่วมตลาด**, และ **โอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคต**
คาร์บอนเครดิตคืออะไร?
คาร์บอนเครดิตคือ “สิทธิ์” ที่เกิดจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) หนึ่งเครดิตเท่ากับ **1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂e)** สามารถนำไปขายให้กับบริษัทหรือประเทศที่ต้องการชดเชยการปล่อยมลพิษ
ตัวอย่างกลไก
* การปลูกป่า / เกษตรกรรมคาร์บอนต่ำ → ช่วยดูดซับ CO₂
* การใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนเคมี → ลดการปล่อยไนตรัสออกไซด์ (N₂O)
* การจัดการน้ำในนาข้าวแบบ Alternate Wetting and Drying (AWD) → ลดการปล่อยมีเทน (CH₄)
เกษตรกรไทยขายคาร์บอนเครดิตได้อย่างไร?
1. ปลูกป่าเศรษฐกิจและป่าไม้ชุมชน
* ต้นไม้ 1 ไร่ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ **7–10 ตัน/ปี** (FAO, 2022)
* แปลงเกษตรสามารถขึ้นทะเบียนโครงการคาร์บอนเครดิตกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)
2. ทำเกษตรอินทรีย์และใช้ปุ๋ยคอก
* ลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ซึ่งปล่อย N₂O ที่มีศักยภาพก่อโลกร้อนสูงกว่า CO₂ ถึง **265 เท่า** (IPCC, 2021)
3. จัดการนาข้าวลดก๊าซมีเทน
* งานวิจัย IRRI (International Rice Research Institute) พบว่า การใช้น้ำแบบ AWD ช่วยลดก๊าซมีเทนได้ **30–50%**
4. โครงการพลังงานชีวมวล/ไบโอแก๊สจากของเสียทางการเกษตร**
* ฟาร์มเลี้ยงสุกรสามารถขายคาร์บอนเครดิตจากการดักจับก๊าซมีเทนจากมูลสัตว์
มูลค่าตลาดคาร์บอนเครดิต
* ตลาดโลก: คาดว่ามีมูลค่าแตะ **100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030** (World Bank, 2023)
* ตลาดไทย: อบก. ระบุว่ามีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตแล้วกว่า **10 ล้านตัน CO₂e** ในปี 2023 โดยราคาขึ้นอยู่กับมาตรฐานและความต้องการของผู้ซื้อ (เฉลี่ย 100–300 บาท/ตัน)
อุปสรรคที่เกษตรกรต้องรู้
* การขึ้นทะเบียนโครงการมี **ต้นทุนเอกสารและตรวจสอบ (MRV: Measurement, Reporting, Verification)**
* เกษตรกรรายย่อยจำเป็นต้องรวมกลุ่มในรูปแบบ **สหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชน** เพื่อเพิ่มปริมาณเครดิต
* ความรู้ความเข้าใจยังมีจำกัด จำเป็นต้องมี **ที่ปรึกษาหรือหน่วยงานกลาง** ช่วยดำเนินการ
สรุป: รายได้จากอากาศไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน
หากเกษตรกรไทยเข้าใจหลักการและรวมกลุ่มเพื่อสร้างโครงการคาร์บอนเครดิตที่ได้มาตรฐาน ก็สามารถเปลี่ยนการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เป็น **รายได้เสริมจากการขาย “อากาศบริสุทธิ์”** ได้จริง
ตลาดโลกกำลังเปิดโอกาส และเกษตรกรไทยควรเร่งเรียนรู้และเตรียมพร้อม **ก่อนที่ตลาดคาร์บอนเครดิตจะกลายเป็นสมรภูมิการแข่งขันใหม่ของเกษตรโลก**
Reference
* IPCC (2021). *Climate Change 2021: The Physical Science Basis.* Cambridge University Press.
* FAO (2022). *Forests and Carbon Sequestration.* Food and Agriculture Organization of the United Nations.
* World Bank (2023). *State and Trends of Carbon Pricing 2023.*
* องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.). (2566). *รายงานตลาดคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย.*
#คาร์บอนเครดิต #เกษตรคาร์บอนต่ำ #รายได้จากอากาศ #ตลาดคาร์บอนเครดิต #CarbonCreditThailand #ปลูกป่าได้เงิน #เกษตรอินทรีย์ยั่งยืน #ลดโลกร้อนสร้างรายได้ #CarbonNeutralThailand #เกษตรกรไทย4_0