<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
ยาดม-ยาอม-ยาหอม สู่การส่งออกสมุนไพรไทย
ถ้าหากว่ามีใครซักคนข้าง ๆ คุณกำลังมีอาการอย่าง วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย สิ่งที่คุณจะมองหาและเลือกใช้เป็นอันดับต้น ๆ คงจะหนีไม่พ้นยาดม ยาหอมจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการเหล่านี้ได้อย่างเยี่ยมยอด
เนื่องจากประเทศไทยของเรานั้นอยู่ในเขตร้อนชื้นจึงมีพืชพรรณมากมาย รวมถึงมีสมุนไพรเป็นผลิตผลจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการรักษากว่า 1_800 ชนิด เป็นที่ทราบกันดีว่าสมุนไพรไทยอยู่ควบคู่กับการดำเนินชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ การใช้พืชสมุนไพรนั้นสะท้อนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของคนไทยที่นำสมุนไพรไทยมาประกอบอาหาร ใช้เป็นยารักษาโรค บำบัดดูแล หรือแม้แต่ใช้ในการเสริมความงาม โดยการใช้ทั้งที่เป็นสมุนไพรสดและสมุนไพรที่แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
จากการเปิดเผยข้อมูลด้านการส่งออกสมุนไพรของ ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าปัจจุบันมีมูลค่าการส่งออกสมุนไพรปีละนับแสนล้านบาท โดยสมุนไพรไทยในกลุ่มเสริมอาหารมีมูลค่าการใช้และส่งออกรวมกว่า 80_000 ล้านบาท กลุ่มสปาและผลิตภัณฑ์มีมูลค่าประมาณ 10_000 ล้านบาท และกลุ่มยาแผนโบราณตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมีมูลค่าประมาณ 10_000 ล้านบาทเลยทีเดียว
เห็นได้ชัดว่าสมุนไพรไทยหรือผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรมีโอกาสเติบโตในตลาดโลก อีกทั้งกระแสการดูแลตัวเองโดยใช้สมุนไพรนั้นมีมากขึ้น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยนั้นเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวและตลาดโลก หลายเว็บไซต์ที่สำรวจและจัดอันดับสินค้าของที่ระลึกของไทยและยกให้ยาจำพวก ยาดม ยาหอมนั้นเป็นของฝากที่ขาดไม่ได้
ไม่เพียงแต่ผู้บริโภคให้ความสนใจกับสินค้าจากสมุนไพรเท่านั้น รัฐบาลไทยก็มีนโยบายสนับสนุนและยกระดับสมุนไพรไทยออกสู่สายตาชาวต่างชาติ เนื่องจากสมุนไพรไทยเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สำคัญ และสามารถสร้างอาชีพเสริมให้เกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีสถาบันการวิจัยและสถานศึกษาอีกหลายแห่งได้มีการวิจัยด้านสมุนไพรอย่างต่อเนื่องซึ่งสนับสนุนสมุนไพรไทยให้เติบโตได้มากขึ้น
เมื่อเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ผู้ประกอบการไทยก็ได้พัฒนา และผลิตสินค้าจากสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติอย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะยาดม ยาหม่อง ยาหอม หรือยาอมที่เป็นสินค้ายอดฮิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกเหนือจากสรรพคุณทางยาแล้วยังมีบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกในการพกพา
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้เห็นความสำคัญของการเติบโตจากสินค้าไทยประเภทยาเหล่านี้เช่นเดียวกัน จึงสนับสนุนและผลักดันการส่งออกสินค้าที่ทำให้สมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าไทยให้เป็นที่แพร่หลาย ผู้ประกอบการจากกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ผลิตสินค้าจำพวกยาทาภายนอกนี้ นอกจากจะได้รับรางวัลและการรับรองต่าง ๆ แล้ว ยังได้รับตราการันตีคุณภาพจาก ตราสัญลักษณ์การันตีจาก Thailand Trust Mark หรือ T Mark ที่มีการกำหนดคุณสมบัติสินค้าอย่างมีมาตรฐานและเป็นสากล อันจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระจายสินค้าสู่ตลาดอื่นอีกด้วย
เริ่มจากสินค้าที่ผ่านการรับรองจาก T Mark อย่าง ยาอมแก้ไอ ตราห้าตะขาบ จากบริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด เมื่อพูดถึงห้าตะขาบ หลายท่านจะต้องนึกซองยาอมสุดเก๋ที่มีภาพตะขาบห้าตัวอยู่ล้อมรอบภาพชายคนหนึ่ง เพราะยาอมห้าตะขาบนั้นอยู่คู่กับครอบครัวคนไทยมานานกว่า 80 ปี ด้วยคุณภาพ ราคา รวมถึงสรรพคุณจากสมุนไพรธรรมชาติแท้ ๆ ซึ่งช่วยให้ชุ่มคอ ละลายเสมหะ และบรรเทาอาการไอนั้น ทำให้ทุกบ้านต่างให้การยอมรับ รับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ปัจจุบันห้าตะขาบได้ผลิตสินค้าทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ ยาอมแก้ไอ ยาขมเม็ด ยาเม็ดเบอร์เจ็ด(ยาแก้บิด) และยากวาดมหาจักร์ อีกทั้งยังมีการปรับโฉม เพิ่มรสชาติให้กับยาอมแก้ไขถึง 4 รสชาติอีกด้วย ไม่เพียงคนไทยที่ให้ความสนใจและใช้จริงเท่านั้น แต่ผู้บริโภคหลายประเทศก็ให้ความสนใจไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริก ฮ่องกง มาเก๊า และประเทศในแถบอาเซียน บริษัท ห้าตะขาบ หรือซิมเทียนฮ้อ จำกัด ตั้งมั่นด้วยนโยบาย ทำสินค้าที่ดีมีคุณภาพสู่ผู้บริโภค อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีการยกระดับคุณภาพสินค้าสู่สากลด้วยการรับมาตรฐาน GMP หรือมาตรฐานวิธีการที่ดีในการผลิต และยังได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ใช้ตรา T Mark ซึ่งเหล่านี้เป็นการแสดงออกถึงคัดสรรภาพลักษณ์ของคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทยในตลาดโลกอีกด้วย
ยาสกัดสมุนไพรที่ได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ต่อมา คือยาหม่องตราถ้วยทอง จากบริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด แบรนด์รูปถ้วยสีทองที่อยู่เคียงคู่คนไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 เชื่อว่า ยาหม่องตราถ้วยทอง ยาใช้ภายนอกที่ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาตินี้จะต้องมีไว้ติดบ้านหรือติดที่ทำงานอย่างแน่นอน ด้วยคุณสมบัติสารพัดประโยชน์ที่จะช่วยบรรเทาอาการเมื่อยกล้ามเนื้อ แมลงกัดต่อย วิงเวียนศีรษะ และคัดจมูกเนื่องจากหวัด เพียงแค่ทาเบา ๆ บริเวณที่คุณต้องการ ตัวยาก็จะซึมสู่ผิว และบรรเทาอาการเหล่านั้นได้อยู่หมัด
อีกทั้งยังมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ใส่ใจต่อผู้บริโภคทุกช่วงอายุ มีราคาที่เหมาะสม และมีคุณภาพการผลิตที่ได้การรับรองมาตรฐานการผลิตยาที่ดีตามมาตรฐาน PIC/S ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่มีประเทศสมาชิกในมาตรฐานนี้ทั่วโลก สิ่งเหล่านี้จะเสริมสร้างฐานแห่งคุณภาพสินค้าได้อย่างมั่นคง ปัจจุบันมีผู้นำเข้ายาหม่องตราถ้วยทองมากกว่า 10 ประเทศ เช่น กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย กาต้าร์ เยเมน เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรชิ้นถัดมา ได้แก่ ยาน้ำมันเหลืองสมุนไพร น้ำมันหอมระเหยของไทยภายใต้เครื่องหมายการค้า ตรา พัญช์ จากบริษัท สยามไพร-ซิต้า จำกัด เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ผลิตยาใช้ทาภายนอกที่ได้รับตราสัญลักษณ์แห่งคุณภาพจาก T Mark สยามไพร-ซิต้า–สร้างธุรกิจด้วยการผลิตและจำหน่ายยาแผนโบราณที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แมลงสัตว์กัดต่อย บรรเทาอาการแสบร้อนจากไฟไหม้น้ำร้อนลวก บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ และมีการนำมรดกทางภูมิปัญญาตามตำรับยาโบราณของไทยมารังสรรค์ให้เกิดเป็นน้ำมันเหลืองสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์นานัปการ ตัวอย่างสมุนไพรไทยที่เป็นส่วนประกอบของน้ำมันเหลือง ตราพัชญ์ ได้แก่ ไพล น้ำมันยูคาลิปตัส การบูร พิมเสน ขมิ้น เกล็ดสะระแหน่ และน้ำมันกาลพลู ที่ให้ความสดชื่น เย็นสบาย และบรรเทาอาการวิงเวียนได้อย่างดี สยามไพร-ซิต้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติให้หลากหลาย ควบคู่ไปกับการคืนกำไรให้สู่สังคม ด้วยมาตรฐานการผลิต และมีความใส่ใจต่อผู้บริโภค คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมอีกด้วย
ยาอม ยาดม ยาหอม ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสมุนไพรไทยแต่ละแบรนด์นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ความโดดเด่นด้านสมุนไพรของไทย สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ยิ่งเห็นเครื่องหมายแห่งมาตรฐานอย่าง T Mark ก็จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เชื่อมั่นได้เลยว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าของคนไทยแท้ ๆ และมีคุณภาพยอดเยี่ยมเพราะผ่านการรับรองมาตรฐานที่เชื่อถือได้ในระดับสากล ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าจากสมุนไพรไทย และยังเพิ่มฐานการผลิต เพิ่มตัวเลขการส่งออกสมุนไพรไทยสู่สายตาประชาคมโลกได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก
http://ไปที่..link..