โพแทสเซียมกับมันสำปะหลัง: ธาตุแห่งการสะสมแป้งในรากหัว
มันสำปะหลัง (Manihot esculenta Crantz) เป็นพืชหัวสะสมแป้งที่มีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นคาร์โบไฮเดรตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง โพแทสเซียม (K) คือธาตุอาหารหลักที่มีบทบาทโดยตรงต่อกระบวนการนี้ ทั้งในระดับสรีรวิทยาและชีวเคมีภายในเซลล์ของพืช
โพแทสเซียม: ธาตุควบคุมสมดุลและพลังงานของเซลล์พืช
ในเซลล์พืช โพแทสเซียมทำหน้าที่เป็น “ion regulator” ที่ช่วยรักษาสมดุลของแรงดันออสโมติก ควบคุมการเปิด–ปิดปากใบ และเป็นตัวกระตุ้นเอนไซม์มากกว่า 60 ชนิดในกระบวนการสังเคราะห์แสงและเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต เมื่อระดับโพแทสเซียมในเนื้อเยื่อพืชเพียงพอ การสังเคราะห์น้ำตาลในใบจะมีประสิทธิภาพสูง และน้ำตาลเหล่านั้นจะถูกลำเลียงผ่านท่อลำเลียงลงสู่รากหัวได้รวดเร็วขึ้น
การสะสมแป้งในรากหัว: ผลจากโพแทสเซียมในระดับที่เหมาะสม
โพแทสเซียมมีผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแป้ง (starch synthesis) ภายในพลาสติดของเซลล์ราก เมื่อพืชได้รับ K เพียงพอ การทำงานของเอนไซม์ ADP-glucose pyrophosphorylase จะเพิ่มขึ้น ทำให้แป้งถูกสังเคราะห์และสะสมในหัวได้มากขึ้น งานวิจัยของ CIAT (International Center for Tropical Agriculture) และสถาบันเกษตรเขตร้อนแห่งประเทศไทย พบว่า การให้โพแทสเซียมในระดับ 60–80 กก. K₂O ต่อไร่ สามารถเพิ่มผลผลิตหัวมันสำปะหลังได้เฉลี่ย 15–25% โดยเฉพาะในดินทรายที่โพแทสเซียมมักถูกชะล้างออกอย่างรวดเร็ว
เมื่อพืชขาดโพแทสเซียม: ใบเหลือง ขอบไหม้ และหัวลีบ
การขาด K มักปรากฏให้เห็นในรูปของใบแก่เหลืองก่อน โดยเฉพาะขอบใบที่ไหม้หรือม้วนงอขึ้น พืชจะลดการสังเคราะห์แสง ใบหยุดขยาย และหัวใต้ดินมีขนาดเล็กลงอย่างชัดเจน ระดับแป้งในหัวลดลงเพราะน้ำตาลไม่สามารถถูกส่งลงมาได้เต็มที่
สมดุลของธาตุ: หัวใจของการสะสมแป้งยั่งยืน
แม้โพแทสเซียมจะเป็นธาตุอาหารหลัก แต่การสร้างและเคลื่อนย้ายน้ำตาลนั้นยังอาศัยธาตุอื่นร่วมด้วย เช่น
* ไนโตรเจน (N) เพื่อสร้างโครงสร้างใบและเอนไซม์
* ฟอสฟอรัส (P) เพื่อขับเคลื่อนพลังงานในรูป ATP
* แมกนีเซียม (Mg) เป็นแกนกลางของคลอโรฟิลล์
* สังกะสี (Zn) กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนและเอนไซม์ในราก
ดังนั้น ในทางปฏิบัติ เกษตรกรจำนวนมากจึงนิยมใช้ปุ๋ยทางใบที่มีธาตุอาหารครบถ้วน เช่น สูตรที่มีโพแทสเซียมสูงในระยะตั้งตัวของมันสำปะหลัง เพื่อให้พืชมีความสมดุลตั้งแต่การสังเคราะห์แสงจนถึงการสะสมแป้ง เช่น ปุ๋ยทางใบ FK-3C ที่ให้ โพแทสเซียม หรือธาตุ K สูงถึง 40% และยังประกอบด้วย ธาตุ N P Mg Zn ในสัดส่วนที่สมดุลย์
สรุป:
โพแทสเซียมไม่เพียงเป็นธาตุอาหารหลัก แต่ยังเป็น “ตัวควบคุมจังหวะการสะสมแป้ง” ของมันสำปะหลังอย่างแท้จริง การเข้าใจช่วงเวลาที่พืชต้องการและจัดการร่วมกับธาตุอื่นอย่างสมดุล คือกุญแจสู่ผลผลิตหัวที่แน่น เต็ม และมีเปอร์เซ็นต์แป้งสูงอย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
* Worapoje, N., Anusontpornperm, S., Thanachit, S., & Phun-iam, M. (2025). Effects of potassium thiosulfate foliar application on yield, nutrient uptake and potassium use efficiency of cassava planted in Satuk soil series. วารสารแก่นเกษตร, 53(2), 364–381. สืบค้นจาก [
https://li01.tci-thaijo.org/index.php/agkasetkaj/article/view/264103](https://li01.tci-thaijo.org/index.php/agkasetkaj/article/view/264103* Fernandes, A. M., et al. (2017). Yield and nutritional requirements of cassava in response to potassium application. สืบค้นจาก [
https://hero.epa.gov/hero/index.cfm/reference/details/reference_id/4260574](https://hero.epa.gov/hero/index.cfm/reference/details/reference_id/4260574* CIAT. (2018). Cassava Nutrient Management in the Tropics: The Role of Potassium. International Center for Tropical Agriculture, Colombia.
#โพแทสเซียมกับมันสำปะหลัง #ธาตุอาหารพืช #การสะสมแป้ง #มันสำปะหลังไทย #วิทยาศาสตร์พืชไร่ #เกษตรแม่นยำ #สรีรวิทยาพืช #ปุ๋ยทางใบ #เกษตรวิจัย #ดินและปุ๋ย