[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - ปุ๋ยฉีดพ่น
185 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 18 หน้า, หน้าที่ 19 มี 5 รายการ

ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มังคุด ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มังคุด ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มังคุด ผลดก ผลใหญ่ น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกมังคุดให้ได้ผลผลิตสูงสุด: การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

มังคุดหรือที่รู้จักกันในชื่อ ราชินีแห่งผลไม้ เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีมูลค่าสูงด้วยรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย ผลไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันปลูกในเขตร้อนหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงอเมริกาใต้ แอฟริกา และแคริบเบียน อย่างไรก็ตาม การทำให้มังคุดได้ผลผลิตสูงสุดอาจเป็นงานที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรมือใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคนิคและการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม

ปุ๋ยชนิดหนึ่งที่พบว่าได้ผลดีในการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นมังคุด คือ ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ปุ๋ยนี้มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวที่สมดุล ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาที่เหมาะสมของต้นไม้

หากต้องการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ขั้นตอนแรกคือการแกะกล่องผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีถุงละ 1 กิโลกรัม 2 ถุง ต้องผสมทั้งสองถุงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ อัตราส่วนผสมที่แนะนำคือ 50 กรัมของถุงแรก และ 50 กรัมของถุงที่สองต่อน้ำทุกๆ 20 ลิตร ควรคนถุงทั้งสองถุงจนละลายในน้ำจนหมด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 คือช่วงเช้าตรู่หรือช่วงบ่ายที่มีอุณหภูมิเย็นลง เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงอาจทำให้ปุ๋ยระเหยเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพของปุ๋ยลดลง ควรฉีดพ่นใบและลำต้นของต้นมังคุดให้ทั่ว ให้แน่ใจว่าใบถูกคลุมด้วยปุ๋ยอย่างสมบูรณ์

ความถี่ในการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ขึ้นอยู่กับอายุของต้นไม้และสภาพของดิน สำหรับต้นไม้เล็ก แนะนำให้ฉีดพ่นทุกๆ 2 สัปดาห์ ในขณะที่ต้นไม้โตเต็มที่ควรฉีดพ่นทุกๆ 3-4 สัปดาห์ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าการใช้ปุ๋ยนี้ควรใช้ร่วมกับการทำฟาร์มอื่นๆ เช่น การให้น้ำที่เหมาะสม การตัดแต่งกิ่ง และการควบคุมวัชพืชเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

สรุปได้ว่าการปลูกมังคุดให้ได้ผลผลิตสูงสุดนั้นทำได้โดยการใช้ปุ๋ยและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสม ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ที่มีส่วนผสมของสารอาหารที่สมดุลเป็นปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพที่สามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของต้นมังคุด ปฏิบัติตามอัตราส่วนการผสมที่แนะนำ ความถี่ในการฉีดพ่น และวิธีปฏิบัติในการทำฟาร์ม เกษตรกรสามารถมั่นใจได้ว่ามังคุดจะเก็บเกี่ยวผลมังคุดที่สมบูรณ์และดีต่อสุขภาพ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น ข้าวโพด ฝักใหญ่ เมล็ดเต็ม น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น ข้าวโพด ฝักใหญ่ เมล็ดเต็ม น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น ข้าวโพด ฝักใหญ่ เมล็ดเต็ม น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกข้าวโพดเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด: การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้าวโพดเป็นพืชสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตอาหารทั่วโลก เป็นอาหารหลักในหลายประเทศ และยังใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพและพลาสติก เพื่อตอบสนองความต้องการข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น เกษตรกรจำเป็นต้องใช้วิธีการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่กำหนดผลผลิตของข้าวโพดคือคุณภาพของดิน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสภาพดินที่ดีที่สุด ต้นข้าวโพดก็ยังประสบปัญหาการขาดสารอาหารที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของข้าวโพดได้ นี่คือที่มาของปุ๋ย ปุ๋ยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการให้สารอาหารที่จำเป็นที่พืชต้องการในการเจริญเติบโต

ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวโพดคือปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ปุ๋ยนี้มีส่วนผสมของสารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึง 30% ในบางกรณี

ในการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 นั้น เกษตรกรจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง FK-1 หนึ่งกล่องหนัก 2 กก. และบรรจุสองถุง ๆ ละ 1 กก. ต้องผสมทั้งสองถุงเพื่อเตรียมสเปรย์ ในการเตรียมส่วนผสม เกษตรกรควรนำถุงแรก 50 กรัม และถุงที่สอง 50 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร คนส่วนผสมจนละลายหมดและพร้อมที่จะฉีดพ่น

ช่วงเวลาที่เหมาะในการฉีดพ่น FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ คือ ในช่วงต้นของการเจริญเติบโตของข้าวโพด นี่คือช่วงที่พืชเปิดรับสารอาหารในปุ๋ยได้มากที่สุด ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นเมื่ออากาศเย็นและใบไม่เครียด เพื่อให้แน่ใจว่าพืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 แล้ว เกษตรกรควรปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด ซึ่งรวมถึงการปลูกข้าวโพดพันธุ์ที่เหมาะสม การเตรียมดินที่เหมาะสม และการควบคุมศัตรูพืชและโรค เมื่อรวมแนวทางปฏิบัติเหล่านี้เข้ากับการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวโพดและรายได้ของพวกเขาได้อย่างมาก

โดยสรุปแล้ว ข้าวโพดเป็นพืชที่จำเป็น และเกษตรกรจำเป็นต้องใช้วิธีการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าที่สำคัญนี้ การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตสูงสุด การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวังและผสมผสานกับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวโพดและช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารได้

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงโม แตกยอด ผลใหญ่ สมบูรณ์แข็งแรง ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงโม แตกยอด ผลใหญ่ สมบูรณ์แข็งแรง ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงโม แตกยอด ผลใหญ่ สมบูรณ์แข็งแรง ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การเพิ่มผลผลิตแตงโมให้ได้สูงสุด: คู่มือเทคนิคการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ

แตงโมเป็นผลไม้ยอดนิยมที่ทั่วโลกชื่นชอบด้วยรสชาติที่หวานฉ่ำ อย่างไรก็ตาม การเพาะปลูกพืชชนิดนี้เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดอาจเป็นงานที่น่ากลัวสำหรับเกษตรกร ในบทความนี้ เราจะพูดถึงเทคนิคการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตแตงโมที่เหมาะสม รวมถึงการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

การเตรียมและการปลูก

ก่อนปลูก สิ่งสำคัญคือต้องเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งระบายน้ำได้ดีและได้รับแสงแดดเพียงพอ แตงโมเติบโตได้ดีที่สุดในสภาพอากาศอบอุ่นและต้องการช่วงอุณหภูมิ 70-80°F เพื่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสม ดินควรลึก อุดมสมบูรณ์ และอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ ช่วง pH ที่เหมาะสมคือระหว่าง 6.0 ถึง 6.5

ควรปลูกเมล็ดที่ความลึก 1 นิ้ว โดยมีระยะห่างระหว่างต้น 3-5 ฟุต แตงโมต้องการพื้นที่มากในการปลูก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องให้แต่ละต้นมีพื้นที่เพียงพอสำหรับปลูก ควรปลูกเป็นแถวโดยเว้นระยะห่างระหว่างแถว 6-8 ฟุต

การให้น้ำและการให้ปุ๋ย

ต้นแตงโมต้องการความชื้นที่สม่ำเสมอตลอดวงจรการเจริญเติบโต ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดโรคและรากเน่าได้ การให้น้ำแบบหยดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งน้ำโดยตรงไปยังรากของพืช

นอกจากน้ำแล้ว ต้นแตงโมยังต้องการสารอาหารในการเจริญเติบโตและออกผลอีกด้วย ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งสารอาหารที่จำเป็นให้กับพืช ปุ๋ยนี้มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 1 กล่องหนัก 2 กก. บรรจุ 2 ถุง ๆ ละ 1 กก. ในการเตรียมสารละลายให้ผสมปุ๋ยทั้งสองถุงในอัตราส่วน 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองต่อน้ำ 20 ลิตร คนส่วนผสมจนละลายหมด แล้วฉีดพ่นบนต้นแตงโม

การควบคุมศัตรูพืชและโรค

ต้นแตงโมอ่อนแอต่อศัตรูพืชและโรคต่างๆ รวมถึงเพลี้ยอ่อน ไรเดอร์ และโรคราแป้ง ในการควบคุมศัตรูพืช เกษตรกรสามารถใช้สารกำจัดแมลงหรือวิธีอินทรีย์ เช่น น้ำมันสะเดาหรือดินเบา

การป้องกันเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมโรค เกษตรกรควรดูแลให้พืชแข็งแรงโดยให้น้ำ ธาตุอาหาร และแสงแดดอย่างเพียงพอ พวกเขาควรกำจัดพืชหรือชิ้นส่วนพืชที่ติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค

การเก็บเกี่ยว

แตงโมพร้อมเก็บเกี่ยวเมื่อผลแก่เต็มที่และกิ่งก้านที่อยู่ใกล้กับผลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ผลไม้ควรเป็นโพรงเมื่อเคาะ และผิวควรแน่นและทนทานต่อแรงกด

กล่าวโดยสรุป การปลูกแตงโมต้องมีการเตรียมการอย่างระมัดระวัง การให้น้ำที่เหมาะสม การใส่ปุ๋ย การควบคุมศัตรูพืชและโรค และการเก็บเกี่ยวที่ทันเวลา เมื่อปฏิบัติตามเทคนิคเหล่านี้ เกษตรกรสามารถได้รับผลผลิตสูงสุดและผลิตผลไม้คุณภาพสูงที่ผู้บริโภคทั่วโลกชื่นชอบ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น กล้วย ผลใหญ่ หวีใหญ่ เต็มเครือ ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น กล้วย ผลใหญ่ หวีใหญ่ เต็มเครือ ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น กล้วย ผลใหญ่ หวีใหญ่ เต็มเครือ ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกกล้วยเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด: คู่มือฉบับสมบูรณ์

กล้วยเป็นผลไม้ยอดนิยมที่คนทั่วโลกชื่นชอบ พวกมันเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่มีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อย และยังมีประโยชน์ในครัวอีกด้วย กล้วยเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ต้องปลูกในสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้น โดยทั่วไปปลูกในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน โดยผู้ผลิตกล้วยรายใหญ่ที่สุดคืออินเดีย จีน และฟิลิปปินส์ ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตสูงสุดโดยเน้นที่การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว เหล่านี้ล้วนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของกล้วย การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของกล้วย

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 1 กล่องหนัก 2 กก. บรรจุ 2 ถุง ๆ ละ 1 กก. ต้องผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสารละลายปุ๋ย อัตราส่วนผสมถุงแรก 50 กรัม และถุงที่สอง 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรกวนถุงทั้งสองจนละลายแล้วจึงฉีดพ่นสารละลายลงบนต้นกล้วย

เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดจากปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สิ่งสำคัญคือต้องใช้ให้ถูกเวลา ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฉีดพ่นปุ๋ยคือช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต ช่วงนี้เป็นช่วงที่พืชกำลังผลิใบและลำต้นใหม่ การฉีดพ่นปุ๋ยในระยะนี้จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี

นอกจากการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 แล้ว ยังมีขั้นตอนอื่นๆ ที่สามารถดำเนินการเพื่อเพิ่มผลผลิตกล้วยให้ได้สูงสุด นี่คือเคล็ดลับ:

เลือกกล้วยให้ถูกชนิด. กล้วยมีหลากหลายสายพันธุ์ และบางพันธุ์ก็เหมาะกับสภาพการปลูกมากกว่าพันธุ์อื่นๆ ตัวอย่างเช่น พันธุ์คาเวนดิชเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ปลูกเชิงพาณิชย์เพราะทนทานต่อโรคและให้ผลผลิตสูง

ปลูกต้นกล้วยในตำแหน่งที่เหมาะสม กล้วยต้องการสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้นในการเจริญเติบโต พวกเขายังต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดีซึ่งอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ เลือกสถานที่ที่ได้รับแสงแดดส่องถึงและมีอากาศถ่ายเทสะดวก

ให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม กล้วยต้องการน้ำปริมาณมากในการเจริญเติบโต แต่พวกมันไม่ชอบให้น้ำขัง รดน้ำต้นไม้ให้ลึกและสม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป

ควบคุมศัตรูพืชและโรค กล้วยมีความไวต่อศัตรูพืชและโรคต่างๆ รวมถึงไส้เดือนฝอย มอด และการติดเชื้อรา ตรวจสอบต้นไม้อย่างสม่ำเสมอเพื่อหาสัญญาณของความเสียหายและดำเนินการตามความจำเป็น

การปลูกกล้วยเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเห็นพืชของคุณให้ผลผลิตมากมาย ด้วยการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 และปฏิบัติตามคำแนะนำอื่นๆ ที่ระบุไว้ในบทความนี้ คุณจะสามารถเพิ่มผลผลิตของต้นกล้วยได้สูงสุดและเพลิดเพลินกับกล้วยที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการตลอดทั้งปี

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
อ่าน:3401
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น พริก เม็ดใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น พริก เม็ดใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น พริก เม็ดใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การเพิ่มผลผลิตพริกไทยสูงสุด: ประโยชน์ของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

พริกเป็นพืชอเนกประสงค์และเป็นที่นิยมซึ่งสามารถปลูกได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นชาวนา ชาวสวน หรือผู้มีงานอดิเรก การปลูกพริกสามารถให้ทั้งผลตอบแทนและผลกำไร อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตและผลผลิตสูงสุด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สารละลายปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ วิธีแก้ปัญหาอย่างหนึ่งคือปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ซึ่งมีธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ในบทความนี้ เราจะสำรวจประโยชน์ของ FK-1 และวิธีที่จะช่วยให้คุณเติบโตพริกไทยได้อย่างเหมาะสม

ข้อดีของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืช ปุ๋ยนี้มีส่วนผสมของธาตุอาหารหลักอย่างสมดุล เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมทั้งธาตุอาหารรอง เช่น แมกนีเซียมและสังกะสี สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช และมีบทบาทสำคัญในการสร้างคลอโรฟิลล์ เอนไซม์ และโปรตีน

ข้อดีหลักประการหนึ่งของการใช้ FK-1 คือความสามารถในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากที่ดี ปุ๋ยมีฟอสฟอรัสในระดับสูงซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาของราก รากที่แข็งแรงช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้พืชแข็งแรงและแข็งแรงมากขึ้น

นอกเหนือจากการส่งเสริมรากที่แข็งแรงแล้ว FK-1 ยังช่วยเพิ่มความต้านทานของพืชต่อแรงกดดันจากสิ่งแวดล้อม ปุ๋ยมีธาตุสังกะสีซึ่งเป็นธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อสุขภาพของพืช สังกะสีมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์แสง การควบคุมฮอร์โมน และการตอบสนองต่อความเครียด FK-1 ช่วยเพิ่มความทนทานต่อความแห้งแล้ง ความร้อน และปัจจัยกดดันอื่นๆ ด้วยการเสริมธาตุสังกะสีให้กับพืช

ข้อดีอีกอย่างของ FK-1 คือความสะดวกสบายและใช้งานง่าย ปุ๋ยมาในกล่องน้ำหนัก 2 กก. ซึ่งมี 2 ถุง ๆ ละ 1 กก. ในการเตรียมปุ๋ยใช้เพียงผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร คนส่วนผสมจนปุ๋ยละลายหมด แล้วฉีดลงบนต้นไม้

การใช้ FK-1 ในการปลูกพริก

เมื่อใช้ FK-1 ในการปลูกพริก สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามปริมาณและวิธีการใช้ที่แนะนำ ควรใช้ปุ๋ยแบบฉีดพ่นทางใบ ซึ่งหมายความว่าปุ๋ยจะฉีดพ่นโดยตรงที่ใบของพืช วิธีนี้ทำให้พืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เห็นผลเร็วขึ้นและชัดเจนขึ้น

สำหรับการปลูกพริก แนะนำให้ใส่ปุ๋ยในช่วงการเจริญเติบโตของพืชและอีกครั้งในช่วงระยะออกดอก สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดีและเพิ่มผลผลิตสูงสุด เมื่อใช้ FK-1 สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบพืชเพื่อหาสัญญาณของการขาดสารอาหารหรือความเครียด หากจำเป็น ให้ปรับขนาดยาหรือความถี่ของการใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

บทสรุป

การปลูกพริกไทยสามารถเป็นความพยายามที่คุ้มค่าและให้ผลกำไร แต่จำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดและการใช้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นทางออกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มผลผลิตพริกไทยให้ได้สูงสุด ปุ๋ยนี้มีธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของพืช การใช้ FK-1 ช่วยให้ผู้ปลูกสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากที่ดี เพิ่มความต้านทานของพืชต่อแรงกดดัน และได้รับผลผลิตที่เหมาะสม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
อ่าน:3438
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น แตงกวา ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกแตงกวา: เคล็ดลับเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดโดยใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

แตงกวาเป็นพืชยอดนิยมที่สามารถปลูกได้ในสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การปลูกแตงกวาเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและใส่ใจในรายละเอียด วิธีหนึ่งที่ได้ผลในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูง เช่น FK-1 ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อให้แตงกวาได้ผลผลิตสูงสุด

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคืออะไร?

FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวอย่างสมดุล ปุ๋ยนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิต การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่เกษตรกร เนื่องจากปุ๋ยถูกดูดซึมโดยตรงทางใบและสามารถให้ธาตุอาหารที่จำเป็นแก่พืชได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับแตงกวา?

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สามารถใช้กับแตงกวาได้ตลอดฤดูปลูก ขั้นตอนต่อไปนี้จะแนะนำวิธีการใช้ FK-1 เพื่อเพิ่มผลผลิตแตงกวาของคุณ

ขั้นตอนที่ 1: รับ FK-1 ในปริมาณที่เหมาะสม

FK-1 หนึ่งกล่องหนัก 2 กก. และบรรจุสองถุง ๆ ละ 1 กก. ต้องผสมทั้งสองถุงก่อนใช้ อัตราส่วนผสมต่อน้ำ 20 ลิตร คือ 50 กรัมของถุงแรก และ 50 กรัมของถุงที่สอง คนจนละลาย

ขั้นตอนที่ 2: ใส่ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับต้นแตงกวาในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ เมื่อใบเย็นและแห้ง วิธีนี้จะช่วยลดการระเหยและทำให้ปุ๋ยถูกดูดซึมทางใบ ใช้ขวดสเปรย์หรือเครื่องพ่นสเปรย์ฉีดให้ทั่วใบ

ขั้นตอนที่ 3: ทำซ้ำแอปพลิเคชัน

ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ซ้ำทุกๆ 10 ถึง 14 วันตลอดฤดูปลูก เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง

เคล็ดลับในการเพิ่มผลผลิตแตงกวาให้ได้มากที่สุด

นอกจากการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 แล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่คุณสามารถปฏิบัติตามเพื่อเพิ่มผลผลิตแตงกวาให้ได้สูงสุด

เลือกพันธุ์ที่เหมาะสม: เลือกพันธุ์แตงกวาที่เหมาะกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมของคุณ

ให้น้ำเพียงพอ: แตงกวาต้องการน้ำมากเพื่อการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม อย่าลืมรดน้ำให้ลึกและสม่ำเสมอ

ควบคุมศัตรูพืชและโรค: ศัตรูพืชและโรคสามารถลดผลผลิตแตงกวาได้อย่างมาก ใช้วิธีการควบคุมศัตรูพืชแบบออร์แกนิกและตรวจสอบพืชของคุณเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของโรค

การตัดแต่งกิ่งที่เหมาะสม: การตัดแต่งกิ่งสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและลดความเสี่ยงของโรค

บทสรุป

การปลูกแตงกวาเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและใส่ใจในรายละเอียด การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงอย่าง FK-1 สามารถช่วยให้พืชของคุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและแข็งแรง ทำตามขั้นตอนข้างต้นเพื่อใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 กับแตงกวาของคุณ และอย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุด ด้วยการดูแลเอาใจใส่ที่ถูกต้อง คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวแตงกวาที่อุดมสมบูรณ์ได้

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะนาว ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะนาว ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะนาว ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกมะนาวให้ได้ผลผลิตสูงสุด: ประโยชน์ของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นอีกด้วย ทำให้เป็นอาหารเสริมที่มีคุณค่าสำหรับอาหารทุกชนิด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพสูงสุด ต้นส้มจะต้องปลูกและปลูกอย่างเหมาะสม

วิธีหนึ่งในการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นมะนาวคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ ปุ๋ยประเภทนี้ใช้กับใบพืชโดยตรงและถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วโดยเนื้อเยื่อของพืช ทำให้ดูดซึมสารอาหารได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในบรรดาปุ๋ยฉีดพ่นทางใบที่มีอยู่มากมายในท้องตลาด FK-1 เป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการปลูกมะนาว

FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช อย่างสมดุล ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่เนื้อเยื่อพืช ปุ๋ยนี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและการพัฒนาของต้นส้มมะนาว ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลไม้

การใช้ FK-1 ทำได้ง่ายและตรงไปตรงมา FK-1 แต่ละกล่องมีน้ำหนัก 2 กก. และบรรจุสองถุง ๆ ละ 1 กก. หากต้องการใช้ FK-1 ให้ผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วคนให้ละลายหมด จากนั้นสามารถฉีดพ่นสารละลายที่ได้ลงบนใบของต้นมะนาวได้โดยตรงโดยใช้เครื่องฉีดพ่นทางใบ

มีประโยชน์หลายประการในการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับการปลูกมะนาว ประการแรกและสำคัญที่สุด การผสมผสานที่สมดุลของสารอาหารใน FK-1 ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นส้มอย่างแข็งแรง ส่งผลให้ผลผลิตและคุณภาพของผลไม้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ FK-1 ยังถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วโดยเนื้อเยื่อพืช ทำให้การดูดซึมและการใช้สารอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น หมายความว่าพืชสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เสียน้อยลงและได้ผลดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ FK-1 ยังได้รับการออกแบบเพื่อใช้ฉีดพ่นทางใบ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการส่งสารอาหารให้กับพืช ซึ่งแตกต่างจากปุ๋ยทางดินแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถใช้เวลาในการย่อยสลายและดูดซึมทางราก ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วทางใบและขนส่งไปทั่วโรงงาน ซึ่งช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตในทันที

สรุปได้ว่าปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นมะนาว ด้วยการผสมผสานที่สมดุลของสารอาหารที่จำเป็นและระบบการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ FK-1 สามารถช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นมะนาวที่แข็งแรง ส่งผลให้ผลผลิตและคุณภาพของผลไม้เพิ่มขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ปลูกมะนาวเพื่อการค้าหรือเพียงแค่ต้องการปรับปรุงต้นมะนาวในสวนหลังบ้านของคุณ ลองพิจารณาใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในแนวทางปฏิบัติในการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะละกอ ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น มะละกอ ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกมะละกอให้ได้ผลผลิตสูงสุด: เคล็ดลับและเทคนิคสำหรับเกษตรกร

มะละกอเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ขึ้นชื่อว่ามีรสหวานฉ่ำ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นผลไม้ยอดนิยมในหมู่ผู้บริโภค และการปลูกมะละกอสามารถทำกำไรให้กับเกษตรกรได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด เกษตรกรจำเป็นต้องนำเทคนิคและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมมาใช้ วิธีปฏิบัติอย่างหนึ่งคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ซึ่งมีธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว

ในบทความนี้เราจะพูดถึงเคล็ดลับและเทคนิคในการปลูกมะละกอที่สามารถช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตสูงสุด

การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม: การเลือกพันธุ์มะละกอเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของสวนของคุณ เลือกพันธุ์ที่เหมาะกับภูมิภาคของคุณและมีความต้านทานต่อศัตรูพืชและโรคได้ดี

การเตรียมดิน: ต้นมะละกอต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดีและอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ เตรียมดินโดยใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH ของดินอยู่ระหว่าง 6.0 ถึง 6.5

การปลูก: ต้นมะละกอสามารถขยายพันธุ์ได้จากเมล็ดหรือกิ่งตอน ปลูกเมล็ดหรือกิ่งในดินที่เตรียมไว้อย่างดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าต้นไม้วางห่างจากกันอย่างน้อย 8 ฟุต

การชลประทาน: ต้นมะละกอต้องการการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงปีแรกของการเจริญเติบโต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินชื้น แต่ไม่มีน้ำขัง หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้รากเน่าได้

การให้ปุ๋ย: ต้นมะละกอต้องการการใส่ปุ๋ยเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อให้ธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ในการเตรียมสารละลาย ให้ผสม FK-1 ทั้งสองถุงในอัตราส่วนถุงละ 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร คนให้ละลายแล้วฉีดพ่นบนพืช

การจัดการศัตรูพืชและโรค: ต้นมะละกออ่อนแอต่อแมลงศัตรูพืชและโรคต่างๆ เช่น แมลงวันผลไม้ ไวรัสจุดวงแหวนมะละกอ และโรคราแป้ง ใช้ยาฆ่าแมลงและสารฆ่าเชื้อราอินทรีย์ในการจัดการศัตรูพืชและโรค

การตัดแต่งกิ่ง: ตัดแต่งต้นมะละกอเป็นประจำเพื่อรักษารูปร่างและขนาด ถอนกิ่งและใบที่เป็นโรคหรือเสียหายออก

กล่าวโดยสรุป การทำฟาร์มมะละกอสามารถทำกำไรให้กับเกษตรกรได้หากนำเทคนิคและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมมาใช้ การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม การเตรียมดิน การให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ การใส่ปุ๋ย การจัดการศัตรูพืชและโรค และการตัดแต่งกิ่ง เกษตรกรสามารถได้รับผลผลิตสูงสุด การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ที่มีสารอาหารที่จำเป็นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเร่งการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นมะละกอ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น ลองกอง ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่น ลองกอง ผลใหญ่ ดกเต็มต้น น้ำหนักดี ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4 เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์
การปลูกลองกองให้ได้ผลผลิตสูงสุด: การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ลองกอง หรือที่เรียกว่า แลนโซน เป็นไม้ผลเมืองร้อนที่มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ผลไม้นี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านเนื้อหวานฉ่ำและเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ตาม การปลูกลองกองอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากต้นไม้ต้องการสภาพการเจริญเติบโตที่เฉพาะเจาะจงและการดูแลที่เหมาะสมเพื่อให้ผลมีคุณภาพสูง ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการทำให้ได้ผลผลิตสูงสุดคือการใช้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ เช่น ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยที่ละลายน้ำได้ซึ่งมีธาตุอาหารที่จำเป็นรวมกันอย่างสมดุล ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช และเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สารอาหารเหล่านี้สามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชผลได้อย่างมาก นอกจากนี้ ปุ๋ยยังมีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยให้ธาตุอาหารยึดเกาะกับใบและซึมผ่านเนื้อเยื่อของพืช จึงมั่นใจได้ว่าจะดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกลองกองมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

ซื้อปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 จำนวน 2 ถุง ๆ ละ 1 กิโลกรัม

ผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันในภาชนะจนเข้ากันดี

ตวงปุ๋ยที่ผสมแล้ว 50 กรัม ละลายในน้ำ 20 ลิตร ใช้คนเพื่อให้แน่ใจว่าปุ๋ยกระจายตัวในน้ำอย่างสม่ำเสมอ

เทสารละลายปุ๋ยลงในกระบอกฉีดและฉีดให้ทั่วต้นลองกอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้คลุมใบและกิ่งอย่างทั่วถึง แต่หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นโดยตรงที่ผลไม้

ใช้ซ้ำทุกสองสัปดาห์ในช่วงฤดูปลูก หรือตามความจำเป็นตามสภาพของพืช

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สามารถช่วยให้ต้นลองกองเติบโตอย่างแข็งแรงและให้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์และมีคุณภาพสูง การผสมผสานที่สมดุลของสารอาหารที่จำเป็นและสารลดแรงตึงผิวทำให้มั่นใจได้ว่าปุ๋ยจะถูกดูดซึมอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเพิ่มผลผลิตสูงสุด นอกจากนี้ สูตรที่ละลายน้ำได้ยังช่วยให้นำไปใช้ได้ง่าย และลดความเสี่ยงของการใส่ปุ๋ยมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพืชและลดคุณภาพของผลไม้

กล่าวโดยสรุป การปลูกลองกองต้องเอาใจใส่ปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ รวมทั้งการให้ปุ๋ย การใช้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ เช่น FK-1 ฉีดพ่นทางใบสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพของผลลองกองได้ ปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆ ข้างต้น เกษตรกรลองกองสามารถมั่นใจได้ว่าต้นของพวกเขาได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างสมดุลเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตที่เหมาะสม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
โรคมะพร้าวยอดเน่า ใบแห้ง ใช้ ไอเอส และ FK-1
โรคมะพร้าวยอดเน่า ใบแห้ง ใช้ ไอเอส และ FK-1



ต้นมะพร้าว มีความอ่อนไหวต่อโรคต่าง ๆ ที่สามารถลดผลผลิตและมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในโรคต้นมะพร้าวที่พบมากที่สุดคือโรคมะพร้าวเน่า มะพร้าวยอดเน่า ใบเน่า มะพร้าวใบแห้ง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อรา.

ไอเอส เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในพืช ทำงานได้โดยการควบคุมไอออนในพืชซึ่งจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อรา ไอเอส นั้นมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันและรักษาโรคมะพร้าวใบเน่า.

การใช้ ไอเอส ให้ผสม 50 ซีซีของสารในน้ำ 20 ลิตรและคนให้ละลายจนละลายอย่างสมบูรณ์ จากนั้นพ่นลงบนต้นมะพร้าวโดยมุ่งเน้นไปที่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรค ควรทำฉีดพ่นซ้ำทุก ๆ 10-14 วันจนกว่าโรคจะถูกกำจัด.

FK-1 ฉีดพ่นเพื่อผลผลิตสูงสุด.

นอกเหนือจากการป้องกันและกำจัดโรคมะพร้าวแล้ว สิ่งสำคัญที่จะเพิ่มผลผลิตของต้นมะพร้าว วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK1.

FK1 ประกอบด้วยไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม_ แมกนีเซียม_ สังกะสีและสารลดแรงตึงผิวซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นมะพร้าว ด้วยการใช้ FK1 เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของมะพร้าวได้อย่างดีเยี่ยม.

ในการใช้ FK1 ให้ผสมโดยตักถุงแรก 50 กรัม และ ถุงที่สอง 50 กรัม (ทั้งสองบรรจุอยู่ในกล่อง FK1) ผสมในน้ำ 20 ลิตร คนให้เข้ากันละลายอย่างสมบูรณ์แล้วฉีดลงบนต้นมะพร้าว ควรทำซ้ำทุก ๆ 10-14 วันเพื่อให้แน่ใจว่าผลผลิตสูงสุด.

บทสรุป.

โรคมะพร้าวใบเน่า ใบเน่า ใบแห้ง ยอดเน่า ยอดแห้ง อาจเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อผลผลิตของต้นมะพร้าว อย่างไรก็ตามด้วยการใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส และปุ๋ยสเปรย์ทางใบ FK-1 เกษตรกรสามารถป้องกันและกำจัดโรคนี้ได้ในขณะที่ยังเพิ่มผลผลิตของพืชมะพร้าว โดยใช้อัตราการผสมที่แนะนำ เกษตรกรสามารถมั่นใจได้ว่าต้นมะพร้าวของพวกเขายังคงมีสุขภาพดีและมีประสิทธิผล

http://ไปที่..link..

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ
185 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 18 หน้า, หน้าที่ 19 มี 5 รายการ
|-Page 13 of 19-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
มะเขือเทศ ใบไหม้ ใบจุด ผลจุด กำจัดโรคจากเชื้อราต่างๆในมะเขือเทศ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวน ปุ๋ย
Update: 2565/11/03 11:01:15 - Views: 3408
คู่มือเบื้องต้นสำหรับการ ป้องกันและกำจัดโรคในสวนยางพารา ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ
Update: 2566/04/29 14:56:01 - Views: 7962
การปลูกขนุน การดูแลรักษา และการป้องกันกำจัดโรคขนุน
Update: 2564/01/25 10:19:35 - Views: 3532
โรคใบด่างมะละกอ เชื้อไวรัสในมะละกอ ต้องกำจัดเพลี้ยอ่อน ซึ่งเป็นพาหะนำโรค และมีดตอนกิ่งที่ไม่สะอาดก็มีส่วน
Update: 2563/06/10 16:16:45 - Views: 4451
การจัดการเพลี้ยในต้นถั่วพู: วิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความเสียหาย
Update: 2566/11/20 12:54:43 - Views: 3571
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA คืออะไร
Update: 2564/08/21 21:30:12 - Views: 3604
กระเจี๊ยบเขียวเส้นใบเหลือง
Update: 2564/08/31 04:35:53 - Views: 3476
การควบคุมเพลี้ยในต้นกระเจี๊ยบ
Update: 2566/05/08 07:27:54 - Views: 3397
โรคมะกอกโอลีฟ โรคราดำมะกอกโอลีฟ และโรคมะกอกโอลีฟ ที่เกิดจากเชื้อรา
Update: 2564/08/10 05:05:46 - Views: 3545
พริกไทย โตไว ใบเขียว เม็ดใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่าเพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
Update: 2566/04/29 10:20:34 - Views: 3386
เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของดอกกระเจียวด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO: วิธีเร่งการออกดอกและเจริญเติบโตของราก
Update: 2567/02/12 14:09:06 - Views: 3400
กรมส่งเสริมการเกษตร ตั้ง คลินิกพืช ปั้นนักส่งเสริมเป็น หมอพืช วินิจฉัยโรคพืช แก้ปัญหาให้กับเกษตรกรตรงจุด
Update: 2564/08/12 22:07:12 - Views: 3411
การป้องกันกำจัดโรคและศัตรูทุเรียน โรคทุเรียน เพลี้ยแป้งทุเรียน เพลี้ยไก่แจ้ในทุเรียน โรคใบติด ในทุเรียน โรคเชื้อรา ไฟทอฟธอรา ทุเรียน
Update: 2563/05/21 09:25:27 - Views: 3471
โรคที่เกิดจากเชื้อราในต้นถั่วเหลือง
Update: 2566/11/09 09:39:42 - Views: 3419
โรคราแป้ง ราน้ำค้าง โรคใบไหม้ เกิดได้กับหลายพืช เร่งควบคุม ป้องกัน กำจัด ลดความเสียหายต่อพืช
Update: 2566/11/04 09:41:04 - Views: 8815
การใช้คาร์รอน (Diuron 80% WG) เพื่อควบคุมหญ้าและวัชพืชในสวนมะเขือเทศ
Update: 2567/02/13 09:18:43 - Views: 3418
แคลเซียม ช่วยเพิ่มผลผลิตและ ปรับปรุงดิน ได้อย่างไร
Update: 2565/07/29 07:12:16 - Views: 3402
ศัตรูพืช และ การป้องกันกำจัด
Update: 2563/11/06 08:59:08 - Views: 3414
ยาแก้พริกใบหงิก พริกใบม้วน เพราะเพลี้ยไฟ และเพลี้ยต่างๆเข้าทำลาย ยาแก้โรคพริกที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ผลเน่า ใบไหม้ ใบแห้ง
Update: 2563/07/02 10:48:23 - Views: 3772
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในงา
Update: 2566/05/13 09:39:11 - Views: 3397
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022