<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
ธาตุรอง และ จุลธาตุ มีประโยชน์อย่างไร ต่อพืช?
เกษตรกรอาจจะคุ้นชินกับธาตุอาหารหลักในปุ๋ยเคมีอย่าง NPK อยู่แล้ว แต่อาจจะสงสัยว่า เวลาคนอื่นบอกให้ใส่ธาตุรองกับจุลธาตุ ธาตุพวกนี้คืออะไรกันแน่? ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไป เพราะบทความนี้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว!
ย้อนเกร็ดความรู้ “ธาตุหลัก” คืออะไรนะ?
ก่อนจะเรียนรู้เรื่องธาตุรอง อาจจะต้องกลับไปศึกษาธาตุหลักคืออะไร ซึ่งเราขอสรุปอย่างสั้นๆ ว่า ธาตุหลักคือธาตุที่พืชต้องการในปริมาณมาก ซึ่งแม้ธาตุเหล่านี้จะมีอยู่ในดินทั่วไปแต่ก็อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช ซึ่งหากขาดธาตุหลักก็ต้องเติมธาตุอาหารให้ในรูปแบบของปุ๋ย โดยธาตุหลักประกอบด้วย 3 ธาตุ ดังนี้
ไนโตรเจน (N) ช่วยให้พืชแข็งแรง ทนต่อโรค และสร้างผลผลิตได้มาก
ฟอสฟอรัส ( P) ช่วยให้รากและต้นเจริญเติบโตได้ดี รวมทั้งช่วยในการออกดอก
โพแทสเซียม (K) ช่วยให้ผลพืชมีสีสันที่สวยงามและรสชาติที่ดี และยังช่วยให้ทนโรคอีกด้วย
แล้ว “ธาตุรอง” กับ “จุลธาตุ” คืออะไรกันแน่?
สำหรับธาตุรอง เป็นธาตุที่พืชใช้ในปริมาณน้อยกว่าธาตุอาหารหลัก และดินส่วนใหญ่ยังมีธาตุอาหารนี้อยู่บ้าง ประกอบด้วย 3 ธาตุดังนี้
แคลเซียม (Ca) ช่วยในการแบ่งเซลล์ ผสมเกสร การงอกของเมล็ด มีส่วนสำคัญต่อโครงสร้างของเซลล์พืช ช่วยในการลำเลียงอาหาร แคลเซียมช่วยในการปรับสมดุลทั้งกรดและด่างของพืช
แมกนีเซียม (Mg) เป็นองค์ประกอบของคลอโรฟิลล์ ช่วยในการสังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมันและน้ำตาล ช่วยในการสังเคราะห์แสง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
กำมะถัน (S) เป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโน วิตามินและโปรตีน ช่วนสร้างคลอโรฟิลล์ ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของรากและเมล็ดพืช ทำให้พืชแข็งแรงและทนต่อความเย็น
ส่วนจุลธาตุ หรือที่หลายคนเรียกว่าธาตุเสริมนั้น เป็นธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับธาตุหลักและธาตุรอง แต่พืชจะขาดไม่ได้เช่นกัน ประกอบด้วย 8 ธาตุดังนี้
โบรอน (B) ช่วยในการสร้างสารอาหารและควบคุมสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์ ช่วยในการออกดอก ผสมเกสร ช่วยในการติดผลและย้ายน้ำตาลมาสู่ผล
ทองแดง (Cu) ช่วยในการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์พืช ช่วยในการเผาผลาญอาหารของรากพืชและเป็นประโยชน์ต่อการใช้โปรตีนของพืช การสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์
คลอรีน (CI) พบในดิน ช่วนกระตุ้นการย่อยอาหารสำหรับพืช มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับฮอร์โมนพืช
เหล็ก (Fe) จำเป็นต่อการสร้างคลอโรฟิลล์ การสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และสังเคราะห์แสง
แมงกานีส (Mn) ช่วยในการทำงานของเอนไซม์ มีส่วนประกอบของคาร์บอนไดออกไซด์และการย่อยไนโตรเจน
โมลิบดีนัม (Mo) ช่วยในการดึงไนโตรเจนออกมาใช้งานและช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน พบธาตุชนิดนี้ในดิน
สังกะสี (Zn) ช่วยสังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิน คลอโรฟิลล์และแป้ง ควบคุมการย่อยน้ำตาลของพืช เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานขอเอนไซม์ที่มีส่วนในการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และจำเป็นต่อการเปลี่ยนสภาพของคาร์โบไฮเดรต
นิกเกิล (Ni) เป็นธาตุอาหารทำสำคัญต่อเอนไซม์ ทำหน้าที่ปลดปล่อยไนโตรเจนให้อยู่ในรูปที่จะนำไปใช้ได้ และยังช่วยในกระบวนการงอกของเมล็ดอีกด้วย
ธาตุรอง จุลธาตุ ต่างกันอย่างไร?
สรุปอย่างง่ายๆ ธาตุรองและจุลธาตุนั้นต่างกันที่ปริมาณของความต้องการ โดยพืชจะต้องการจุลธาตุน้อยมาก แต่ก็ยังขาดไม่ได้อยู่ดีนั่นเอง
รู้แบบนี้แล้ว หากพบว่าพืชในสวนของตัวเองยังไม่สมบูรณ์หรือเจริญเติบโตช้า ให้ลองสังเกตุอาการขาดธาตุอาหารและเลือกใช้ปุ๋ยที่มีธาตุรองและจุลธาตุมาเสริมให้พืชสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และอย่าลืมตรวจสอบความเป็นกรด-ด่างของดินซึ่งจะมีผลต่อการละลายและปลดปล่อยธาตุอาหารแต่ละชนิด รวมทั้งศึกษาว่าพืชแต่ละชนิดต้องการธาตุไหนเป็นพิเศษด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจากสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดปัตตานี
http://www.farmkaset..link.. 3
ข้อมูลจาก
http://www.farmkaset..link..