[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - การปลูกแตงกวา
10 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 1 หน้า, หน้าที่ 2 มี 0 รายการ

แตงกวา ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ สตาร์เฟอร์ 0-0-60
แตงกวา ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ สตาร์เฟอร์ 0-0-60
แตงกวา ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ สตาร์เฟอร์ 0-0-60
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์สำหรับฉีดพ่นต้นแตงกวา: สูตรเร่งผลผลิต ผลใหญ่ ดก น้ำหนักดี

แตงกวา พืชผักยอดนิยมที่ปลูกง่าย ทานอร่อย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย การปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตดี ผลใหญ่ ดก และมีคุณภาพ จำเป็นต้องอาศัยปุ๋ยที่เหมาะสม บทความนี้ขอแนะนำ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตรเร่งผลผลิตสำหรับต้นแตงกวา



ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก 3 ชนิด คือ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของต้นแตงกวาในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต

สูตรเด็ดสำหรับแตงกวา

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60: สูตรนี้เน้นโพแทสเซียมสูง เหมาะสำหรับช่วงออกดอกและติดผล ช่วยให้ผลแตงกวาขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และมีคุณภาพดี

ปุ๋ยแม็กซ่า: ปุ๋ยธาตุรอง ธาตุเสริม ช่วยเพิ่มครอโรฟิลล์ เร่งการเจริญเติบโต ใบเขียวเข้ม เขียวไว เขียวนาน เพิ่มคุณภาพและผลผลิต



ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิด: สารปรับปรุงดินคุณภาพสูง ช่วยฟื้นฟูระบบราก เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารของพืช ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี ผลผลิตเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง

เก็บปุ๋ยในที่แห้ง มิดชิด ห่างไกลจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก เมื่อใช้ปุ๋ย
ห้ามรับประทานหรือสูดดมปุ๋ย
ล้างมือและอาบน้ำให้สะอาดหลังใช้ปุ๋ย

ผลลัพธ์ที่ได้

เมื่อใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตรเร่งผลผลิตสำหรับต้นแตงกวาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้

ต้นแตงกวามีลำต้นแข็งแรง
ใบเขียวเข้ม ดกหนา
ออกดอกดก
ผลแตงกวามีขนาดใหญ่ น้ำหนักดี
ผลผลิตเพิ่มขึ้น
คุณภาพของผลแตงกวาดี

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ และคุ้มค่าต่อการลงทุน

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร



ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)

ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3423
แตงกวา โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์
แตงกวา โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์
แตงกวา โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์: ตัวช่วยสำคัญสำหรับการปลูกแตงกวาที่สมบูรณ์แบบ

แตงกวาเป็นผักยอดนิยมที่ปลูกง่าย เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย แต่การจะได้ผลผลิตที่ดกใหญ่ คุณภาพดี จำเป็นต้องมีตัวช่วยสำคัญอย่าง "ปุ๋ย" ที่เหมาะสม

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ มีสูตรเฉพาะสำหรับแตงกวาโดยเฉพาะ 3 สูตร ที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต

สูตร 1: 30-20-5 เร่งการเจริญเติบโต โตไว ใบเขียว

เหมาะสำหรับช่วงแรกของการเจริญเติบโต
เน้นธาตุไนโตรเจน (N) สูง ช่วยให้ต้นแตงกวาสังเคราะห์แสงได้ดี ใบเขียวใหญ่
มีฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ช่วยให้รากแข็งแรง แตกแขนง ใบดก

สูตร 2: 10-40-10+3 MgO เร่งการเจริญเติบโตของราก และการออกดอก

เหมาะสำหรับช่วงออกดอก
เน้นธาตุฟอสฟอรัส (P) สูง ช่วยให้ระบบรากแข็งแรง ดูดซึมอาหารได้ดี
มีโพแทสเซียม (K) สูง ช่วยให้ดอกสมบูรณ์ ออกดอกดก

สูตร 3: 15-5-30+3 MgO ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต

เหมาะสำหรับช่วงติดผล
เน้นธาตุโพแทสเซียม (K) สูง ช่วยให้ผลใหญ่ ผลสมบูรณ์
มีแคลเซียม (Ca) และแมกนีเซียม (Mg) ช่วยให้ผลแข็งแรง เก็บไว้ได้นาน

ข้อควรระวัง

เก็บปุ๋ยให้มิดชิด พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อใช้ปุ๋ย
ห้ามรับประทาน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ช่วยให้การปลูกแตงกวาของคุณง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และได้ผลผลิตที่ดกใหญ่ คุณภาพดี เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

ลองใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ แล้วสัมผัสผลลัพธ์ที่แตกต่าง

หมายเหตุ:

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ควรอ่านฉลากและเอกสารกำกับการใช้ปุ๋ยอย่างละเอียดก่อนใช้งาน
ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพดิน สภาพอากาศ และสายพันธุ์ของแตงกวา

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3529
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกแตงกวาที่ต้องการเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพ และสร้างรายได้จากการปลูกแตงกวา
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกแตงกวาที่ต้องการเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพ และสร้างรายได้จากการปลูกแตงกวา
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกแตงกวาที่ต้องการเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพ และสร้างรายได้จากการปลูกแตงกวา
แตงกวา เป็นพืชผักสวนครัวที่ได้รับความนิยมปลูกเพื่อบริโภคและจำหน่าย ด้วยความที่แตงกวามีรสชาติอร่อย สดชื่น และมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ผลใหญ่ ผลดก จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นปุ๋ยเคมีมาตรฐานประเภทโพแทสเซียมคลอไรด์ ที่มีสูตรธาตุอาหารเฉพาะสำหรับการบำรุงต้นแตงกวาโดยเฉพาะ ปุ๋ยสูตรนี้ไม่มีไนโตรเจนและฟอสฟอรัส เน้นธาตุอาหารโพแทสเซียมสูงถึง 60% ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของแตงกวา ดังนี้

ส่งเสริมการออกดอก: โพแทสเซียมช่วยกระตุ้นการออกดอกของต้นแตงกวา ทำให้มีดอกมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการติดผล
ผลใหญ่ ผลดก: โพแทสเซียมช่วยในการขยายขนาดของผล เพิ่มน้ำหนัก ทำให้แตงกวามีขนาดใหญ่ ผลดก
เพิ่มคุณภาพ: โพแทสเซียมช่วยให้ผลแตงกวามีรสชาติดี กรอบ อร่อย เก็บไว้ได้นาน
เพิ่มผลผลิต: การรวมกันของผลลัพธ์ทั้งหมด ส่งผลให้ผลผลิตแตงกวามีปริมาณมากขึ้น
วิธีการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60

ช่วงเวลา: เริ่มใช้ปุ๋ยหลังจากต้นแตงกวามีอายุ 15 วัน

วิธีการ: ละลายปุ๋ยในน้ำ 20-30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุกๆ 7-10 วัน

ข้อควรระวัง:
ควรอ่านฉลากและคำแนะนำการใช้อย่างละเอียดก่อนใช้
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก ยาง รองเท้าบู๊ท
เก็บปุ๋ยให้มิดชิด ห่างไกลจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามรับประทาน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ปลูกแตงกวาที่ต้องการเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพ และสร้างรายได้จากการปลูกแตงกวา

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
ยากำจัดโรคผลเน่า ใน แตงกวา โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรคผลเน่า ใน แตงกวา โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรคผลเน่า ใน แตงกวา โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ปฏิวัติการปลูกแตงกวา

แตงกวาเป็นอาหารหลักในอาหารหลายชนิดทั่วโลก เป็นเครื่องปรุงที่อร่อยและสดชื่นสำหรับสลัด แซนด์วิช หรือแม้แต่เครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับพืชแตงกวาคือโรคผลเน่าที่เกิดจากเชื้อรา การติดเชื้อเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสูญเสียที่สำคัญสำหรับเกษตรกรและส่งผลกระทบต่อความพร้อมและคุณภาพของแตงกวาในตลาด เพื่อต่อสู้กับความท้าทายนี้ นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่มีชื่อว่า IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่กำจัดโรคผลไม้เน่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และปฏิบัติตามหลักการทางธรรมชาติ

IS เป็นผลมาจากการวิจัยและพัฒนาที่กว้างขวางที่ดำเนินการเพื่อสร้างสารต้านเชื้อราที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับการควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งแตกต่างจากสารฆ่าเชื้อราที่ใช้สารเคมีทั่วไป IS มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับเกษตรกรและผู้บริโภค ด้วยการใช้พลังแห่งธรรมชาติ IS นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการต่อสู้กับการติดเชื้อราในพืชแตงกวา

กุญแจสู่ประสิทธิภาพของ IS อยู่ที่เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การควบคุมสภาพแวดล้อมที่พื้นผิวของใบพืช เชื้อราเจริญเติบโตได้ในสภาวะเฉพาะ เช่น ความชื้น ความอบอุ่น และระดับ pH ที่เหมาะสม IS ทำลายเงื่อนไขเหล่านี้ สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยสำหรับเชื้อราที่จะเติบโตและขยายพันธุ์ ด้วยการควบคุมสภาพอากาศในระดับจุลภาคอย่างระมัดระวังบนผิวใบพืช ระบบ IS ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสปอร์ของเชื้อราไม่สามารถจับได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคผลไม้เน่า

ยิ่งไปกว่านั้น IS ยังมีความสามารถในการยึดติดกับผิวใบพืชได้ดีกว่าสารกำจัดเชื้อราทั่วไป การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์ ทำให้มั่นใจได้ว่ามีการกระจายอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึงทั่วทั้งต้นแตงกวา ส่งผลให้ผิวใบทุกใบได้รับการปกป้องอย่างเพียงพอ ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อราและเพิ่มผลผลิตของแตงกวาที่แข็งแรง

ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของ IS คือความปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม สารเคมีฆ่าเชื้อราแบบดั้งเดิมมักสร้างความกังวลเนื่องจากผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และระบบนิเวศ อย่างไรก็ตาม IS ขจัดความกังวลเหล่านี้โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ใช้หรือสภาพแวดล้อมโดยรอบ เกษตรกรสามารถใช้ IS กับพืชของตนได้อย่างมั่นใจ โดยรู้ว่ากำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

นอกจากนี้ ลักษณะอินทรีย์ของ IS ยังสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นสำหรับอาหารที่ผลิตอย่างยั่งยืน ผู้คนจำนวนมากขึ้นกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีอันตรายและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เมื่อใช้ IS เกษตรกรไม่เพียงแต่สามารถปกป้องพืชผลของตนเท่านั้น แต่ยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด

โดยสรุป IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่พลิกโฉมการทำไร่แตงกวาโดยการต่อสู้กับโรคผลไม้เน่าอย่างได้ผล ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวาง IS ได้รับการคิดค้นอย่างพิถีพิถันเพื่อเลือกวัตถุดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ด้วยการสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อเชื้อราบนผิวใบพืชและปรับปรุงการยึดเกาะ ระบบ IS ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปกป้องพืชแตงกวาอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ องค์ประกอบอินทรีย์ยังทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเกษตรกรและผู้บริโภค ด้วย IS เกษตรกรผู้ปลูกแตงกวาสามารถบอกลาโรคผลเน่าและเปิดรับอนาคตที่ยั่งยืนและมีผลมากขึ้น

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
แตงกวา โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
แตงกวา โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
แตงกวา โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
การปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตสูงสุด: เพิ่มผลผลิตด้วยปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

แตงกวาเป็นผักที่ได้รับความนิยมและมีประโยชน์หลากหลาย ใช้ในอาหารและสลัดที่หลากหลาย เพื่อให้แน่ใจว่าแตงกวาจะเก็บเกี่ยวได้ปริมาณมาก เกษตรกรและชาวสวนจำเป็นต้องใส่ใจกับปัจจัยต่างๆ รวมถึงโภชนาการที่เหมาะสม วิธีหนึ่งที่ได้ผลในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาคือการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม เช่น ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นส่วนผสมของธาตุอาหารที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีธาตุที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว เมื่อใช้อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของแตงกวาได้อย่างมาก

การเริ่มต้นใช้งานปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

การดูดซึมอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ: การฉีดพ่นทางใบช่วยให้พืชแตงกวาสามารถดูดซึมสารอาหารได้โดยตรงผ่านทางใบโดยไม่ผ่านราก ส่งผลให้การดูดซึมและการใช้สารอาหารเร็วขึ้น ส่งผลให้การเจริญเติบโตและผลผลิตดีขึ้น

องค์ประกอบของธาตุอาหารที่สมดุล: ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวที่สมดุล สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของแตงกวาในด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาใบ การก่อตัวของดอก การติดผล และสุขภาพโดยรวมของพืช

การตั้งค่าการออกดอกและผลที่เพิ่มขึ้น: องค์ประกอบของสารอาหารที่สมดุลของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ส่งเสริมการพัฒนาของดอกไม้ที่สมบูรณ์ นำไปสู่การตั้งค่าผลไม้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ได้แตงกวาต่อต้นในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ได้ผลผลิตสูงสุดในที่สุด

ปรับปรุงความพร้อมของธาตุอาหาร: สารลดแรงตึงผิวในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยเพิ่มความพร้อมของธาตุอาหารโดยการลดแรงตึงผิวของสารละลายฉีดพ่น วิธีนี้ช่วยให้ปุ๋ยกระจายทั่วใบแตงกวามากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าทุกส่วนของพืชได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

ใช้งานง่าย: ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ใช้งานง่ายด้วยเครื่องพ่นสารเคมีหรือขวดสเปรย์ ทำให้สะดวกสำหรับผู้ปลูกแตงกวาทั้งรายย่อยและรายใหญ่ สามารถใช้ในช่วงการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันของต้นแตงกวา ตั้งแต่ระยะต้นกล้าจนถึงระยะออกดอกและติดผล เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารที่สม่ำเสมอตลอดฤดูปลูก

โดยสรุป FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสามารถเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาให้ได้สูงสุด องค์ประกอบของสารอาหารที่สมดุล การดูดซึมที่รวดเร็ว และการนำไปใช้ที่ง่ายทำให้เป็นทางเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ปลูกแตงกวา ด้วยการผสมปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เข้ากับแนวทางปฏิบัติในการเพาะปลูก เกษตรกรและชาวสวนสามารถเพิ่มการเจริญเติบโตของแตงกวา เพิ่มผลผลิต และบรรลุผลในการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์มากขึ้น

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และติ๊กต็อก ช้อป http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกแตงกวา: เคล็ดลับเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดโดยใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

แตงกวาเป็นพืชยอดนิยมที่สามารถปลูกได้ในสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การปลูกแตงกวาเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและใส่ใจในรายละเอียด วิธีหนึ่งที่ได้ผลในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูง เช่น FK-1 ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อให้แตงกวาได้ผลผลิตสูงสุด

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคืออะไร?

FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวอย่างสมดุล ปุ๋ยนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิต การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่เกษตรกร เนื่องจากปุ๋ยถูกดูดซึมโดยตรงทางใบและสามารถให้ธาตุอาหารที่จำเป็นแก่พืชได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับแตงกวา?

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สามารถใช้กับแตงกวาได้ตลอดฤดูปลูก ขั้นตอนต่อไปนี้จะแนะนำวิธีการใช้ FK-1 เพื่อเพิ่มผลผลิตแตงกวาของคุณ

ขั้นตอนที่ 1: รับ FK-1 ในปริมาณที่เหมาะสม

FK-1 หนึ่งกล่องหนัก 2 กก. และบรรจุสองถุง ๆ ละ 1 กก. ต้องผสมทั้งสองถุงก่อนใช้ อัตราส่วนผสมต่อน้ำ 20 ลิตร คือ 50 กรัมของถุงแรก และ 50 กรัมของถุงที่สอง คนจนละลาย

ขั้นตอนที่ 2: ใส่ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับต้นแตงกวาในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ เมื่อใบเย็นและแห้ง วิธีนี้จะช่วยลดการระเหยและทำให้ปุ๋ยถูกดูดซึมทางใบ ใช้ขวดสเปรย์หรือเครื่องพ่นสเปรย์ฉีดให้ทั่วใบ

ขั้นตอนที่ 3: ทำซ้ำแอปพลิเคชัน

ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ซ้ำทุกๆ 10 ถึง 14 วันตลอดฤดูปลูก เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง

เคล็ดลับในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาให้ได้มากที่สุด

นอกจากการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 แล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่คุณสามารถปฏิบัติตามเพื่อเพิ่มผลผลิตแตงกวาให้ได้สูงสุด

เลือกพันธุ์ที่เหมาะสม: เลือกพันธุ์แตงกวาที่เหมาะกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมของคุณ

ให้น้ำเพียงพอ: แตงกวาต้องการน้ำมากเพื่อการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม อย่าลืมรดน้ำให้ลึกและสม่ำเสมอ

ควบคุมศัตรูพืชและโรค: ศัตรูพืชและโรคสามารถลดผลผลิตแตงกวาได้อย่างมาก ใช้วิธีการควบคุมศัตรูพืชแบบออร์แกนิกและตรวจสอบพืชของคุณเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของโรค

การตัดแต่งกิ่งที่เหมาะสม: การตัดแต่งกิ่งสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและลดความเสี่ยงของโรค

บทสรุป

การปลูกแตงกวาเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและใส่ใจในรายละเอียด การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงอย่าง FK-1 สามารถช่วยให้พืชของคุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและแข็งแรง ทำตามขั้นตอนข้างต้นเพื่อใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับแตงกวาของคุณ และอย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุด ด้วยการดูแลเอาใจใส่ที่ถูกต้อง คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวแตงกวาที่อุดมสมบูรณ์ได้

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในแตงกวา และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในแตงกวา และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในแตงกวา และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
เพลี้ยไฟ ลักษณะเป็นแมลงขนาดเล็ก ตัวสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลแก่ พบตามยอดใบอ่อน ดอก และผลอ่อน การทำลาย ดูดน้ำเลี้ยงที่ใบ ดอกอ่อน และยอดอ่อน ทำให้ใบม้วนหงิกงอ รูปร่างผิดปกติเป็นกระจุก มีสีสลับเขียวเป็นทาง ระบาดมากในช่วงที่มีอากาศแห้งแล้ง ฝนทิ้งช่วง นับเป็นแมลงที่เป็นปัญหาสำคัญที่สุดในการปลูกแตงกวา

Beauveria mix Methharicium หรือที่รู้จักกันในชื่อ Butarex เป็นส่วนผสมของเชื้อรา Beauveria และแบคทีเรีย Metharicium ที่ใช้ในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟในแตงกวา การรวมกันของสิ่งมีชีวิตทั้งสองนี้สร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมประชากรเพลี้ยไฟโดยไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ไบโอคอนโทรลชนิดนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดการทำลายของเพลี้ยไฟและปกป้องพืชผลแตงกวา

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..
ปุ๋ยแตงกวา ตรา FK ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นแตงกวา เร่งโตเร่งผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปุ๋ยแตงกวา ตรา FK ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นแตงกวา เร่งโตเร่งผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปุ๋ยแตงกวา ตรา FK ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นแตงกวา เร่งโตเร่งผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปุ๋ยเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเกษตร ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเจริญเติบโต ปุ๋ย FK เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ปลูกจำนวนมากเนื่องจากสูตรที่สมดุลและการรวมสารลดแรงตึงผิวซึ่งช่วยให้สารอาหารถูกดูดซึมได้ง่ายขึ้นโดยพืช

ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งของปุ๋ย FK ที่มีต่อแตงกวา คือมีธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่หลากหลาย รวมทั้งแมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม สารอาหารเหล่านี้จำเป็นสำหรับกระบวนการต่างๆ ของพืช รวมถึงการสังเคราะห์ด้วยแสง การหายใจ และการผลิตโปรตีนและเอนไซม์ การให้สารอาหารเหล่านี้แก่พืช ปุ๋ย FK สามารถช่วยปรับปรุงการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช

ปุ๋ย FK ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในการปลูกแตงกวาคือ FK-1 ปุ๋ยนี้ออกแบบมาให้ฉีดพ่นพืชได้ตลอดเวลา และมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการเร่งการเจริญเติบโตของแตงกวา สูตรที่สมดุลของธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองช่วยสนับสนุนสุขภาพโดยรวมและการพัฒนาของพืช นำไปสู่ต้นแตงกวาที่แข็งแรงและสมบูรณ์ซึ่งมีความทนทานต่อศัตรูพืชและโรคต่างๆ

ปุ๋ย FK อีกประเภทที่นิยมใช้ในการปลูกแตงกวาคือ FK-3 ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ให้โพแทสเซียมสูง โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มผลผลิตในพืชแตงกวา การให้ปุ๋ย FK-3 แก่ต้นแตงกวาที่มีโพแทสเซียมสูงสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและผลิตแตงกวาคุณภาพสูงที่มีน้ำหนักและลักษณะที่ดี

เมื่อใช้ปุ๋ย FK สำหรับการปลูกแตงกวา สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตสำหรับอัตราการใส่และระยะเวลา โดยทั่วไปแล้ว การฉีดพ่นปุ๋ยทางต้นจะดีที่สุดในช่วงต้นของระยะออกผล เพราะจะช่วยเร่งการเจริญเติบโตและพัฒนาของแตงกวา การใช้ปุ๋ย FK ร่วมกับการปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ดี เช่น การรดน้ำที่เหมาะสมและการจัดการศัตรูพืช ผู้ปลูกสามารถบรรลุผลที่ยอดเยี่ยมและผลิตแตงกวาคุณภาพสูงที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ

สนใจปุ๋ย FK1 และ FK-3 ช่องทางสั่งซื้อ

ลาซาด้า

FK-1 บนลาซาด้า http://ไปที่..link..

FK-3 บนลาซาด้า http://ไปที่..link..

ช้อปปี้

FK-1 บนช้อปปี้ http://ไปที่..link..

FK-3 บนช้อปปี้ http://ไปที่..link..

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:3416
ปุ๋ยสำหรับแตงกวา ปุ๋ยน้ำสำหรับแตงกวา และ พืชตระกูลแตง ฉีดพ่น FKธรรมชาตินิยม
ปุ๋ยสำหรับแตงกวา ปุ๋ยน้ำสำหรับแตงกวา และ พืชตระกูลแตง ฉีดพ่น FKธรรมชาตินิยม
FKธรรมชาตินิยม อาหารพืชทางใบ สำหรับเลี้ยง ดูแล พืชพันธุ์นานาชนิด ส่งเสริมการเจริญเติบโต เสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรง ด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่ประกอบอยู่ใน FKธรรมชาตินิยม

ข้อมูล FKธรรมชาตินิยม

อาหารเสริมเพืชทางใบ ซึ่งประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช หากไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ Liebig s law of the minimum_ FKธรรมชาตินิยม ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

เมื่อพืช ได้รับธาตุอาหารที่ขาดไป ธาตุอาหารพืชต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในดิน ที่พืชไม่เคยดูดกินไปใช้ประโยชน์ได้ ก็สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องจาก ธาตุบางตัว เป็นตัวนำพาธาตุอื่นๆ จึงทำให้พืช ใช้ประโยชน์ จากการปลดปล่อยธาตุอาหารเดิมที่มีอยู่ รวมกับธาตุอาหารที่ได้รับเข้าไปใหม่ ได้อย่างเต็มที่


การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
แตงกวา การปลูกแตงกวา การป้องกันกำจัด เพลี้ย แมลง และการรักษาโรคแตงกวา
แตงกวา การปลูกแตงกวา การป้องกันกำจัด เพลี้ย แมลง และการรักษาโรคแตงกวา
แตงกวา (Cucumber) เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับแตงโม ฟักทอง บวบ มะระ น้ำเต้า ซึ่งมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วทุกภาค ของประเทศ มีอายุตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวสั้น โดยใช้เวลาเพียง 30-45 วัน หลังจากปลูกเมื่อเปรียบเทียบรายได้จากการปลูก แตงกวากับพืชอื่นๆ หลายชนิดแล้ว แตงกวาเป็นพืชหนึ่งที่สามารถทำรายได้ดีทีเดียว สำหรับในแง่ของผู้บริโภคแล้ว แตงกวาที่สามารถ นำไปปรุงอาหารได้มากมายหลายชนิด เช่น การนำไปแกงจืด ผัด จิ้มน้ำพริก หรืออาจแปรรูปเป็นแตงกวาดอง จะเห็นได้ว่าแตงกวาเป็นพืชที่เข้ามามีบทบาทต่อการค้าทั้งในและต่างประเทศ

ถิ่นกำเนิดแตงกวา

แตงกวา การปลูกแตงกวาแตงกวามีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย มีการบันทึกประวัติการปลูกมากกว่า 3_000 ปี และมีการปลูกในประเทศ แถบทะเล เมดิเตอร์เรเนียน เมื่อก่อน 2_000 ปี โดยนำผ่านเอเซียกลางและตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ในศตวรรษที่ 6 ได้นำไปปลูก ในประเทศจีน โดยสันนิษฐานว่าได้นำเข้าประเทศจีน 2 ทาง คือ เส้นทางสายไหม โดยผ่านประเทศในเอเซียตะวันออก ไปภาคเหนือของประเทศจีน ส่วนอีกเส้นทางโดยผ่านประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ พม่า ไทย ลาว ไปสู่ทางภาคใต้ ของประเทศจีน ในศตวรรษที่ 9-14 ได้นำไปปลูกในทวีปยุโรป และได้รับการพัฒนาพันธุ์ต้นศตวรรษที่ 19 ได้รับการพัฒนาพันธุ์ ให้เหมาะสม ต่อการปลูกได้ในโรงเรือน ศตวรรษที่ 15-16 ได้นำไปปลูกในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาเหนือ และได้รับการ พัฒนาพันธุ์อย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันแตงกวาเป็นผักที่นิยมบริโภคทั่วโลก ทั้งในสภาพ การบริโภคสดและแปรรูป
ลักษณะทางพฤษศาสตร์

แตงกวามีจำนวนโครโมโซม 2n = 14 เป็นพืชผสมข้ามตามธรรมชาติโดยอาศัยลมและแมลง แต่พบอัตราการผสมตัวเอง 1-47 เปอร์เซ็นต์ โดยธรรมชาติมีดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกดอกแต่อยู่ภายในต้นเดียวกัน เป็นพืชฤดูเดียว เถาเลื้อยหรือขึ้นค้าง

ระบบราก เป็นระบบรากแก้ว (tap root system) รากแขนงเป็นจำนวนมาก รากสามารถแผ่ทางด้านกว้างและหยั่งลงได้ลึกถึง 1 เมตร

ลำต้น เป็นเถาเลื้อย เป็นเหลี่ยม มีขนขึ้นปกคลุมทั่วไป มีข้อยาว 10-20 ซม. มือเกาะเกิดออก มาตามข้อ โดยส่วนปลายของมือเกาะไม่มีการแตกแขนงเป็นหลายเส้น ใบมีก้านใบยาว 5-15 ซม. ใบหยาบมีขนใบมีมุมใบ 3-5 มุม ปลายใบแหลม ใบใหญ่แบบ palmate มีเส้นใบ 5-7 เส้น ดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยวเกิดจากบริเวณมุม ใบหรือข้อมีกลีบเลี้ยงสีเขียว 5 กลีบ กลีบดอกสีเหลือง 5 กลีบ รังไข่มีลักษณะกลมยาว 2-5 ซม. มีปุ่มนูนของหนามและขนชัดเจน ส่วนของยอดเกสรตัวเมียมี 2-5 แฉก ส่วนดอกเพศผู้อาจเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกเหมือนดอกเพศเมีย ละอองเกสรตัวผู้ 3 อัน และมีก้านชูเกสรสั้น ๆ ดอกเพศเมียและดอกเพศผู้บานในตอนเช้าและพร้อมรับการผสมเกสรดอกจะหุบ ตอนบ่ายภายในวันเดียวกัน

การเกิดดอกตัวเมีย นั้นขึ้นอยู่กับช่วง แสงและอุณหภูมิกล่าว คือ จะเกิดดอกตัวเมียมากกว่าดอกตัวผู้ ในสภาพช่วงแสงสั้นและมีอุณหภูมิกลางคืนต่ำ ซึ่งตรงกับฤดูหนาวของเมืองไทย

ผลของแตงกวามีลักษณะกลมยาวทรงกระบอก ความยาวผลระหว่าง 5-40 ซม. มีไส้ภายในผล และในปัจจุบันพันธุ์การค้าในต่างประเทศมีการปรับปรุงพันธุ์ที่สามารถติดผล ได้ โดยไม่ได้รับการผสมเกสร (parthenocarpic type) โดยภายในผลไม่มีไส้ เนื้อกรอบ และน้ำหนักต่อผลสูงนิยมทั้งบริโภคผลสดแปรรูป สีผลมีสีขาว เขียวอ่อน เขียว และเขียวเข้มดำ สีหนามสีขาว แดง น้ำตาล และดำ

แตงกวาสามารถจำแนก ได้ตามประโยชน์การใช้สอยดังนี้

1. พันธุ์สำหรับรับประทานสด เป็นพันธุ์ที่มีเนื้อบางและไส้ใหญ่ สีเปลือกเป็นสีเขียวอ่อน ผลมีน้ำมากเป็นพันธุ์ที่มีทั้งผลเล็กและผลใหญ่ เมื่อผลยังอ่อนอยู่จะมีหนามเต็มไปหมด แต่เมื่อโตเต็มที่หนามจะหลุดออกเอง พันธุ์รับประทานสดนี้ไม่เหมาะกับการนำไปดอง

แตงกวารับประทานสดแบ่งตามขนาดของผลนั้น แบ่งได้เป็น

1.1 แตงผลยาว (long cucumber) ที่รู้จักกันในชื่อของแตงร้านซึ่งมีความยาวผลอย่างน้อย 15 ซม. และมีความกว้างผลมากกว่า 2.5 ซม. ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหนาไส้แคบ กรณีที่เป็นพันธุ์ของไทยนั้น จะมีสีผลสีเขียวแก่ตรงส่วนใกล้ขั้วผลประมาณ 1/3 - ผ ของผลที่เหลือมีจุดประสีเขียวอ่อนหรือขาว และเส้นสีขาวเป็นแถบเล็ก ๆ ตลอดความยาวไปถึงปลายผล ส่วนพันธุ์ของต่างประเทศนั้น จะมีสีเขียวเข้มสม่ำเสมอทั้งผล

1.2 แตงผลสั้น (short cucumber) ที่รู้จักกันในชื่อของแตงกวา ซึ่งมีความยาวผล 8-12 ซม. และมีความกว้างผลมากกว่า 2.5 ซม. ส่วนใหญ่จะมีเนื้อน้อยไส้กว้าง

2. พันธุ์อุตสาหกรรม เป็นพันธุ์ที่มีเนื้อหนา ไส้เล็ก บางพันธุ์ก็ไม่มีไส้เลย เปลือกสีเขียวเข้ม เมื่อนำไปดองจะคงรูปร่างได้ดี ไม่ค่อยเหี่ยวย่น แตงกวาพันธุ์นี้มักจะเป็นลูกผสม ผลมักมีรูปร่างผอมยาว ซึ่งแบ่งตามขนาดได้ดังนี้

2.1 แตงผลยาว (long cucumber) เป็นแตงชนิดที่ใช้ทำแตงดองของญี่ปุ่นและจีนซึ่งจะต้องมีความยาวผล 20-30 ซม. และมีความกว้างผล 2-3 ซม. มีเนื้อหนาไส้แคบผิวสีเขียวเข้มตลอดความยาวของผล มักใช้ดองโดยมีการใช้น้ำปรุงรสด้วยส่วนผสมของซีอิ้ว

2.2 แตงผลสั้น (short cucumber) เป็นแตงชนิดที่ใช้ทำแตงดองของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งมีความยาว 8-12 ซม. และมีความกว้างผล 1.0-5.1 ซม. โดยทั่วไปจะมีอัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง (L/D ratio) มีค่าอยู่ระหว่าง 2.8-3.1 มีเนื้อหนาและแน่น ไส้แคบ ผิวสีเขียวเข้มตลอดความยาวของผล มักใช้ดองทั้งผล ผ่าตามความยาวและหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามความกว้างของผลมักดองโดยมีการใช้น้ำปรุงรสด้วยส่วนผสมของซีอิ้ว

สภาพแวดล้อมในการ ปลูกแตงกวา

อุณหภูมิที่เหมาะสม ต่อการงอกของเมล็ดระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส สามารถเจริญเติบโตได้ผลดีระหว่างอุณหภูมิ 20-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิกลางวัน 22-28 องศาเซลเซียส แตงกวาจะชะงักการเจริญเติบโต สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการผสมเกสรนั้นอยู่ระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส

แตงกวาเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมากแต่ขาดน้ำไม่ได้ โครงสร้างของดินที่ปลูกแตงกวาควรมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี ควรมีความเป็นกรด ด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 5.5-6.5 ในสภาพดินที่เป็นดินทรายจัด หรือเหนียวจัด จำเป็นต้องปรับปรุงบำรุงดินก่อนการปลูก โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้วและสภาพความเป็นกรดด่างนั้น ควรจะวิเคราะห์หาค่าความต้องการปูนก่อนที่จะใช้ปูนขาวเพื่อให้มีการใช้ใน ปริมาณที่เหมาะสม

การเตรียมดิน ก่อนการปลูกแตงกวา ไถพรวนดินตากไว้ประมาณ 7-10 วัน เพื่อทำลายวัชพืช และศัตรูพืชบางชนิดที่อยู่ในดิน จากนั้นจึงไถพรวนเก็บเอาเศษวัชพืชออก แล้วเตรียมแปลงขนาดกว้าง 1-1.2 เมตร โดยมีความยาวตามลักษณะของพื้นที่ แล้วจึงใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไป ปรับโครงสร้างของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของแตงกวา การเตรียมหลุมปลูกนั้นควรกำหนดระยะระหว่างต้น ประมาณ 60-80 เซนติเมตร ระหว่างแถวประมาณ 1 เมตร สำหรับการใส่ปุ๋ยเคมีรองพื้นนั้นอาจใช้สูตร 15-15-15 ในอัตรา 30-50 กิโลกรัมต่อไร่ ในบางแหล่งอาจใช้ พลาสติกคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นในดิน ป้องกันความงอกของวัชพืช และพลาสติกบางชนิดสามารถที่จะไล่แมลงไม่ให้เข้ามาทำลายแตงกวาได้

การเตรียมพันธุ์ ขั้นตอนการเตรียมพันธุ์ นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการปลูกแตงกวา ซึ่งพอแบ่งได้ดังนี้

1. การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์แตงกวา ควรคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ ซื้อจากร้านค้าให้เลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือ มีการบรรจุหีบห่อ เมล็ดที่สามารถป้องกันความชื้น หรืออากาศ จากภายนอกเข้าไปได้ ลักษณะเมล็ดแตงกวาควรมีการคลุกสารเคมี เพื่อป้องกันศัตรูพืชที่อาจติดมากับเมล็ด และก่อนใช้เมล็ดทุกครั้งควรทำการทดสอบความงอกก่อน

2. การเตรียมดินเพาะกล้า อัตราส่วนดิน : ปุ๋ยคอก 3:1 และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 0.5 กิโลกรัมต่อต้นกล้า 1 ไร่ คลุกให้เข้ากัน แล้วบรรจุลงในถุงพลาสติกขนาด 6×10 เซนติเมตร เพื่อเตรียมสำหรับหยอดเมล็ดแตงกวาต่อไป

3. ทำการบ่มเมล็ด โดยนำเมล็ดบรรจุถุงพลาสติกที่เจาะรูพรุน แช่ในสารละลายเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เช่น แคปเทน ออโธไซด์ ผสมอัตรา 5 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร แช่เมล็ดนาน 30 นาที เพื่อทำลายเชื้อราที่ผิวเมล็ด จากนั้นนำมาแช่น้ำ 4 ชั่วโมง แล้วจึงบ่มในผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกรัดปากถุงให้แน่น บ่มในสภาพอุณหภูมิห้องนาน 24 ชั่วโมง หลังจากรากงอกยาว 0.5 เซนติเมตร จึงนำไปเพาะต่อไป

4. การหยอดเมล็ดลงถุง นำเมล็ดที่ได้บ่มไว้หยอดลงแต่ละถุง จำนวนถุงละ 1 เมล็ด แล้วใช้ดินผสมหยอดกลบบางประมาณ 1 เซนติเมตร

การดูแลรักษากล้า หลังจากหยอดเมล็ดแล้ว ให้น้ำทันที โดยวิธีการฉีดพ่นให้เป็นฝอยละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปริมาณน้ำที่ให้นั้นไม่ควรให้ปริมาณที่มากเกินไป ในช่วงฤดูร้อน ควรจะให้วันละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ให้ตรวจดูความชื้นก่อนการให้น้ำทุกครั้ง ถุงเพาะกล้านี้ควรเก็บไว้ในที่แดดไม่จัดหรือมีการใช้วัสดุกันแสงไม่ให้มากระ ทบต้นกล้ามากเกินเกินไปเมื่อแตงกวา เริ่มงอกให้หมั่นตรวจดูความผิดปกติของต้นกล้าเป็นระยะ ๆ หากมีการระบาดของแมลงหรือโรคพืช ต้องรีบกำจัดโดยเร็ว และเมื่อต้นกล้ามีใบจริงประมาณ 3-4 ใบ จะอยู่ในระยะพร้อมที่จะย้ายปลูก

การปลูก วิธีการปลูกแตงกวานั้น พบว่ามีการปลูกทั้งวิธีการหยอดเมล็ดโดยตรงและเพาะกล้าก่อนแล้วย้ายปลูก การหยอดเมล็ดโดยตรงนั้นอาจจะมีความสะดวกในการปลูก แต่มีข้อเสียคือสิ้นเปลืองเมล็ด หากใช้เมล็ดพันธุ์ลูกผสมซึ่งมีราคาแพงแล้ว จะเกิดความสูญเสียเปล่าและเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต รวมทั้งวิธีการหยอดเมล็ดนี้จำเป็นที่จะต้องดูแลระยะเริ่มงอกในพื้นที่กว้าง ดังนั้นการใช้วิธีการเพาะกล้าก่อน จึงมีข้อดีหลายประการ อาทิเช่น ประหยัดเมล็ดพันธุ์ ดูแลรักษาง่าย ต้นกล้ามีความสม่ำเสมอ ประหยัดค่าแรงงานในระยะกล้า เป็นต้น

สำหรับการย้ายกล้าปลูกนั้น ให้ดำเนินการตามกระบวนการเพาะกล้าตามที่กล่าวแล้ว และเตรียมหลุมปลูกตามระยะที่กำหนด จากนั้นนำต้นกล้าย้ายปลูกลงในหลุม ตามระยะระหว่างต้นและระหว่างแถวตามที่ได้กำหนดไว้ โดยการฉีกถุงพลาสติกที่ใช้เพาะกล้าออกแล้วย้ายลงในหลุมปลูก ช่วงเวลาที่จะย้ายกล้านั้นควรย้ายช่วงประมาณเวลา 17.00 น. จะทำให้ปฏิบัติงานในไร่นาได้สะดวกและต้นกล้าสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพ แวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น

การให้น้ำ หลังจากย้ายกล้าปลูกแล้ว ต้องให้น้ำทันที ระบบการให้น้ำนั้นอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ แต่ระบบที่เหมาะสมกับแตงกวา คือการให้น้ำตามร่อง เพราะว่าจะไม่ทำให้ลำต้น และใบไม่ชื้น ลดการลุกลามของโรคพืชทางใบ ช่วงเวลาการให้น้ำในระยะแรกควรให้ 2-3 วันต่อครั้งและเมื่อต้นแตงกวา เริ่มเจริญเติบโตแล้วจึงปรับช่วงเวลาการให้น้ำให้นานขึ้น ข้อควรคำนึงสำหรับการให้น้ำนั้น คือ ต้องกระจายในพื้นที่สม่ำเสมอตลอดแปลง และตรวจดูความชื้นในดินไม่ให้สูงเกินไปจนกลายเป็นแฉะ เพราะจะทำให้รากเน่าได้

การใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยในแตงกวานั้น อาจแบ่งเป็นระยะต่าง ๆ ดังนี้

1. ระยะเตรียมดิน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 ตันต่อไร่ และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 12-24-12 อัตราประมาณ 20-30 กิโลกรัมต่อไร่

2. หลังย้ายปลูกประมาณ 7 วัน ใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจน เช่น ยูเรีย หรือ แอมโมเนียซัลเฟต ในอัตราประมาณ 20 กิโลกรัมต่อไร่

3. ระยะแตงกวาออกดอก ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 25 วัน หลังจากย้ายกล้า ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 12-24-12 อัตรา ประมาณ 20-30 กิโลกรัมต่อไร่

แมลงศัตรูแตงกวา

1. เพลี้ยไฟ (Thrips : Haplothrips floricola)
ลักษณะ เป็น แมลงขนาดเล็ก ตัวสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลแก่ พบตามยอดใบอ่อน ดอก และผลอ่อน
การทำลาย ดูดน้ำเลี้ยงที่ใบ ดอกอ่อน และยอดอ่อน ทำให้ใบม้วนหงิกงอ รูปร่างผิดปกติเป็นกระจุก มีสีสลับเขียวเป็นทาง ระบาดมากในช่วงที่มีอากาศแห้งแล้งฝนทิ้งช่วง นับเป็นแมลงที่เป็นปัญหาสำคัญที่สุดในการปลูกแตงกวา

การป้องกันกำจัด ให้น้ำเพิ่มความชื้นในแปลงปลูก โดยให้น้ำเป็นฝอยตอนเช้าและตอนเย็น จะช่วยลดปัญหาของเพลี้ยไฟได้

2. เพลี้ยอ่อน (Alphids: Aphids gossypii)
ลักษณะ เป็นแมลงขนาดเล็ก ลำตัวคล้ายผลฝรั่ง มีท่อเล็ก ๆ ยื่นยาวออกไปทางส่วนท้ายของลำตัว 2 ท่อน เป็นแมลงปากดูด ตัวอ่อนสีเขียว ตัวแก่สีดำและมีปีก

การทำลาย ดูดน้ำเลี้ยงที่ใบและยอดอ่อน ทำให้ใบม้วน ต้นแคระแกร็น และยังเป็นพาหนะนำไวรัสด้วย มักระบาดมากในช่วงอากาศร้อนและแห้งซึ่งเป็นตอนที่พืชขาดน้ำ โดยมีมดเป็นตัวนำหรือการบินย้ายที่ของตัวแก่

3. ไรแดง (Red spider mites: Tetranychus spp.)
ลักษณะ ไม่ได้เป็นแมลงแต่เป็นสัตว์ที่มีขา 8 ขา มีขนาดเล็กมาก มองเห็นเป็นจุดสีแดง
การทำลาย ดูดน้ำเลี้ยงที่ใบและหยอดอ่อนทำให้ใบเป็นจุดด่างมีสีซีด โดยจะอยู่ใต้ใบเข้าทำลายร่วมกับเพลี้ยไฟ และเพลี้ยอ่อน มักระบาดมากในช่วงอากาศร้อนและแห้งซึ่งเป็นตอนที่พืชขาดน้ำ
การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมีกำจัดไร ได้แก่ เคลเทน ไตรไทออน หรือ โอไมท์ เป็นต้น

4. เต่าแตงแดง (Red cucurbit beetle: Aulacophora simills) และเต่าแตงดำ (Black cucurbit beetle: A. frontalis)

ลักษณะ เป็นแมลงปีกแข็ง ปีกมีสีส้มแดงและสีดำเข้ม ตัวมีขนาดเล็กยาวประมาณ 0.5-0.8 ซม. อาศัยอยู่ตามกอข้าวที่เกี่ยวแล้วในนา หรือตามกอหญ้า

การทำลาย กัดกินใบตั้งแต่ระยะใบเลี้ยงจนกระทั่งต้นโต ทำให้เป็นแผลและเป็นพาหะของโรคเหี่ยวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียด้วย ตัวเมียวางไข่บริเวณโคนต้น ตัวหนอนกัดกินราก

การป้องกันกำจัด ควรทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของแมลง รวมทั้งเศษซากแตงหลังการเก็บเกี่ยว
ใช้สารเคมีฉีดพ่น ได้แก่ เซฟวิน คาร์โบน๊อกซี-85 หรือ ไบดริน หรือใช้สารเคมีชนิดเม็ด เช่น ฟูราดาน 3 จี หรือคูราแทร์ 3 จี ใส่หลุมปลูกพร้อมกับการหยอดเมล็ด จะป้องกันเต่าแตงได้ประมาณ 2 สัปดาห์

5. หนอนกินใบแตง (Leaf eating caterpilla: Palpita indica) และหนอนไถเปลือกหรือหนอนเจาะผล (Fruit boring caterpillar: Helicoverpa armigera)

ลักษณะ หนอนกัดกินใบแตง มีรูปร่างเรียวยาวประมาณ 2 ซม. สีเขียวอ่อน ตรงกลางสันหลังมีเส้นแถบสีขาวตามยาว 2 เส้น หนอนตัวโตเต็มวัยเป็นผีเสื้อที่มีปีกโปร่งใสตรงกลาง ส่วนหนอนเจาะผลมีขนาดใหญ่กว่า ลำตัวยาวสีเขียวอ่อนถึงสีน้ำตาลดำ มีรอยต่อปล้องชัดเจน

การทำลาย กัดกินใบ ไถเปลือกเป็นแผลและเจาะผลเป็นสาเหตุให้โรคอื่น ๆ เข้าทำลายต่อได้ เช่น โรคผลเน่า

การ ป้องกันกำจัด ใช้สารเคมี เช่น อโซดริน แลนเนท ทามารอน โตกุไทออน บุก หรือ อะโกรน่า เป็นต้น

โรคที่เป็นศัตรู สำคัญของแตงกวา ได้แก่

1. โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) หรือที่เกษตรกรนิยมเรียกว่าโรคใบลาย เกิดจากเชื้อ Psudoperonospora

ลักษณะอาการ เริ่มเป็นจุดสีเหลืองบนใบ แผลนั้นจะขยายออกเป็นเหลี่ยมในระหว่างเส้นใบ ถ้าเป็นมาก ๆ แผลลามไปทั้งใบทำให้ใบแห้งตาย ในตอนเช้าที่มีหมอกน้ำค้างจัดช่วงหลังฝนตกติดต่อกันทำให้มีความชื้นสูง ในบริเวณปลูก จะพบว่าใต้ใบตรงตำแหน่งของแผลจะมีเส้นใยสีขาวเกาะเป็นกลุ่มและมีสปอร์เป็นผง สีดำ

การป้องกันกำจัด คลุกเมล็ดแตงด้วยสารเคมีเอพรอน หรือริโดมิลเอ็มแซดก่อนปลูกหรือจะนำเมล็ดมาแช่สารเคมีที่ละลายน้ำเจือจาง เป็นเวลา 3 ชั่วโมงก็ได้ เมื่อมีโรคระบาดในแปลงและในช่วงนั้นมีหมอกและน้ำค้างมาก ซึ่งควรฉีด Curzate M8_ Antrachor สลับกันเพื่อป้องกันการดื้อสารเคมีของเชื้อ

2. โรคใบด่าง (Mosaic)
เชื้อสาเหตุ Cucumber mosaic virus
ลักษณะอาการ ใบด่างสีเขียวเข้มสลับสีเขียวอ่อนหรือด่างเขียวสลับเหลืองเนื้อใบ ตะปุ่มตะป่ำ มีลักษณะนูนเป็นระยะ ๆ ใบหงิกเสียรูปร่าง

การป้องกันกำจัด ในปัจจุบันยังไม่มีการใช้สารเคมีหรือวิธีการใด ๆ ที่จะลดความเสียหายเมื่อโรคนี้ระบาด ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดขณะนี้คือการป้องกันไม่ให้เกิดโรค เช่น เลือกแหล่งปลูกที่ปลอดจากเชื้อไวรัส อาจทำได้โดยเลือกแหล่งปลูกที่ไม่เคยปลูกผักตระกูลแตงมาก่อนและทำความสะอาด แปลงปลูกพร้อมทั้งบริเวณใกล้เคียงให้สะอาดไม่ให้เป็นที่อาศัยของเชื้อและ แมลงพาหะ

3. โรคผลเน่า (Fruit rot)
เชื้อสาเหตุ Pythium spp._ Rhizoctonia solani_ Botrytis cinerea
ลักษณะอาการ มักเกิดกับผลที่สัมผัสดิน และผลที่แมลงกัดหรือเจาะทำให้เกิดแผลก่อน จะพบมากในสภาพที่เย็นและชื้น กรณีที่เกิดจากเชื้อพิเที่ยมจะเป็นแผลฉ่ำน้ำเริ่มจากส่วนปลายผล ถ้ามีความชื้นสูงจะมีเส้นใยฟูสีขาวขึ้นคลุม กรณีที่เกิดจากเชื้อไรซ๊อกโทเนียจะเป็นแผลเน่าฉ่ำน้ำบริเวณผิวของผลที่ สัมผัสดิน แผลจะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลแก่และมีรอยฉีกของแผลด้วย ส่วนกรณีที่เกิดจากเชื้อโบทริทิ่สนั้น บริเวณส่วนปลายของผลที่เน่า จะมีเชื้อราขึ้นคลุมอยู่
การป้องกันกำจัด ทำลายผลที่เป็นโรค อย่าให้ผลสัมผัสดิน ป้องกันไม่ให้ผลเกิดบาดแผล

4. โรคราแป้ง (Powdery mildew)
เชื้อสาเหตุ Oidium sp.
ลักษณะอาการ มักเกิดใบล่างก่อนในระยะที่ผลโตแล้ว บนใบจะพบราสีขาวคล้ายผงแป้งคลุมอยู่เป็นหย่อม ๆ กระจายทั่วไป เมื่อรุนแรงจะคลุมเต็มผิวใบทำให้ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วแห้งตาย
การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมี เช่น เบนเลท เดอโรซาล Diametan หรือ Sumilex ฉีดพ่นเมื่อพบการระบาด

การเก็บเกี่ยว แตงกวา

อายุการเก็บเกี่ยวของแตงกวานับจากวันปลูก ประมาณ 30-40 วัน แล้วแต่พันธุ์แตงกวาสำหรับบริโภคสด ควรเลือกเก็บขณะที่ผลยังอ่อนอยู่เนื้อแน่นกรอบ และสังเกตได้จากมีนวลสีขาวเกาะและยังมีหนามอยู่บ้าง ถ้าผลแก่นวลจะจางหาย สีผลเริ่มเป็นสีเหลือง และไม่มีหนาม การเก็บแตงกวาควรทยอยเก็บวันเว้นวัน ไม่ปล่อยให้แก่คาต้น เพราะจะทำให้ผลผลิตทั้งหมดลดลง โดยปกติจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 1 เดือน

อ้างอิง : vegetweb.com

*สินค้าจากฟาร์มเกษตร ที่แนะนำสำหรับแตงกวา
มาคา ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ
ไอเอส ใช้ป้องกันกำจัดโรค ราน้ำค้าง โรคใบไหม้ และโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ
ไอกี้-บีที ใช้ป้องกันและกำจัดหนอน
FK-1 ใช้บำรุงให้ฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของโรคและแมลง เร่งโต และเสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรง
10 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 1 หน้า, หน้าที่ 2 มี 0 รายการ
|-Page 1 of 2-|
1 | 2 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
คู่มือป้องกันกำจัดโรคราต่างๆในแมคคาเดเมีย แมคคาเดเมียใบไหม้ ใบจุด ราสนิม ราต่างๆ
Update: 2566/05/01 15:18:59 - Views: 10114
คู่มือเบื้องต้นสำหรับการ ป้องกันและกำจัดโรคในสวนยางพารา ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ
Update: 2566/04/29 14:56:01 - Views: 7964
โรคหอมเลื้อย : ONION TWISTER DISEASE [ ไอเอส + FK-1 ]
Update: 2564/08/09 05:02:38 - Views: 3418
โรคใบติดทุเรียน โรคราสีชมพูในทุเรียน โรคทุเรียนกิ่งแห้ง ต้องหมั่นสังเกตุตรวจดูแลสวน หากพบ ให้เร่งป้องกันกำจัด
Update: 2566/11/04 14:14:10 - Views: 10157
หอยเชอรี่ สร้างรายได้หลัก 10,000 ต่อเดือน
Update: 2565/11/18 14:16:54 - Views: 3484
หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม แมลงศัตรู ที่สําคัญ พืชตระกูลกะหล่ำ และการป้องกันกําจัด
Update: 2564/03/10 22:17:18 - Views: 3482
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 สูตรเร่งผลใหญ่ ผลดก เพิ่มคุณภาพ สำหรับต้นอะโวคาโด้
Update: 2567/03/13 14:06:02 - Views: 3417
มะระ ยารักษาโรคราน้ำค้างมะระจีน มะระต่างๆ โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/10/05 10:44:10 - Views: 3520
ปุ๋ยทุเรียน คุณภาพสูง ทดแทนปุ๋ยเม็ด ยาแก้ ทุเรียนใบไหม้ โรคใบติด เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยทุเรียน หนอน
Update: 2565/05/02 06:04:58 - Views: 3533
ทุเรียนใบไหม้ ในช่วงอาการร้อนชื้น แดดจัด และมีฝนตกมาใบบางครั้ง
Update: 2563/04/21 09:11:49 - Views: 3421
โรคเน่าเปียก หรือ โรคราขนแมว ที่เกิดกับพริก (เชื้อรา Choanephora cucurbitarum )
Update: 2564/09/02 04:12:08 - Views: 3580
โรคสับปะรด ที่เกิดจากเชื้อราต่างๆ ทำให้เกิดอาการสับปะรดยอดเน่า รากเน่า ใบไหม้ ยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้
Update: 2566/11/08 06:16:07 - Views: 10026
ที่สุดของ ปุ๋ยเร่งทุเรียน ปุ๋ยทุเรียน จัดหนัก ธาตุ K40% N5% P10% และ Mg23% Zn10% ; ไลน์ @FarmKaset
Update: 2565/02/19 03:15:36 - Views: 3490
FK ธรรมชาตินิยม
Update: 2565/01/29 08:13:08 - Views: 3494
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO: เคล็ดลับสำหรับการเร่งการออกดอกและเร่งรากของต้นพริก
Update: 2567/02/12 14:05:19 - Views: 3433
โรคดอกรัก ใบไหม้ ราน้ำค้าง ราสนิม ใบจุด ขาดธาตุอาหาร ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #ดอกรักใบไหม้ #ปุ๋ยดอกรัก
Update: 2564/11/03 03:38:11 - Views: 3406
ราสนิมขาวผักบุ้ง โรคผักบุ้งใบไหม้ และโรคราต่างๆ สร้างความเสียหายต่อผลผลิต ควบคุม ป้องกันกำจัดก่อนเกิดความเสียหาย
Update: 2566/11/04 09:56:30 - Views: 9436
ชมพู่เขียวหวาน ชมพู่สีเขียว ป้องกัน โรค แมลง และบำรุง ด้วยสินค้าจากเรา
Update: 2564/04/22 11:20:16 - Views: 3599
ระวัง โรครากเน่า โรคโคนเน่า ในส้ม สร้างเสียหายได้มาก
Update: 2566/10/31 13:41:59 - Views: 3428
เพลี้ยไฟมะม่วงกับวิธีกำจัดและป้องกัน
Update: 2564/01/09 09:40:42 - Views: 3478
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022