<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
ปมรุมเร้าลำไย 4 แสนตัน ตะวันออก เพลี้ยแป้ง ขาดแรงงาน 2 หมื่นยังวุ่น
ช่วงเดือนสิงหาคม เป็นเดือนที่ผลผลิตลำไยของภาคตะวันออกกำลังทยอยออกมามากขึ้น ขณะที่ปัญหาต่าง ๆ ในการส่งออกไปตลาดจีนกำลังประดังกันเข้ามา
ตั้งแต่เรื่องที่สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ตรวจพบเพลี้ยแป้งในลำไยจากไทย และได้สั่งระงับชั่วคราวโรงคัดบรรจุ 66 บริษัท แต่ล่าสุดทางกรมวิชาการเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เจรจากับรัฐบาลจีนอนุญาตให้โรงคัดบรรจุ 56 บริษัทที่ตรวจพบเพลี้ยแป้งน้อยครั้งที่สุดสามารถส่งออกลำไยได้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ส่วนรายที่พบมากครั้งให้มีการปรับปรุงให้เป็นไปตามขั้นตอนต่อไปนั้น
หวั่นกระทบลำไย 4 แสนตัน
ภาคตะวันออก จันทบุรี สระแก้ว ที่มีผลผลิตลำไยจำนวนมากเกือบ 400_000 ตัน และผลผลิตออกมากเดือนกันยายน-ธันวาคม และตลาดจีนเป็นตลาดใหญ่ถึง 80%
ซึ่งบริษัทส่งออกภาคตะวันออกที่ถูกแบน 29 บริษัท อยู่ในจันทบุรี 28 บริษัทและ จ.สระแก้ว 1 บริษัท ล้วนเป็นบริษัทใหญ่ที่รับซื้อ 80-85%
หากมีการหยุดรับซื้อหวั่นปัญหาด้านการตลาดมีผลกระทบต่อเกษตรกรที่ต้องรับภาระราคาตกต่ำ ในขณะที่ล้งยังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานถึง 20_000 คน เตรียมเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ผ่อนปรน
นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสถานีวิจัยพัฒนาการเกษตร จ.จันทบุรี (สวพ.6) เปิดเผยว่า ได้ประชุมผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุใน จ.จันทบุรี รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมชาวสวนลำไย สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี
และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมา 2 ครั้งแล้ว เพื่อหารือเร่งด่วนกรณีการแจ้งเตือนและชะลอการส่งออกชั่วคราวโรงคัดบรรจุลำไยที่มีเพลี้ยแป้งไม่ได้ห้ามโดยเด็ดขาด กรมวิชาการเกษตร
และ สวพ.6 ได้กำหนดมาตรการควบคุมเพลี้ยแป้งอย่างเข้มงวด ให้โรงคัดบรรจุใน จ.จันทบุรี 28 โรงที่ถูกระงับได้ปฏิบัติ ส่งให้จีนพิจารณาผ่อนปรนระงับการนำเข้าเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนถึงฤดูกาลลำไยภาคตะวันออกเดือนกันยายน-ธันวาคม
ภายหลังอธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้ประชุมครั้งที่ 1 และการเจรจากับจีนเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม จีนยังคงยืนยันให้ระงับโรงคัดบรรจุที่ตรวจพบเพลี้ยแป้งซึ่งอยู่ในภาคตะวันออก 29 โรง จันทบุรี 28 โรง สระแก้ว 1 โรง
แนวทางที่กรมวิชาการเกษตรเสนอขอผ่อนปรนจากจีนคือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงมากคือพบเพลี้ยแป้งมากจำนวน 4 โรง ซึ่งรายชื่อซ้ำกับการแจ้งทั้ง 2 ครั้ง อาจจะระงับระยะยาวกว่า
ส่วนที่เหลือกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยคือ พบเพลี้ยแป้งจำนวนน้อยกว่าจำนวน 23 โรง (ยกเลิกการขึ้นทะเบียน 1 บริษัท) ผ่อนผันให้มีการระงับการนำเข้าระยะเวลาไม่นาน โดยส่งแผนการกำจัดเพลี้ยแป้งอย่างเข้มงวด และการป้องกันโควิด-19
“โรงคัดบรรจุลำไยภาคตะวันออกที่ได้มาตรฐาน GMP และขึ้นทะเบียน DOA กับทางการจีนมี 93 โรง จ.จันทบุรี 89 โรง สระแก้ว 2 โรง ระยอง 2 โรง ถูกระงับการส่งออกชั่วคราวรอบเดือนมีนาคม 8 โรง
และรอบ 2 เดือนกรกฎาคม 29 โรง ซึ่งในจำนวนนี้มีรายชื่อซ้ำกับรอบแรกอยู่ 6 โรง สวพ.6 ได้เตรียมพร้อมโรงคัดบรรจุที่ยังส่งออกได้ปกติอีก 62 โรงเพื่อรับซื้อผลผลิต จำนวนโรงคัดบรรจุ 29 โรงที่ถูกระงับมีล้งที่มีความเสี่ยงสูง
หรือถูกแจ้งเตือนบ่อย 4 โรง ที่เหลืออีก 25 โรงมีความเสี่ยงต่ำแต่เป็นโรงคัดบรรจุขนาดใหญ่ที่รับซื้อลำไยถึง 80%” นายชลธีกล่าว
ตรวจเข้มสวนถึงโรงคัดบรรจุ
นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน หัวหน้าด่านตรวจพืชแหลมฉบัง ชี้แจงมาตรการกรมวิชาการเกษตรที่เกษตรกรและโรงคัดบรรจุต้องปฏิบัติ โดยดูแลติดตามใน 3 ส่วนอย่างเข้มงวดคือ ในสวน
โรงคัดบรรจุและการตรวจสอบและออกใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate : PC ) โดยเพิ่มผู้ตรวจสอบศัตรูพืชในกระบวนการผลิต คือ สายเก็บจากสวน โรงคัดบรรจุเพิ่ม
การสุ่มตรวจเมื่อคัดแยกเกรดบรรจุตะกร้าก่อนเข้าตู้รมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และระบายแก๊สที่อบเสร็จสุ่มตรวจอีกครั้ง อัตราการสุ่มตรวจ 5% (ยกเว้นโรงคัดที่ถูกระงับสุ่ม 10%) ศัตรูพืชต้องไม่เกิน 3%
เพื่อตรวจสอบและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชในโรงคัดบรรจุก่อนที่จะตรวจที่ด่านตรวจอีกครั้ง นอกจากนี้ ข้อกำหนดเพิ่มเติมต่าง ๆ ให้เหมาะสมต่อการตรวจศัตรูพืชและลดความเสี่ยงเช่น พื้นที่คัดแยกวางสินค้าปนเปื้อน แสงสว่างจุดเสี่ยง
ขาดแรงงานเก็บลำไย 2 หมื่นคน
นอกจากปัญหาศัตรูพืชแล้ว ผู้ส่งออกยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานเก็บลำไย เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถนำเข้าแรงงานกัมพูชามาเก็บลำไยได้สะดวกเหมือนในอดีตก่อนเกิดโควิด
นายเกียรติศักดิ์ พูนเพิ่ม เลขาธิการสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี กล่าวว่า ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมได้ทำมาตรฐานศัตรูพืชควบคู่ไปกับการป้องกันโควิด-19
มีการสุ่มตรวจแรงงานในโรงคัดบรรจุได้มากกว่า 10% โดยประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.โป่งน้ำร้อน เบื้องต้นใช้ Rapid Antigen Test และเมื่อผลเป็นบวกจะตรวจยืนยันด้วย RT-PCR อีกครั้ง
โดยเป้าสุ่มตรวจระยะแรก 2_500 คน ตรวจไปแล้ว 2_000 คน โดยจะได้รับบัตรรับรองจากสมาคม ค่าใช้จ่ายให้คนละ 1_000 บาท ผู้ประกอบการจะรับผิดชอบ
เป็นกลุ่มแรงงานเดิมที่อยู่ในพื้นที่ประมาณ 12_000 คน จำกัดให้อยู่ใน 2 อำเภอเท่านั้น คือ อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว เพื่อให้ควบคุมได้ และแรงงานกลุ่มที่เข้ามาใหม่ที่จะขออนุญาตศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) นำเข้าจากเพื่อนบ้านประมาณ 20_000 คน
ด้านนายศิริไพบูลย์ วัฒณวงศ์ชัย สมาชิกสภาเทศบาล ต.คลองหาด อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว และตัวแทนเกษตรกรและผู้รับซื้อลำไยเพื่อการส่งออกกล่าวว่า พื้นที่ จ.สระแก้วจะเริ่มเก็บผลผลิตเดือนสิงหาคมและมีผลผลิตออกมากตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม
เดิมใช้แรงงานกัมพูชา แต่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องใช้แรงงานที่อยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเดินทางเข้าจังหวัดมาเก็บลำไยใน จ.สระแก้วได้หรือไม่ หาก จ.สระแก้วอนุญาตให้ผู้ประกอบการที่มีแรงงานอยู่ จ.จันทบุรีเข้ามาเก็บลำไยได้ และอนุญาตให้พักค้างได้ หรือทำในรูปแบบของ จ.จันทบุรีจะแก้ไขปัญหาได้
อ้างอิง
http://www.farmkaset..link..
สินค้าจากเรา
มาคา สารอินทรีย์ป้องกันและกำจัดเพลี้ย รายละเอียดด้านล่างนะคะ