การจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ระยะออกดอก–ติดฝัก:...
👤
โดย: ผู้ดูแล
📅
2025-09-11 20:30:34
🌐
118.172.198.191
การจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ระยะออกดอก–ติดฝัก: แนวทางเชิงวิชาการเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเมล็ด
บทนำ
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (Zea mays L.) เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของไทย ระยะออกดอก–ติดฝัก (silking and grain set stage) ถือเป็น ช่วงวิกฤต (critical stage) เนื่องจากความสมบูรณ์ของการผสมเกสรและการสร้างเมล็ดจะเป็นตัวกำหนด *ขนาดฝัก น้ำหนักเมล็ด และผลผลิตรวมต่อไร่* โดยตรง หากการจัดการในช่วงนี้ไม่เหมาะสม จะทำให้เกิด *การผสมไม่สมบูรณ์ เมล็ดลีบ และผลผลิตต่ำ*
---
1. ความต้องการธาตุอาหารในช่วงออกดอก–ติดฝัก
1.1 ไนโตรเจน ( N )
* ไนโตรเจนมีความสำคัญต่อ *การพัฒนาดอกตัวเมีย (silk) และการสร้าง chlorophyll* เพื่อคงการสังเคราะห์แสงต่อเนื่อง
* งานวิจัยชี้ว่าการขาด N ในช่วงนี้ ทำให้ silk แห้งเร็ว การผสมเกสรไม่สมบูรณ์ และผลผลิตลดลงถึง 20–30%
* แนวทาง: ใส่ N split application โดยแบ่งให้ก่อนออกดอก และเสริมบางส่วนช่วงออกดอกเพื่อให้พืชมี supply ต่อเนื่อง
1.2 โบรอน (B)
* มีบทบาทใน *การงอกของหลอดละอองเกสรและการเคลื่อนย้ายแป้ง–น้ำตาลไปยังเมล็ด*
* การขาด B ทำให้ silk แห้งเร็ว การผสมไม่ติด และฝักไม่เต็ม
* แนวทาง: ใช้ **Borax หรือ Boric acid** ปริมาณ 1–2 กก./ไร่ หรือพ่นทางใบ (150–200 ppm) ในช่วงก่อน–ขณะออกดอก
---
2. การจัดการน้ำ
* ระยะ *tasseling–silking* และ *grain filling* เป็นช่วงที่ข้าวโพดต้องการน้ำสูงที่สุด (ET ≈ 5–7 มม./วัน)
* ความเครียดน้ำเพียง 4–5 วันในช่วงนี้ อาจทำให้ *เปอร์เซ็นต์การติดเมล็ดลดลง 40–50%*
* แนวทาง: ควรรักษาความชื้นดินไม่ต่ำกว่า 60–70% field capacity โดยให้น้ำสม่ำเสมอทุก 5–7 วัน หรือใช้ระบบน้ำหยด/สปริงเกลอร์เพื่อลดความเครียด
---
3. การจัดการศัตรูพืช: หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด (Spodoptera frugiperda)
* ศัตรูพืชสำคัญในระยะออกดอก–ติดฝัก หนอนเข้าทำลายใบยอดและช่อดอก ทำให้ *การแทง silk ผิดปกติ และการผสมไม่สมบูรณ์*
* แนวทางจัดการแบบผสมผสาน (IPM):
* ใช้เชื้อจุลินทรีย์ เช่น *Bacillus thuringiensis* (ไอกี้-บีที) หรือเชื้อรา *Metarhizium anisopliae*
* ติดตั้งกับดักแสง/กับดักฟีโรโมนเพื่อลดการวางไข่
* การพ่นสารเคมีควรเลือกกลุ่มที่มีประสิทธิภาพต่อหนอนกระทู้ เช่น chlorantraniliprole หรือ emamectin benzoate แต่ต้องใช้แบบหมุนเวียนเพื่อลดการดื้อยา
---
4. การจัดการเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเมล็ด
* การใส่ปุ๋ยเสริมทางใบ: เสริม K, Mg และ Zn ร่วมกับ B เพื่อเพิ่มการเคลื่อนย้ายคาร์โบไฮเดรตไปยังเมล็ด (ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1)
* การเว้นระยะเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม: ควรเก็บเมื่อความชื้นเมล็ดอยู่ที่ 20–25% เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงและลดการสูญเสีย
* การจัดการวัชพืช: ลดการแข่งขันน้ำและธาตุอาหาร โดยเฉพาะในช่วง critical stage นี้
---
สรุป
การจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงออกดอก–ติดฝักต้องเน้น 3 มิติหลัก คือ
1. ธาตุอาหาร (N และ B): เพื่อความสมบูรณ์ของ silk และการผสมติดเมล็ด
2. น้ำ: ต้องสม่ำเสมอ ไม่ให้ต้นเกิดความเครียด
3. การป้องกันหนอนกระทู้ลายจุด: ใช้แนวทาง IPM ลดความเสียหาย
การดำเนินการอย่างครบถ้วนในช่วง critical stage นี้จะช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวโพดได้ 15–30% เมื่อเทียบกับแปลงที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
---
เอกสารอ้างอิง
1. Andrade, F. H., et al. (1999). Yield responses to narrow rows depend on increased radiation interception. *Agronomy Journal*, 91(3), 573–577.
2. Bellaloui, N., et al. (2013). Boron and seed physiology in plants. *Plant Physiology and Biochemistry*, 66, 47–55.
3. FAO. (2021). *Fall armyworm in Asia: Integrated pest management guide for smallholder farmers*. Rome: Food and Agriculture Organization.
4. ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่. (2564). *การจัดการธาตุอาหารข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อผลผลิตสูง*. กรมวิชาการเกษตร.
5. Prasert, S., & Srichuwong, S. (2020). Water management strategies for maize production in Thailand. *Thai Journal of Agricultural Science*, 53(2), 85–95.
---
#ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ #จัดการข้าวโพด #ระยะออกดอกติดฝัก #การจัดการไนโตรเจน #โบรอนข้าวโพด #ป้องกันหนอนกระทู้ลายจุด #เพิ่มผลผลิตข้าวโพด #เกษตรวิชาการ #ฟาร์มเกษตร #เกษตรกรไทยยั่งยืน