[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - โกโก้
26 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 2 หน้า, หน้าที่ 3 มี 6 รายการ

การต่อสู้กับโรคกิ่งไม้แห้งในต้นโกโก้
การต่อสู้กับโรคกิ่งไม้แห้งในต้นโกโก้
โรคกิ่งแห้งที่เกิดจากเชื้อราในต้นโกโก้อาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการผลิตโกโก้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแล อาจทำให้ผลผลิตลดลง เมล็ดโกโก้คุณภาพต่ำ และแม้แต่ต้นพืชตายได้ โชคดีที่มีหลายวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคพืชจากเชื้อรา รวมถึงการใช้ IS และ FK-1

IS ซึ่งเป็นส่วนผสมของสารอินทรีย์แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ผสมได้ในอัตรา 50 ซีซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นพืชเพื่อเป็นการป้องกัน เมื่อใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยหยุดการแพร่กระจายของโรคเชื้อราได้ก่อนที่จะลุกลามรุนแรงขึ้น

FK-1 เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคพืชจากเชื้อรา เป็นธาตุอาหารพืชพร้อมใช้ที่มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสีอย่างสมดุล เมื่อผสมในอัตราส่วน 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองกับน้ำ 20 ลิตร จะสามารถช่วยบำรุงพืชและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้พืชมีความทนทานต่อโรคเชื้อรา เช่น โรคกิ่งแห้ง

ด้วยการใช้ IS และ FK-1 ร่วมกัน ชาวไร่โกโก้สามารถช่วยป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคกิ่งไม้แห้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าต้นโกโก้แข็งแรงและให้ผลผลิตสูงสำหรับปีต่อๆ ไป
โกโก้ กิ่งแห้ง ผลเน่าดำ กำจัด เชื้อราในพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T
โกโก้ กิ่งแห้ง ผลเน่าดำ กำจัด เชื้อราในพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T
โกโก้ กิ่งแห้ง ผลเน่าดำ กำจัด เชื้อราในพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T
ต้นโกโก้เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรจำนวนมาก และเป็นพืชที่สำคัญในอุตสาหกรรมช็อกโกแลต อย่างไรก็ตาม ต้นไม้มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเชื้อรา เช่น กิ่งแห้งและเน่าดำ ซึ่งอาจทำให้ผลผลิตและคุณภาพลดลงอย่างมาก โรคเหล่านี้เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ได้แก่ Botryodiplodia theobromae_ Moniliophthora roreri และ Phytophthora palmivora

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิจัยได้สำรวจวิธีการทางธรรมชาติเพื่อต่อสู้กับโรคเหล่านี้ และทางออกหนึ่งที่มีแนวโน้มคือการใช้สารต้านเชื้อราอินทรีย์ หนึ่งในตัวแทนที่มีศักยภาพสูงคือ IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด

IS ได้รับการพัฒนาผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวาง โดยเลือกใช้วัตถุดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อควบคุมและยับยั้งเชื้อราด้วยเทคโนโลยีโดยการควบคุมสภาพแวดล้อมที่พื้นผิวของใบพืช สิ่งนี้ทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา ป้องกันการเริ่มเกิดโรค เช่น กิ่งแห้งและเน่าดำ

ประโยชน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับผิวใบพืชได้ดีกว่าสารเคมีกำจัดเชื้อราชนิดอื่นๆ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าสารจะคงอยู่บนพื้นผิวของพืชได้นานขึ้น ช่วยป้องกันเชื้อราที่ก่อโรคได้ยาวนานขึ้น

IS ยังเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ เนื่องจากมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่มีสารเคมีอันตรายใดๆ สิ่งนี้ทำให้เป็นโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของเกษตรกรหรือผู้บริโภค

การใช้สารต้านเชื้อราอินทรีย์ เช่น IS เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับอุตสาหกรรมโกโก้ ด้วยการลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดเชื้อรา เกษตรกรสามารถปลูกต้นโกโก้ในลักษณะที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงคุณภาพและผลผลิตของพืชผลด้วย

โดยสรุป การใช้สารต้านเชื้อราอินทรีย์ เช่น IS สามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคของกิ่งแห้งและโรคเน่าดำในต้นโกโก้ได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเกษตรกร ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและประสิทธิภาพสูง IS มีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการควบคุมโรคพืชในอุตสาหกรรมโกโก้ โดยมอบทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับเกษตรกรและผู้ผลิตช็อกโกแลต

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอเอส 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
โกโก้ โตไว ใบเขียว เม็ดใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่าเพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
โกโก้ โตไว ใบเขียว เม็ดใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่าเพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
โกโก้ โตไว ใบเขียว เม็ดใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่าเพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
การปลูกโกโก้เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด: บทบาทของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

โกโก้ แหล่งที่มาของช็อกโกแลต เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงในตลาดโลก พื้นที่ปลูกต้นโกโก้ซึ่งส่วนใหญ่พบในเขตร้อน จำเป็นต้องมีการเพาะปลูกอย่างระมัดระวังเพื่อผลิตเมล็ดโกโก้คุณภาพสูงที่ได้มาตรฐานสากล วิธีหนึ่งในการปรับปรุงผลผลิตของสวนโกโก้คือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ เช่น FK-1

FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารพืชที่จำเป็น ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นโกโก้ และการใช้ในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพและผลผลิตของเมล็ดโกโก้ได้

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในสวนโกโก้มีมากมาย สิ่งแรกและสำคัญที่สุด สามารถช่วยปรับปรุงผลผลิตของสวนโดยการให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของต้นโกโก้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตของเมล็ดโกโก้ซึ่งอาจส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกร

ประการที่สอง FK-1 สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพของเมล็ดโกโก้ที่ผลิตได้ การใส่ปุ๋ยทางใบสามารถช่วยเพิ่มระดับของสารอาหารบางชนิดในเมล็ดโกโก้ เช่น แมกนีเซียมและสังกะสี ซึ่งจำเป็นสำหรับการผลิตช็อกโกแลตคุณภาพสูง สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของเมล็ดโกโก้ในตลาด

ประการสุดท้าย การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสวนโกโก้ได้ การให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของต้นโกโก้ เกษตรกรสามารถลดความต้องการปุ๋ยสังเคราะห์ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

สรุปได้ว่าปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปรับปรุงผลผลิตของสวนโกโก้ การผสมผสานของธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืชสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดโกโก้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกร นอกจากนี้ การใช้ยังสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสวนโกโก้โดยลดความจำเป็นในการใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 และผลิตเมล็ดโกโก้คุณภาพสูงตามมาตรฐานสากลได้ โดยปฏิบัติตามอัตราส่วนการผสมที่ถูกต้องและแนวทางการใช้

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และ ติ๊กต็อก ช้อป http://ไปที่..link..ได้เช่นกัน
กำจัดเพลี้ย ใน ต้นโกโก้ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดเพลี้ย ใน ต้นโกโก้ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Beauveria mix Methharicium หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อยี่ห้อ Butarex เป็นสารกำจัดแมลงที่มีประสิทธิภาพซึ่งใช้ในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในต้นโกโก้ เพลี้ยเป็นศัตรูพืชทั่วไปที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นโกโก้ ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของพืชลดลง Beauveria mix Methharicium เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถช่วยเกษตรกรปกป้องพืชผลและเพิ่มผลผลิตได้

บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมคืออะไร?

Beauveria mix Methharicium เป็นส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Methharicium anisopliae บิวเวอเรีย บาสเซียนาเป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในดินและเป็นที่รู้จักจากคุณสมบัติในการฆ่าแมลง Methharicium anisopliae เป็นเชื้อราอีกชนิดหนึ่งที่มักใช้เป็นสารชีวภัณฑ์สำหรับศัตรูพืช

เมื่อส่วนผสมทั้งสองนี้รวมกัน จะเกิดเป็นยาฆ่าแมลงที่ทรงพลังซึ่งใช้ได้ผลกับแมลงศัตรูพืชหลากหลายชนิด รวมถึงเพลี้ยด้วย บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมทำงานโดยทำให้ศัตรูพืชติดเชื้อด้วยเชื้อรา ซึ่งจะเติบโตภายในร่างกายของศัตรูพืชและนำไปสู่การตายในที่สุด เชื้อราชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และแมลงที่เป็นประโยชน์ จึงเหมาะสำหรับใช้ในการเกษตร

มันทำงานอย่างไร?

Beauveria ผสม Methharicium ทำงานโดยการติดเชื้อเพลี้ยกับเชื้อรา เพลี้ยอ่อนจะติดเชื้อเมื่อสัมผัสกับสปอร์ของเชื้อราซึ่งยึดติดกับโครงกระดูกภายนอกของแมลง เมื่อสปอร์เจาะเข้าไปในร่างกายของแมลงแล้ว พวกมันจะเริ่มเติบโตและแพร่พันธุ์ ในที่สุดก็ฆ่าเพลี้ย

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมคือมันไม่ได้ฆ่าเพลี้ยทันที เชื้อราใช้เวลาในการเติบโตภายในร่างกายของแมลง ทำให้มีเวลาแพร่กระจายสปอร์ไปยังเพลี้ยตัวอื่น สิ่งนี้ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากในการควบคุมเพลี้ยในต้นโกโก้ เนื่องจากสามารถช่วยป้องกันการระบาดครั้งใหม่ได้

มันถูกนำไปใช้อย่างไร?

โดยทั่วไปจะใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมเป็นสเปรย์ที่ใบและลำต้นของต้นโกโก้ สเปรย์มีสารระงับสปอร์ของเชื้อราทั้งสองในน้ำ ซึ่งใช้กับพืชโดยใช้เครื่องพ่นแบบสะพายหลังหรืออุปกรณ์ฉีดพ่นอื่นๆ ควรใช้สเปรย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของพืช

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมเป็นมาตรการป้องกันและควรใช้ก่อนที่เพลี้ยจะมีโอกาสรบกวนพืช สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างระมัดระวังเมื่อใช้สเปรย์ เพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการใช้งาน

บทสรุป

Beauveria ผสม Methharicium จำหน่ายภายใต้แบรนด์ Butarex เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ยในต้นโกโก้ เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และแมลงที่เป็นประโยชน์ ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนยาฆ่าแมลงแบบดั้งเดิม ด้วยการใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียม เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของพวกเขาจากการรบกวนของเพลี้ย เพิ่มผลผลิต และรับประกันว่าต้นโกโก้ของพวกเขาแข็งแรงและให้ผลผลิตดี

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่ แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นโกโก้อย่างได้ผล
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นโกโก้อย่างได้ผล
โรคเชื้อราเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อต้นโกโก้ และสามารถลดผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดโกโก้ได้อย่างมาก เพื่อป้องกันและควบคุมโรคเหล่านี้ เกษตรกรมักจะหันไปใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม มีทางเลือกอินทรีย์ที่สามารถป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นโกโก้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น IS และ FK-1

ร่างกาย:
IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคเชื้อราในพืชหลายชนิด ทำงานโดยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืชและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรค ในการใช้ IS เกษตรกรสามารถผสมสาร 50 ซีซีกับน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นที่ใบและลำต้นของต้นโกโก้ ควรทำทุก 10-15 วันในช่วงฤดูปลูกเพื่อให้แน่ใจว่ามีการป้องกันโรคเชื้อราได้ดีที่สุด

นอกจาก IS แล้ว FK-1 ยังเป็นสารประกอบอินทรีย์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นโกโก้ สารประกอบนี้มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวที่สมดุล ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืชและปรับปรุงสุขภาพโดยรวม ในการใช้ FK-1 เกษตรกรสามารถผสม 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองกับน้ำ 20 ลิตร แล้วใช้สารละลายกับใบและลำต้นของต้นโกโก้ทุกๆ 10-15 วัน

บทสรุป:
โรคเชื้อราในต้นโกโก้สามารถมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดโกโก้ แต่มีสารประกอบอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถป้องกันและกำจัดโรคเหล่านี้ได้โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของมนุษย์ เมื่อใช้ IS และ FK-1 เกษตรกรสามารถปกป้องต้นโกโก้จากโรคเชื้อราและรับประกันผลผลิตที่แข็งแรงและยั่งยืน
โรคเชื้อราในโกโก้: คู่มือเบื้องต้นการป้องกันและรักษาโรคโกโก้
โรคเชื้อราในโกโก้: คู่มือเบื้องต้นการป้องกันและรักษาโรคโกโก้
โกโก้เป็นพืชสำคัญที่ปลูกในหลายประเทศทั่วโลก ใช้ในการผลิตช็อกโกแลตและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทำให้เป็นสินค้าเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม โกโก้ยังเสี่ยงต่อโรคเชื้อราต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากต่อชาวไร่ ในบทความนี้ เราจะหารือเกี่ยวกับโรคเชื้อราที่พบบ่อยที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อต้นโกโก้ ตลอดจนมาตรการป้องกันและการรักษาที่แนะนำโดยใช้ IS และ FK-1

โรคเชื้อราที่ส่งผลกระทบต่อต้นโกโก้

มีโรคเชื้อราหลายชนิดที่สามารถส่งผลกระทบต่อต้นโกโก้ ได้แก่:

โรคฝักดำ: เกิดจากเชื้อรา Phytophthora palmivora และอาจทำให้ต้นโกโก้เสียหายได้อย่างมาก โรคนี้ส่งผลกระทบต่อฝักของต้นโกโก้และอาจนำไปสู่การเน่าก่อนเวลาอันควรและร่วงหล่นจากต้นได้ เชื้อราสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในสภาพที่เปียกชื้น

โรคไม้กวาดแม่มด: เกิดจากเชื้อรา Moniliophthora perniciosa และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อพืชโกโก้ โรคนี้ทำให้ต้นโกโก้สร้างกิ่งก้านขนาดเล็กหรือ "ไม้กวาด" จำนวนมากเกินไปซึ่งไม่เกิดผล ต้นไม้ที่ติดเชื้อยังผลิตฝักขนาดเล็กที่ผิดรูปซึ่งมีคุณภาพต่ำ

Frosty pod rot: สาเหตุนี้เกิดจากเชื้อรา Moniliophthora roreri และอาจทำให้ต้นโกโก้เสียหายได้อย่างมาก โรคนี้ส่งผลกระทบต่อฝักของต้นโกโก้และอาจทำให้ฝักเน่าและเปลี่ยนเป็นสีขาวเทา เชื้อราสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในสภาพที่เปียกชื้น

มาตรการป้องกันและรักษาโดยใช้ IS และ FK-1

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันและรักษาโรคเชื้อราในต้นโกโก้คือการใช้ IS และ FK-1 IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ผสมน้ำได้ในอัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วนำไปใช้กับต้นโกโก้

นอกจาก IS แล้ว FK-1 ยังสามารถนำมาใช้บำรุงต้นโกโก้และช่วยต่อต้านโรคเชื้อราได้อีกด้วย FK-1 มีสองถุง โดยถุงแรกบรรจุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และถุงที่สองบรรจุแมกนีเซียมและสังกะสี รวมทั้งสารลดแรงตึงผิว ในการใช้ FK-1 ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมและถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร

ควรใช้ IS และ FK-1 เพื่อป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีความชื้นสูงและฝนตก ซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อราได้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถใช้รักษาพืชที่ติดเชื้อได้ แม้ว่าการแทรกแซงในระยะแรกจะมีความสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของโรค

บทสรุป

โรคเชื้อราสามารถก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากต่อต้นโกโก้ แต่ด้วยมาตรการป้องกันและรักษาที่เหมาะสม จะสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ IS และ FK-1 เป็นสองผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคเชื้อราในต้นโกโก้ เกษตรกรควรใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีความชื้นสูงและปริมาณน้ำฝน และหาทางแก้ไขแต่เนิ่นๆ หากพืชผลของพวกเขาติดเชื้อ
อ่าน:3661
พืชเศรษฐกิจ สินค้าสร้างรายได้ในครัวเรือนและประเทศ
พืชเศรษฐกิจ สินค้าสร้างรายได้ในครัวเรือนและประเทศ
พืชเศรษฐกิจ สินค้าสร้างรายได้ในครัวเรือนและประเทศ
ด้วยพื้นที่ของประเทศไทยมีความเหมาะสมในด้านการเกษตรจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า พืช คือสิ่งที่ทำให้คนไทยมีอาหารเลี้ยงปากท้องและยังสร้างรายได้กับครัวเรือน ต่อยอดไปจนถึงการสร้างรายได้ให้ประเทศจนกลายเป็น พืชเศรษฐกิจ ที่เกษตรกรจำนวนมากยึดถือเป็นอาชีพ จึงอยากนำเสนอให้กับผู้ที่สนใจหรือคนที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อโอกาสในการสร้างประโยชน์ต่อตัวเองและประเทศชาติต่อไปในอนาคต

มารู้จักกับพืชเศรษฐกิจของไทย
อย่างที่กล่าวไปว่าพืชถือเป็นปัจจัยสำคัญในการหล่อเลี้ยงชีวิตให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งไม่ใช่แค่การบริโภคเท่านั้น แต่เมื่อปลูกในปริมาณมากขึ้นก็ย่อมสร้างรายได้ให้กับเกษตรมากตามไปด้วย ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันมีพืชเศรษฐกิจที่ส่งเสริมอาชีพ ทำเงินให้กับคนในประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ไม่ใช่หมายถึงการส่งออกพืชเหล่านั้นแบบสด ๆ เพียงอย่างเดียว แต่หลายชนิดยังถูกนำมาแปรรูปเพื่อสร้างประโยชน์และเม็ดเงินได้อีกมากมาย

พืชเศรษฐกิจเหล่านี้ไม่ใช่แค่การบริโภคของคนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการถูกนำไปเลี้ยงสัตว์และทำประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดด้วย นี่คือความโชคดีของประเทศไทยด้วยพื้นที่และสภาพอากาศเหมาะสมจึงสามารถปลูกพืชต่าง ๆ ได้หลากหลายชนิดในแบบที่หลายประเทศไม่เคยทำได้ แหล่งรายได้หลักจึงมักมาจากประเทศพัฒนาแล้วแต่ขาดแคลนด้านการผลิตจึงต้องอาศัยการนำเข้านั่นเอง มารู้จักกับพืชเศรษฐกิจของไทยให้มากขึ้น พร้อมเรียนรู้เรื่องราวอื่น ๆ ไปพร้อมกันได้เลย มีสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้อีกมากทีเดียว

พืชเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อย่างที่กล่าวไปว่าหนึ่งในรายได้ที่ช่วยสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้นมาจาก พืชเศรษฐกิจ ดังนั้นบรรดาพืชที่จะกล่าวถึงนี้ยังคงถูกขนานนามให้เป็นพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันเหมือนเดิม พร้อมทั้งยังทำเงินให้กับเกษตรกรและประเทศอย่างต่อเนื่อง จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ข้าว
ข้าว คือ อาหารหลักของคนไทยและผู้คนอีกจำนวนมาก จึงต้องยอมรับว่ายังคงเป็นพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ได้รับความต้องการจากประเทศคู่ค้ามหาศาลในแต่ละปี โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวที่ถูกยกย่องว่าดีสุดของโลกอย่าง ข้าวหอมมะลิ ด้วยรสสัมผัสอันเนียนนุ่ม บวกกับรสชาติที่มีความหวานในตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากใครที่ได้ทานต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย ซึ่งจริง ๆ แล้วข้าวอันถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของเมืองไทยนั้นไม่ได้มีแค่ข้าวหอมมะลิเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วย เช่น ข้าวเหนียว ข้าวหอม ข้าวขาวพื้นแข็ง เป็นต้น ซึ่งพันธุ์ข่าวที่ถูกส่งออกมากที่สุดได้แก่ ข้าวขาวพื้นแข็ง คิดเป็นเกือบ 50% ของข้าวพันธุ์อื่น ๆ โดยกลุ่มประเทศที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ในการส่งออกข้าวของประเทศไทยคือ จีน และสหรัฐฯ แม้ในปัจจุบันจะมีคู่แข่งรายสำคัญอย่างเวียดนามที่ส่งออกข้าวได้มากกว่า แต่ด้วยคุณภาพจึงต้องยอมรับในด้านของความพึงพอใจที่ผู้บริโภคมีนั้น ข้าวของประเทศไทยยังคงเป็นที่ชื่นชอบ

ยางพารา
หากบอกว่านี่คือพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญรองลงมาจากข้าวคงไม่ใช่เรื่องผิดนัก แม้ว่าราคาในประเทศจะมีปรับขึ้น-ลงตามความเหมาะสม แต่ด้วยปัจจุบันการน้ำยางยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเพื่อนำไปทำสิ่งต่าง ๆ ให้มนุษย์ได้ใช้งานมากมาย อาทิ ยางรถยนต์ ส่วนผสมในการทำยางมะตอยเทพื้น ยางกันรั่วซึม ถุงยางอนามัย และอื่น ๆ อีกมาก ผลิตภัณฑ์ยางพาราของไทยนั้นมีการส่งออกทั้งแบบน้ำยางดิบและผ่านการแปรรูปมาแล้ว จึงส่งผลถึงการสร้างรายได้ที่หลากหลาย ในอดีตการปลูกยางมักปลูกกันแถบภาคใต้ ทว่าปัจจุบันได้มีการพัฒนาและปรับพื้นที่ในภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการปลูกยางพารากันมากขึ้น สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรมากตามไปด้วย การที่ยางพาราถูกจัดให้เป็นพืชเศรษฐกิจลำดับที่ 2 ต่อจากข้าว เพราะ ประเทศไทยยังคงถูกยกให้เป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกมาร่วม 30 ปี โดยคิดเป็นเกือบ ๆ 30% ของยางพาราทั้งหมดที่ใช้งานกันในทุกประเทศ

อ้อย
พืชเศรษฐกิจในปัจจุบันที่กำลังมีความต้องการสูงมาก ๆ ในต่างประเทศ ซึ่งการส่งออกอ้อยนั้นไม่ได้หมายถึงการส่งออกไปแบบสด ๆ เพียงอย่างเดียว แต่มีการนำไปแปรรูปเป็นน้ำตาลทรายเพื่อใช้ปรุงอาหาร รวมถึงมีการนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนต่าง ๆ (น้ำตาลทรายจะถูกส่งออกมากที่สุด) เมื่อเทียบกันในระดับโลกแล้ว ประเทศไทยมีการสร้างรายได้จากอ้อยมากเป็นอันดับ 2 รองเพียงแค่บราซิลประเทศเดียวเท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพืชเศรษฐกิจกลุ่มนี้ยังคงมีความสำคัญต่อการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและประเทศมากจริง ๆ ในอดีตการปลูกอ้อยมักกระจายตามแถบพื้นที่ราบลุ่มและทนแล้งในระดับหนึ่ง เช่น นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา กาญจนบุรี กำแพงเพชร แต่ทุกวันนี้มีเกษตรกรที่หันมาปลูกไร่อ้อยกันมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากได้ราคาดี ดูแลง่าย เก็บเกี่ยวรวดเร็ว ไม่ต้องรอนานเหมือนกับพืชหลาย ๆ ชนิดอีกด้วย

มันสำปะหลัง
พืชอีกชนิดที่ถูกยกให้เป็นผลิตภัณฑ์สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยมากในลำดับต้น ๆ ปกติแล้วมันสำปะหลังจะไม่ได้ถูกนำไปใช้ประกอบอาหารของคน แต่จะถูกนำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์เนื่องจากมีคุณค่าโภชนาการสูง อีกทั้งยังมีการนำไปแปรรูปเพิ่มเติมกลิ่นให้กับอาหารมีความน่าทานมากขึ้น_ ผลิตเป็นน้ำมันเอทานอลเพื่อใช้งานแทนที่พลังงานจากน้ำมันดิบ นั่นส่งผลให้พืชเศรษฐกิจตัวนี้มีความต้องการในตลาดโลกสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่ประเทศทางแถบยุโรปรวมถึงสหรัฐฯ เองต่างก็เป็นคู่ค้ารายสำคัญเกี่ยวกับการสร้างเม็ดเงินให้ประเทศอีกด้วย ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้พืชชนิดนี้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจมาจากพื้นที่อันมีแสนอุดมสมบูรณ์ในเมืองไทย จึงปลูกมันสำปะหลังได้ง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก ได้ผลผลิตดี เป็นไปตามความคาดหวังของเกษตรกร หากลองไปพื้นที่ตามต่างจังหวัดจะสังเกตว่ามีพืชชนิดนี้ปลูกอยู่เยอะมาก ๆ

ปาล์มน้ำมัน
การส่งออกของพืชชนิดนี้จะผ่านการแปรรูปให้กลายเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกเป็นอย่างดี ซึ่งทางภาครัฐเองให้ความสำคัญกับผลผลิตชนิดนี้พอสมควร เนื่องจากเมื่อเกษตรกรจำนวนมากเลือกปลูก พอผ่านการแปรรูปแล้วปรากฏว่าของล้นตลาดจนต้องเร่งระบายออกไม่ให้ราคาตกมากเกินไปนัก ซึ่งถ้ามองในมุมของเกษตรกร เมื่อเกิดความต้องการเยอะ ผลผลิตของพวกเขาก็ขายได้รวดเร็วมากขึ้น มีราคาดีกว่าการปล่อยเอาไว้ให้ราคาตก แม้ในบรรดาพืชเศรษฐกิจทั้งหมดที่กล่าวมานี้ปาล์มน้ำมันอาจไม่ใช่พืชที่สร้างรายได้จากจำนวนเงินมหาศาลมากนัก แต่ทั้งนี้ก็ยังถือว่าเป็นพืชที่คนไทยนิยมปลูก เพราะให้ผลผลิตดี ดูแลไม่ยาก ที่สำคัญยังสามารถนำเอาไว้ใช้ในประเทศได้อีกด้วย ยิ่งเมื่อรัฐมีนโยบายที่ใส่ใจมากขึ้นก็เท่ากับโอกาสสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

พืชเศรษฐกิจ มีกี่ประเภท
หลังจากการรู้จักกับบรรดาพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันของไทยกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาต่อกันที่พืชเศรษฐกิจ มีกี่ประเภทกันบ้าง โดยปกติจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของการปลูกหรือการเกิดขึ้น ดังนี้

พืชไร่
เป็นประเภทของพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญในลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย เพราะจากทั้ง 5 ชนิดที่กล่าวมาก่อนหน้าล้วนเป็นพืชไร่ทั้งสิ้น จุดเด่นของพืชเศรษฐกิจประเภทนี้คือ ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องมีขั้นตอนใด ๆ เพื่อป้องกันการเสียหายมากนัก ปลูกได้ดีในพื้นที่ลุ่มดอน มีน้ำเข้าถึงง่าย แต่อาจต้องใช้พื้นที่ในปริมาณมากเพื่อให้เกิดผลผลิตในแบบที่คาดหวังเอาไว้ ปกติแล้วมักปลูกแบบพืชฤดูกาลเดียว คือ ใช้พื้นที่เดียวแต่ปลูกพืชหลาย ๆ อย่างตามแต่ฤดูกาล เช่น ช่วงหน้าฝนทำนา หลังหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวก็จะเปลี่ยนเป็นไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง ไร่ถั่ว เป็นต้น ทั้งนี้หากแยกกลุ่มของพืชไร่ออกมาสามารถแบ่งย่อยได้คือ

กลุ่มธัญพืช เช่น ถั่วประเภทต่าง ๆ_ ข้าวโพด_ ข้าวโอ๊ต_ ข้าวสาลี
กลุ่มพืชน้ำมัน เช่น ปาล์มน้ำมัน_ อ้อย
กลุ่มพืชน้ำตาล เช่น อ้อย
กลุ่มพืชเส้นใย เช่น ฝ้าย_ ปอ_ ป่าน_ กล้วย_ มะพร้าว
กลุ่มพืชหัว เช่น มันสำปะหลัง_ มันแกว_ มันเทศ_ เผือก
กลุ่มพืชอาหารสัตว์ เช่น มันสำปะหลัง_ หญ้ากีนี
กลุ่มพืชออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เช่น ชา_ กาแฟ_ ยาสูบ
พืชสวน
เป็นประเภทของพืชเศรษฐกิจที่มีความหลากหลาย ไม่จำกัดพื้นที่ว่าจะมีขนาดเท่าไหร่ สามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ซึ่งแบ่งย่อยออกได้ดังนี้

กลุ่มพืชผัก มักใช้ในการประกอบอาหารจากส่วนต่าง ๆ ของผลผลิตไม่ว่าจะเป็นใบ_ ดอก_ ราก_ ต้น_ เมล็ด
กลุ่มพืชผล หรือ ผลไม้ ส่วนใหญ่จะใช้จากผลเป็นหลัก มักเป็นกลุ่มพืชที่มีอายุยืน ใช้เวลานาน หลายชนิดจึงมีราคาแพง
กลุ่มไม้ดอก ไม้ประดับ เป็นพืชเศรษฐกิจกลุ่มใหม่ที่กำลังมาแรงมาก นำไปใช้งานในด้านการประดับตกแต่งเป็นส่วนใหญ่
ไม้เศรษฐกิจในปัจจุบันกลุ่มนี้ถือว่าต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อไม่เกิดปัญหาเรื่องการบุกรุกป่า หรือการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งบรรดาไม้เศรษฐกิจที่ยังได้รับความนิยม เช่น ไม้ยางพารา_ ไม้เต็ง_ ไม้รัง_ ไม้มะฮอกกานี_ ไม้ไผ่_ ไม้ยูคาลิปตัส รวมถึงการถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
พืชเศรษฐกิจในอนาคต
แม้ว่าพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันที่กล่าวถึงไปจะยังคงเป็นหัวใจหลักในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่ก็มีพืชอีกหลายชนิดที่ถูกมองว่าจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต โดยขอยกตัวอย่างดังนี้

พริกชี้ฟ้า
ปลูกง่าย ให้ผลผลิตรวดเร็วทันใจ เพียงแค่ 2-3 เดือน ก็สามารถทำเงินได้ทันที นอกจากการขายหรือส่งออกแบบสด ๆ แล้ว ยังแปรรูปเป็นอย่างอื่นได้ เช่น ซอสพริก_ พริกแห้ง_ พริกป่น เป็นต้น

ไผ่กิมซุง
หรือไผ่ตงลืมแล้ง พืชเศรษฐกิจในอนาคตที่คาดว่ามีโอกาสนำมาทดแทนยางพารา เพราะสามารถทำประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น การเก็บหน่อขายสด แปรรูป_ การนำไปทำเป็นเชื้อเพลิง รวมถึงประโยชน์ในด้านประมง

แมคคาเดเมีย
กลายเป็นพืชที่ได้รับความนิยมสูงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ส่งผลให้มีเกษตรกรจำนวนมากหันมาปลูกมากขึ้น เพราะนอกจากส่งผลผลิตสด ๆ แล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นอย่างอื่นได้ เช่น น้ำมัน_ สบู่

โกโก้
พืชเศรษฐกิจที่ถูกมองว่าในอนาคตจะสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันผลผลิตที่ได้จำหน่ายในประเทศ 80% และส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน 20%

เรื่องราวเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้น่าจะช่วยเพิ่มแนวคิดหรือแนวทางดี ๆ ในการต่อยอดเพื่อสร้างโอกาสในการทำรายได้ให้กับตนเอง รวมถึงยังเป็นการสร้างเม็ดเงินให้เข้ามาภายในประเทศมากขึ้นอีกด้วย



ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ลิปสติก สารประกอบในลิปสติก อันตรายหรือไม่?
ลิปสติก สารประกอบในลิปสติก อันตรายหรือไม่?
ลิปสติก สารประกอบในลิปสติก อันตรายหรือไม่?
ลิปสติก เป็นเครื่องสำอางชนิดแรก ที่หลาย ๆ คนรู้จักเลยก็ว่าได้ เพราะสีสันเด่นสะดุดตา ทาปากแล้วช่วยให้ดูสวย เพิ่มความมั่นใจได้ในทันที แต่เคยรู้หรือไม่ ว่าเจ้าแท่งสีที่ไว้ทาปากทุกวันนี้ มีสารอะไรเป็นส่วนผสมบ้าง ทาบ่อย ๆ แล้ว ในระยะยาว จะส่งผลอันตรายต่อร่างกายบ้างหรือไม่

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบใช้ลิปสติก แล้วอยากรู้ว่า เครื่องสำอางชนิดนี้มีส่วนผสมอะไรบ้าง และมีสารอะไรในลิปสติกที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย

ลิปสติก ไม่ได้ผสมด้วยสีที่ทาแล้วช่วยให้ปากดูเด่น สะดุดตา ช่วยให้ริมฝีปากของสาว ๆ ดูอวบอิ่มเพียงอย่างเดียว หากแต่ประกอบด้วยสารอื่น ๆ ที่ช่วยให้ปากนุ่ม ชุ่มชื้นและคงตัวอยู่ได้นาน โดยมีสารประกอบหลักอยู่ 3 องค์ประกอบด้วยกันคือ

1. น้ำมัน (oil)

น้ำมันถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในลิปสติก เพราะมีคุณสมบัติช่วยผสานส่วนผสมอื่น ๆ ให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน และเพิ่มสัมผัสนุ่มลื่น ทำให้เวลาทาปาก สามารถทาติดริมฝีปากได้ง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยให้ริมฝีปากนุ่ม ชุ่มชื้น แก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตกเป็นขุยได้อีกด้วย

โดยชนิดของน้ำมันที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในลิปสติก มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น น้ำมันลาโนลิน น้ำมันแคสเตอร์ (น้ำมันละหุ่ง) น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันมะกอก ทั้งนี้ บางผลิตภัณฑ์ยังมีการนำเอาเนย ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นไขมัน มาใช้ทดแทนน้ำมันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เชียร์ บัตเตอร์ (Shea Butter) เนยโกโก้ (Cocoa Butter) เพราะสามารถให้ความชุ่มชื้นได้เหมือนกัน และยังมีกลิ่นหอมมากกว่า

สำหรับสัดส่วนของน้ำมันในลิปสติกนั้น จะมีความมากน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสูตรของแบรนด์เครื่องสำอางนั้น ๆ ว่าต้องการให้ลิปสติกมีความเข้มข้นของสัมผัสเวลาทาหรือความชัดเจนของเม็ดสี มีมากน้อยขนาดไหน เพราะน้ำมันที่มากขึ้น หมายถึง สามารถทาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนถ้าน้ำมันน้อยลง จะเพิ่มสัดส่นในเรื่องของเม็ดสี ส่งผลให้เม็ดสีมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

2. แวกซ์ (wax)

องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ส่วนผสมลิปสติกทั้งหมด ขึ้นรูปเป็นแท่งและคงตัวอยู่ได้นาน เพราะมีจุดเดือดสูงกว่าส่วนผสมอื่น ๆ ทั่วไป โดยในลิปสติก 1 แท่งนั้น อาจประกอบด้วยแวกซ์มากกว่า 1 ชนิดเช่น ขี้ผึ้ง_ แคนเดลลิลา แวกซ์_ คาร์นูบา แวกซ์ ซึ่งด้วยแวกซ์แต่ละชนิดก็มีลักษณะเฉพาะตัว นั่นจึงทำให้ลิปสติกแต่ละชนิดก็อาจมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น ลิปสติกที่มีส่วนผสมของแคนเดลลิลา แวกซ์ จะมีเนื้อเงางาม ดึงดูดสายตา น่าใช้สอยกว่าลิปสติกอื่น ๆ เพราะแวกซ์ชนิดนี้มีคุณสมบัติโปร่งแสง ส่วนลิปสติกที่มีส่วนผสมของคาร์นูบา แวกซ์ จะมีเนื้อที่แน่น แข็ง ทนความร้อนได้ดีกว่าลิปสติกแบบอื่น ๆ เพราะคาร์นูบา แวกซ์ มีจุดเดือดสูงมากกว่า 87 องศาเซลเซียส เป็นต้น

3. เม็ดสี (pigment)

เม็ดสี ก็คือสิ่งที่กำหนดเฉดสีของลิปสติก ทำให้เวลาทาแล้ว จะเห็นออกมาเป็นสีสันต่าง ๆ โดยมีทั้งแบบที่ใช้สีจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ตัวอย่างเช่น สีเหลืองจากขมิ้น สีแดงจากบีทรูทหรือทับทิม สีน้ำเงินจากดอกอัญชันหรือดอกอัลคาเนต (Alkanet) และสีเหลืองจากดอกดาวเรืองฝรั่ง (Calendula) กับอีกแบบหนึ่งก็คือ สังเคราะห์ขึ้นมาด้วยกระบวนการทางเคมี โดยประเภทหลังนี้ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ โดยไม่เกิดอันตราย เพราะเป็นสีประเภทเดียวกันกับที่ใช้ทำสีผสมอาหาร เมื่อใช้งานในระยะยาว จึงไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย ยกเว้นสารให้สีที่กลั่นจากปิโตรเลียม เช่น D&C RED 17_ D&C RED 31 จะส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นทำให้ปากคล้ำ หรือ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิด

สารในลิปสติกอะไรบ้าง ที่ก่อให้เกิดอันตราย

ด้วยความที่ผู้หญิง ใคร ๆ ก็ใช้ลิปสติก และเป็นเครื่องสำอางที่มีความต้องการสูงมาก เพราะใช้แล้วก็หมดไป ต้องซื้อใหม่อยู่ตลอด จึงทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยคิดทำลิปสติกขึ้นมาเอง เพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งก็อาจมีผู้ที่ไม่หวังดี มุ่งแสวงหากำไร โดยการผลิตลิปสติกที่ไม่ได้รับมาตรฐานออกมาจำหน่าย ที่อาจมีการใส่สารละลายหรือสารเคมี มาทดแทนสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้หากใช้แล้ว อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ตลอดจนได้รับผลข้างเคียงอื่น ๆ ดังนั้น หากคุณเป็นผู้บริโภคคนหนึ่งที่ซื้อลิปสติกเป็นประจำ แล้วต้องการหลีกเลี่ยงลิปสติกที่ไม่ดีแล้วละก็ นี่คือส่วนผสมที่คุณควรรู้จัก และหลีกเลี่ยงเวลาซื้อลิปสติก

1. สารกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids)

เป็นสารสังเคราะห์วิตามินเอเข้มข้น ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในยาเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าจะถูกเคลมว่า มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวพรรณ และทำให้ปากเนียนสวย แต่หากใส่ในปริมาณมากอาจเป็นตัวเร่งให้ปากเกิดปฏิกิริยาต่อแสงแดด ทำให้ปากคล้ำ ส่งผลร้ายต่อ DNA ในร่างกาย ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ โดยสารกลุ่มเรตินอยด์ อาทิ กรดวิตามินเอ (Retinoic acid)_ เรตินัลดีไฮด์ (Retinaldehyde) และเรตินิล พัลมิเทต (Retinyl Palmitate)

2. สารสังเคราะห์วิตามินอี (Tocopheryl Acetate)

ใช้เพื่อเพิ่มความคงตัวให้กับผลิตภัณฑ์คล้ายกับสารกลุ่มเรตินอยด์ส์ อาจไม่มีผลกระทบมากต่อสุขภาพร่างกาย แต่หากเราใช้ทาบ่อย ๆ เป็นประจำโดยไม่ทำความสะอาดให้ดี สารตัวนี้จะสะสมและทำให้ริมฝีปากระคายเคือง แห้งแตก รวมถึงเป็นขุยเอาได้

3. สารสกัดจากน้ำมันในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม

เช่น มิเนรัล ออยล์ (Mineral Oil) หรืออีกชื่อคือ พาราฟินเหลว (Liquid paraffin)_ ปิโตรเลียม เจลลี่ (Petrolatum)_ ไซลีน (Xylene)_ โทลูอีน (Toluene) ที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น ดูดซับส่วนผสมของลิปสติกในเข้าได้ดี แต่มีสารเสี่ยงอันตรายอย่าง PAHs ที่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน ผิวหน้าระคายเคืองอยู่ในตัว

4. สารในกลุ่มโลหะหนัก

สารในกลุ่มโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว (Lead) ปรอท (Mercury) อะลูมินัม (Aluminum) โครเมียม (Chromium) แคดเมียม (Cadmium) แมงกานีส (Manganese) มักมีการเติมลงไป เพื่อเพิ่มความเงาแวววาวให้กับลิปสติก แต่จริง ๆ แล้วเป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตรายมาก ๆ โดยเฉพาะต่อผู้หญิงตั้งครรภ์ เพราะหากเผลอกินลิปสติกเข้าไป อาจกระทบต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยได้ ทำให้เสี่ยงเกิดมะเร็ง ทำลายระบบประสาท ลดการทำงานของไต บางรายอาจมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย

5. สารกันเสีย

ได้แก่ สารเคมีกลุ่มพาราเบน เช่น เมทิลพาราเบน (Methylparaben) หรือ โพรพิลพาราเบน (Propylparaben) รวมถึงสารกันหืน BHT (Butylated Hydroxytoluene) และ BHA (Butylated Hydroxyanisole) ที่อาจส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายเสี่ยงเป็นพิษเรื้อรัง ตามมาด้วยอาการปวดหัว อาเจียน และหายใจไม่ออก

เคล็ดลับการเลือกซื้อ ลิปสติก ให้ปลอดภัย

1. เลือกซื้อลิปสติกที่มีมาตรฐานการผลิต

ด้วยปัจจุบัน มีผู้ผลิต ลิปสติก ออกมาจัดจำหน่ายจำนวนมาก การแยกแยะเบื้องต้นว่าเป็นของดีหรือไม่ดี สามารถดูได้จากการพิจารณาว่า ลิปสติกแบรนด์นั้น ๆ มีเครื่องหมายที่รองรับมาตรฐานการผลิตหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น อย. GMP HACCP เนื่องจากล้วนเป็นหน่วยงานหรือองค์กร ที่คอยควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ ผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอางที่มีมาตรฐานและคุณภาพออกมาจำหน่ายเท่านั้น ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อ จึงควรหาเครื่องหมายมาตรฐานการผลิตเหล่านี้ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะดูองค์ประกอบอื่น ๆ ในลำดับถัดไป

2. ส่วนผสม

เมื่อดูว่ามีเครื่องหมายมาตรฐานการผลิตหรือไม่แล้ว ก็มาต่อกันที่ส่วนผสม ซึ่งดังที่กล่าวไปแล้วว่า ลิปสติกนั้น มีสารประกอบที่อาจก่อให้เกิดอันตรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารในกลุ่มเรตินอยด์ สารสังเคราะห์วิตามิน E สารที่กลั่นจากปิโตรเลียม สารในกลุ่มโลหะหนัก หรือ สารกันเสีย ซึ่งถ้าหากต้องการลดผลข้างเคียงหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย จากการใช้ลิปสติกในระยะยาวแล้วละก็ แนะนำให้เลือกซื้อลิปสติกที่ปราศจากสารเหล่านี้ หรือหันไปใช้ลิปสติกที่มีการผลิตแบบ Organic แทนเลย จะเป็นการดีที่สุด หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ให้เลือกซื้อแบรนด์ลิปสติก ที่มีสัดส่วนของสารเหล่านี้ในปริมาณน้อยที่สุด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับผลกระทบทางสุขภาพได้

3. ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์

ปัจจุบัน หลากหลายแบรนด์ ทำการตลาดขายลิปสติก ผ่านออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถืออย่างดุเดือด ยิ่งมีการอ้างอิงจากการรีวิวของดารา นักร้อง และอินฟลูเอนเซอร์ ก็ทำให้การสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลิปสติก เป็นเรื่องง่ายมาก ๆ จนอาจทำให้หลายคนหลงเชื่อได้ง่าย ดังนั้น การเลือกซื้อลิปสติก จึงไม่ควรดูแต่รีวิวจากบุคคลที่มีชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่ควรดูคอมเม้นต์ รีวิวการใช้งานจากบุคคลทั่วไปร่วมด้วย เพราะถ้าของดีมีคุณภาพจริง ก็จะมีคนเข้ามารีวิวเรื่อย ๆ ในขณะที่ก็ห้ามลืมองค์ประกอบข้างต้น คือ มาตรฐานการผลิตและส่วนผสม เพราะแม้การตลาดจะหลอกเราได้ แต่เรื่องของมาตรฐานการผลิตและส่วนผสม ก็จะช่วยคัดกรองให้เราลดโอกาสเสี่ยงที่จะเจอของคุณภาพแย่ได้ ซึ่งถ้าใครไม่อยากเสี่ยงเลย จะเลือกซื้อแต่ลิปสติกจากแบรนด์เครื่องสำอางที่มีความน่าเชื่อถือ ขายมาหลายสิบปีแล้วไปเลยก็ได้ ไม่ว่ากัน

อยากมีริมฝีปากอวบอิ่ม ดูนุ่ม ชุ่มชื้น อย่าลืมเลือกซื้อลิปสติกที่มีส่วนผสมที่ดี ไม่เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดผลข้างเคียง และมีมาตรฐานการผลิต รวมถึงความน่าเชื่อถือ มาใช้งาน เพียงเท่านี้ คุณก็จะแต่งหน้าสวยได้ทุกวัน พร้อมกับมีริมฝีปากที่ดูสวย โดดเด่น ช่วยให้มั่นใจได้ตลอดทั้งวันแล้ว


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
โกโก้ ใบไหม้ ใบแห้ง ผลเน่า กำจัดโรคโกโก้ จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
โกโก้ ใบไหม้ ใบแห้ง ผลเน่า กำจัดโรคโกโก้ จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

โรคผลเน่าดำ
เป็นโรคที่เกิดกับโกโก้ทุกพื้นที่ มีสาเหตุมาจากเชื้อรา เริ่มอาการจากจุดฉ่ำน้ำที่ผิวเปลือกผล ซึ่งจะเกิดขึ้นภายใน 2 วัน หลังเชื้อเข้ามาเกาะ ต่อมาจุดฉ่ำน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีดำ พร้อมกับขยายไปทั่วผล

โรคกิ่งแห้งของโกโก้
เกิดจากเชื้อรา มักเกิดกับกิ่งแก่หรือต้นกล้า เริ่มต้นอาการด้วยใบเหลืองซีด และมีจุดเขียวกระจายทั่วไป และแห้งเป็นสีน้ำตาลในเวลาต่อมา บริเวณรอบ ๆ แผลสีน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและใบร่วงหล่นในที่สุด กิ่งที่เป็นโรคจะบวมขึ้น มีรอยปูดเล็ก ๆ เกิดตามเปลือก บริเวณที่ใบหลุดไป ใบที่แตกออกมาใหม่จะเป็นกระจุก และแผ่นใบไม่แข็งเหมือนปกติ ใบส่วนยอดที่เหลืออยู่ขอบใบจะแห้ง

โรคแอนแทรคโนส
เกิดจากเชื้อรา เกิดอาการในใบอ่อน ขอบและปลายใบไหม้ ลุกลามไปถึงโคนใบทำให้ใบโค้งงอ ใบที่แก่จะปรากฎเป็นจุดสีน้ำตาลบนแผ่นใบและตามขอบใบ ซึ่งก็จะเกิดอาการไหม้และใบโค้งงอ ผลอ่อนเน่าดำ จนผลแห้ง หากมีความชื้นเพิ่มขึ้นมา จะมีสปอร์ของเชื้อราสีชมพูเกิดขึ้น

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย การควบคุมประจุไฟฟ้า สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ยสำหรับโกโก้ ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตโกโก้ ยารักษาโรครา แก้โกโก้ใบไหม้ ปุ๋ยและยาฯ สำหรับ โกโก้



ประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุเสริม ยารักษาโรคใบไหม้ โรคราต่างๆ ยากำจัดเพลี้ย ยากำจัดหนอน

http://www.farmkaset..link..

FK-1 : ปุ๋ยสำหรับ พืชไร่ พืชสวน ไม้ยืนต้น ไม้ผล หรือ ทำแปลงเพาะชำ หรือขายพันธุ์ไม้
อัตราผสม แกะกล่องมามีสองถุง ต้องใช้พร้อมกัน ถุงละ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 890 บาท บรรจุ 2 กิโลกรัม

FK-3 : ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตพืช ผลดก ผลโต น้ำหนักดี คุณภาพดี ผลผลิตดี
อัตราผสม แกะกล่องมามีสองถุง ต้องใช้พร้อมกัน ถุงละ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 950 บาท บรรจุ 2 กิโลกรัม

ไอเอส : ยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ เช่น โรคใบไหม้ ราสนิม ราน้ำค้าง ใบจุดสีน้ำตาล ราดำ ราเขม่าผง
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 450 บาท บรรจุ 1 ลิตร

มาคา : ป้องกัน กำจัด เพลี้ยต่างๆ เช่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดด แมลงหวีขาว
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 470 บาท บรรจุ 1 ลิตร

ไอกี้-บีที : ป้องกันกำจัดหนอนต่างๆ เช่น หนอนชอนใบ หนอนเจาะผล หนอนคืบ หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนแมลงวัน
อัตราผสม 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคา 490 บาท บรรจุ 500 กรัม


สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
26 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 2 หน้า, หน้าที่ 3 มี 6 รายการ
|-Page 2 of 3-|
1 | 2 | 3 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
คาดการณ์ ราคา และ ปริมาณการส่งออก ยางพารา ปี 2568
Update: 2567/11/23 08:26:02 - Views: 30
ราสนิมขาวผักบุ้ง โรคผักบุ้งใบไหม้ และโรคราต่างๆ สร้างความเสียหายต่อผลผลิต ควบคุม ป้องกันกำจัดก่อนเกิดความเสียหาย
Update: 2566/11/04 09:56:30 - Views: 9924
การจัดการและป้องกันหนอนศัตรูพืชในต้นกาแฟ: วิธีการต่าง ๆ เพื่อรักษาและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช
Update: 2566/11/15 14:03:51 - Views: 3467
การควบคุมวัชพืชในสวนกล้วย การใช้คาร์รอน (Diuron 80% WG)
Update: 2567/02/13 09:23:20 - Views: 3622
การป้องกัน กำจัดเพลี้ย กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วย ชีวภัณฑ์ บิวเวอเรีย และ เมธาไรเซียม ได้ผลดี และปลอดภัย
Update: 2566/11/10 06:26:57 - Views: 9864
ลิ้นจี่ใบไหม้ โรคใบจุดสนิม โรคราลิ้นจี่ กำจัดโรคลิ้นจี่ จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/22 09:43:05 - Views: 3418
มะกรูด ใบเหลือง ใบหงิก ใบไหม้ ราดำ กำจัดโรค เชื้อราต่างๆในมะกรูด ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวน ปุ๋ย
Update: 2565/11/04 11:34:52 - Views: 3485
คู่มือป้องกันกำจัดโรคราต่างๆในแมคคาเดเมีย แมคคาเดเมียใบไหม้ ใบจุด ราสนิม ราต่างๆ
Update: 2566/05/01 15:18:59 - Views: 10604
โรคใบไหม้ทุเรียน ทุเรียนใบไหม้ [ ไอเอส และ FK-1 ]
Update: 2564/08/09 10:25:35 - Views: 3765
โรคพืช
Update: 2564/08/12 22:09:57 - Views: 3607
การใช้สารอินทรีย์และปุ๋ย เพื่อควบคุมเพลี้ยอ่อน และเร่งการเจริญเติบโตของ ต้นมะนาว
Update: 2565/12/22 08:37:59 - Views: 3417
การป้องกันกำจัด เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยต้นทุเรียน
Update: 2566/05/06 08:15:02 - Views: 7825
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคใบไหม้ ในกล้วย ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
Update: 2565/12/20 12:01:18 - Views: 3567
ปุ๋ยมังคุด FK-1 และ FK-3 เร่งการเจริญเติบโต เร่งผลผลิตมังคุด ด้วยธาตุอาหารที่ครบถ้วน
Update: 2565/12/13 13:51:07 - Views: 3420
ปุ๋ยสำหรับอ้อย เพื่อบำรุงผลผลิต การแก้โรคอ้อย ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ป้องกันกำจัดเพลี้ย ในไร่อ้อย
Update: 2563/06/18 17:25:32 - Views: 4225
โรคทุเรียนผลเน่า กำจัดโรค ในทุเรียน โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ
Update: 2566/05/22 12:05:12 - Views: 3414
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์: เพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของต้นละมุด
Update: 2567/02/12 14:54:56 - Views: 3433
โรคใบติดทุเรียน โรคราสีชมพูในทุเรียน โรคทุเรียนกิ่งแห้ง ต้องหมั่นสังเกตุตรวจดูแลสวน หากพบ ให้เร่งป้องกันกำจัด
Update: 2566/11/04 14:14:10 - Views: 10534
กำจัดเพลี้ย ใน ถั่วฝักยาว เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/05/06 14:15:21 - Views: 3504
การทำไร่อ้อย ใน 4 ขั้นตอนหลักๆ
Update: 2563/09/27 20:19:32 - Views: 3824
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022