ทำไมมันสำปะหลัง “หัวโตแต่แป้งต่ำ” หรือ “หัวดกแต่เบา”...
👤
โดย: ผู้ดูแล
📅
2025-10-11 20:40:28
🌐
125.25.214.19
ทำไมมันสำปะหลัง “หัวโตแต่แป้งต่ำ” หรือ “หัวดกแต่เบา” ถึงเกิดขึ้น?
มันสำปะหลัง (Manihot esculenta Crantz) เป็นพืชที่มีลักษณะเด่นคือสามารถสะสมคาร์โบไฮเดรตในรูปของแป้งไว้ในรากสะสมได้มากกว่า 70% ของน้ำหนักหัวสด แต่การที่หัว “โต” ไม่ได้หมายความว่า “มีแป้งสูง” เสมอไป ความแตกต่างระหว่างหัวโตแป้งต่ำ กับหัวดกแต่เบา มักมีรากเหง้าทาง **สรีรวิทยา** และ **ธาตุอาหารพืช** ที่ซับซ้อนค่ะ
---
🌱 1. “หัวโตแต่แป้งต่ำ” – โตจากน้ำ ไม่ใช่จากคาร์โบไฮเดรต
* ช่วงมีฝนหรือให้น้ำมากเกินไป ทำให้รากอุ้มน้ำมาก แต่ไม่ได้สะสมคาร์โบไฮเดรต
* ไนโตรเจนสูงเกินสมดุล ทำให้พืชเร่งใบมากกว่าสะสมแป้ง
* ขาดโพแทสเซียม (K) และ แมกนีเซียม (Mg) → น้ำตาลจากใบไม่เคลื่อนลงหัว
* คลอโรฟิลล์ลดลงจากการขาด Mg → สังเคราะห์แสงลด น้ำตาลต้นทางลด
ผลคือหัวใหญ่แต่น้ำเยอะ แป้งต่ำค่ะ
---
🍠 2. “หัวดกแต่เบา” – รากแข่งกันรับอาหาร ไม่สะสมเต็มที่
* การแตกหัวมากจากพันธุ์หรือการบำรุงต้นดีเกินไป
* ขาด ฟอสฟอรัส (P) และ โพแทสเซียม (K) ทำให้สร้างพลังงานได้ไม่พอ
* ขาดน้ำในช่วงขยายหัว ทำให้หลายหัวพัฒนาไม่เต็ม
หัวจึงออกดกแต่มีน้ำหนักเฉลี่ยต่อหัวต่ำค่ะ
---
🌿 3. ปัจจัยเสริมทางสรีรวิทยา
* แสงแดดน้อย → การสร้างน้ำตาลลดลง
* ดินแฉะ → หัวอุ้มน้ำมาก แป้งต่ำ
* พันธุ์ที่ต่างกัน → ห้วยบง 60 โตเร็วแต่แป้งน้อยกว่า ระยอง 72 ซึ่งแป้งแน่นกว่า
---
🌾 4. แนวทางจัดการให้ “หัวโตและแป้งสูง” พร้อมกัน
* จำกัด ไนโตรเจน หลังอายุ 4 เดือน
* เสริม โพแทสเซียม (K) และ แมกนีเซียม (Mg) ในช่วงขยายหัว (5–8 เดือน)
* รักษาความชื้นดินพอดี ไม่ให้ขาดหรือแฉะ
* พ่นธาตุอาหารทางใบเพื่อกระตุ้นการสะสมแป้ง
* เก็บเกี่ยวในช่วงอายุที่เหมาะสมของพันธุ์ (10–12 เดือน)
---
🌿 การใช้ FK เพื่อส่งเสริมการสร้างหัวและแป้ง
* ในระยะ เริ่มปลูกถึง 4 เดือนแรก ควรใช้ *FK-1* เพื่อช่วยเร่งการสร้างใบ ราก และสะสมพลังงานพื้นฐาน
* เมื่อเข้าสู่ช่วง 5 เดือนขึ้นไปจนถึงก่อนเก็บเกี่ยว แนะนำใช้ *FK-3C* ซึ่งเน้นธาตุ โพแทสเซียมและแมกนีเซียมสูง ช่วยขนส่งน้ำตาลจากใบลงหัว ทำให้หัวแน่น แป้งสูง และเนื้อไม่อมน้ำ
* การใช้สลับสองระยะนี้ ทำให้พืชได้สมดุลธาตุครบทั้ง “ช่วงสร้างต้น” และ “ช่วงสะสมแป้ง” อย่างต่อเนื่องค่ะ
FK-1 และ FK-3C ประกอบด้วย N P K Mg Zn ในสัดส่วนที่สมดุลย์ ต่างกันตรงที่ FK-3C จะเน้นน้ำหนักไปที่ โพแทสเซียมสูงเป็นพิเศษ ที่ 40%
---
🔬 บทสรุป
“หัวโตแต่แป้งต่ำ” กับ “หัวดกแต่เบา” เป็นผลจากความไม่สมดุลของ *ธาตุอาหาร–น้ำ–แสง–พันธุ์*
การจัดการปุ๋ยให้เหมาะตามช่วงอายุ โดยเฉพาะการเสริมโพแทสเซียมและแมกนีเซียม จะช่วยให้มันสำปะหลัง “หัวโตและแป้งสูง” ได้พร้อมกันจริงในภาคสนามค่ะ
---
📚 เอกสารอ้างอิง
- ศิริชัย พานิชเกษม และคณะ. (2563). ผลของธาตุอาหารต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพหัวมันสำปะหลังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารเกษตรศาสตร์ มข.
- Howeler, R.H. (2014). Sustainable Management of Soil Fertility and Nutrient for Cassava Production. CIAT, Colombia.
- El-Sharkawy, M.A. (2006). International Journal of Plant Physiology: Cassava Physiology: Photosynthesis, Productivity, and Production. Springer.
- กรมวิชาการเกษตร. (2561). คู่มือการปลูกมันสำปะหลังเพื่อเพิ่มผลผลิตและเปอร์เซ็นต์แป้ง. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.
#มันสำปะหลัง #หัวโตแต่แป้งต่ำ #หัวดกแต่เบา #โพแทสเซียมสำคัญ #แมกนีเซียมช่วยสร้างแป้ง #FK1 #FK3C #ฟาร์มเกษตร #เกษตรวิชาการ #พืชเศรษฐกิจไทย #CassavaScience