[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - ปุ๋ย
2168 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 216 หน้า, หน้าที่ 217 มี 8 รายการ

แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
แนวโน้มการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก เนื่องจากผู้บริโภคและนโยบายการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปกป้องสิ่งแวดล้อม การผลิตข้าวแบบดั้งเดิมที่มีน้ำขังในนาข้าวมักปล่อยก๊าซมีเทนในปริมาณสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ประเทศไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ได้เริ่มส่งเสริมการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการไทยไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) โครงการนี้มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนาโดยการส่งเสริมเทคโนโลยีและวิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเวียดนาม พบว่าเวียดนามมีการส่งเสริมการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำอย่างจริงจังและมีเป้าหมายชัดเจน โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ เวียดนามมีเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวคาร์บอนต่ำให้ได้ 6.25 ล้านไร่ภายในปี 2030 ซึ่งคาดว่าจะผลิตข้าวคาร์บอนต่ำได้ประมาณ 6.3 ล้านตัน ขณะที่ไทยมีศักยภาพการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านตัน

นอกจากนี้ สหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของข้าวไทย มีแนวโน้มที่จะบังคับใช้เกณฑ์การค้าข้าวคาร์บอนต่ำในอนาคต หากไทยไม่ปรับตัว อาจต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก

ดังนั้น การเร่งพัฒนาการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำและการปรับปรุงเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลกและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

**ฮิวมิค FK กับการเพิ่มผลผลิตข้าวคาร์บอนต่ำ**

การใช้ **ฮิวมิค FK** สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวคาร์บอนต่ำได้โดยการปรับปรุงคุณภาพของดินและลดการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเกษตร โดยมีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้

---

### **1. เพิ่มอินทรียวัตถุและความอุดมสมบูรณ์ของดิน**
- **ฮิวมิค FK** อุดมไปด้วย **ฮิวมิกแอซิด (Humic Acid) และฟุลวิกแอซิด (Fulvic Acid)** ซึ่งช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินสามารถกักเก็บน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น
- ลดความเป็นกรดในดินและช่วยให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินเจริญเติบโตดีขึ้น

---

### **2. ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุน และลดก๊าซเรือนกระจก**
- การใช้ฮิวมิค FK ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์สามารถช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N₂O)
- ดินที่มีฮิวมิคสูงสามารถดูดซับธาตุอาหารจากปุ๋ยได้ดีขึ้น ทำให้พืชนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียธาตุอาหารในดิน

---

### **3. เพิ่มการดูดซับคาร์บอนในดิน (Carbon Sequestration)**
- ดินที่มีปริมาณอินทรียวัตถุสูงสามารถกักเก็บคาร์บอนในรูปของฮิวเมต (Humate) ทำให้การปลูกข้าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
- ลดการปล่อยก๊าซมีเทน (CH₄) จากดินเปียกที่เกิดจากการทำนาแบบดั้งเดิม

---

### **4. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของข้าว เพิ่มผลผลิต**
- ฮิวมิค FK ช่วยกระตุ้นการแตกกอของข้าว ทำให้ได้รวงข้าวมากขึ้น
- ช่วยให้ระบบรากพืชแข็งแรง ข้าวดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ทำให้เมล็ดข้าวเต็ม น้ำหนักดี
- เพิ่มความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ลดการใช้สารเคมี

---

### **5. ลดการใช้น้ำและส่งเสริมระบบการปลูกข้าวแบบยั่งยืน**
- ดินที่ได้รับฮิวมิค FK สามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ลดการใช้น้ำในการปลูกข้าว
- ส่งเสริมการทำนาแบบ **"เปียกสลับแห้ง" (Alternate Wetting and Drying: AWD)** ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าว

---

### **สรุป**
การใช้ **ฮิวมิค FK** ในการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำมีประโยชน์ทั้งในด้าน **การเพิ่มผลผลิต** และ **ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม** โดยช่วยปรับปรุงดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความยั่งยืนของการผลิตข้าวในระยะยาว

อ่าน:239
ทุเรียนคาร์บอนต่ำ อนาคตทุเรียนไทย
ทุเรียนคาร์บอนต่ำ อนาคตทุเรียนไทย
ทุเรียนคาร์บอนต่ำ อนาคตทุเรียนไทย
ทุเรียนคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ประเทศไทยได้เล็งเห็นโอกาสนี้และกำลังผลักดันทุเรียนคาร์บอนต่ำเป็น Soft Power ใหม่ของประเทศ

**ความสำคัญของทุเรียนคาร์บอนต่ำในตลาดโลก:**

- **แนวโน้มผู้บริโภค:** ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีโอกาสเติบโตในตลาดสากล

- **มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม:** หลายประเทศกำหนดมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำจึงสอดคล้องกับมาตรการเหล่านี้

**การดำเนินการของประเทศไทย:**

- **การจัดทำคู่มือ:** กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำคู่มือการผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำ เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตทุเรียน

- **ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน:** มีการเตรียมทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อพัฒนาการผลิตพืชที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก citeturn0search5

**แนวโน้มในอนาคต:**

ด้วยความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีศักยภาพในการขยายตลาดโลก การปรับตัวของเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในการผลิตทุเรียนที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดสากล

### **บทบาทของฮิวมิค FK ในการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ**

**1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี**
ฮิวมิค FK เป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน **เพิ่มการดูดซับธาตุอาหาร** และ **ลดการชะล้างธาตุอาหาร** ทำให้ **ต้นทุเรียนสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น** ซึ่งส่งผลให้เกษตรกร **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี** ลงได้โดยไม่กระทบต่อผลผลิต

- **ผลลัพธ์:** ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตและการใช้ปุ๋ยเคมี
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ปุ๋ยเคมีเป็นแหล่งปล่อย **ไนตรัสออกไซด์ (N₂O)** ซึ่งมีค่าศักยภาพเรือนกระจกสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 300 เท่า

---

**2. เพิ่มความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนในดิน**
ฮิวมิค FK มีคุณสมบัติช่วยให้ดินมี **สารอินทรีย์มากขึ้น** ซึ่งช่วย **กักเก็บคาร์บอนในดิน** และ **ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สู่บรรยากาศ**

- **ผลลัพธ์:** เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ทำให้สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ดีขึ้น
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ดินที่มีฮิวมิกสูงสามารถช่วยกักเก็บ **คาร์บอนอินทรีย์ในดิน (Soil Organic Carbon_ SOC)** ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อน

---

**3. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากและระบบนิเวศดิน**
ฮิวมิค FK **ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากทุเรียน** ทำให้ต้นแข็งแรงและสามารถดูดซึมสารอาหารจากดินได้ดีขึ้น ส่งผลให้
✅ ต้นทุเรียนมี **ภูมิต้านทานที่ดีขึ้น**
✅ ระบบรากช่วย **รักษาความชื้นและลดการพังทลายของดิน**

- **ผลลัพธ์:** ลดการใช้น้ำและสารเคมีปรับปรุงดิน
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดการใช้น้ำและพลังงานในกระบวนการผลิต

---

**4. ลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในฟาร์ม**
การใช้ฮิวมิค FK **ช่วยลดปริมาณปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดิน** ลดความเสี่ยงของ **สารเคมีตกค้างในสิ่งแวดล้อม** และลดของเสียจากฟาร์มทุเรียน

- **ผลลัพธ์:** ส่งเสริมระบบการเกษตรยั่งยืน (Sustainable Agriculture)
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดของเสียจากการเกษตร ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

---

### **สรุป: ฮิวมิค FK กับการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ**
✅ **ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี** → ลดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์
✅ **ช่วยกักเก็บคาร์บอนในดิน** → ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ
✅ **ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารของต้นทุเรียน** → ลดการใช้ทรัพยากร
✅ **ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน** → ส่งเสริมการเกษตรยั่งยืน

🌱 **ฮิวมิค FK จึงมีบทบาทสำคัญต่อแนวคิด "ทุเรียนคาร์บอนต่ำ"** และเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถพัฒนาทุเรียนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 🌏💚
อ่าน:231
ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค คืออะไร ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชอย่างไร ทำไมเกษตรกรหันมาใช้กันเยอะจัง?
ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค คืออะไร ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชอย่างไร ทำไมเกษตรกรหันมาใช้กันเยอะจัง?
การเกษตรในปัจจุบันได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้อย่างยั่งยืน และการใช้ **ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค** เป็นหนึ่งในวิธีการที่เกษตรกรเริ่มนำมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพดินและช่วยให้พืชเติบโตได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยเคมีที่อาจมีผลเสียต่อดินในระยะยาว

### ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค คืออะไร?

**ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค** เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานฮิวมิคแอซิด (Humic Acid) และฟลูวิคแอซิด (Fulvic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย สามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้น และช่วยให้รากพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น ส่งผลให้พืชเติบโตแข็งแรงและมีผลผลิตสูง

### ประโยชน์ของฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค

1. **ปรับปรุงคุณภาพดิน**: ช่วยให้ดินมีโครงสร้างที่ดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ และลดการกัดกร่อนของดิน
2. **เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร**: ฟลูวิคแอซิดช่วยให้ธาตุอาหารในดินสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะธาตุอาหารที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่
3. **เสริมสร้างรากพืช**: ช่วยให้รากพืชแข็งแรงขึ้นและเพิ่มพื้นที่การดูดซึมสารอาหารจากดิน
4. **ช่วยเพิ่มผลผลิต**: พืชที่ได้รับสารฮิวมิคFK เสริมฟลูวิคจะเติบโตได้ดี มีผลผลิตสูง และสามารถต้านทานโรคและแมลงได้ดีขึ้น
5. **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี**: เมื่อดินได้รับการปรับปรุงคุณภาพแล้ว การใช้ปุ๋ยเคมีจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้

### ทำไมเกษตรกรถึงเริ่มใช้ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค?

1. **การเพิ่มผลผลิต**: ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิคช่วยให้พืชมีการเจริญเติบโตที่ดีและสามารถเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. **ความยั่งยืนในระยะยาว**: การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยลดปัญหาดินเสื่อมสภาพ และยังช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ยาวนานขึ้น
3. **ลดต้นทุนการเกษตร**: ด้วยการใช้ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค เกษตรกรสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมี และเพิ่มผลผลิตได้ในระยะยาว ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง

### สรุป

**ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค** เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพดิน และเพิ่มผลผลิตพืชอย่างยั่งยืน ไม่เพียงแต่ช่วยให้พืชเติบโตแข็งแรง แต่ยังช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและรักษาสภาพดินให้ดีขึ้นในระยะยาว

### Hashtags
#ฮิวมิคFK #เสริมฟลูวิค #เกษตรยั่งยืน #เพิ่มผลผลิต #คุณภาพดิน #ฟลูวิคแอซิด #ฮิวมิคแอซิด #เกษตรกร #ปุ๋ยธรรมชาติ #การเกษตร #พืชผลดี #ลดต้นทุน #ดินร่วนซุย
อ่าน:306
กลไกการทำงานของฮิวมิค FK ในการเพิ่มผลผลิตข้าว
กลไกการทำงานของฮิวมิค FK ในการเพิ่มผลผลิตข้าว
### กลไกการทำงานของฮิวมิค FK ในการเพิ่มผลผลิตข้าว

**ฮิวมิค FK** เป็นสารอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบหลักจากกรดฮิวมิก (Humic Acid) และกรดฟุลวิก (Fulvic Acid) ซึ่งสกัดมาจากแหล่งอินทรีย์ธรรมชาติ เช่น ลีโอนาร์ไดต์ (Leonardite) โดยมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและปรับปรุงคุณภาพของดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะใน **การทำนาข้าว** ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มผลผลิตได้จากกลไกดังนี้:

---

### **1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน**
ฮิวมิค FK มีความสามารถในการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินโดย:
- เพิ่มการจับตัวของเม็ดดิน ทำให้ดินโปร่ง ระบายอากาศได้ดี
- เพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำและธาตุอาหารในดิน ทำให้ต้นข้าวสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างต่อเนื่อง
- ลดความเป็นกรด-ด่างของดิน ทำให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของข้าว

---

### **2. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร**
- กรดฮิวมิกช่วยกระตุ้นรากข้าวให้แข็งแรงและขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ดูดซึมธาตุอาหารในดินได้มากขึ้น
- ช่วยจับธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่เพียงพอสำหรับการสร้างผลผลิต

---

### **3. กระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นข้าว**
- กระตุ้นการแบ่งเซลล์และขยายขนาดเซลล์ ทำให้ต้นข้าวโตเร็ว แข็งแรง และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคลอโรฟิลล์ในใบ ส่งผลให้ข้าวสังเคราะห์แสงได้ดี และสร้างพลังงานเพียงพอสำหรับการสร้างเมล็ด

---

### **4. เพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง**
- ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของต้นข้าว ลดความเสี่ยงจากโรคและแมลงศัตรูพืช
- ทำให้ต้นข้าวสามารถเติบโตในสภาวะที่มีความเครียด เช่น ภัยแล้งหรือสภาพดินที่มีความเค็มสูง

---

### **5. เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดข้าว**
- ช่วยเพิ่มจำนวนรวงข้าวและน้ำหนักเมล็ด ทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น
- เพิ่มความสมบูรณ์ของเมล็ด ลดอัตราเมล็ดลีบ
- ช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดี เหมาะสำหรับการบริโภคและการแปรรูป

---

### วิธีการใช้ฮิวมิค FK ในการทำนาข้าว
1. **ช่วงเตรียมดิน**: ผสมฮิวมิค FK กับน้ำแล้วฉีดพ่นลงบนพื้นที่นา เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน
2. **ช่วงปลูกข้าว**: ฉีดพ่นฮิวมิค FK ในอัตราส่วนที่เหมาะสมในช่วงที่ต้นข้าวเริ่มแตกกอ
3. **ช่วงข้าวตั้งท้อง**: ใช้ฮิวมิค FK เพื่อเพิ่มธาตุอาหารและกระตุ้นการสร้างเมล็ด

---

### สรุป
**ฮิวมิค FK** ช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวด้วยการปรับปรุงคุณภาพดิน เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร และกระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นข้าว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ส่งผลให้ข้าวมีผลผลิตสูงขึ้น คุณภาพดีขึ้น และเกษตรกรสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีได้ในระยะยาว

---

#### คำแนะนำการใช้งาน:
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือศึกษาวิธีใช้งานจากฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการทำนาข้าวของคุณ

#ฮิวมิคFK #ทำนาข้าว #เพิ่มผลผลิตข้าว #เกษตรอินทรีย์ #ปรับปรุงดิน #ข้าวไทยคุณภาพ #ปุ๋ยฮิวมิค
อ่าน:142
ฮิวมิค FK มีประสิทธิภาพในการ เพิ่มผลผลิตมะเขือเทศได้อย่างไร?
ฮิวมิค FK มีประสิทธิภาพในการ เพิ่มผลผลิตมะเขือเทศได้อย่างไร?
ฮิวมิค FK มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศได้ดีเนื่องจากคุณสมบัติสำคัญดังนี้:
1. **กระตุ้นการพัฒนาของระบบราก**
ฮิวมิค FK ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินให้เหมาะสม ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากมะเขือเทศ ทำให้รากสามารถดูดซึมธาตุอาหารและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. **ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน**
ฮิวมิค FK มีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ซึ่งช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และความสามารถของดินในการเก็บรักษาน้ำและธาตุอาหาร
3. **เพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร**
ฮิวมิค FK มีคุณสมบัติช่วยจับธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ให้อยู่ในรูปที่พืชดูดซึมได้ง่าย ส่งผลให้มะเขือเทศเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์
4. **ช่วยลดความเครียดของพืช**
ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาวะแห้งแล้งหรือความชื้นในดินต่ำ ทำให้มะเขือเทศสามารถเติบโตได้ดีแม้ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
5. **ส่งเสริมการออกดอกและการติดผล**
การได้รับธาตุอาหารอย่างเพียงพอจากการใช้ฮิวมิค FK ทำให้มะเขือเทศมีการพัฒนาดอกและผลที่สมบูรณ์ เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต
หากใช้ควบคู่กับการจัดการปุ๋ยและน้ำอย่างเหมาะสม ฮิวมิค FK จะช่วยเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
อ่าน:254
ดูแลพริกไทย ให้ธาตุอาหารถูกช่วงการเจริญเติบโต ส่งเสริมผลผลิตให้ดีขึ้น
ดูแลพริกไทย ให้ธาตุอาหารถูกช่วงการเจริญเติบโต ส่งเสริมผลผลิตให้ดีขึ้น
### การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn) ในการดูแลพริกไทยเพื่อให้เจริญเติบโตดี ผลผลิตสูง

**คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์:**

1. **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)** - ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก ทำให้รากแข็งแรง ดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดี ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพริกไทย

2. **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)** - มีธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม) ในสัดส่วนที่เหมาะสม ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและต้นให้สมบูรณ์ และมีแมกนีเซียม (Mg) และสังกะสี (Zn) ที่ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ทำให้ใบเขียวเข้ม กระบวนการสังเคราะห์แสงดีขึ้น เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับพืช

### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของพริกไทย

#### ระยะเริ่มต้นการเจริญเติบโต (1-3 เดือนแรก)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 15-30 วัน ช่วยให้รากแข็งแรง และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร โดยใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบและลำต้นให้แข็งแรง สมบูรณ์

#### ระยะเติบโตเต็มที่ (4-6 เดือน)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 30 วัน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอาหารให้กับราก
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน เพื่อเสริมความเขียวและเพิ่มการสังเคราะห์แสงในต้นพริกไทย

#### ระยะก่อนการติดดอก (ช่วงเตรียมดอก)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดิน ทุก 15-30 วัน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้รากและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นเฉพาะใบและลำต้น ทุก 15 วัน ช่วยเพิ่มความเขียวเข้มของใบ กระตุ้นการเจริญเติบโตและเพิ่มโอกาสในการสร้างตาดอก

### คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่น **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ขณะพริกไทยกำลังติดดอก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาดอกและผล

การดูแลพริกไทยด้วย **ฮิวมิค FK** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ตามระยะที่เหมาะสมนี้ จะช่วยให้พริกไทยโตไว แข็งแรง ใบเขียวเข้ม สามารถให้ผลผลิตที่ดีและต่อเนื่อง
อ่าน:144
ดูแลสวนเงาะ ให้ได้ผลผลิตดีขึ้น ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะ และการปรับปรุงโครงสร้างดิน
ดูแลสวนเงาะ ให้ได้ผลผลิตดีขึ้น ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะ และการปรับปรุงโครงสร้างดิน
**การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 ในการดูแลสวนเงาะ**

การใช้ปุ๋ย ฮิวมิค FK และ FK-1 เป็นวิธีช่วยให้สวนเงาะเติบโตได้สมบูรณ์และให้ผลผลิตดี โดยสามารถใช้ตามช่วงการเติบโตของเงาะเพื่อเสริมสร้างราก ลำต้น ใบ และผล

**คุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์**

- **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)**: ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของระบบราก ดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทำให้พืชเติบโตแข็งแรง
- **ปุ๋ย FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)**: เป็นปุ๋ยทางใบที่เสริมสารอาหารหลัก (ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม) ร่วมกับสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ที่ช่วยในการสังเคราะห์แสงของใบ ทำให้ใบเขียวเข้มและสุขภาพดีขึ้น

**คำแนะนำการใช้งานตามช่วงการเจริญเติบโตของเงาะ**

1. **ระยะต้นกล้าและเตรียมปลูก**
ใช้ฮิวมิค FK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้นทุก 15 วัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก และให้รากแข็งแรง

2. **ระยะสร้างใบและลำต้น**
ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ผสมสองส่วน (ถุงแรก 20-20-20 และถุงที่สอง Mg + Zn) โดยใช้ในอัตราส่วน 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 15 วันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น
*หมายเหตุ*: ไม่ควรฉีดพ่นช่วงที่เงาะเริ่มติดดอก เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อดอกที่อาจหลุดร่วงได้

3. **ระยะเพิ่มคุณภาพผล**
เมื่อเงาะเริ่มเข้าสู่ระยะการพัฒนาของผล สามารถใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดบริเวณโคนต้นทุก 15-20 วัน เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีน้ำหนักดีและได้ขนาด

4. **ระยะเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว**
หลังเก็บเกี่ยว ใช้ฮิวมิค FK และ FK-1 ในอัตราที่แนะนำ เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของต้น และเสริมสร้างการเตรียมตัวสำหรับฤดูถัดไป
อ่าน:268
การปลูกฟักทอง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการให้ ปุ๋ยยาฯ ที่เหมาะสม
การปลูกฟักทอง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการให้ ปุ๋ยยาฯ ที่เหมาะสม
ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค) และปุ๋ยทางใบ FK-1 ช่วยดูแลและส่งเสริมการเจริญเติบโตของฟักทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้ควรดำเนินตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี โตไว และสมบูรณ์แข็งแรง การใช้ฮิวมิคFK ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหาร ทำให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 มีธาตุอาหารหลัก (N-P-K 20-20-20) และสารเสริมการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ซึ่งช่วยในการสังเคราะห์แสงและกระตุ้นการเจริญเติบโตโดยรวม

### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง

1. **ระยะเริ่มปลูก (ช่วงแรกที่มีใบจริง)**
- **ฮิวมิคFK**: ใช้ 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของรากและเตรียมดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของต้นฟักทอง
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุง (N-P-K 20-20-20 และ Mg+Zn) ในอัตรา 25-50 กรัม ถุงละต่อน้ำ 20 ลิตร ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของใบและต้น

2. **ระยะเจริญเติบโตทางใบและลำต้น (ช่วงใบสมบูรณ์)**
- **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์เพื่อเสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของลำต้นและใบ ทำให้ต้นฟักทองแข็งแรงและพร้อมที่จะให้ผลผลิต

3. **ระยะพัฒนาเถาและสะสมพลังงาน (ก่อนเริ่มติดดอก)**
- **ฮิวมิคFK**: ใช้ตามเดิม ทุก 2 สัปดาห์ ช่วยบำรุงรากให้มีการสะสมพลังงาน
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้ต่อเนื่องทุก 10-15 วันเพื่อสะสมสารอาหารสำหรับช่วงติดผล ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก

4. **ระยะผลอ่อนจนถึงเก็บเกี่ยว**
- **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นในช่วงที่จำเป็นเพื่อเสริมความแข็งแรงของต้นและราก ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงที่มีดอกหรือผลเล็ก
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้เป็นระยะ ๆ เพื่อให้ผลฟักทองโตไว สมบูรณ์ และมีคุณภาพสูง ควรเว้นช่วงการฉีดพ่นในระยะติดดอกเพื่อไม่รบกวนการผสมเกสร

การใช้งานอย่างสม่ำเสมอและระมัดระวังในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตจะช่วยให้ฟักทองมีความสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
อ่าน:217
เพิ่มผลผลิต สับปะรด ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของสับปะรด
เพิ่มผลผลิต สับปะรด ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของสับปะรด
การใช้ **ฮิวมิคFK** (เสริมฟลูวิค) และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1** (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn) ช่วยเพิ่มผลผลิตและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของต้นสับปะรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยพืชในเรื่องการดูดซึมธาตุอาหาร เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบราก ใบ และลำต้น ทำให้พืชแข็งแรงและทนต่อโรคได้ดีขึ้น โดยการใช้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถแบ่งตามช่วงเวลาการเจริญเติบโตของสับปะรด ดังนี้:

### ช่วงเวลาการใช้
1. **ระยะต้นอ่อนและรากเริ่มเติบโต (1-3 เดือนแรก)**
- ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยฉีดพ่นรอบๆ โคนต้นทุก 2 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร

2. **ระยะการเจริญเติบโตของใบและลำต้น (4-8 เดือน)**
- ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกเดือน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบรากและการดูดซึมแร่ธาตุในดิน
- ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมถุงแรก (สูตร 20-20-20) 25-50 กรัม และถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) 25-50 กรัม เข้าด้วยกันในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ช่วยให้สับปะรดมีใบเขียว แข็งแรง และสามารถสร้างอาหารได้ดี

3. **ระยะก่อนติดดอก (9-12 เดือน)**
- ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อบำรุงระบบรากให้พร้อมรับธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยในการสร้างผล
- ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมถุงแรก (สูตร 20-20-20) 25-50 กรัม และถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) 25-50 กรัม ในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุกเดือน เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของต้นสับปะรดให้พร้อมสำหรับการสร้างผลในอนาคต

4. **ระยะขยายผล (หลังติดผลจนถึงก่อนเก็บเกี่ยว)**
- งดการฉีดพ่นในระยะติดดอก เพื่อลดโอกาสที่สารเคมีจะกระทบต่อการพัฒนาของดอกและการติดผล
- หลังจากติดผลแล้ว ให้กลับมาใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร และปุ๋ยทางใบ FK-1 ในอัตราส่วนผสมเดิม (ทั้งสูตร 20-20-20 และสารสังเคราะห์คลอโรฟิล) ทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อบำรุงผลให้เติบโตสมบูรณ์และให้เนื้อแน่น

### คุณประโยชน์จากการใช้ฮิวมิคFK และปุ๋ย FK-1
- **ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค)** ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของระบบราก ทำให้ต้นพืชดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้อย่างเต็มที่ เสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยให้พืชสามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ ได้ดี
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20)** ช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต โดยเฉพาะ N-P-K ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างใบและลำต้นที่แข็งแรง ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีตลอดฤดูกาล
อ่าน:266
การดูแลมะพร้าวให้โตไว สมบูรณ์ และมีผลผลิตดีด้วยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1
การดูแลมะพร้าวให้โตไว สมบูรณ์ และมีผลผลิตดีด้วยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1
การดูแลมะพร้าวอย่างต่อเนื่องด้วยปุ๋ยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้เร็วและมีผลผลิตดี โดยเลือกใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามวงจรการเจริญเติบโตของมะพร้าว

คุณสมบัติของปุ๋ย:

1. ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค): ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหารในดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทำให้ต้นมะพร้าวสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ


2. ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): ปุ๋ยสูตรสมดุล (20-20-20) ที่เสริมด้วยแมกนีเซียมและสังกะสี ช่วยในการสังเคราะห์แสง เพิ่มความเขียวสดของใบ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้น



ช่วงเวลาการใช้ปุ๋ย:

ช่วงต้นฤดูกาลเติบโต: ใช้ ฮิวมิคFK ผสมในอัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อปรับปรุงดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโต และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร

ช่วงเร่งการเจริญเติบโต: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมส่วนผสมสองถุง (สูตร 20-20-20 และสารคลอโรฟิล Mg Zn) อัตราส่วน 25-50 กรัม ต่อถุง ในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มความเขียวสดให้ใบ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก

ช่วงหลังจากมะพร้าวติดผล: ใช้ ฮิวมิคFK ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดี และทำให้ผลเจริญเติบโตเต็มที่

ช่วงเตรียมพร้อมก่อนเข้าฤดูฝน: ใช้ ฮิวมิคFK เพื่อปรับสภาพดินให้พร้อมรองรับน้ำฝน ช่วยให้ดินไม่แน่นเกินไป และเพิ่มการอุ้มน้ำ

ช่วงฟื้นฟูหลังฤดูฝน: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อเสริมสร้างความเขียวสดให้ใบและซ่อมแซมใบที่อาจเสียหายจากสภาพอากาศหนัก ช่วยให้ต้นฟื้นตัวเร็วขึ้น


อัตราการผสม

ฮิวมิคFK: 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น

ปุ๋ยทางใบ FK-1:

ถุงแรก (สูตร 20-20-20): 25-50 กรัม

ถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): 25-50 กรัม
ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ



อ่าน:322
2168 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 216 หน้า, หน้าที่ 217 มี 8 รายการ
|-Page 2 of 217-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ทำไมขนมเบื้อง ถึงมีไส้แค่สองแบบตามรูป ขาดวิวัฒนาการ หรือ ใส่ไส้แบบอื่นไม่ได้เอ่ย?
Update: 2562/08/25 14:37:20 - Views: 3798
โรคพืช
Update: 2564/08/12 22:09:57 - Views: 4010
โรคใบไหม้ ในพืชต่างๆ ราน้ำค้าง ราสนิม ใบจุด พืชขาดธาตุอาหาร ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #โรคใบไหม้ #โรคพืชจากเชื้อรา
Update: 2564/11/01 08:17:32 - Views: 3494
หนอนชอนใบส้ม หนอนเจาะผลส้ม หนอนผีเสื้อ หนอนต่างๆในพืชตระกูลส้ม ป้องกันดีที่สุด พบระบาดให้เร่งกำจัด
Update: 2566/11/06 08:56:06 - Views: 11336
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคราแป้ง ใน ยางพารา ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2566/01/17 12:17:52 - Views: 3557
น้อยหน่า ใบไหม้ ใบจุด โรคแอนแทรคโนส รากเน่า ผลเน่า โรคมัมมี่ โรคราต่างๆ กำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟูด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/04/04 11:50:56 - Views: 3699
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้ง ศัตรูพืชสำหรับต้นลำไย
Update: 2567/02/26 10:23:51 - Views: 3647
โรคหน่อไม้ฝรั่งกิ่งไหม้ หรือ โรคใบเทียมร่วง : CERCOSPORA LEAF BLIGHT DISEASE [ ไอเอส + FK-1 ]
Update: 2564/08/09 05:00:35 - Views: 3528
กำจัดเพลี้ย ใน ชะอม เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/05/16 12:02:06 - Views: 3516
โรคอินทผลัม โรคเชื้อราเขม่าผง Graphiola Leaf Spot (False Smut) of Palm
Update: 2564/02/25 02:42:40 - Views: 3789
ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยในประเทศไทย
Update: 2566/01/05 09:01:40 - Views: 3503
ยาฆ่าเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน ต้นลำไย และพืช ทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)
Update: 2566/04/22 10:48:53 - Views: 3527
ป้องกันเพลี้ย กำจัดเพลี้ย ฆ่าเพลี้ย ด้วย ยาป้องกันกำจัดเพลี้ยอินทรีย์ มาคา
Update: 2564/03/21 01:20:41 - Views: 3493
เพลี้ยไก่แจ้ในปลูกทุเรียน การจัดการและป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
Update: 2566/11/20 10:55:35 - Views: 3692
เกษตรกร อาชีพที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน
Update: 2565/07/14 23:05:49 - Views: 3477
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นมะละกออย่างมีประสิทธิผล
Update: 2566/05/06 09:34:07 - Views: 3596
ข้าวใบไหม้ โรคไหม้ข้าว ใบเหลือง มีจุดสีน้ำตาล แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2562/08/17 14:56:26 - Views: 4484
การรับมือกับศัตรูไม่ต้องการ: การควบคุมหนอนในต้นทับทิม
Update: 2566/11/16 13:56:02 - Views: 3630
การปลูกกระชายขาว
Update: 2564/08/20 23:07:31 - Views: 3706
ผักคะน้า กล้าเน่า
Update: 2564/04/27 17:07:08 - Views: 3805
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022