ธาตุอาหารรอง–ธาตุอาหารเสริม สำคัญกว่าที่คิด?...
👤
โดย: JANE FK
📅
2025-12-09 09:19:47
🌐
1.2.227.215
ธาตุอาหารรอง–ธาตุอาหารเสริม สำคัญกว่าที่คิด? ทำไมหลายสวนหันมาใช้มากขึ้นทุกปี
บทนำ: พลังที่ซ่อนอยู่ของธาตุอาหารรอง–เสริม
หลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรไทยประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำ ทั้งๆ ที่ “ใส่ปุ๋ย N–P–K มากขึ้นกว่าเดิม” นักวิจัยด้านดินและพืชพบว่า การขาดธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้พืชไม่สามารถใช้ N–P–K ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลผลิตไม่โต แตกใบช้า ติดดอกน้อย หรือคุณภาพผลผลิตต่ำกว่าที่ควร
นี่คือเหตุผลว่าทำไมหลายสวน ทั้งสวนไม้ผล ผัก ผลไม้ ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย จึงหันมาใช้ “ปุ๋ยธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม (Secondary & Micronutrients)” มากขึ้นทุกปี
ธาตุอาหารรอง–เสริม คืออะไร? ทำไม N–P–K อย่างเดียวไม่พอ
แม้พืชต้องการ N–P–K มากที่สุด แต่การเจริญเติบโตที่สมบูรณ์นั้นเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพืชได้รับ ธาตุรอง (Secondary nutrients) เช่น
* แคลเซียม (Ca)
* แมกนีเซียม (Mg)
* กำมะถัน (S)
และ ธาตุอาหารเสริม (Micronutrients) เช่น
* สังกะสี (Zn)
* โบรอน (B)
* เหล็ก (Fe)
* ทองแดง (Cu)
* แมงกานีส (Mn)
งานวิจัยของ FAO ระบุว่า
> พืชที่ขาดธาตุรอง–เสริมเพียง 1 ชนิด จะสูญเสียผลผลิตเฉลี่ย 10–40% แม้จะมี N–P–K เพียงพอ
2. ชุดอาการ "พืชโตช้า" ที่หลายสวนเจอ เกิดจากการขาดธาตุรอง–เสริมทั้งสิ้น
✔ ใบเหลือง เส้นใบเขียว = ขาดแมกนีเซียม (Mg deficiency)
ทำให้สังเคราะห์แสงลดลงโดยตรง
✔ ดอกไม่ติด ผลร่วง = ขาดโบรอน (B)
ส่งผลต่อการสร้างผนังเซลล์และละอองเกสร
✔ ยอดไม่เดิน ใบเล็ก = ขาดสังกะสี (Zn)
เกี่ยวกับการสร้างฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโต
✔ รากสั้น แตกแขนงน้อย = ขาด Ca และ S
รากไม่แข็งแรง ส่งผลให้พืชดูดธาตุ N–P–K ได้น้อยลง
3. ทำไมหลายสวนหันมาใช้ปุ๋ยธาตุอาหารรอง–เสริมมากขึ้นทุกปี
(1) ดินเสื่อมเร็วขึ้นจากการใช้ดินซ้ำ–ใส่ปุ๋ยผิดแบบ
การใส่ปุ๋ย N–P–K ต่อเนื่องหลายปี ทำให้ดินขาดความสมดุล สะสมความเป็นกรด–ด่าง และขาดธาตุรอง–เสริมโดยเฉพาะ Mg และ Zn
งานวิจัยกรมพัฒนาที่ดินชี้ว่า
> กว่า 65% ของพื้นที่เกษตรไทยพบการขาด Mg, Zn, B ในระดับที่มีผลต่อผลผลิต
(2) การพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ต้องการธาตุอาหารมากกว่าเดิม
ผลไม้รุ่นใหม่ เช่น ทุเรียนพันธุ์โตเร็ว มะม่วงส่งออก ผักกินผล
ต้องใช้ธาตุรอง–เสริมสูงกว่าสายพันธุ์เก่าเพื่อสร้าง “คุณภาพเนื้อ–กลิ่น–รส”
(3) ตลาดส่งออกต้องการคุณภาพที่สม่ำเสมอ
การให้ธาตุรอง–เสริมช่วยให้พืช
* ขนาดผลสม่ำเสมอ
* เปอร์เซ็นต์แห้งสูง
* เปลือกแข็งแรง
* อายุหลังเก็บเกี่ยวดีขึ้น
จึงถูกใช้ในสวนส่งออกมากขึ้น
4. ผลวิจัย: การเพิ่ม Mg + Zn + B ช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึง 12–35%
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสถาบันนานาชาติ (ICRISAT) พบว่า
ทุเรียน → เพิ่มผลผลิต 18–27%
เมื่อให้ Mg + Zn + B ร่วมกับ N–P–K
มันสำปะหลัง → เพิ่มหัวสด 25–35%
เมื่อแก้ภาวะขาด Zn ในดิน
ข้าว → เพิ่มผลผลิต 12–17%
จากการเสริม Zn ที่แปลงนาน้ำฝน
5. ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับธาตุรอง–เสริม
❌ “พืชต้องการน้อย แปลว่าไม่จำเป็น”
✔ จริง: แม้พืชต้องการน้อย แต่ถ้าขาดจะหยุดทันที
❌ “เราใส่ N–P–K ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสริม”
✔ จริง: การใช้ N–P–K มาก ทำให้พืชใช้ Mg, S และ Zn มากขึ้น
❌ “ปุ๋ยรอง–เสริมแพง ไม่คุ้ม”
✔ จริง: งานวิจัยพบว่าเพิ่มต้นทุน 3–7% แต่เพิ่มผลผลิตได้ 15–35%
6. วิธีให้ธาตุรอง–เสริมแบบได้ผลสูงสุด
✔ ฉีดพ่นทางใบ (Foliar Feeding)
เห็นผลเร็ว ใช้แก้ขาดฉับพลัน เช่น Zn, B, Mg
✔ ให้ทางดิน (Soil Application)
เหมาะกับ Ca, S และ Mg ที่ต้องการปริมาณมากกว่า
✔ เลือกปุ๋ยสูตรเข้มข้นแบบน้ำ (Liquid Nutrients)
ช่วยให้พืชดูดซึมเร็ว เหมาะกับช่วงพืชฟื้นตัว–เร่งผล
7. สรุป: การใช้ธาตุรอง–เสริม ไม่ใช่แฟชั่นใหม่ แต่เป็น “ความจำเป็นของดินไทยยุคนี้”
ในสถานการณ์ที่
* ดินเสื่อมเร็ว
* พืชพันธุ์ใหม่ต้องการธาตุสูง
* ตลาดต้องการคุณภาพ
* N–P–K ราคาเพิ่มขึ้นทุกปี
การใช้ธาตุอาหารรอง–เสริมจึงเป็น **กลยุทธ์ที่คุ้มค่าและจำเป็น** สำหรับเกษตรกรที่ต้องการผลผลิตสูง คุณภาพดี ต้นทุนไม่บานปลาย
Reference อ้างอิงงานวิจัย
* FAO (Food and Agriculture Organization). Secondary and Micronutrients Deficiency in Agricultural Soil.
* กรมพัฒนาที่ดิน, รายงานสถานะธาตุอาหารในดินประเทศไทย
* ICRISAT, Micronutrients and Crop Productivity Research
* ภาควิชาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, รายงานการตอบสนองของพืชต่อธาตุรอง–เสริม
* Journal of Plant Nutrition and Soil Scienc
#เกษตรไทย #ปุ๋ยธาตุอาหารรอง #ปุ๋ยธาตุอาหารเสริม #ปุ๋ยแมกนีเซียม #ปุ๋ยสังกะสี #การจัดการดิน #เพิ่มผลผลิต #เกษตรแม่นยำ #ดูแลพืชแบบมืออาชีพ #เกษตรยุคใหม่