ดินเปรี้ยว–ดินเค็ม–ดินด่าง ต่างกันอย่างไร?...
👤
โดย: JANE FK
📅
2025-12-10 09:18:54
🌐
1.4.196.95
ดินเปรี้ยว–ดินเค็ม–ดินด่าง ต่างกันอย่างไร? วิธีแก้ให้ดีขึ้นในฤดูเดียว
1) เข้าใจพื้นฐาน “ดินเสีย 3 แบบ” ก่อนเริ่มแก้
ดินเปรี้ยวคืออะไร (Acid Soil)
เกิดจากการสลายตัวของอินทรียวัตถุในสภาพขาดอากาศ หรือการเกิดปฏิกิริยาของแร่ไพไรต์ซึ่งปล่อยกรดออกมา ทำให้ค่าพีเอช (pH) ต่ำกว่า 5.5 ดินชนิดนี้มักอยู่ในพื้นที่ลุ่ม น้ำขัง หรือพื้นที่พรุ ผลคือรากพืชชะงัก ใบเหลือง พืชดูดฟอสฟอรัสไม่ได้ และโลหะหนักบางชนิดเพิ่มขึ้นจนเป็นพิษต่อพืช
ดินเค็มคืออะไร (Saline Soil)
ดินชนิดนี้มีค่าความเค็ม (EC) สูง เกิดจากเกลือใต้ดินดันขึ้นมาบนผิว ปัญหาในภาคอีสานพบมากเพราะมีชั้นหินเกลืออยู่ใต้ดิน หรือเกิดจากการใช้น้ำชลประทานที่มีความเค็มสะสม ผลคือใบพืชไหม้ ปลายใบแห้ง ดินจับตัวแข็ง และการงอกของเมล็ดลดลง
ดินด่างคืออะไร (Alkaline / Sodic Soil)
ดินที่มีค่า pH สูงกว่า 8.5 และโซเดียมในดินมากจนไปทำให้โครงสร้างดินแตกตัว เป็นสาเหตุให้ดินแน่น น้ำไม่ซึม ระบายไม่ดี พืชขาดธาตุเหล็กและสังกะสี เกิดใบเหลืองง่าย และการเติบโตช้าลงอย่างมาก
2) ดินทั้งสามแบบต่างกันตรงไหน? อธิบายแบบจำง่าย
* ดินเปรี้ยว → pH ต่ำ ใบเหลือง รากไหม้ มักเจอในที่ลุ่ม
* ดินเค็ม → เกลือสะสม ใบไหม้ มีคราบขาวบนผิวดิน พบบ่อยในอีสาน
* ดินด่าง → pH สูง ดินแข็ง น้ำไม่ซึม เกิดในดินที่โซเดียมมากเกินไป
3) แก้ให้ดีขึ้นภายในฤดูเดียว ทำได้แค่ไหน?
จากงานวิจัยหลายสำนักยืนยันว่า
* ดินเปรี้ยวแก้ง่ายที่สุด
* ดินเค็มแก้แบบเฉพาะหน้าได้เร็ว แต่แก้ถาวรต้องใช้เวลามากกว่า 1 ฤดู
* ดินด่างแก้ได้ถ้ามีน้ำชะล้างเพียงพอ และมีแคลเซียม (จากยิปซัม)
4) วิธีแก้ดินเปรี้ยวให้ดีขึ้นในฤดูเดียว
✔ ใช้ปูนปรับสภาพดิน
เลือกปูนโดโลไมท์หรือปูนมาร์ล ใส่ในอัตราประมาณ 200–500 กก./ไร่ ขึ้นกับค่า pH เดิม จากนั้นไถกลบให้ทั่ว ดินจะค่อย ๆ ปรับสภาพดีขึ้นภายใน 45–60 วัน
✔ ใส่อินทรียวัตถุเพิ่มโครงสร้างดิน
ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักประมาณ 500–1,000 กก./ไร่ ช่วยลดความเป็นพิษของอะลูมิเนียมและเสริมการปลดปล่อยธาตุอาหาร
✔ จัดการน้ำ
ในพื้นที่ที่มีไพไรต์ ควรรักษาความชื้นไว้บางส่วนเพื่อไม่ให้แร่เกิดปฏิกิริยาปล่อยกรดเพิ่ม
อ้างอิงวิชาการ:
– กรมพัฒนาที่ดิน (LDD, 2023)
– Dent & Pons (1995). Acid Sulfate Soils Research
5) วิธีแก้ดินเค็มแบบเห็นผลภายในฤดูเดียว
✔ ชะล้างเกลือด้วยน้ำ
หลักการคือ “เพิ่มน้ำ–ปล่อยออก–ทำซ้ำ” เมื่อเกลือถูกชะล้างลงชั้นล่าง พืชจะเริ่มโตดีขึ้น วิธีนี้ต้องใช้น้ำมากพอ
✔ ใช้ยิปซัมธรรมชาติ
อัตราประมาณ 100–300 กก./ไร่ ช่วยลดผลเสียจากโซเดียมและทำให้การชะล้างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
✔ ลดการระเหยของน้ำ
การคลุมดินด้วยฟางหรือวัสดุอินทรีย์ช่วยลดการดันเกลือขึ้นบนผิวดิน
✔ ปลูกพืชทนเค็มชั่วคราว
ช่วยให้พื้นที่มีพืชคลุมและลดการสะสมเกลือ เช่น ข้าวหอมมะลิ 105 ในพื้นที่เค็มระดับต่ำถึงปานกลาง
อ้างอิงวิชาการ:
– FAO, Salt-Affected Soil Manual (2021)
– กรมพัฒนาที่ดิน (2022)
6) วิธีแก้ดินด่าง (Sodic Soil) ให้ดีขึ้นในฤดูเดียว
✔ เพิ่มแคลเซียมด้วย “ยิปซัม”
แคลเซียม (Ca²⁺) ในยิปซัมจะเข้าแทนที่โซเดียมบนผิวดิน ลดสภาพ sodicity ทำให้ดินโปร่ง ระบายน้ำดีขึ้น อัตราแนะนำ 200–500 กก./ไร่
✔ ต้องมีน้ำชะล้าง
หลังใส่ยิปซัมควรมีน้ำเพื่อชะล้างโซเดียมที่ถูกแทนที่ ถ้าไม่มีน้ำจะไม่เห็นผล
✔ เติมอินทรียวัตถุเพื่อปรับโครงสร้าง
อินทรียวัตถุจะช่วยสร้างเม็ดดินใหม่ ทำให้ดินร่วนเร็วขึ้น เห็นผลชัดใน 1 ฤดู
อ้างอิงวิชาการ:
– Sumner (2000). Sodic Soil Management
– LDD (2021) วิธีปรับปรุงดินด่างด้วยยิปซัม
7) สรุปแบบเข้าใจง่าย
* ดินเปรี้ยว → แก้ง่ายที่สุด ใช้ปูน+อินทรียวัตถุ เห็นผลเร็ว
* ดินเค็ม → ชะล้าง+ยิปซัม ช่วยได้ภายในฤดู แต่ถาวรต้องใช้เวลามากกว่า
* ดินด่าง → ยิปซัม + น้ำ เป็นหัวใจสำคัญ เห็นผลดีขึ้นได้ถ้ามีน้ำเพียงพอ
* ทุกกรณีอินทรียวัตถุคือ “ตัวช่วยเร่งการฟื้นฟู”
#ดินเปรี้ยว #ดินเค็ม #ดินด่าง #ปรับปรุงดิน #แก้ดินเสีย #เกษตรกรไทย #วิชาการเกษตร #ปรับpHดิน #ยิปซัม #ปูนโดโลไมท์