### การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn) ในการดูแลพริกไทยเพื่อให้เจริญเติบโตดี ผลผลิตสูง

**คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์:**

1. **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)** - ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก ทำให้รากแข็งแรง ดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดี ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพริกไทย

2. **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)** - มีธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม) ในสัดส่วนที่เหมาะสม ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและต้นให้สมบูรณ์ และมีแมกนีเซียม (Mg) และสังกะสี (Zn) ที่ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ทำให้ใบเขียวเข้ม กระบวนการสังเคราะห์แสงดีขึ้น เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับพืช

### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของพริกไทย

#### ระยะเริ่มต้นการเจริญเติบโต (1-3 เดือนแรก)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 15-30 วัน ช่วยให้รากแข็งแรง และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร โดยใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบและลำต้นให้แข็งแรง สมบูรณ์

#### ระยะเติบโตเต็มที่ (4-6 เดือน)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 30 วัน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอาหารให้กับราก
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน เพื่อเสริมความเขียวและเพิ่มการสังเคราะห์แสงในต้นพริกไทย

#### ระยะก่อนการติดดอก (ช่วงเตรียมดอก)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดิน ทุก 15-30 วัน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้รากและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นเฉพาะใบและลำต้น ทุก 15 วัน ช่วยเพิ่มความเขียวเข้มของใบ กระตุ้นการเจริญเติบโตและเพิ่มโอกาสในการสร้างตาดอก

### คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่น **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ขณะพริกไทยกำลังติดดอก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาดอกและผล

การดูแลพริกไทยด้วย **ฮิวมิค FK** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ตามระยะที่เหมาะสมนี้ จะช่วยให้พริกไทยโตไว แข็งแรง ใบเขียวเข้ม สามารถให้ผลผลิตที่ดีและต่อเนื่อง

**การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 ในการดูแลสวนเงาะ**

การใช้ปุ๋ย ฮิวมิค FK และ FK-1 เป็นวิธีช่วยให้สวนเงาะเติบโตได้สมบูรณ์และให้ผลผลิตดี โดยสามารถใช้ตามช่วงการเติบโตของเงาะเพื่อเสริมสร้างราก ลำต้น ใบ และผล

**คุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์**

- **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)**: ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของระบบราก ดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทำให้พืชเติบโตแข็งแรง
- **ปุ๋ย FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)**: เป็นปุ๋ยทางใบที่เสริมสารอาหารหลัก (ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม) ร่วมกับสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ที่ช่วยในการสังเคราะห์แสงของใบ ทำให้ใบเขียวเข้มและสุขภาพดีขึ้น

**คำแนะนำการใช้งานตามช่วงการเจริญเติบโตของเงาะ**

1. **ระยะต้นกล้าและเตรียมปลูก**
ใช้ฮิวมิค FK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้นทุก 15 วัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก และให้รากแข็งแรง

2. **ระยะสร้างใบและลำต้น**
ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ผสมสองส่วน (ถุงแรก 20-20-20 และถุงที่สอง Mg + Zn) โดยใช้ในอัตราส่วน 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 15 วันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น
*หมายเหตุ*: ไม่ควรฉีดพ่นช่วงที่เงาะเริ่มติดดอก เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อดอกที่อาจหลุดร่วงได้

3. **ระยะเพิ่มคุณภาพผล**
เมื่อเงาะเริ่มเข้าสู่ระยะการพัฒนาของผล สามารถใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดบริเวณโคนต้นทุก 15-20 วัน เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีน้ำหนักดีและได้ขนาด

4. **ระยะเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว**
หลังเก็บเกี่ยว ใช้ฮิวมิค FK และ FK-1 ในอัตราที่แนะนำ เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของต้น และเสริมสร้างการเตรียมตัวสำหรับฤดูถัดไป

ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค) และปุ๋ยทางใบ FK-1 ช่วยดูแลและส่งเสริมการเจริญเติบโตของฟักทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้ควรดำเนินตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี โตไว และสมบูรณ์แข็งแรง การใช้ฮิวมิคFK ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหาร ทำให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 มีธาตุอาหารหลัก (N-P-K 20-20-20) และสารเสริมการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ซึ่งช่วยในการสังเคราะห์แสงและกระตุ้นการเจริญเติบโตโดยรวม

### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง

1. **ระยะเริ่มปลูก (ช่วงแรกที่มีใบจริง)**
- **ฮิวมิคFK**: ใช้ 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของรากและเตรียมดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของต้นฟักทอง
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุง (N-P-K 20-20-20 และ Mg+Zn) ในอัตรา 25-50 กรัม ถุงละต่อน้ำ 20 ลิตร ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของใบและต้น

2. **ระยะเจริญเติบโตทางใบและลำต้น (ช่วงใบสมบูรณ์)**
- **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์เพื่อเสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของลำต้นและใบ ทำให้ต้นฟักทองแข็งแรงและพร้อมที่จะให้ผลผลิต

3. **ระยะพัฒนาเถาและสะสมพลังงาน (ก่อนเริ่มติดดอก)**
- **ฮิวมิคFK**: ใช้ตามเดิม ทุก 2 สัปดาห์ ช่วยบำรุงรากให้มีการสะสมพลังงาน
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้ต่อเนื่องทุก 10-15 วันเพื่อสะสมสารอาหารสำหรับช่วงติดผล ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก

4. **ระยะผลอ่อนจนถึงเก็บเกี่ยว**
- **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นในช่วงที่จำเป็นเพื่อเสริมความแข็งแรงของต้นและราก ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงที่มีดอกหรือผลเล็ก
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้เป็นระยะ ๆ เพื่อให้ผลฟักทองโตไว สมบูรณ์ และมีคุณภาพสูง ควรเว้นช่วงการฉีดพ่นในระยะติดดอกเพื่อไม่รบกวนการผสมเกสร

การใช้งานอย่างสม่ำเสมอและระมัดระวังในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตจะช่วยให้ฟักทองมีความสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

มังคุดเป็นผลไม้ที่ต้องการการดูแลพิเศษเพื่อให้ต้นเจริญเติบโตสมบูรณ์ แข็งแรง และให้ผลผลิตสูงตลอดทั้งปี การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมเช่น ฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1 มีคุณสมบัติพิเศษในการเพิ่มประสิทธิภาพการเติบโตของต้นมังคุด ช่วยให้รากแข็งแรง ใบเขียวสมบูรณ์ และส่งเสริมการออกผลที่ดีขึ้น

### คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และวิธีการใช้งาน

1. **ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค**
ฮิวมิคFK ช่วยบำรุงดินให้มีโครงสร้างที่ดีและเพิ่มการกักเก็บความชื้น ช่วยปรับปรุงสภาพดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของราก ทำให้ต้นมังคุดสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดี ฟลูวิคในฮิวมิคFK ยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาของราก ทำให้ต้นแข็งแรงตั้งแต่ฐานราก

- **อัตราการใช้**: ผสมฮิวมิคFK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
- **ช่วงเวลาในการใช้**: ฉีดพ่นลงดินรอบโคนต้นมังคุดในช่วงหลังเก็บเกี่ยวและช่วงเริ่มฤดูการเจริญเติบโต ควรฉีดพ่นทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อปรับปรุงสภาพดินอย่างต่อเนื่อง

2. **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn)**
ปุ๋ยทางใบ FK-1 ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม) ในสัดส่วนที่สมดุล ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ทำให้ใบเขียวสดแข็งแรง ลดปัญหาใบเหลืองและเพิ่มการสังเคราะห์แสงให้มีประสิทธิภาพ สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg และ Zn ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคลอโรฟิล ทำให้ใบหนาและเขียวเข้มเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

- **อัตราการใช้**: แกะกล่อง FK-1 จะพบสองถุงที่ต้องผสมใช้พร้อมกัน โดยใช้ถุงแรก (สูตร 20-20-20) ในอัตรา 25-50 กรัม และถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) ในอัตรา 25-50 กรัม ผสมทั้งสองในน้ำ 20 ลิตร
- **ช่วงเวลาในการใช้**: ฉีดพ่นทางใบในช่วงที่ต้นมังคุดกำลังเจริญเติบโต หลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงที่ต้นติดดอก ควรฉีดพ่นทุกๆ 2-3 เดือน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของใบและลำต้นให้พร้อมสำหรับการออกผล

### ตารางการดูแลสวนมังคุดตลอดปี

- **ช่วงหลังเก็บเกี่ยวและช่วงเริ่มฤดูเจริญเติบโต**
- ใช้ฮิวมิคFK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
- ฉีดพ่นรอบโคนต้นมังคุดทุก 3-4 เดือน เพื่อปรับปรุงสภาพดินและเพิ่มความแข็งแรงของราก

- **ช่วงฤดูเจริญเติบโตของต้น**
- ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn) โดยผสมถุงแรกและถุงที่สองในอัตรา 25-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
- ฉีดพ่นทางใบทุก 2-3 เดือน เพื่อบำรุงใบและลำต้นให้พร้อมสำหรับการออกผล

การใช้ ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn) เป็นการดูแลสวนมะม่วงที่ช่วยเสริมการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตได้ดีตลอดปี โดยมีรายละเอียดการใช้ตามช่วงเวลาที่แนะนำดังนี้:

คุณสมบัติและอัตราการผสม

ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค): ปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินอุ้มน้ำและสารอาหารได้ดีขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาราก และเพิ่มความแข็งแรงของต้นมะม่วง

อัตราการผสม: ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร แล้วรดลงดินรอบโคนต้น


ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโต การออกดอก และคุณภาพผล โดยมีธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม) รวมถึงสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ที่ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์แสงและความเขียวของใบ

อัตราการผสม:

ถุงที่ 1: สูตร 20-20-20 ใช้ 25-50 กรัม

ถุงที่ 2: สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ (Mg + Zn) ใช้ 25-50 กรัม

ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นใบมะม่วง




ช่วงเวลาการใช้ฮิวมิคFK และ FK-1 ในการดูแลมะม่วงตลอดปี

1. ต้นฤดูฝน (พฤษภาคม-กรกฎาคม)

ฮิวมิคFK: ใช้เดือนละครั้ง เพื่อปรับปรุงดินและกระตุ้นการพัฒนาราก

FK-1: ฉีดพ่นทุก 2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ช่วงนี้ใบจะเขียวสดและเติบโตเร็วขึ้น



2. ช่วงเตรียมการออกดอก (สิงหาคม-กันยายน)

ฮิวมิคFK: รดรอบโคนต้นเดือนละครั้ง เพื่อเสริมความสมบูรณ์ของดินและให้ต้นพร้อมต่อการออกดอก

FK-1: ฉีดพ่นทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้สารอาหารครบถ้วนและกระตุ้นการเตรียมออกดอก



3. ช่วงออกดอกและติดผล (ตุลาคม-ธันวาคม)

ฮิวมิคFK: รดเดือนละครั้ง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของผลมะม่วง

FK-1: ฉีดพ่นทุก 2 สัปดาห์ โดยเน้นสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ที่ช่วยให้ใบเขียวเข้ม ทำให้การสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพและเพิ่มขนาดของผล



4. ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต (มกราคม-เมษายน)

ฮิวมิคFK: ใช้เดือนละครั้ง เพื่อรักษาสภาพดินและช่วยในการพัฒนาผลให้มีคุณภาพดี

FK-1: ฉีดพ่นทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้ผลมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนัก และมีคุณภาพสูง



การใช้ ฮิวมิคFK และ FK-1 อย่างต่อเนื่องตามช่วงเวลาที่กำหนด จะช่วยให้ต้นมะม่วงโตไว แข็งแรง ใบเขียว ผลมะม่วงมีขนาดใหญ่ และเพิ่มผลผลิตได้ดีตลอดปี

ฮิวมิคFK และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn) มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสวนโกโก้ให้เติบโตสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่ดี โดยมีรายละเอียดดังนี้:

คุณสมบัติของฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค)

เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน: ฮิวมิคและฟลูวิคแอซิดช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ร่วนซุยและเก็บความชื้นได้ดีขึ้น ทำให้รากโกโก้สามารถดูดซึมสารอาหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

กระตุ้นการเติบโตของราก: ฮิวมิคFK ช่วยเสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรงและเติบโตไว เพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหารต่าง ๆ ที่พืชต้องการ

ส่งเสริมการเติบโตของพืช: ฟลูวิคแอซิดช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างพลังงานในพืช ทำให้ต้นโกโก้เติบโตเร็วขึ้นและมีความแข็งแรง


อัตราการผสม: ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นลงดินหรือตามโคนต้น

คุณสมบัติของปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn)

ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช: สูตร 20-20-20 ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน (ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น)_ ฟอสฟอรัส (ช่วยในการพัฒนารากและการออกดอก)_ และโพแทสเซียม (ช่วยเพิ่มคุณภาพของผลโกโก้) จึงช่วยให้ต้นโกโก้เจริญเติบโตสมบูรณ์

ช่วยให้ใบเขียวสดและสังเคราะห์แสงดีขึ้น: สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ที่มีแมกนีเซียมและสังกะสี ช่วยเพิ่มการสร้างคลอโรฟิลล์ ทำให้ใบเขียวเข้มและการสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลให้พืชได้รับพลังงานและเจริญเติบโตได้ดีขึ้น


อัตราการผสม:

ในกล่อง FK-1 จะมี 2 ถุง:

ถุงแรก: ปุ๋ยสูตร 20-20-20 ใช้ 25-50 กรัม

ถุงที่สอง: สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ (Mg + Zn) ใช้ 25-50 กรัม


ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ


การใช้งานฮิวมิคFK และ FK-1 อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ต้นโกโก้เติบโตเร็ว ใบเขียวชอุ่ม แข็งแรง และเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพ

การบำรุงดูแลสวนกาแฟอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ต้นกาแฟเติบโตเร็ว มีใบเขียวสมบูรณ์ และให้ผลผลิตสูง ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคและปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) เป็นสูตรที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพการเจริญเติบโตของต้นกาแฟ ทั้งด้านราก ใบ และผลกาแฟที่สมบูรณ์

### คุณประโยชน์ของฮิวมิค FK และฟลูวิคต่อสวนกาแฟ
- **ฮิวมิค FK** ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน และช่วยให้รากกาแฟสามารถดูดซับสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในดินที่มีความเป็นกรดหรือดินทราย
- **ฟลูวิค** เสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารและส่งเสริมการขยายตัวของราก ทำให้ต้นกาแฟแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม

### วิธีการใช้ฮิวมิค FK
- **อัตราการผสม**: ใช้ฮิวมิค FK 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
- **การใช้งาน**: ฉีดพ่นรอบโคนต้นกาแฟ โดยเน้นที่บริเวณรากทุกๆ 1-2 เดือน เพื่อช่วยให้ต้นกาแฟดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และเติบโตแข็งแรง

### ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn
ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตรนี้ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน (N)_ ฟอสฟอรัส (P)_ และโพแทสเซียม (K) ในอัตราส่วน 20-20-20 เหมาะสำหรับการบำรุงใบ ลำต้น และการสร้างผลของต้นกาแฟ นอกจากนี้ สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn จะช่วยเสริมการสังเคราะห์แสงและทำให้ใบเขียวเข้มขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตผลกาแฟที่มีคุณภาพ

#### ขั้นตอนการใช้ปุ๋ย FK-1
1. **แกะกล่องปุ๋ย FK-1** จะพบสองถุง:
- **ถุงแรก**: ปุ๋ยสูตร 20-20-20
- **ถุงที่สอง**: สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn
2. **อัตราการผสม**: ใช้ถุงละ 25-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
3. ผสมปุ๋ยทั้งสองถุงเข้าด้วยกันในน้ำ คนให้ละลายจนเข้ากันดี
4. ฉีดพ่นทางใบต้นกาแฟทุก 15-30 วัน เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์ให้กับใบและต้น ช่วยเพิ่มผลผลิตของกาแฟในระยะยาว

### ตารางการบำรุงดูแลสวนกาแฟ
- **ช่วงต้นฝน**: เริ่มใช้ฮิวมิค FK ฉีดพ่นรอบโคนต้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตของราก และเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร
- **ช่วงการสร้างใบและผล**: ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ทุก 15-30 วัน เพื่อให้ต้นกาแฟมีใบเขียวเข้มและสมบูรณ์ พร้อมสร้างผลผลิตคุณภาพสูง
- **หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต**: ใช้ฮิวมิค FK เพื่อฟื้นฟูสภาพดินและให้ต้นกาแฟพร้อมสำหรับการเติบโตในฤดูกาลถัดไป

### สรุป
การดูแลสวนกาแฟด้วย **ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn** เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตและทำให้ต้นกาแฟเติบโตสมบูรณ์ ช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพสูงและมีปริมาณเพิ่มขึ้น

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์สำหรับฉีดพ่นต้นแตงกวา: สูตรเร่งผลผลิต ผลใหญ่ ดก น้ำหนักดี

แตงกวา พืชผักยอดนิยมที่ปลูกง่าย ทานอร่อย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย การปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตดี ผลใหญ่ ดก และมีคุณภาพ จำเป็นต้องอาศัยปุ๋ยที่เหมาะสม บทความนี้ขอแนะนำ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตรเร่งผลผลิตสำหรับต้นแตงกวา



ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก 3 ชนิด คือ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของต้นแตงกวาในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต

สูตรเด็ดสำหรับแตงกวา

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60: สูตรนี้เน้นโพแทสเซียมสูง เหมาะสำหรับช่วงออกดอกและติดผล ช่วยให้ผลแตงกวาขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และมีคุณภาพดี

ปุ๋ยแม็กซ่า: ปุ๋ยธาตุรอง ธาตุเสริม ช่วยเพิ่มครอโรฟิลล์ เร่งการเจริญเติบโต ใบเขียวเข้ม เขียวไว เขียวนาน เพิ่มคุณภาพและผลผลิต



ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิด: สารปรับปรุงดินคุณภาพสูง ช่วยฟื้นฟูระบบราก เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารของพืช ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี ผลผลิตเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง

เก็บปุ๋ยในที่แห้ง มิดชิด ห่างไกลจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก เมื่อใช้ปุ๋ย
ห้ามรับประทานหรือสูดดมปุ๋ย
ล้างมือและอาบน้ำให้สะอาดหลังใช้ปุ๋ย

ผลลัพธ์ที่ได้

เมื่อใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตรเร่งผลผลิตสำหรับต้นแตงกวาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้

ต้นแตงกวามีลำต้นแข็งแรง
ใบเขียวเข้ม ดกหนา
ออกดอกดก
ผลแตงกวามีขนาดใหญ่ น้ำหนักดี
ผลผลิตเพิ่มขึ้น
คุณภาพของผลแตงกวาดี

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกแตงกวาให้ได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ และคุ้มค่าต่อการลงทุน

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร



ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)

ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์: ตัวช่วยเร่งความสมบูรณ์ให้ต้นมังคุดของคุณ

มังคุด ราชาแห่งผลไม้ ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อนุ่มละมุนลิ้น การปลูกมังคุดให้เจริญเติบโตและออกผลดก นอกจากจะอาศัยสภาพอากาศที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องใส่ใจเรื่องปุ๋ยที่เหมาะสมอีกด้วย ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ คือตัวช่วยชั้นเยี่ยมที่จะตอบโจทย์ความต้องการของต้นมังคุดในทุกช่วงการเจริญเติบโต มาทำความรู้จักกับปุ๋ยสตาร์เฟอร์ทั้ง 3 สูตรกันเลย

สูตร 1: 30-20-5 เร่งการเจริญเติบโต โตไว ใบเขียว
สูตรนี้เหมาะสำหรับต้นมังคุดในระยะกล้าและระยะอนุบาล ช่วยให้ต้นมังคุดเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ลำต้นแข็งแรง ใบเขียว แตกกิ่งก้านสาขาดี ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก NPK อยู่ในอัตราส่วน 30% : 20% : 5%

ไนโตรเจน (N) 30% : ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของลำต้น ใบ และกิ่งก้าน
ฟอสฟอรัส (P) 20% : เสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรง ช่วยดูดซึมสารอาหารได้ดี
โพแทสเซียม (K) 5% : ควบคุมการใช้น้ำของพืช ช่วยให้ใบเขียวหนา ผลผลิตดก

สูตร 2: 10-40-10+3 MgO เร่งการเจริญเติบโตของราก และการออกดอก
สูตรนี้เหมาะสำหรับต้นมังคุดในระยะเตรียมพร้อมออกดอก ช่วยให้รากของต้นมังคุดเจริญเติบโตแข็งแรง สะสมอาหารได้ดี กระตุ้นให้ต้นมังคุดออกดอกดก ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก NPK และแมกนีเซียม (MgO) อยู่ในอัตราส่วน 10% : 40% : 10% + 3% MgO

ฟอสฟอรัส (P) 40% : เสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรง ช่วยดูดซึมสารอาหารได้ดี
โพแทสเซียม (K) 10% : ควบคุมการใช้น้ำของพืช ช่วยให้ใบเขียวหนา ผลผลิตดก
แมกนีเซียม (MgO) 3% : ช่วยในการสังเคราะห์แสงและสร้างคลอโรฟิลด์ ส่งผลดีต่อการออกดอก

สูตร 3: 15-5-30+3 MgO ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต
สูตรนี้เหมาะสำหรับต้นมังคุดในระยะติดผล ช่วยให้ผลมังคุดเจริญเติบโตเต็มที่ ขยายขนาดผลใหญ่ น้ำหนักดี เพิ่มผลผลิต ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก NPK และแมกนีเซียม (MgO) อยู่ในอัตราส่วน 15% : 5% : 30% + 3% MgO

โพแทสเซียม (K) 30% : ควบคุมการใช้น้ำของพืช ช่วยให้ใบเขียวหนา ผลผลิตดก
แมกนีเซียม (MgO) 3% : ช่วยในการสังเคราะห์แสงและสร้างคลอโรฟิลด์ ส่งผลดีต่อการขยายขนาดผล

วิธีการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์
ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์กับน้ำในอัตราที่แนะนำบนฉลาก
ฉีดพ่นปุ๋ยให้ทั่วใบและลำต้น
ฉีดพ่นปุ๋ยเป็นประจำ ทุก 7-15 วัน

คำแนะนำ
ควรอ่านฉลากก่อนใช้ปุ๋ยทุกครั้ง
สวมใส่ถุงมือและหน้ากากป้องกันเมื่อฉีดพ่นปุ๋ย
เก็บปุ๋ยให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link.. .
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ พลังอาหารเพื่อต้นสละโตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ดกเต็มต้น

ต้นสละ ไม้ผลยอดนิยม ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อสัมผัสกรอบ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ การปลูกสละให้เจริญเติบโต ออกดอกติดผล ดกเต็มต้น ปุ๋ยมีบทบาทสำคัญ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตรเฉพาะสำหรับต้นสละ พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของต้นสละในแต่ละช่วงวัย มาพร้อม 3 สูตร 3 ช่วงวัย ดังนี้

1. สูตรเร่งการเจริญเติบโต โตไว ใบเขียว (30-20-5)
เหมาะสำหรับต้นสละในช่วงแรกปลูก กระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นและใบ ช่วยให้ใบใหญ่ เขียว สดใส เร่งการแตกกิ่งก้านสาขา ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน (N) 30% ฟอสฟอรัส (P) 20% โพแทสเซียม (K) 5% อัตราการใช้ 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

2. สูตรเร่งราก เร่งดอก (10-40-10+3 MgO)
เหมาะสำหรับต้นสละในช่วงออกดอก เสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรง กระตุ้นการออกดอก เพิ่มจำนวนดอก เพิ่มโอกาสการติดผล ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน (N) 10% ฟอสฟอรัส (P) 40% โพแทสเซียม (K) 10% แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) 3% อัตราการใช้ 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

3. สูตรผลใหญ่ ผลดก (15-5-30+3 MgO)
เหมาะสำหรับต้นสละในช่วงติดผล ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มรสชาติ หวาน อร่อย เก็บเกี่ยวผลได้นานขึ้น ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน (N) 15% ฟอสฟอรัส (P) 5% โพแทสเซียม (K) 30% แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) 3% อัตราการใช้ 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

จุดเด่นของปุ๋ยสตาร์เฟอร์

สูตรเฉพาะสำหรับต้นสละโดยเฉพาะ พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญ
3 สูตร 3 ช่วงวัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ธาตุอาหารครบถ้วน ละลายน้ำง่าย พืชดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว
เพิ่มผลผลิต ปรับคุณภาพ
ใช้ได้กับพืชทุกชนิด

วิธีใช้
ฉีดพ่นทางใบ โดยผสมปุ๋ย 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่น 10-15 วัน ครั้ง
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น

คำแนะนำ
ศึกษาข้อมูลและความต้องการของต้นสละในแต่ละช่วงวัยก่อนการใช้ปุ๋ย
ปรับอัตราการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพดินและสภาพอากาศ
สวมใส่ชุดป้องกันเมื่อใช้ปุ๋ย
เก็บปุ๋ยให้มิดชิด ห่างไกลจากเด็กและสัตว์เลี้ยง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ## ตัวช่วยให้ต้นสละของคุณเติบโตอย่างแข็งแรง ออกดอกติดผล ดกเต็มต้น เพิ่มผลผลิต ปลดล็อกศักยภาพต้นสละของคุณ สั่งซื้อได้แล้ววันนี้!

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร

ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..