[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | + เลือกหน้า | All contents

ติดตามสินค้าที่คุณสั่ง
นาย บุญฤ..., Tuesday 01 July 2025 10:25:05, เลขจัดส่ง SMAM000รออัพเดท
คุณ มงคล..., Tuesday 01 July 2025 08:28:44, เลขจัดส่ง SMAM000รออัพเดท
คุณ ร.ต...., Monday 30 June 2025 23:49:43, เลขจัดส่ง SMAM000รออัพเดท
เสฎฐวุฒิ..., จันทร์ 30 มิถุนายน 2568 15:02:52, เลขจัดส่ง SPX EXPRESS
ไอลดา กา..., จันทร์ 30 มิถุนายน 2568 15:01:44, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
เกษม กาญ..., จันทร์ 30 มิถุนายน 2568 15:00:53, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
ชัยชาญ ช..., จันทร์ 30 มิถุนายน 2568 14:59:53, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
นิทัศน์ ..., จันทร์ 30 มิถุนายน 2568 14:58:53, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
ธรรศ กาจ..., จันทร์ 30 มิถุนายน 2568 14:57:53, เลขจัดส่ง SPX EXPRESS
มนตรี จุ..., จันทร์ 30 มิถุนายน 2568 14:57:00, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
ดูรายการจัดส่งทั้งหมด
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหารไห้กับพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยไห้ดินร่วยซุย ระบายน้ำดี สร้างระบบรากฝอย สำหรับฉีดพ่น ต้นข้าวโพด
162.158.163.218: 2567/02/13 09:59:31
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหารไห้กับพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยไห้ดินร่วยซุย ระบายน้ำดี สร้างระบบรากฝอย สำหรับฉีดพ่น ต้นข้าวโพด
ในการเพิ่มผลผลิตและรักษาคุณภาพของพืชในวงการเกษตรยุคใหม่นี้ เทคโนโลยีสารออกฤทธิ์ฮิวมิคได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการจัดการที่เหมาะสมกับธรรมชาติ และยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนต่อการปลอดภัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้เราจะพูดถึงสารออกฤทธิ์ฮิวมิคแบรนด์ที่เชื่อถือได้ คือ ฟาร์มิค และการนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงคุณภาพดินในการเพิ่มผลผลิตของต้นข้าวโพด.

1. ฮิวมิค แอซิด: สารออกฤทธิ์ที่ทำให้พืชเจริญเติบโต
ฮิวมิค แอซิดเป็นสารออกฤทธิ์ที่ได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น กรดฮิวมิคและแอซิด ที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นกระบวนการเรียนรู้และเจริญเติบโตของพืช ซึ่งส่งผลให้พืชมีระบบรากที่แข็งแรงและสามารถดูดธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

2. ปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับพืช
การใช้ฮิวมิค แอซิดจากแบรนด์ฟาร์มิคช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับพืชอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างเซลล์และเพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แปลกปลอมได้.

3. ปรับปรุงโครงสร้างดิน
การใช้ฮิวมิค แอซิดช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน โดยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีและมีการถ่ายเทสารอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของพืช.

4. ช่วยไห้ดินร่วงซุยและระบายน้ำดี
ฮิวมิค แอซิดยังมีคุณสมบัติที่ช่วยในการรักษาความชื้นในดิน ทำให้ดินรังสีน้ำดีและมีการระบายน้ำได้ดี ซึ่งช่วยป้องกันการสะสมน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบรากของพืช.

5. สร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง
การใช้ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิคช่วยในการสร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง ที่สามารถดูดน้ำและธาตุอาหารจากดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยในการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคราก.

6. การใช้เป็นสารฉีดพ่นสำหรับต้นข้าวโพด
สารออกฤทธิ์ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิคสามารถนำมาใช้เป็นสารฉีดพ่นที่เสริมสร้างสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตของต้นข้าวโพด ช่วยให้ต้นข้าวโพดมีความแข็งแรงและสามารถต้านต่อสภาพอากาศและโรคพืชได้ดีขึ้น.


การใช้ฮิวมิค แอซิดจากแบรนด์ฟาร์มิคเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน โดยช่วยฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงคุณภาพดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อการเพิ่มผลผลิตและส่งเสริมการปลูกข้าวโพดให้มีคุณภาพที่ดีตลอดฤดู.

ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมนี้ เกษตรกรสามารถปลูกข้าวโพดอย่างปลอดภัยและเป็นระบบ ทำให้เกิดผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นเสริมสร้างต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม.

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
.
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหารไห้กับพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยไห้ดินร่วยซุย ระบายน้ำดี สร้างระบบรากฝอย สำหรับฉีดพ่น ต้นข้าวโพด
อ่าน:3639
ฮิวมิค แอซิด: เทคโนโลยีฟาร์มิคที่ฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงดินของต้นข้าว
162.158.162.142: 2567/02/13 09:59:52
ฮิวมิค แอซิด: เทคโนโลยีฟาร์มิคที่ฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงดินของต้นข้าว
ในยุคที่เกษตรกรมีความต้องการสูงในการพัฒนาและปรับปรุงการเกษตรอย่างยั่งยืน ฮิวมิค แอซิดจึงเป็นสิ่งที่หลายคนเลือกใช้ในการดูแลแปลงนาของพวกเขา. ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคเกษตรกรไทยคือ ฟาร์มิค นวัตกรรมนี้มีสารสำคัญที่ช่วยในการฟื้นฟูระบบราก ปรับปรุงโครงสร้างดิน และส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นข้าว.

สารออกฤทธิ์ของฮิวมิค แอซิด

1. ฟื้นฟูระบบราก
ฮิวมิค แอซิดประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ที่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากต้นข้าวได้. การฟื้นฟูระบบรากจะช่วยให้ต้นข้าวมีความแข็งแรงและสามารถดูดธาตุอาหารได้ดีขึ้น.

2. ปลดปล่อยธาตุอาหาร
สารในฮิวมิค แอซิดมีความสามารถที่จะช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารที่ติดตัวในดิน ทำให้พืชสามารถนำธาตุอาหารเหล่านั้นไปใช้ได้มากขึ้น.

3. ปรับปรุงโครงสร้างดิน
การใช้ฮิวมิค แอซิดช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของต้นข้าว.

4. ช่วยระบายน้ำ
สารสกัดจากฮิวมิค แอซิดช่วยในการระบายน้ำของดิน ลดการกระทบต่อระบบรากของต้นข้าวจากน้ำขัง.

5. สร้างระบบรากฝอย
ฮิวมิค แอซิดสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากฝอย ทำให้ดินมีโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนารากของพืช.

การใช้ฮิวมิค แอซิดในการฉีดพ่น
การใช้ฮิวมิค แอซิดในการฉีดพ่นนั้นเป็นวิธีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ. การฉีดพ่นสามารถทำให้สารออกฤทธิ์ของฮิวมิค แอซิดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทันที.

การใช้ฮิวมิค แอซิดจากยี่ห้อฟาร์มิคเป็นทางเลือกที่ดีในการฟื้นฟูแปลงนาของเกษตรกร. สารออกฤทธิ์ที่ประกอบอยู่ในฮิวมิค แอซิดช่วยเสริมสร้างระบบรากและปรับปรุงดิน ทำให้ต้นข้าวสามารถเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์และสมบูรณ์. การฉีดพ่นทำให้สารออกฤทธิ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่มี


📌สั่งซื้อ สอบถาม

» Line@ ID: @FarmKaset
» โทร 097-918-3530
.
🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link.. .
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link.. .

ฮิวมิค แอซิด: เทคโนโลยีฟาร์มิคที่ฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงดินของต้นข้าว
อ่าน:3538
พืชที่ขาดไนโตรเจน
162.158.170.194: 2567/01/02 05:36:30
พืชที่ขาดไนโตรเจน
พืชที่ขาดไนโตรเจนจะแสดงอาการต่างๆ ดังนี้

ใบมีสีเหลืองซีด โดยเฉพาะบริเวณใบแก่ ใบอ่อนจะยังคงมีสีเขียวนานกว่า
ใบมีขนาดเล็กลง
ลำต้นผอมและตั้งตรง
การเจริญเติบโตชะงัก
ผลผลิตต่ำ
ในบางกรณี พืชที่ขาดไนโตรเจนอาจแสดงอาการอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ก้านใบและเส้นใบเป็นสีม่วง พืชไม่ออกดอกออกผล หรือพืชตายได้

สาเหตุที่พืชขาดไนโตรเจน อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

ดินขาดธาตุอาหารไนโตรเจน
ดินมีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไป
ดินมีอินทรียวัตถุต่ำ
พืชได้รับปุ๋ยไนโตรเจนไม่เพียงพอ
การแก้ไขอาการขาดไนโตรเจนในพืชสามารถทำได้โดยใส่ปุ๋ยไนโตรเจนให้กับพืช ปุ๋ยไนโตรเจนมีหลายประเภท เช่น ปุ๋ยยูเรีย ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรต ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต เป็นต้น ปริมาณปุ๋ยไนโตรเจนที่ใส่ให้กับพืชควรพิจารณาจากชนิดของพืช สภาพของดิน และฤดูกาล

นอกจากการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนแล้ว ยังสามารถแก้ไขอาการขาดไนโตรเจนในพืชได้โดยการปรับปรุงสภาพของดิน เช่น ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน หรือปรับสภาพความเป็นกรดหรือด่างของดินให้เหมาะสม

ปุ๋ย FK-1 ประกอบด้วย ไนโตเจน เข้มข้น 20เปอร์เซนต์ และยังมี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ซิงค์ รวมถึง สารลดแรงตึงผิว รวมในกล่องเดียว มีประสิทธิภาพสูง ในการเร่งการเจริญเติบโต ส่งเสริมการออกดอก และเพิ่มผลผลิตพืช
อ่าน:3764
ต้นกำเนิดปุ๋ย
162.158.163.130: 2567/01/02 05:29:22
ต้นกำเนิดปุ๋ย
ต้นกำเนิดของปุ๋ยสามารถย้อนกลับไปได้ไกลถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์ในยุคนั้นสังเกตเห็นว่าพืชที่เติบโตอยู่บริเวณรอบๆ กองมูลสัตว์หรือซากพืชจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าพืชที่เติบโตอยู่บริเวณอื่น จึงเริ่มนำมูลสัตว์หรือซากพืชมาใส่ในดินเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

หลักฐานที่บ่งชี้ว่ามนุษย์รู้จักใช้ปุ๋ยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้แก่

พบซากพืชและมูลสัตว์ที่ฝังอยู่ในดินอายุประมาณ 11_000 ปีก่อนคริสตกาล
พบภาพวาดบนผนังถ้ำในยุคหินใหม่แสดงถึงการทำนาและการใส่ปุ๋ย
พบตำราการเกษตรในยุคอียิปต์โบราณกล่าวถึงการใช้ปุ๋ยมูลสัตว์และซากพืช
ในยุคต่อมา มนุษย์เริ่มพัฒนาวิธีการผลิตปุ๋ยให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยนำวัสดุต่างๆ เช่น มูลสัตว์ ซากพืช แกลบ ฝุ่นละออง น้ำเสีย มาใช้ผลิตปุ๋ย

ในศตวรรษที่ 19 มีการค้นพบกระบวนการทางเคมีที่ทำให้สามารถสังเคราะห์ปุ๋ยได้ ทำให้การผลิตปุ๋ยมีปริมาณมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในปัจจุบัน ปุ๋ยมีบทบาทสำคัญในการผลิตอาหารของโลก โดยปุ๋ยช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ช่วยให้มนุษย์สามารถผลิตอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการ

ประเภทของปุ๋ย

ปุ๋ยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี

ปุ๋ยอินทรีย์ ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มูลสัตว์ ซากพืช แกลบ ฝุ่นละออง น้ำเสีย เป็นต้น ปุ๋ยอินทรีย์มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และธาตุอื่นๆ อีกมากมาย ปุ๋ยอินทรีย์มีประโยชน์ต่อดินและสิ่งแวดล้อม โดยช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี ช่วยป้องกันดินพังทลาย และช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน

ปุ๋ยเคมี ผลิตจากแร่ธาตุ เช่น ยูเรีย ฟอสเฟต โพแทสเซียม เป็นต้น ปุ๋ยเคมีมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชสูง ปุ๋ยเคมีช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ปุ๋ยเคมีอาจส่งผลเสียต่อดินและสิ่งแวดล้อมได้ เช่น ทำให้ดินเสื่อมโทรม และอาจปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำ

ประโยชน์ของปุ๋ย

ปุ๋ยมีประโยชน์ต่อการเกษตรและสิ่งแวดล้อม ดังนี้

ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน
ช่วยป้องกันดินพังทลาย
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ
ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของพืช
ช่วยเพิ่มการต้านทานโรคและแมลงของพืช
การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม

การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสมช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้

ชนิดของพืชและความต้องการธาตุอาหารของพืช
สภาพของดิน
ฤดูกาล
ปริมาณน้ำฝน
นอกจากนี้ ควรใช้ปุ๋ยอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อดินและสิ่งแวดล้อม
อ่าน:3566
ขออำนาจคุณพระศรีฯ อวยพรให้ลูกค้าฟาร์มเกษตร ร่ำรวยอย่างมีความสุขนับแต่ ปี ๒๕๖๗ นี้ และตลอดไป
162.158.189.190: 2567/01/01 14:53:12
ขออำนาจคุณพระศรีฯ อวยพรให้ลูกค้าฟาร์มเกษตร ร่ำรวยอย่างมีความสุขนับแต่ ปี ๒๕๖๗ นี้ และตลอดไป
ภาพลายเส้นองค์ท้าวเวสสุวรรณ ลิขสิทธิ์โดย FK
อ่าน:3702
ในศาสนาพุทธ มีชาติภพ หรือไม่?
162.158.106.64: 2567/01/01 14:47:25
ในศาสนาพุทธ มีชาติภพ หรือไม่?
คำตอบสั้นๆ คือ มี ชาติภพเป็นแนวคิดที่สำคัญในศาสนาพุทธ หมายถึง การเกิดและการตายของสัตว์โลกที่เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ อันเป็นกฎแห่งกรรมที่สัตว์โลกต้องเป็นไปตามการกระทำของตน

คำสอนเรื่องชาติภพปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกหลายแห่ง เช่น ในมหาปรินิพพานสูตร พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "สัตว์ทั้งหลายย่อมบังเกิดในภพภูมิต่างๆ ตามกรรมของตน"

ในศาสนาพุทธ ชาติภพสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ภพหลัก ได้แก่

กามภพ เป็นภพของสัตว์ที่มีกิเลสและอารมณ์ทางกาม ได้แก่ มนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉาน
รูปภพ เป็นภพของสัตว์ที่ยังมีกิเลส แต่ปราศจากอารมณ์ทางกาม ได้แก่ พรหมชั้นต่างๆ
อรูปภพ เป็นภพของสัตว์ที่ปราศจากกิเลสทั้งปวง ได้แก่ พรหมชั้นสูงสุด
นอกจากนี้ ชาติภพยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 31 ภพย่อย ตามลักษณะของสัตว์โลกที่อาศัยอยู่ในภพนั้นๆ

แนวคิดเรื่องชาติภพเป็นแนวคิดที่มีความสำคัญในศาสนาพุทธ เพราะเป็นหลักที่อธิบายถึงสาเหตุของทุกข์ในวัฏสงสาร สัตว์โลกต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏตราบใดที่ยังหลงติดอยู่กับกิเลส ตราบใดที่ยังไม่บรรลุธรรมะ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน มีผู้ตีความแนวคิดเรื่องชาติภพในหลากหลายแง่มุม เช่น บางคนอาจตีความว่าชาติภพหมายถึงการเกิดและการตายของจิต บางคนอาจตีความว่าชาติภพหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของบุคคล เป็นต้น

ดังนั้น ความเข้าใจเรื่องชาติภพของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการตีความและมุมมองของแต่ละบุคคล

credit: google bard
อ่าน:3600
พระพุทธเจ้า รู้หรือไม่ ว่าโลกเป็นทรงกลม?
162.158.107.17: 2567/01/01 14:08:34
พระพุทธเจ้า รู้หรือไม่ ว่าโลกเป็นทรงกลม?
คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราตีความคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างไร

หากเราตีความคำสอนของพระพุทธเจ้าตามตัวอักษร พระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวถึงรูปร่างของโลกอย่างชัดเจน พระองค์ทรงกล่าวถึงโลกว่าเป็น "โลกธาตุ" ซึ่งหมายถึง "โลกที่ประกอบไปด้วยธาตุสี่" ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ว่าโลกมีรูปร่างอย่างไร

อย่างไรก็ตาม หากเราตีความคำสอนของพระพุทธเจ้าตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ พระพุทธเจ้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าโลกกลม เพราะพระองค์ทรงมีปัญญาอันเฉียบแหลม และทรงสามารถรู้เห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ของคนธรรมดาทั่วไป เช่น ทรงสามารถระลึกชาติได้ ทรงสามารถรู้การเกิดและการตายของสัตว์โลกได้ และทรงสามารถรู้อนาคตได้

หลักฐานที่บ่งชี้ว่าพระพุทธเจ้ารู้อยู่แล้วว่าโลกกลม ได้แก่

พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึงปรากฏการณ์จันทรุปราคา ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อโลกกลมและมีดวงจันทร์โคจรรอบโลก

พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึงดวงดาวที่ปรากฏบนท้องฟ้าจะเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางโค้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากโลกแบน

นอกจากนี้ พระพุทธเจ้ายังทรงตรัสถึงเรื่องตาทิพย์ ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างทะลุทะลวง ตาทิพย์นี้สามารถช่วยให้มนุษย์มองเห็นโลกจากมุมมองที่แตกต่างออกไป ซึ่งอาจช่วยให้มนุษย์เข้าใจรูปร่างของโลกได้ดีขึ้น

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า พระพุทธเจ้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าโลกกลม แต่พระองค์ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน เพราะพระองค์ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะสอนเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่มุ่งเน้นที่จะสอนเรื่องธรรมะเป็นหลัก

credit: google bard
อ่าน:3590
มนุษย์รู้ว่าโลกกลม เมื่อปีใด?
172.70.188.111: 2567/01/01 14:00:54
มนุษย์รู้ว่าโลกกลม เมื่อปีใด?
มนุษย์รู้แล้วว่าโลกกลมมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ โดยนักปรัชญาชาวกรีกหลายคน เช่น พิทาโกรัส (Pythagoras) อริสโตเติล (Aristotle) และเอราทอสเทนีส (Eratosthenes) ได้เสนอทฤษฎีและหลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้

หลักฐานที่บ่งชี้ว่าโลกกลม ได้แก่

เรือที่แล่นออกจากชายฝั่งจะค่อยๆ จมลงจนมองไม่เห็นลำเรือจนหมด ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากโลกแบน

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อโลกกลมและมีดวงจันทร์โคจรรอบโลก

ดวงดาวที่ปรากฏบนท้องฟ้าจะเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางโค้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากโลกแบน

เอราทอสเทนีสเป็นนักดาราศาสตร์ชาวกรีกผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่ง เขาเป็นผู้คำนวณเส้นรอบวงของโลกได้เป็นครั้งแรก โดยอาศัยหลักการทางเรขาคณิตและคณิตศาสตร์ โดยคำนวณจากระยะทางระหว่างเมืองอเล็กซานเดรียและเมืองซีเอนา ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 800 กิโลเมตร และสังเกตการณ์ตำแหน่งดวงอาทิตย์ที่เมืองทั้งสองในเวลาเดียวกัน

การคำนวณของเอราทอสเทนีสมีความแม่นยำสูงมาก โดยเส้นรอบวงของโลกที่เขาคำนวณได้มีค่าใกล้เคียงกับค่าที่นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยอมรับอยู่ในปัจจุบัน

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่ามนุษย์รู้แล้วว่าโลกกลมมาตั้งแต่อย่างน้อย 240 ปีก่อนคริสตกาล
อ่าน:3575
ความสำคัญของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ซิงค์ และ สารลดแรงตึงผิว ที่มีต่อพืชทุกชนิด
162.158.189.113: 2566/12/28 05:51:15
ความสำคัญของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ซิงค์ และ สารลดแรงตึงผิว ที่มีต่อพืชทุกชนิด
ไนโตรเจน (N) เป็นธาตุอาหารหลักที่มีความสำคัญต่อพืชมากที่สุด พืชใช้ไนโตรเจนในการสร้างโปรตีน กรดอะมิโน และคลอโรฟิลล์ คลอโรฟิลล์เป็นสารสีเขียวที่มีหน้าที่ในการสังเคราะห์แสง การสังเคราะห์แสงเป็นกระบวนการที่พืชใช้เปลี่ยนแสงแดด น้ำ และคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นน้ำตาลและออกซิเจน
พืชที่ขาดไนโตรเจนจะมีใบสีซีด ใบแคบ และลำต้นเตี้ย

ฟอสฟอรัส (P) เป็นธาตุอาหารหลักที่สำคัญต่อพืชอีกชนิดหนึ่ง พืชใช้ฟอสฟอรัสในการสร้าง DNA RNA และ ATP DNA และ RNA เป็นสารพันธุกรรมที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช ATP เป็นสารพลังงานที่พืชใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ
พืชที่ขาดฟอสฟอรัสจะมีใบสีซีด ลำต้นอ่อนแอ และออกดอกน้อย

โพแทสเซียม (K) เป็นธาตุอาหารหลักที่สำคัญต่อพืชอีกชนิดหนึ่ง พืชใช้โพแทสเซียมในการขนส่งสารอาหาร การสังเคราะห์แสง และการควบคุมการคายน้ำ
พืชที่ขาดโพแทสเซียมจะมีใบสีซีด ขอบใบไหม้ และผลผลิตต่ำ

แมกนีเซียม (Mg) เป็นธาตุอาหารรองที่สำคัญต่อพืช แมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ การสังเคราะห์แสง และการสร้างโปรตีน
พืชที่ขาดแมกนีเซียมจะมีใบสีเหลือง ขอบใบไหม้ และผลผลิตต่ำ

ซิงค์ (Zn) เป็นธาตุอาหารรองที่สำคัญต่อพืช ซิงค์เป็นองค์ประกอบสำคัญของเอนไซม์หลายชนิดที่ใช้ในการสังเคราะห์โปรตีน การสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ และการเจริญเติบโตของเซลล์
พืชที่ขาดซิงค์จะมีใบสีเหลือง ขอบใบไหม้ และผลผลิตต่ำ

สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) เป็นสารที่ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำกระจายตัวได้ดีและซึมผ่านดินได้ง่าย สารลดแรงตึงผิวมีประโยชน์ต่อพืชหลายประการ ได้แก่

ทำให้ปุ๋ยกระจายตัวได้ดีในน้ำและซึมผ่านดินได้ง่าย ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างทั่วถึง

ช่วยป้องกันปุ๋ยตกค้างบนใบและลำต้นของพืช ทำให้พืชไม่ไหม้

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย

ปุ๋ย FK-1

ปุ๋ย FK-1 เป็นปุ๋ยสูตร 20-20-20 ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักทั้ง 3 ชนิดในปริมาณที่เท่ากัน ปุ๋ย FK-1 เป็นปุ๋ยที่เหมาะสำหรับการปลูกพืชทุกชนิด ช่วยให้พืชเจริญเติบโตอย่างสมดุล

องค์ประกอบของปุ๋ย FK-1

ปุ๋ย FK-1 ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก 3 ชนิด ดังนี้

ไนโตรเจน (N) ร้อยละ 20
ฟอสฟอรัส (P) ร้อยละ 20
โพแทสเซียม (K) ร้อยละ 20
นอกจากธาตุอาหารหลักแล้ว ปุ๋ย FK-1 ยังมีสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ผสมอยู่ด้วย สารลดแรงตึงผิวช่วยให้ปุ๋ยกระจายตัวได้ดีในน้ำและซึมผ่านดิน

การใช้ปุ๋ย FK-1 ผสมน้ำเพื่อฉีดพ่นทางใบพืช

ปุ๋ย FK-1 สามารถผสมน้ำเพื่อฉีดพ่นทางใบพืชได้ อัตราส่วนในการผสมขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและระยะการเจริญเติบโตของพืช

โดยทั่วไป อัตราส่วนในการผสมปุ๋ย FK-1 กับน้ำคือ 1 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร สามารถใช้ฉีดพ่นพืชได้ทุกสัปดาห์

ควรฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ในตอนเช้าหรือตอนเย็น หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงกลางวันที่มีแสงแดดจ้า เพื่อป้องกันพืชไหม้

ข้อควรระวัง

ควรใช้ปุ๋ย FK-1 ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะอาจทำให้พืชได้รับธาตุอาหารมากเกินไปและเกิดอาการใบไหม้ได้
ควรใช้ปุ๋ย FK-1 ในช่วงที่พืชกำลังเจริญเติบโต ไม่ควรใช้ปุ๋ย FK-1 ในช่วงที่พืชกำลังพักตัว
ควรใช้ปุ๋ย FK-1 ร่วมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน
อ่าน:3706
Fish oil ป้องกัน หลอดเลือดหัวใจ ได้จริงไหม?
162.158.106.187: 2566/12/27 19:27:38
Fish oil ป้องกัน หลอดเลือดหัวใจ ได้จริงไหม?
น้ำมันปลา (Fish oil) เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ กรดไขมันโอเมก้า-3 มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพหลายประการ รวมถึงการลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ

การศึกษาหลายชิ้นพบว่า การรับประทานน้ำมันปลาช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ น้ำมันปลายังช่วยลดการอักเสบและลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดอุดตันได้

จากข้อมูลการศึกษาเหล่านี้ สรุปได้ว่า น้ำมันปลาสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันปลาที่ควรรับประทานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยทั่วไป แนะนำให้รับประทานน้ำมันปลาวันละ 1_000-2_000 มิลลิกรัม โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานน้ำมันปลา โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ

นอกจากการรับประทานน้ำมันปลาแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ เลิกสูบบุหรี่ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
อ่าน:3561
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ
|-Page 59 of 359-| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 | 359 |
การปลูกมันสำปะหลัง การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตดี
Update: 2563/06/05 10:07:34 - Views: 4213
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนกาแฟสีแดง ใน ผักหวาน และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/14 14:38:59 - Views: 3569
โรคเชื้อราในกล้วย สาเหตุและการป้องกัน คู่มือโรคเชื้อราในกล้วย
Update: 2566/05/01 10:39:10 - Views: 3735
ยาแก้โรคสนิมขาว โรคราขาวในผักบุ้ง ยากำจัดหนอนผักบุ้ง ยากำจัดเพลี้ยผักบุ้ง และปุ๋ยเร่งโต สำหรับผักบุ้ง
Update: 2564/08/11 06:10:56 - Views: 3975
โรคราน้ำค้างองุ่น (downy mildew of grapes) โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส1 หยุดโรค + FK-1 ฟื้นฟู เร่งโต สร้างภูมิฯ 1ชุด ใช้ได้ 5ไร่
Update: 2564/08/12 22:09:10 - Views: 3560
กำจัดเพลี้ย เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยต่างๆ ฯลฯ มาคา สารอัลคาลอยด์สกัดจากธรรมชาติ โดย FK
Update: 2566/06/24 09:39:24 - Views: 3544
ศัตรูพืช และ การป้องกันกำจัด
Update: 2563/11/06 08:59:08 - Views: 3577
โรคผลแตกในลำไย : ไขปัญหาเชื้อรา
Update: 2566/05/17 11:39:59 - Views: 3533
กำจัดเพลี้ย ในพืชทุกชนิด เช่นเพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย เพลี้ยไฟ และเพลี้ยต่างๆด้วย INVET
Update: 2566/10/09 14:04:22 - Views: 3621
ยากำจัดโรคใบจุด ใน กระเจี๊ยบเขียว โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/08 14:20:38 - Views: 3571
การจัดการเพลี้ยในดอกดาวเรือง: กลยุทธ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
Update: 2566/11/16 09:14:50 - Views: 3580
ระวังโรคใบไหม้ ใบจุด แอนแทรคโนส ในต้นถั่วเหลือง สร้างความเสียหายได้มาก จัดการได้อย่างไร ??
Update: 2566/11/03 15:53:18 - Views: 3516
กำจัดเพลี้ย ใน มะปราง เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/05/15 13:47:47 - Views: 3535
โรคเชื้อราในต้นมะพร้าว เร่งป้องกันกำจัดก่อนจะเป็นแบบนี้
Update: 2567/05/20 07:50:31 - Views: 4308
โรคใบไหม้ ในผักชี สร้างเสียหายได้มาก ป้องกันได้อย่างไร?
Update: 2566/10/31 11:31:01 - Views: 3573
ฮิวมิค แอซิด: ฟาร์มิคที่เรียกฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงดิน สำหรับต้นน้อยหน่า
Update: 2567/02/13 09:36:55 - Views: 3490
ยากำจัดโรคใบจุด ใน ต้นกล้วย โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/05 14:36:37 - Views: 3599
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ปุ๋ยโพแทสเซียว 0-0-60 สูตรเร่งผลใหญ่ เพิ่มผลผลิต ดกเต็มต้น
Update: 2567/03/05 12:32:23 - Views: 3557
ทุ่มงบประมาณ  34 ล้านบาท ขยายตลาดยางแบบ ข้อตกลงส่งมอบจริง
Update: 2555/08/07 15:28:15 - Views: 3623
กระเจี๊ยบแดง เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต ลดความเหนียวข้นของเลือด
Update: 2563/05/13 06:53:35 - Views: 3527
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022