[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - ปุ๋ยมะม่วง
11 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 1 หน้า, หน้าที่ 2 มี 1 รายการ

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ปุ๋ยโพแทสเซียว 0-0-60 สูตรเร่งผลใหญ่ เพิ่มผลผลิต ดกเต็มต้น
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ปุ๋ยโพแทสเซียว 0-0-60 สูตรเร่งผลใหญ่ เพิ่มผลผลิต ดกเต็มต้น
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ปุ๋ยโพแทสเซียว 0-0-60 สูตรเร่งผลใหญ่ เพิ่มผลผลิต ดกเต็มต้น
มะม่วง เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย เกษตรกรหลายท่านนิยมปลูกเพื่อจำหน่าย

ปุ๋ย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มะม่วงเจริญเติบโต ออกดอก ออกผล และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นปุ๋ยเคมีมาตรฐานสูตรโพแทสเซียมคลอไรด์ ละลายน้ำง่าย พืชสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็ว

คุณสมบัติของปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60

ธาตุอาหาร:
โพแทสเซียม (K) 60%

ประโยชน์:
ช่วยขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก
เพิ่มคุณภาพผลผลิต
ช่วยให้ผลมีสีสันสวยงาม
เพิ่มรสชาติหวาน
เพิ่มความแข็งแรงของผล
ช่วยให้ผลทนทานต่อการขนส่ง
เพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง

วิธีการใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60

ฉีดพ่นทางใบ:
อัตรา 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสม:
ช่วงก่อนออกดอก
ช่วงหลังติดผล
ช่วงผลกำลังเจริญเติบโต

ข้อควรระวัง

ควรอ่านฉลากก่อนใช้
สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามรับประทาน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้มะม่วงของคุณมีผลใหญ่ ผลดก คุณภาพดี เกษตรกรท่านใดที่กำลังมองหาปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

หมายเหตุ:

ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ
ควรใช้วิธีการจัดการสวนอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การให้น้ำ การตัดแต่งกิ่ง

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
เคล็ดลับการใช้ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง: วิธีปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มขนาดของผลให้มะม่วง
เคล็ดลับการใช้ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง: วิธีปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มขนาดของผลให้มะม่วง
การให้ปุ๋ยเพื่อเร่งผลมะม่วงและเพิ่มขนาดของผลมีความสำคัญเนื่องจากมีผลต่อคุณภาพและปริมาณของผลผลิต การใช้ปุ๋ยที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยให้มะม่วงเจริญเติบโตได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตมะม่วงที่มีคุณภาพดีมากขึ้นด้วย

ธาตุอาหารที่สำคัญสำหรับการเร่งผลมะม่วงและเพิ่มขนาดของผลรวมถึงการเพิ่มโพแทสเซียม (Potassium) ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาของผลและเพิ่มความหวานในผลมะม่วง โพแทสเซียมยังช่วยเสริมระบบต้านทานทางชีวภาพของพืชต่อโรคและสภาพแวดล้อมที่แปลปวกโดยช่วยให้พืชทนทานต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น การทนทานต่อการขาดน้ำ

นอกจากโพแทสเซียมแล้วยังควรให้ธาตุอาหารอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ไนโตรเจน (Nitrogen) สำหรับการเพิ่มความเขียวของใบและส่งเสริมการเจริญเติบโต ฟอสฟอรัส (Phosphorus) สำหรับการส่งเสริมการเจริญเติบโตของระบบราก และธาตุอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อมะม่วงในระหว่างการเจริญเติบโตและการออกดอก-ผล

การเลือกใช้ปุ๋ยที่มีสูตรที่เหมาะสมตามระยะเวลาและขั้นตอนการเจริญเติบโตของมะม่วงจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติการให้ปุ๋ยตามคำแนะนำที่ระบุในบรรจุภัณฑ์ของปุ๋ยนั้น ๆ

อย่าลืมว่าการดูแลรักษามะม่วงในด้านอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น การให้น้ำ การควบคุมแมลง และการจัดการโรคพืช ก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้มะม่วงเจริญเติบโตและผลิตผลที่มีคุณภาพดี

.
ปุ๋ย FK-3 ฉีดพ่น ต้นมะม่วง ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง ปุ๋ยมะม่วง เพิ่มขนาด ขยายผล คุณภาพดี ให้ ธาตุ โพแทสเซียม ถึง 40% สำหรับเร่งผลโดยเฉพาะ
ปุ๋ย FK-3 ฉีดพ่นไม้ผลทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ปุ๋ย FK-13 ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3451
การป้องกันกำจัดโรคใบไหม้และใบจุดในมะม่วงด้วย IS และ FK-1
การป้องกันกำจัดโรคใบไหม้และใบจุดในมะม่วงด้วย IS และ FK-1
การป้องกันกำจัดโรคใบไหม้และใบจุดในมะม่วงด้วย IS และ FK-1
มะม่วงเป็นผลไม้ที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่ก็มีความเสี่ยงต่อโรคเชื้อราต่าง ๆ เช่น โรคใบไหม้และโรคใบจุด โรคเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อผลไม้และลดผลผลิตโดยรวมของต้นไม้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อควบคุมโรคเหล่านี้และรักษาสุขภาพของต้นมะม่วง

IS ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์สามารถใช้ป้องกันและกำจัดโรคราในพืชได้ เทคนิคการควบคุมไอออนที่ใช้ใน IS ทำให้มั่นใจได้ว่าพืชจะดูดซับสารอาหารที่จำเป็นในขณะที่ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราที่เป็นอันตราย วิธีใช้ IS ใช้ส่วนผสม 50 ซีซี ละลายน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นลงบนต้นมะม่วง วิธีนี้จะช่วยป้องกันใบและผลจากโรคใบไหม้และใบจุด

เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด คุณสามารถใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ร่วมกับ IS FK-1 มีธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับต้นมะม่วง

ไนโตรเจนมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชและมีหน้าที่ในการเร่งใบเขียว ในทางกลับกันฟอสฟอรัสทำหน้าที่เป็นตัวเร่งดอก เปิดตาดอก และเร่งระบบราก โพแทสเซียมทำหน้าที่เป็นตัวเร่งผลผลิตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคพืช คุณสามารถช่วยให้ต้นมะม่วงเติบโตแข็งแรงและออกผลได้มากขึ้นโดยการรวมสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้เข้าด้วยกัน

ในการใช้ FK-1 ปุ๋ย 1 กล่องหนัก 2 กก. บรรจุ 2 ถุง ๆ ละ 1 กก. ต้องผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกัน ตักถุงละ 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สอง ละลายในน้ำ 20 ลิตร คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วฉีดพ่นลงบนต้นมะม่วง

โดยสรุปแล้ว การป้องกันและกำจัดโรคใบไหม้และใบจุดในต้นมะม่วงมีความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพและผลผลิตของต้นมะม่วง การใช้ IS และ FK-1 สามารถช่วยปกป้องต้นไม้จากโรคเชื้อราที่เป็นอันตราย และให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและภูมิคุ้มกัน ด้วยมาตรการเหล่านี้ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าต้นมะม่วงของคุณจะออกผลที่อร่อยและดีต่อสุขภาพสำหรับปีต่อๆ ไป

สอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

เลื่อนลงล่างอีกนิดมีลิงค์ สำหรับสั่งซื้อกับลาซาด้า หรือช้อปปี้ นะคะ
มะม่วง ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ฉีดพ่น ปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
มะม่วง ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ฉีดพ่น ปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
มะม่วง ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ฉีดพ่น ปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
เพิ่มผลผลิตมะม่วงสูงสุดด้วยปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

มะม่วงเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกด้วยรสชาติที่หวานฉ่ำและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การปลูกมะม่วงสามารถทำกำไรได้สำหรับเกษตรกร แต่จำเป็นต้องเอาใจใส่อย่างรอบคอบต่อความต้องการธาตุอาหารของพืช ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของมะม่วง ด้วยส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว

ก่อนที่เราจะเจาะลึกเฉพาะเจาะจงของ FK-1 เรามาคุยกันว่าทำไมปุ๋ยจึงมีความสำคัญต่อต้นมะม่วง มะม่วงเป็นอาหารที่มีน้ำหนักมาก ต้องการไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในปริมาณมาก รวมทั้งธาตุอาหารรอง เช่น แมกนีเซียมและสังกะสี ถ้าธาตุอาหารเหล่านี้ไม่มีอยู่ในดินในปริมาณที่เพียงพอ ต้นไม้จะไม่ออกผลมากหรืออาจออกผลที่มีคุณภาพด้อยลง ปุ๋ยสามารถช่วยเสริมสารอาหารในดินและทำให้ต้นไม้มีทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต

อะไรทำให้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปลูกมะม่วง ประการแรก สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการฉีดพ่นทางใบเป็นวิธีการให้ปุ๋ยที่เกี่ยวข้องกับการฉีดพ่นทางใบโดยตรงด้วยสารละลายปุ๋ยน้ำ วิธีนี้มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษเพราะช่วยให้ใบดูดซึมสารอาหารและพืชนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การเจริญเติบโตและการพัฒนาของผลไม้เร็วขึ้น

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมอย่างสมดุล ซึ่งเป็นธาตุอาหารหลัก 3 ชนิดที่มะม่วงต้องการในปริมาณมาก นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมและสังกะสี ซึ่งเป็นธาตุอาหารรองสองชนิดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของผลไม้อย่างเหมาะสม สารลดแรงตึงผิวในปุ๋ยช่วยให้สารละลายกระจายทั่วใบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกส่วนของพืชได้รับสารอาหารที่ต้องการ

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สามารถทำได้ง่ายๆ FK-1 เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 คือสามารถเพิ่มผลผลิตมะม่วงได้อย่างมาก จากการศึกษาพบว่าต้นมะม่วงที่ได้รับปุ๋ยทางใบให้ผลผลิตมากกว่าต้นมะม่วงที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ยทางใบ นอกจากนี้ ผลไม้ที่ผลิตโดยต้นไม้ที่ผ่านการบำบัดมักจะมีขนาดใหญ่กว่าและมีคุณภาพดีกว่า โดยมีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าและมีสีที่ดีกว่า

สรุปแล้ว หากคุณต้องการเพิ่มผลผลิตมะม่วงให้ได้สูงสุด ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ส่วนผสมที่สมดุลของธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรอง พร้อมด้วยสารลดแรงตึงผิว ทำให้เป็นปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย ซึ่งสามารถช่วยให้ต้นมะม่วงของคุณออกผลที่อุดมสมบูรณ์และมีคุณภาพสูง ด้วยความเอาใจใส่อย่างระมัดระวังต่อการใส่ปุ๋ยและด้านอื่นๆ ของการปลูกมะม่วง คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ได้ปีแล้วปีเล่า

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะม่วง ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะม่วง ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะม่วง ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกมะม่วงให้ได้ผลผลิตสูงสุดด้วยปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

มะม่วงเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในด้านรสชาติที่หวานฉ่ำ นอกจากนี้ยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีค่าสำหรับเกษตรกรจำนวนมากในเขตร้อน เพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุดในการปลูกมะม่วง สิ่งสำคัญคือต้องใช้ปุ๋ยคุณภาพสูงที่ให้สารอาหารที่เหมาะสมในปริมาณที่เหมาะสม หนึ่งในปุ๋ยดังกล่าวคือปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ซึ่งมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ มาในกล่อง น้ำหนัก 2 กก. ในกล่องมี 2 ถุงๆ ละ 1 กก. การใช้ปุ๋ยต้องผสมกันทั้ง 2 ถุง อัตราการผสมถุงแรก 50 กรัม และถุงที่สอง 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรกวนผสมจนปุ๋ยละลายในน้ำจนหมดแล้วจึงฉีดพ่นลงบนต้นมะม่วง

การฉีดพ่นทางใบเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งสารอาหารให้กับพืช เมื่อฉีดพ่นทางใบพืชจะดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับต้นมะม่วงซึ่งมีทรงพุ่มขนาดใหญ่และยากต่อการใส่ปุ๋ยด้วยวิธีดั้งเดิม

สารอาหารในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 มีความสมดุลอย่างระมัดระวังเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์และให้ผลผลิตผลไม้สูงสุด ไนโตรเจนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของใบและความแข็งแรงของพืชโดยรวม ฟอสฟอรัสมีความสำคัญต่อการพัฒนาของรากและการสร้างผล โพแทสเซียมช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในพืชและมีความสำคัญต่อคุณภาพของผลไม้ แมกนีเซียมจำเป็นต่อการสังเคราะห์แสงและสังกะสีจำเป็นต่อการพัฒนาผลไม้

นอกจากสารอาหารเหล่านี้แล้ว ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ยังมีสารลดแรงตึงผิวซึ่งช่วยให้ปุ๋ยกระจายทั่วใบและแทรกซึมเข้าไปในชั้นเคลือบขี้ผึ้งของพืช สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าสารอาหารจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดจากปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการผสมและฉีดพ่นอย่างระมัดระวัง ควรใส่ปุ๋ยเมื่อต้นมะม่วงกำลังเติบโตและอากาศแห้ง สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นปุ๋ยในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน เพราะอาจทำให้ใบไหม้ได้

สรุปได้ว่าปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมในการเพิ่มผลผลิตของการปลูกมะม่วงให้ได้สูงสุด การผสมผสานสารอาหารที่สมดุลอย่างระมัดระวัง รวมกับสารลดแรงตึงผิวเพื่อการดูดซึมที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและการผลิตผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทำตามคำแนะนำอย่างระมัดระวังและใช้ปุ๋ยในเวลาที่เหมาะสม เกษตรกรสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวมะม่วงที่อุดมสมบูรณ์และพืชผลที่มีกำไร

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
การเพิ่มผลผลิตมะม่วง ด้วยปุ๋ย FK-1 และ FK-3 โดยวิธีง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
การเพิ่มผลผลิตมะม่วง ด้วยปุ๋ย FK-1 และ FK-3 โดยวิธีง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
มะม่วงเป็นผลไม้ยอดนิยมและอร่อย แต่การปลูกอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับบางคน อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคนิคและเครื่องมือที่เหมาะสม คุณจะได้ผลผลิตสูงสุดและเพลิดเพลินกับมะม่วงฉ่ำน้ำมากมาย เครื่องมือสำคัญประการหนึ่งสำหรับการปลูกมะม่วงให้ประสบความสำเร็จคือการใช้ปุ๋ย โดยเฉพาะ FK-1 และ FK-3

ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่นเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของต้นมะม่วง ประกอบด้วยแมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวเพื่อช่วยให้สารอาหารดูดซึมเข้าสู่พืช หากต้องการใช้ FK-1 เพียงผสมกับน้ำตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์แล้วฉีดพ่นลงบนใบและกิ่งของต้นมะม่วงของคุณ สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและปรับปรุงสุขภาพของต้นไม้ซึ่งนำไปสู่ผลผลิตที่สูงขึ้น

ปุ๋ย FK-3 คล้ายกับปุ๋ย FK-1 แต่มีโพแทสเซียมเข้มข้นกว่า ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในระยะเริ่มติดผล เมื่อมะม่วงเริ่มออกผล เพียงผสม FK-3 กับน้ำแล้วฉีดพ่นลงบนต้นไม้เช่นเดียวกับ FK-1 สิ่งนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าต้นไม้มีสารอาหารทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการผลิตมะม่วงที่แข็งแรง

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากปุ๋ยเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์และใช้เป็นประจำ สิ่งนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าต้นมะม่วงของคุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นตลอดฤดูปลูก คุณอาจต้องการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรในท้องถิ่นหรือตัวแทนส่งเสริมเพื่อกำหนดความต้องการปุ๋ยเฉพาะของต้นมะม่วงและเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใส่ปุ๋ย

ด้วยการใช้ปุ๋ย FK-1 และ FK-3 คุณสามารถช่วยให้ต้นมะม่วงของคุณเติบโตและให้ผลผลิตผลไม้ที่อร่อยได้สูงสุด ด้วยความใส่ใจเพียงเล็กน้อย คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับมะม่วงสุกฉ่ำมากมายตลอดทั้งฤดูกาล

สั่งซื้อได้ที่ ลาซาด้า

FK-1 http://ไปที่..link..

FK-3 http://ไปที่..link..

เลือกซื้อ ปุ๋ยมะม่วง คุณภาพสูง ยาแก้ มะม่วงใบไหม้ เพลี้ยมะม่วง รามะม่วง จาก FK
เลือกซื้อ ปุ๋ยมะม่วง คุณภาพสูง ยาแก้ มะม่วงใบไหม้ เพลี้ยมะม่วง รามะม่วง จาก FK
ปุ๋ย และ ยา สำหรับมะม่วง คุณภาพสูงจาก FK ประกอบด้วย ปุ๋ยเร่งโตสำหรับมะม่วง ปุ๋ยบำรุงผลผลิต เพิ่มผลผลิต ยาสำหรับ โรครา ราดำ ใบไหม้ ยาแก้ เพลี้ย ยาฆ่าหนอน หมวดอินทรีย์ ชีวภาพ ปลอดภัย

เลือกซื้อได้ที่

ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..

ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3405
ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง ปุ๋ยมะม่วง เพิ่มขนาด ขยายผล คุณภาพดี ให้ ธาตุ โพแทสเซียม ถึง 40% สำหรับเร่งผลโดยเฉพาะ
ปุ๋ยเร่งผลมะม่วง ปุ๋ยมะม่วง เพิ่มขนาด ขยายผล คุณภาพดี ให้ ธาตุ โพแทสเซียม ถึง 40% สำหรับเร่งผลโดยเฉพาะ
🏆ทดแทนปุ๋ยเม็ด! ผลโตแน่นอน สำหรับพืชออกผลทุกชนิด ให้ โพแตสเซียม มากถึง 40 เปอร์เซนต์ เพื่อ เร่งผล ขนาดขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ เร่งผลโต น้ำหนักดี แน่นอน

❗ทราบหรือยัง? หัวเชื้อ ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริมเหล่านี้ ใช้สเปรย์ลงบนปุ๋ยเม็ด ในขั้นตอนการปั้นเม็ดเช่นกัน

ใช้ได้กับพืชออกผล และพืชลงหัว ทุกชนิด 🍉🥕🌽🍠🥜🥥🥕🍑🍓🍊🍅🍍🌶🧄

👍เชื่อถือได้ ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร
– ธาตุหลัก ทะเบียนเลขที่ 1637/2563
– สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ รส. 1727/2563

👌ใช้ง่าย เพียงแค่ผสมน้ำ ฉีดพ่น หรือราดลงโคน
– หนึ่งชุดมีสองถุง ผสมใช้พร้อมกัน (บรรจุถุงละ 1กิโลกรัม สองถุงรวม 2กิโลกรัม)
– มีสารจับใบในตัว
– ตักถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร (50กรัม ประมาณ 2ช้อนโต๊ะ)

💪เน้นโพแตสเซียมมากเป็นพิเศษ ถึง 40% พืชโตไว สมบรณ์ ผลผลิตดีขึ้น ต้านทานต่อโรคได้ดี ได้ทั้งธาตุหลัก ธาตุเสริม
🌳ธาตุ N ไนโตรเจน 5 เปอร์เซ็นต์ ช่วยพืชโตไว ใบเขียวตั้งตัวได้ สร้างโปรตีน สร้างอาหาร สร้างพลังงานให้กับพืช
🌞ธาตุ P ฟอสฟอรัส 10 เปอร์เซ็นต์ ช่วยสังเคราะห์แสง ผลิตแป้งและน้ำตาล กระตุ้นการออกดอก กระตุ้นราก
🌽ธาตุ K โพแตสเซียม 40 เปอร์เซ็นต์ สร้างโปรตีน เพิ่มคุณภาพผลผลิต ลดโรคพืช
💫ธาตุ Mg แมกนีเซียม 23 เปอร์เซ็นต์ สังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมันและน้ำตาล ช่วยสังเคราะห์แสง กระตุ้นเอนไซม์
✨ธาตุ Zn สังกะสี 10 เปอร์เซ็นต์ ช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิน คลอโรฟิลล์และแป้ง ควบคุมการย่อยน้ำตาลของพืช ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า
คลิก http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้
คลิก http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3427
ปุ๋ยบำรุงมะม่วงหิมพานต์ ปุ๋ยมะม่วงหิมพานต์ โตไว ระบบรากแข็งแรง ติดดอก ออกผล FK-1 มี N,P,K,Mg,Zn



ฉีดพ่น FK-1 บำรุงมะม่วงหิมพานต์ ด้วยธาตุอาหาร N - ไนโตรเจน ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต แตกยอด แตกใบ ขยายทรงพุ่ม ทำให้มะม่วงหิมพานต์เจริญเติบโตได้เร็ว ใบเขียว สังเคราะห์แสงได้ดี P - ฟอสฟอรัส ช่วยเรื่องระบบราก และการติดดอกติดผล และ K - โพแตสเซียม ส่งเสริมกระบวนการเคลื่อนย้ายแป้งและน้ำตาล ทำให้ผลโต เมล็ดโต และมีความสมบูรณ์ นอกจากนั้นแล้ว ยังประกอบด้วย Mg - แมกนีเซียม ที่ช่วยสังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมัน และน้ำตาล เพื่อเป็นอาหารและพลังงาน มี ธาตุ Zn - สังกะสี ควบคุมการเจริญเติบโต สังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิน คลอโรฟิลล์และแป้ง ควบคุมการย่อยน้ำตาลของพืช จึงทำให้ ต้นมะม่วงหิมพานต์ เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ แข็งแรง และให้ผลผลิตดี

http://www.farmkaset..link..

มีสารจับใบในตัว ลดแรงตรึงผิว ทำให้ FK-1 สามารถเกาะใบ และดูดซึมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

อัตราส่วนการผสม
- แกะกล่องออกมามี 2 ถุง ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง
- ตักถุงแรก 1-2 ช้อนโต๊ะ ถุงที่สอง 1-2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร
- คนให้แตกตัวละลายเข้ากับน้ำ
- ฉีดพ่นทางใบพืช

ราคา 890บาท ต่อกล่อง
ในหนึ่งกล่อง ประกอบด้วย
บัวแก้ว บรรจุ 1กิโลกรัม 1ถุง ทะเบียน เลขที่ 1641/2563 (กรมวิชาการเกษตร)
เอฟ-วัน บรรจุ 1กิโลกรัม 1ถุง ใบรับแจ้ง เลขที่ รส. 1727/2563 (กรมวิชาการเกษตร)
ผสมใช้พร้อมกัน

พืชจะถูกจำกัดการเจริญเติบโต ด้วยธาตุอาหารที่ได้รับต่ำสุด (Liebig s law of the minimum) FK-1 ให้ธาตุอาหารที่จำเป็นครบถ้วน แก้ปัญหาพืชโตช้า ส่งเสริมให้ผลผลิตสูง มีคุณภาพ

ปุ๋ย FK-1 เร่งโต สำหรับพืชต่างๆ ประกอบด้วย ธาตุหลัก สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ สารจับใบ ไนโตรเจน [N] ฟอสฟอรัส [P] โพแทสเซียม [K] แมกนีเซียม [Mg] สังกะสี [Zn]

การสั่งซื้อ ส่งฟรีถึงบ้าน เก็บเงินปลายทาง

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

FK-1 จาก ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

FK-1 จาก ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3394
การดูแลรักษามะม่วง และเก็บเกี่ยว
การดูแลรักษามะม่วง และเก็บเกี่ยว
การดูรักษาและเก็บเกี่ยวมะม่วง

การดูแลรักษา

1. มะม่วงเริ่มปลูกถึงก่อนให้ผลผลิต

1.1 กำจัดวัชพืชใต้ทรงพุ่ม ใส่ปุ๋ยและให้น้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดปี

1.2 ตัดแต่งกิ่ง และจัดโครงสร้างต้น ให้เหมาะสมกับระยะปลูก

1.3 ป้องกันกำจัดศัตรูพืชให้มะม่วงมีกิ่งแข็งแรงมีใบสมบูรณ์

2. มะม่วงระยะเจริญทางกิ่งใบ

2.1 หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วทำการตัดแต่งกิ่งและใส่ปุ๋ยทางดินทันที พร้อมกับการให้น้ำ อย่างเพียงพอ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต และสร้างความสมบูรณ์ของต้น

2.2 มะม่วงแตกใบใหม่อย่างน้อย 2 รุ่นในรอบปี ดูแลรักษาให้ต้นและใบมะม่วงสมบูรณ์เต็มที่

3. การเตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างตาดอก

ปลายฤดูฝนเมื่อได้ต้นมะม่วงที่แข็งแรงสมบูรณ์ ควบคุมให้ต้นพักตัวและสะสมอาหารมะม่วงจะสร้างตาดอก ในระยะนี้ โดยงดการให้น้ำก่อนฤดูออกดอกอย่างน้อย 2 เดือน และไถพรวนรอบชายนอกทรงพุ่ม เป็นการตัดรากมะม่วงบางส่วนและกำจัดวัชพืชพร้อมกัน ในกรณีที่มีฝนหลงฤดูตกลงมา ควรพ่นปุ๋ยทางใบ เช่น สูตร 0-52-34 อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อยับยั้งไม่ให้มะม่วงแตกใบอ่อนและยังคงมีการสะสมอาหารต่อไป

การให้น้ำ

1. การใช้ระบบให้น้ำแบบหัวเหวี่ยงเล็ก(มินิสปริงเกอร์) การปฏิบัติงานทำได้สะดวก ประหยัดแรงงานและพืชได้น้ำสม่ำเสมอ

2. การให้น้ำแบบสายยางรดหรือแบบปล่อยตามร่องขนาดเล็ก มีต้นทุนต่ำกว่าระบบแรก แต่ควบคุม ปริมาณน้ำที่ให้พืชได้ยาก ไม่สม่ำเสมอ ใช้น้ำ แรงงาน และเวลามากกว่าระบบหัวเหวี่ยงเล็ก



ปริมาณน้ำ

มะม่วงระยะบำรุงต้น มีความต้องการน้ำประมาณ 0.5 เท่าของอัตราการระเหยน้ำ กล่าวคือ ถ้าสภาพ อากาศมีอัตราการระเหยน้ำ 5 มิลลิเมตรต่อวัน (การระเหย 1 มิลลิเมตรเทียบเท่ากับน้ำ 1 ลิตรต่อ ตารางเมตร)ต้นมะม่วงที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 3 เมตร จะต้องให้น้ำประมาณ 22.5 ลิตรต่อต้น ต่อวัน (ครั้ง)

มะม่วงหลังการติดผล ถือเป็นระยะวิกฤตที่มะม่วงต้องการใช้น้ำมากที่สุด ประมาณ 0.7-0.8 เท่าของ อัตราการระเหยน้ำ กล่าวคือ ถ้าสภาพอากาศมีอัตราการระเหยน้ำ 5 มิลลิเมตรต่อวัน ต้นมะม่วงที่มี เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 5 เมตร จะต้องให้น้ำประมาณ 87.5-100 ลิตรต่อต้นต่อวัน (ครั้ง)

ความถี่ของการให้น้ำ

ขึ้นกับเนื้อดินและสภาพอากาศ ดินที่มีเนื้อดินเป็นดินทรายให้น้ำ 2-3 วันต่อครั้ง เนื้อดินเป็นดิน เหนียวให้น้ำ 4-5วันต่อครั้ง อย่างไรก็ตามอาจใช้วิธีสังเกตจากความชื้นดิน และสภาพของใบมะม่วง ประกอบการวางแผนให้น้ำก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น จากตัวอย่างที่ยกมาจากข้างบน ปริมาณการให้น้ำมะม่วง ระยะบำรุงต้นพืชต้องการน้ำ 22.5 ลิตรต่อต้นต่อวัน ถ้าต้องการให้น้ำ 4 วันต่อครั้งดังนั้นต้องให้น้ำ เท่ากับ 90 ลิตรต่อครั้ง

การงดให้น้ำ

ในช่วงก่อนมะม่วงออกดอก จะต้องงดให้น้ำจนกว่ามะม่วงเริ่มแทงช่อดอกแล้วจึงจะเริ่มให้น้ำอีก

การตัดแต่งกิ่ง

– การจัดทรงหรือสร้างทรงพุ่มมะม่วง

– เลือกลำต้นหลัก 1 ลำต้น ความสูง 75-100 เซนติเมตร

– ทำลายตายอด ทำให้ตาข้างผลิเกิดเป็นกิ่งแขนง คัดเลือกกิ่งไว้ในทิศทางที่ต้องการ 3-5 กิ่ง และเลือกกิ่งไว้ ไปอีก 2-3 ครั้ง ตามขนาดทรงพุ่มที่ต้องการ

– ขนาดพุ่มต้นควรคำนึงถึงความสะดวกในการทำงานรวมถึงความปลอดภัยและเหมาะสมกับเครื่องมือที่มีอยู่





วิธีการตัดแต่งกิ่ง

– การตัดแต่งกิ่งแบบบางเบา

เป็นการบังคับ และเลือกกิ่งให้เจริญเติบโตไปในทิศทางที่ต้องการ โดยตัดแต่งกิ่งที่ไม่ต้องการออก เช่น กิ่งที่โรคและแมลงทำลาย กิ่งกระโดง กิ่งไขว้ กิ่งไม่สมบูรณ์ กิ่งที่ผลิบริเวณ ปลายกิ่งที่แน่นมากเกินไปออก

– การตัดแต่งแบบปานกลาง

เมื่อพุ่มต้นใกล้จะชนกัน ตัดกิ่งรอบนอกทรงพุ่มทั้งหมดจากปลายยอดลึกเข้าหาศูนย์กลางต้นยาวประมาณ 50-100 เซนติเมตร มะม่วงจะผลิตา แตกกิ่ง – ใบใหม่มาทดแทน แล้วคัดเลือกกิ่งและตัดแต่งกิ่งอย่างบางเบา หลังการตัดแต่งแบบปานกลางอีก 1-2 ครั้ง

– การตัดแต่งกิ่งแบบหนัก

เมื่อต้นอายุมาก ต้นถูกโรคและแมลงทำลาย หรือต้นทรุดโทรม ควรสร้างโครงสร้างต้นมะม่วงใหม่(แต่งสาว) โดยตัดแต่งกิ่งเปิดกลางทรงพุ่มให้มีความสูง 1.5-3.0 เมตร ปริมาตรทรงพุ่ม ตัดออกไปประมาณครึ่งหนึ่ง กิ่งที่ถูกตัดเป็นแผลขนาดใหญ่ควรทาแผลด้วยยาป้องกันกำจัดเชื้อรา หรือสีน้ำมันจากนั้นกิ่งจะผลิตาให้กิ่ง แขนงใหม่ จากนั้นทำการคัดเลือกและตัดแต่งกิ่งอย่างบางเบา 1-2 ครั้ง เมื่อกิ่งแขนงใหม่บริเวณกลางทรงพุ่ม มีโครงสร้างเจริญเติบโตแข็งแรงมาทดแทนกิ่งเดิม และคาดการณ์ จะสามารถให้ผลผลิตในปีต่อไปได้ ให้ตัดแต่งกิ่งโครงสร้างเก่าที่อยู่รอบนอกของ โครงสร้างใหม่ออก มีความยาวใกล้เคียงกับการตัดแต่งกิ่งเปิดกลางทรงพุ่ม คัดเลือกกิ่งและตัดแต่งกิ่งแบบบางเบา 1-2 ครั้ง ช่วงแรกผลผลิตจะลดลงบ้างประมาณ 20-40 เปอร์เซ็นต์ แต่จะสามารถให้ผลผลิตได้เต็มที่ในปีที่ 3 หลังจากเริ่มตัดแต่ง กิ่งอย่างหนัก

หมายเหตุ : หลังจากตัดแต่งกิ่งทุกครั้งควรบำรุงต้นมะม่วงทันที ด้วยการใส่วัสดุปรับปรุงดินอินทรีย์แท้ เกรดAAA ตรายักษ์เขียว สูตรเข้มข้นพิเศษ(แถบทอง) และฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง) อัตรา 30-50 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก ๆ 10-14 วัน และให้น้ำตามปกติ เพื่อเร่งการผลิตาสร้างกิ่ง และใบใหม่ที่สมบูรณ์มาทดแทนได้อย่างรวดเร็ว







รอบระยะพัฒนาการของผลมะม่วง

ระยะการพัฒนาจนครบรอบเป็นดังนี้

มิถุนายน(ตัดแต่งกิ่ง) กรกฎาคม(ตัดแต่งกิ่ง>แตกใบอ่อน ครั้งที่ 1)สิงหาคม(แตกใบอ่อน) กันยายน(แตกใบอ่อน ครั้งที่ 2) ตุลาคม(พักตัว) พฤศจิกายน(พักตัว) ธันวาคม(แทงช่อดอก)

มกราคม—>ดอกบาน กุมภาพันธ์(ผสมเกสร ตัดผลอ่อน) มีนาคม(ขยายผล) เมษายน(เข้าไคล) พฤษภาคม(เข้าไคล>ผลแก่>เก็บเกี่ยว)

การบังคับให้มะม่วงออกดอก

การบังคับให้ต้นมะม่วงออกดอก ด้วยสารพาโคลบิวทราโซล โดยราดสารนี้ลงในดินรอบๆ ต้น ซึ่งมีวิธีการดังนี้คือ

1) ต้องบำรุงต้นมะม่วงให้สมบูรณ์เต็มที่ก่อน กล่าวคือ หลังจากเก็บผลแล้วให้ตัดแต่งกิ่งใส่ปุ๋ยให้น้ำ เพื่อให้ต้นมะม่วงสมบูรณ์เต็มที่ หลังจากนั้นปล่อยให้มะม่วงแตกใบอ่อนอย่างน้อย 2 ชุด

2) ระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการใช้สารคือ ช่วงที่ใบยังอยู่ในระยะใบอ่อนหรือใบพวง

3) ก่อนราดสาร ควรตรวจดูดินที่มีความชื้นพอสมควร และเมื่อราดสารลงดินแล้วให้รดน้ำตามด้วย เพื่อให้รากดูดสารได้อย่างเต็มที่

4) หลังจากราดสารประมาณ 21-30 วัน ให้ฉีดพ่น ไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง) อัตรา 50 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก ๆ 7-10 วันเพื่อกระตุ้นช่อดอก ทำให้การออกดอกเป็นไปอย่างสม่ำเสมอทั้งต้น ประมาณ 1½เดือนถึง 2 เดือนมะม่วงก็จะออกดอก

5) อัตราการใช้สารพาโคลบิวทราโซลเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดและอายุของต้นมะม่วง ดังนี้

เส้นผ่านศูนย์กลางทรงพุ่ม

6) การรดด้วยสารพาโคลบิวทราโซลให้รดทั่วบริเวณทรงพุ่มอย่างสม่ำเสมอ



การช่วยให้ช่อดอกมะม่วงติดผลดีขึ้น

เนื่องจากมีผู้สนใจปลูกมะม่วงกันแพร่หลาย และมักจะประสบปัญหาอย่างเดียวกันว่า มะม่วงออกช่อดอกแล้วไม่ค่อยติดผล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีหมอกลงจัดในขณะที่ช่อดอกกำลังบานแล้ว ก็จะยิ่งทำให้มะม่วงไม่ติดผล ซึ่งก็มีความเชื่อกันอย่างนั้น ซึ่งสาเหตุหรืออุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้มะม่วงเมื่อออกดอกแล้วไม่ติดผล มีดังต่อไปนี้คือ

1. สาเหตุอันเกิดจากเพลี้ยจั๊กจั่นและโรคราดำ

สาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดในการที่จะให้ช่อมะม่วงไม่ติดผล ซึ่งพบสาเหตุนี้ในเกือบทุกสวนมะม่วง หรือทุกต้นมะม่วงในท้องที่จังหวัดต่าง ๆ เกือบทุกจังหวัดก็ว่าได้ การทำลายของเพลี้ยจั๊กจั่น หรือที่ชาวสวนเรียกกันว่า แมงกะอ้า กับโรคราดำนั้น เกิดควบคู่กันไป กล่าวคือ เพลี้ยจั๊กจั่นทำลายช่อดอกมะม่วง โดยดูดน้ำเลี้ยงช่อดอกมะม่วง ทำให้ดอกมะม่วงขาดน้ำเลี้ยง ไม่สามารถเจริญต่อไปเป็นผลมะม่วงได้ ดอกจะร่วงหล่นในที่สุด และในขณะเดียวกัน เพลี้ยจั๊กจั่นก็จะขับถ่ายออกมา เป็นของเหลวที่มีรสหวาน ที่เป็นอาหารอันโอชะของเชื้อราดำ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในบรรยากาศ ทำให้ราดำเจริญได้ดีตามช่อดอกมะม่วง เห็นช่อดอกมะม่วงเป็นสีดำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกิดมีหมอกลงจัด นั่นย่อมหมายความว่า มีละอองน้ำในอากาศอยู่มาก มีความชื้นสูง ซึ่งธรรมชาติของเชื้อราดำหรือราต่างๆ จะชอบเจริญได้ดีในที่ๆ มีความชุ่มชื้นสูง ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า หมอกมีส่วนช่วยให้โรคราดำเจริญ หรือระบาดได้อย่างรวดเร็ว

วิธีป้องกัน : ใช้ ชีวภัณฑ์ปลอดสารพิษ “เมทา แม็ก” อัตรา 40-80 กรัมผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเพื่อกำจัดเป็นประจำ ทุก ๆ 5-7 วันในช่วงที่มะม่วงเริ่มแทงช่อ-ดอกบาน(ประมาณ 4-5 ครั้ง)

2. สาเหตุอันเกิดจากสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือจากแมลงและโรคทำลายช่อดอก

เมื่อต้นมะม่วงมีอายุไม่ถึงวัยที่จะออกดอกออกผล แต่ออกดอกก่อนกำหนด หรือการบำรุงต้นมะม่วงในช่วงระยะแรกตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกนั้นไม่ดีพอ ต้นมะม่วงเหล่านี้ เมื่อออกดอกแล้ว มีดอกไม่ติดผล เพราะต้นมะม่วงยังไม่แข็งแรงและสมบูรณ์พอ อายุหรือวัยที่ต้นมะม่วงควรจะออกดอกออกผล คือ ถ้าปลูกด้วยกิ่งตอน ควรมีอายุประมาณ 3 ปี ถ้าปลูกด้วยกิ่งทาบหรือกิ่งติดตา ควรมีอายุประมาณ 4-5 ปี จึงเริ่มออกดอกออกผล ถ้าปลูกด้วยเมล็ด ควรมีอายุประมาณ 5-6 ปี ดังนี้เป็นต้น

วิธีป้องกันรักษา คือ หมั่นดูแลรักษา และใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ หากมะม่วงติดดอก ให้เด็ดดอกทิ้งเสียในขณะที่ช่อดอกเริ่มออก เพื่อต้นมะม่วงจะได้ไม่เสียน้ำเลี้ยงไปสร้างช่อดอกต่อไป ถ้าปล่อยช่อดอกไว้ไม่เด็ดทิ้ง อาจติดผลได้ แต่เป็นผลที่ไม่สมบูรณ์ และต้นมะม่วงจะมีการเจริญเติบโตของลำตนช้าลง หรือชะงักงัน

3. ต้นมะม่วงขาดน้ำ หรืออากาศแห้งแล้งในระยะที่มีช่อดอก จะทำให้ดอกเหี่ยวแห้ง และร่วงหล่นไปได้

วิธีป้องกันรักษา คือ หลังจากมะม่วงออกช่อดอกแลว ให้รดน้ำอย่างสม่ำเสมออย่าปล่อยให้แห้ง

4.ต้นมะม่วงไม่สมบูรณ์และแข็งแรงพอ หากต้นมะม่วงไม่สมบูรณ์และแข็งแรงพอ ก็จะทำให้ช่อดอกมะม่วงไม่ติดผล เนื่องจากขาดอาหาร หรือน้ำเลี้ยงที่จะมาเลี้ยงช่อดอกหรือผลต่อไปได้

วิธีป้องกันรักษา : ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น และฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิลตามคำแนะนำ และให้ตัดแต่งกิ่งมะม่วงที่แห้ง หรือกิ่งที่มีโรคหรือแมลงทำลาย ออกเสีย

อนึ่ง อาจมีสาเหตุอื่นอีกที่มะม่วงออกช่อดอก แล้วไม่ติดผล เช่น อาจเป็นเพราะ ในท้องที่ที่ปลูกมะม่วงนั้น มีแมลงช่วยผสมเกสรอยู่น้อย หรืออาจเป็นเพราะ ต้นมะม่วงที่ปลูกนั้นอยู่ในที่อับ ไม่มีลมพัดผ่าน และแสงแดดน้อย เรื่องพันธุ์มะม่วงก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เช่น มะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ พันธุ์พิมเสนมัน มักจะออกดอกติดผลได้ดีกว่าพันธุ์อื่น และมักจะออกดอกนอกฤดูกาลอีกด้วย พันธุ์แรดมักจะออกดอกก่อนพันธุ์อื่น และออกดอกติดผลสม่ำเสมอเกือบทุกปี เหล่านี้เป็นต้น

การให้ปุ๋ย

มะม่วงตั้งแต่เริ่มปลูกถึงอายุ 2 ปี :

ทางดิน : ใส่วัสดุปรับปรุงดินเกรด AAA “ตรายักษ์เขียว สูตรเข้มข้นพิเศษ(แถบทอง) อัตรา 0.5-1 กิโลกรัมต่อต้น ทุก ๆ 30-45 วัน สลับกับการใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 อัตรา 150-300 กรัม(1-2 กำมือ)ต้น ปีละ 2-3 ครั้ง

ทางใบ : ฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง) อัตรา 30-50 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก ๆ 15-20 วัน(1-2ครั้งต่อเดือนเป็นประจำ)


สรุปการให้ปุ๋ยมะม่วงที่ให้ผลผลิตแล้วหรือต้นอายุ 3 ปีขึ้นไป

ช่วงเวลา ทางดิน ทางใบ

หลังเก็บเกี่ยวและตัดแต่งกิ่งแล้ว ครั้งที่ 1 ใส่ ยักษ์เขียว เกรดAAA สูตรเข้มข้น(แถบทอง)อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น

ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 อัตรา 0.5กิโลกรัมต่อต้น ห่างจากครั้งแรก 30 วัน

ไบโอเฟอร์ทิล สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง อัตรา30-50 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร(0.5 ลิตรต่อน้ำ200 ลิตร) + อาหารเสริมรวม “คีเลท” อัตรา5-10 กรัมฉีดพ่นทุก ๆ 10-14 วัน ประมาณ 5ครั้ง

เตรียมต้นสะสมอาหาร ใส่ ยักษ์เขียว เกรดAAA สูตรเข้มข้น(แถบทอง)อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น เพื่อสะสมอาหารในต้น ปุ๋ยสูตร 0-52-34 อัตรา 50-80 กรัมต่อน้ำ20 ลิตร ฉีดพ่น 2-3 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน ช่วยบังคับต้นให้สะสมอาหาร ไม่ให้แตกใบอ่อน

กระตุ้นดอก เร่งช่อยาว ฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิล สูตรบำรุงต้น ไล่แมลงอัตรา 50-80 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร(0.5 ลิตรต่อน้ำ 200 ลิตร + อาหารเสริมรวม “คีเลท”อัตรา 5-10 กรัม ฉีดพ่นทุก ๆ 10-14 วัน ประมาณ 4-5 ครั้ง

ติดผลจนถึงเก็บเกี่ยว ครั้งที่ 1 เมื่อติดเม็ดขนาดเท่ามะเขือพวง ใส่ ยักษ์เขียว เกรดAAA สูตรเข้มข้น(แถบทอง)อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น

ครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตรา0.5 กิโลกรัม + ยักษ์เขียว เกรดAAAสูตรเข้มข้น(แถบทอง)อัตรา 1-2กิโลกรัมต่อต้น

ครั้งที่ 3 หลังจากนั้นอีก 30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 24-4-24 อัตรา 0.5กิโลกรัม+ปุ๋ยอินทรีย์ตรายักษ์เขียว สูตร1 (แถบทอง)อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้นต่อต้น

ฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิล สูตรเร่งขนาดผลอัตรา 50 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร บวกกับ อาหารเสริมรวม “คีเลท” อัตรา 5-10 กรัมฉีดพ่นทุก ๆ 10-14 วันจนถึงเก็บเกี่ยว

หมายเหตุ :

1. อัตราการใส่ปุ๋ย ควรปรับใช้ตามขนาดต้น อายุพืช และความอุดมสมบูรณ์ของดิน ใช้ตามค่าการ วิเคราะห์ดินและพืช และควรกำจัดวัชพืชใต้ทรงพุ่มก่อนใส่ปุ๋ยทุกครั้ง และหากมีการตัดแต่งทรงพุ่มและควบคุมขนาดของทรงพุ่มไม่ให้มีขนาดใหญ่มากจนเกินไป จะทำให้ประหยัดปุ๋ยทางดินที่ใส่และยังประหยัดค่าแรงในการเก็บเกี่ยวอีกด้วย โดยขนาดทรงพุ่มที่เหมาะสม ควรมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 4 เมตร และสูงไม่เกิน 5 เมตรซึ่งหากทรงพุ่มอยู่ในช่วงที่กล่าวแล้ว การใช้ปุ๋ยเคมีแต่ละช่วง สามารถใช้เพียงต้นละ 0.5 กิโลกรัมร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ ตรายักษ์เขียว 1-3 กิโลกรัม(ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิต) มะม่วงก็จะให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและมีปริมาณมากเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุน ทำให้มีส่วนต่างของกำไรมาก

2. เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว จะพบว่าผลผลิตที่ได้จะมีคุณภาพดี(ติดดก_ลูกใหญ่_ได้น้ำหนัก) โดยที่เทียบเปอร์เซ็นต์ต้นทุนต่อผลผลิตแล้วจำนวนเงินกำไร(ผลตอบแทน)เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ได้เปรียบกว่าสวนอื่น ๆ ที่ลงทุนปุ๋ยและยาปริมาณมาก ๆ

3. ช่วงที่อากาศมีความชื้นสูง หากพบการระบาดของโรคราในพืชให้เว้นการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบทุกชนิดในช่วงนั้น แล้วใช้ยาป้องกันและรักษาโรคฉีดพ่นตามอาการ 1-2 ครั้งก่อน จึงเริ่มใช้ปุ๋ยทางใบต่อไปได้

4. การป้องกันแมลงศัตรูพืชก่อนที่จะเข้ามาทำลายต้นโดยการใช้ ไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง)นั้นจะประหยัดต้นทุนและลดความเสียหายได้ดีกว่า การใช้ยาฆ่าแมลงกำจัดเมื่อมีการระบาด ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองต้นทุนมาก และมีความเสี่ยงที่แมลงจะดื้อยา ทำให้ต้องใช้ยาแรงขึ้น สิ้นเปลืองทั้งเงินและสุขภาพของผู้ใช้เอง

5. สำหรับในพื้นที่ ที่มีการปลูกพืชกันมาก แนะนำให้ใช้ไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง) สลับหรือร่วมกับการใช้สารเคมีควบคุม อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลและลดต้นทุนการผลิตการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. การใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ “ยักษ์เขียว” ร่วมด้วยเป็นประจำ จะทำให้ต้นทุนปุ๋ยและสารทางดินต่อชุดการผลิต ลดลงได้ประมาณ 30-50 % โดยที่ผลผลิตที่ได้ยังเป็นปกติหรือดีกว่าเดิม และสังเกตได้ว่าสารอินทรีย์ในเนื้อปุ๋ยทำให้สภาพดินดีขึ้น ดินโปร่ง อุ้มน้ำได้ดี และพืชตอบสนองต่อการให้ปุ๋ยทางดินดีกว่าเดิม ในระยะยาวปัญหาเรื่องโรคทางดินน้อยกว่าแปลงข้างเคียงที่ไม่ได้ใช้ ผลในทางอ้อม เนื่องจาก ยักษ์เขียว เป็นสารอินทรีย์แท้ จึงกระตุ้นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ให้ย่อยปุ๋ย(เคมี)ที่ตกค้างในดินทำให้รากพืชสามารถดูดซึมกลับไปใช้ได้ ธาตุอาหารในดินจะสมดุลมากกว่า

สรุปเทคนิคการปฏิบัติเพื่อช่วยให้มะม่วงติดผลมาก

1. มะม่วงในฤดู เมื่อต้นเริ่มแทงช่อ ให้ฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิล (สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง) อัตรา 50 ซีซีต่อน้ำ 20ลิตร + อาหารเสริมรวม “คีเลท” อัตรา 5-10 กรัมฉีดพ่นทุก ๆ 7-10 วัน จนกระทั่งดอกบาน ช่อดอกที่ได้จะสมบูรณ์ ติดดอกออกผลมาก และปัญหาเรื่องการระบาดของเพลี้ยจั๊กจั่นจะลดลง ประหยัดต้นทุนสารเคมีกำจัดแมลง

2. มะม่วงนอกฤดู หลังจากราดสาร 21-30 วัน ให้ฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิล (สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง) อัตรา 50 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร (1/2 ลิตรต่อน้ำ 1 ถัง 200ลิตร) + อาหารเสริมรวม “คีเลท” อัตรา 5-10 กรัมฉีดพ่นทุก ๆ 7-10 วัน จนกระทั่งดอกบาน ช่อดอกที่ได้จะสมบูรณ์ ติดดอกออกผลมากสม่ำเสมอทั้งต้น และยังช่วยลดปัญหาเรื่องแมลงศัตรูพืชเข้าทำลายช่อดอก

3. ช่วงที่กระตุ้นดอก กรณีความชื้นในอากาศสูงหรือในช่วงฤดูฝน ควรใช้สารควบคุมโรคราหรือ ชีวภัณฑ์กำจัดโรครา(ปลอดสารพิษ) ไตรโคแม็ก อัตรา 80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นป้องกันเป็นระยะตามความเหมาะสม

4. เมื่อช่อมะม่วงเจริญพ้นพุ่มใบออกมาอย่างเด่นชัดแล้ว ควรรดน้ำให้ดินชุ่มอยู่เสมอ การรดน้ำควรรดแต่น้อยก่อน แล้วจึงเพิ่มมากขึ้น เรื่อย ๆ จนถึงที่เคยรดให้ตามปกติ

5. ในพื้นที่ที่มักมีการระบาดของแมลงศัตรูพืชรุนแรง ควรพ่นไบโอเฟอร์ทิล(สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง)ร่วมกับยาเพื่อป้องกันกำจัดแมลงที่จะมาทำลายช่อมะม่วง_หนอนเจาะผล_แมลงวันทอง ได้แก่ ชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช(ปลอดสารพิษ) “เมทาแม็ก” + ชีวภัณฑ์ปลอดสารพิษ(กำจัดหนอน) “บาร์ท๊อป” ฉีดพ่นเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องระมัดระวัง(แทงช่อดอก_ติดผล) หรืออาจใช้สารเคมีกำจัด อาทิเช่น อิมิดาโคลพริด_ เอ็นโดซัลแฟน หรือบีพีเอ็มซี อัตราตามฉลาก(ครั้งแรกให้พบในระยะที่ดอกยังตูม หรือสำรวจพบเพลี้ยจั๊กจั่น 3 ตัวต่อช่อและครั้งที่สองเมื่อเห็นว่ามะม่วงติดผลมีขนาดเท่าหัวแมลงวัน การพ่นยาครั้งที่สองอาจเติมยากันราลงไปด้วยถ้าเห็นว่ายังมีราดำอยู่ตามช่อดอกและใบ)หรือ พ่นคาร์บาริล อัตราตามฉลาก ทุก ๆ 7-10 วัน หากไม่ต้องการพ่นยากำจัดแมลง ให้ฉีดพ่นไบโอเฟอร์ทิล (สูตรบำรุงต้น ไล่แมลง)อัตรา 50-100 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก ๆ 7-10 วัน และป้องกันการเข้าทำลายของโรครา ด้วยการฉีดพ่น โปรคลอราซ หรือ เบโนมิล ในช่วงก่อนดอกบาน



การเก็บเกี่ยว

การเก็บผลมะม่วงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่ง ต้องเก็บให้ถูกต้อง เพื่อให้ผลมะม่วงที่ได้มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของตลาดไม่อ่อนเกินไป หรือปล่อยไว้จนสุกงอมเกินไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของมะม่วง และความใกล้ไกลของตลาด เป็นสำคัญ ข้อสังเกตง่ายๆ ว่ามะม่วงจะแก่เมื่อใดนั้น สิ่งที่น่าสังเกต 2 ประการคือ

1. แก้มผลทั้ง 2 ข้างพองโตเต็มที่ สีผิวเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีขาวจาง สังเกตจากผิวของผลมะม่วงมีสีขาวนวลหรือไขปกคลุมผล

2. เก็บตัวอย่างผลมะม่วงมา 2-3 ผล เพื่อทดสอบ โดยนำมะม่วงมาแช่น้ำดู หากผลมะม่วงจมน้ำแสดงว่าแก่จัด ถ้าลอยแสดงว่ายังอ่อนอยู่ และเวลาเก็บต้องอย่าให้ช้ำ มิฉะนั้นจะเน่าและเสียได้ง่ายเวลามะม่วงสุก

# http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3706
11 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 1 หน้า, หน้าที่ 2 มี 1 รายการ
|-Page 1 of 2-|
1 | 2 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ปุ๋ยสำหรับพริก ยาแก้พริกใบไหม้ แก้รา ยาปราบศัตรูพริก #ปุ๋ยพริก #ยารักษาโรคพริก #พริกใบไหม้
Update: 2564/10/28 09:54:32 - Views: 3402
การต่อสู้กับโรคใบไหม้ในมะละกอ
Update: 2566/05/17 10:51:31 - Views: 3444
โรคแตงไทย โรคแตงโม และ โรคที่กิดกับพืชตระกูลแตง
Update: 2564/04/10 15:35:38 - Views: 3600
การรับมือกับโรคต้นแตกยางไหลในต้นแตงกวา: วิธีป้องกันและการควบคุม
Update: 2566/11/22 09:24:43 - Views: 3498
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคราแป้ง ใน สตรอเบอรี่ ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2566/01/10 14:38:36 - Views: 3430
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคผลเน่า ในลองกอง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
Update: 2565/12/21 14:55:36 - Views: 3401
ปุ๋ยแตงกวา ปุ๋ยแตงร้าน เร่งโต เพิ่มผลผลิต ตระกูลแตง ฉีดพ่น FK-1 มี N-P-K, Mg, Zn และสารจับใบ
Update: 2564/11/06 09:42:21 - Views: 3426
การป้องกันและรักษาโรคเชื้อราในต้นหม่อน: แนวทางการดูแลและการใช้สารป้องกันกำจัดโรค
Update: 2566/11/21 09:16:00 - Views: 3460
EP01 ทำเกษตร ง่ายจริงหรือ ? - Podcast ฟาร์มเกษตร
Update: 2563/06/23 14:49:18 - Views: 3440
เลี้ยงหมูป่า รายได้เดือนละแสนกว่าบาท หนุ่มพะเยา เพาะเลี้ยงหมูป่าเป็นอาชีพเสริม
Update: 2563/06/15 20:11:28 - Views: 3615
แตงไทย โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ แข็งแรง ผลผลิตดี อะมิโนโปรตีนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด อะมิโนแรปเตอร์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/08 15:05:02 - Views: 3471
โรคใบด่างมันสำปะหลัง
Update: 2564/08/09 10:19:41 - Views: 3690
แก้วมังกร ลำต้นจุด ผลเน่า รากเน่าโคนเน่า ราสนิม ราแป้ง โรคราต่างๆ ป้องกันกำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟู ด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/03/28 11:06:53 - Views: 3492
แอปเปิ้ล ช่อดอกแห้ง ผลร่วง กำจัดโรคแอปเปิ้ล จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/11 10:09:42 - Views: 3413
กำจัดโรคทุเรียนที่เกิดจากเชื้อรา ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อรา FK-1 เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ในต้นทุเรียน
Update: 2566/05/22 15:17:23 - Views: 3461
เพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของต้นแตงโมด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO
Update: 2567/02/12 14:02:02 - Views: 3477
การจัดการและควบคุมหนอนในต้นองุ่น
Update: 2566/11/22 12:50:00 - Views: 3480
ยาปราบฯอินทรีย์ จากฟาร์มเกษตร ส่งทั่วไทย ชำระเงินปลายทาง
Update: 2562/08/08 14:02:02 - Views: 3438
โรคมังคุด แอนแทรกโนสมังคุด ใบจุด ใบไหม้ ราดำ ใบจุดสาหร่าย โรคต่างๆจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส
Update: 2564/10/09 00:40:26 - Views: 3579
กำจัดโรคราดำ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ศัตรูพืชในทุเรียน สารอินทรีย์ไอเอส และ FK-T ธรรมชาตินิยม ฟื้นฟูจากการทำลายของเชื้อรา
Update: 2566/05/26 10:14:00 - Views: 3569
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022