5 ปัญหาหลักในการปลูกมะม่วง พร้อมวิธีแก้แบบมืออาชีพที่เกษตรกรควรรู้

การปลูกมะม่วงให้ได้ผลผลิตคุณภาพ ไม่เพียงแค่ใส่ปุ๋ย รดน้ำ หรือรอเก็บเกี่ยว แต่ต้องเข้าใจ “ปัญหาหลักที่มักเกิดขึ้นซ้ำซาก” และรู้วิธีแก้ไขอย่างเป็นระบบ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับปัญหาใบเหลือง ดอกไม่ติด ลูกร่วง หรือมะม่วงโทรมหลังให้ผลผลิต บทความนี้จะพาคุณวิเคราะห์ทุกจุดและวางแผนแก้ไขให้ได้ผลจริง

---

1. มะม่วงใบเหลือง ใบร่วงเร็ว ต้นไม่แข็งแรง

**สาเหตุหลัก:**
– ดินขาดธาตุอาหารรอง เช่น แมกนีเซียม เหล็ก หรือแมงกานีส
– การให้น้ำไม่สม่ำเสมอ หรือมีน้ำขัง
– ระบบรากเน่าเพราะเชื้อราในดิน

**แนวทางแก้ไขแบบมืออาชีพ:**
– ตรวจวิเคราะห์ดินอย่างสม่ำเสมอ และปรับด้วยปูนขาวหรือปุ๋ยอินทรีย์
– เติมธาตุอาหารรองโดยเฉพาะสูตรเสริมแมกนีเซียม (MgSO₄) ผ่านทางใบ
– ปรับปรุงระบบระบายน้ำ เช่น ยกโคกปลูก ปลูกหญ้าคลุมดิน

---

2. มะม่วงดอกไม่ติด ติดแล้วหลุดง่าย

**สาเหตุหลัก:**
– ขาดธาตุอาหารจำเป็นในช่วงก่อนออกดอก
– อุณหภูมิไม่เหมาะสมหรือความชื้นสูงเกินไป
– โรคเชื้อราทำลายช่อดอก
– การใช้สารกระตุ้นออกดอกไม่ถูกวิธี

**แนวทางแก้ไขแบบมืออาชีพ:**
– งดใส่ปุ๋ยไนโตรเจนช่วงก่อนกระตุ้นดอก 1 เดือน
– ใช้ปุ๋ยโปแตสเซียมสูง เช่น 13-13-21 เพื่อสะสมตาดอก
– พ่นสารป้องกันเชื้อรา เช่น แมนโคเซบ (Mancozeb) และให้แสงแดดเข้าพุ่ม
– ใช้โปแตสเซียมคลอเรตในอัตราและเวลาที่เหมาะสม เฉพาะต้นสมบูรณ์

---

3. ลูกร่วงก่อนแก่ เสียหายหนัก

**สาเหตุหลัก:**
– การขาดน้ำในช่วงติดผล
– การใช้สารเร่งผิดเวลา
– แมลงเจาะผล หรือแมลงวันทอง
– ฮอร์โมนภายในต้นไม่สมดุล

**แนวทางแก้ไขแบบมืออาชีพ:**
– ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงติดผลจนถึงใกล้เก็บเกี่ยว
– ห่อผลมะม่วงตั้งแต่ขนาดเท่าหัวแม่มือ เพื่อป้องกันแมลง
– ใช้สารจับผล เช่น แคลเซียมโบรอน ช่วยให้ขั้วผลแข็งแรง
– พ่นสารชีวภาพเสริมฮอร์โมนธรรมชาติ เช่น สาหร่ายทะเล

---

4. มะม่วงต้นโทรมหลังเก็บผลผลิต

**สาเหตุหลัก:**
– การดูแลหลังเก็บผลไม่เพียงพอ
– สูญเสียธาตุอาหารจำนวนมากไปกับผล
– การตัดแต่งกิ่งไม่เหมาะสม

**แนวทางแก้ไขแบบมืออาชีพ:**
– หลังเก็บเกี่ยวควรฟื้นฟูต้นทันทีด้วยปุ๋ยสูตร 25-7-7 หรือปุ๋ยคอกหมัก
– รดน้ำให้ชุ่มตลอด 2 สัปดาห์แรก และงดการบังคับต้นออกดอกซ้ำ
– ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง รอรอบใหม่อย่างน้อย 3-4 เดือน

---

5. มะม่วงโตช้า พุ่มเตี้ย ไม่เจริญเติบโต

**สาเหตุหลัก:**
– ดินแน่น รากไม่เดิน
– โรครากปม หรือเชื้อราสะสม
– แสงไม่พอ และมีวัชพืชรบกวน

**แนวทางแก้ไขแบบมืออาชีพ:**
– พรวนดินรอบทรงพุ่ม เติมปุ๋ยอินทรีย์และจุลินทรีย์ในดิน
– เว้นระยะปลูกอย่างน้อย 6-8 เมตร เพื่อให้แสงเข้าถึง
– ใช้หญ้าคลุมดินหรือปลูกพืชร่วมเพื่อปรับสภาพแวดล้อมดิน

---

สรุป: ปลูกมะม่วงให้ได้ผลดี ต้องคิดเป็นระบบ

การปลูกมะม่วงให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้อยู่ที่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจ "ความเชื่อมโยงของปัจจัย" ทั้งดิน น้ำ อากาศ โรคพืช และการดูแลอย่างต่อเนื่อง เมื่อเรามองเห็นความสัมพันธ์ขององค์ประกอบเหล่านี้ เราจะสามารถวางแผนและจัดการสวนได้อย่างแม่นยำ ป้องกันปัญหาก่อนเกิดจริง และเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้อย่างยั่งยืน