<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
ธาตุแคลเซียม - CALCIUM สำคัญ และเป็นพระโยชน์ต่อพืชเป็นอย่างมาก เสริมแคลเซียมด้วย FK-1
หน้าที่สำคัญของธาตุแคลเซียมในพืช
มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับโครงสร้างของผลไม้
ช่วยเสริมสร้างเซลล์และการแบ่งเซลล์ของพืช ซึ่งพืชต้องการอย่างต่อเนื่อง
ช่วยในการสร้างเซลล์และโครงสร้างของเซลล์ของพืช
ช่วยให้เซลล์ติดต่อกัน และจะช่วยเชื่อมผนังเซลล์ให้เป็นรูปร่าง และขนาดให้เป็นไปตามลักษณะของพืชแต่ละชนิด
ช่วยเพิ่มการติดผล
ช่วยให้สีเนื้อและสีผิวของผลสดใส
ช่วยลดการเกิดเนื้อของผลแข็งกระด้าง และเนื้อแฉะ
ช่วยป้องกัน ผลร่วง ผลแตก
มีบาทบาทที่สำคัญในระยะการเจริญเติบโตและการออกดอกของพืช
มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการย่อยธาตุไนโตรเจน
เป็นตัวช่วยลดการหายในของพืช
เป็นตัวช่วยเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล
.
การแสดงอาการของพืชที่ขาดธาตุแคลเซียม
ใบอ่อนที่แตกออกมาใหม่จะหดสั้นและเหี่ยว แม้ว่าใบเก่าจะมีธาตุแคลเซียมอยู่ เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายจากใบเก่าสู่ใบใหม่
ใบอ่อนที่ขาดธาตุแคลเซียมจะมีสีเขียวแต่ปลายใบจะเหลือง และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและจะตายในที่สุด
ถ้าขาดธาตุแคลเซียมที่บริเวณขั้วหรือข้อต่อของผลจะทำให้เกิดแก๊สเอธีลีน(Ethylene) เป็นเหตุให้ผลร่วง
พืชหลายชนิดที่ขาดธาตุแคลเซียม เช่น มะเขือเทศ แตงโม พริก แตงกวา จะเกิดการเน่าที่ส่วนล่างผล,
ในผักขึ้นฉ่ายจะแสดงอาการไส้ดำ, ในแครอดจะแสดงอาการฟ่ามที่หัว, ในแอปเปิลจะมีรสขม,
ในมันฝรั่งจะแสดงอาการเป็นสีน้ำตาลบริเวณกลางหัว,
ในพืชลงหัวต่าง ๆ เช่น ผักกาดหัว(หัวไชเท้า) หอม กระเทียม จะแสดงอาการไม่ลงหัว หรือลงหัวแต่หัวจะไม่สมบูรณ์
ในพืชไร่ ต้นจะแตกเป็นพุ่มแคระเหมือนพัด
แสดงอาการที่ราก คือ รากจะสั้น โตหนามีสีน้ำตาล ดูดอาหารไม่ปกติ
ในระยะพืชออกดอก ติดผล ถ้าพืชขาดธาตุแคลเซียม ตาดอกและกลีบดอกจะไม่พัฒนา ดอกและผลจะร่วง
.
สภาพแวดล้อมที่พืชขาดธาตุแคลเซียม
ในดินที่มีค่าของความเป็นกรดเป็นด่าง(pH) ระหว่าง 4.0-7.0 และ 8.5 ขึ้นไป
เมื่อให้ธาตุไนโตรเจนมาก
เมื่อให้ธาตุโพแทสเซียมมาก
เมื่อพืชแตกใบอ่อน แม้ว่าใบแก่จะมีธาตุแคลเซียม ทั้งนี้เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายในพืช
เมื่อพืชแตกใบอ่อนต้องให้ธาตุแคลเซียมอยู่เสมอ
ธาตุแคลเซียมจะมีความสมดุลกับธาตุโบรอนและธาตุแมกนีเซียมในพืช ถ้าไม่มีความสมดุลระหว่างธาตุทั้ง 3 ชนิด พืชจะแสดงอาการผิดปกติ
ธาตุแคลเซียมจะสูญเสียไปในดิน กลายเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งพืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้
ในดินที่เป็นกรด จะตรึงธาตุแคลเซียมไว้ ทำให้พืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้
.
ปุ๋ยน้ำ FK-1 เข้มข้น สำหรับเร่งการเจริญเติบโตพืช เสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรง
ปุ๋ยน้ำ FK-1 หรือ เอฟเค-วัน ใช้ฉีดพ่นทางใบ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต เพิ่มความเขียว และสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคและแมลง
.
ในหนึ่งกล่อง ประกอบด้วยปุ๋ยบัวแก้ว 1 ถุง และเควัน 1 ถุง บรรจุถุงละ 1,000 กรัม รวมน้ำหนัก 2,000 กรัม
- ถุงแรก บัวแก้ว คือธาตุหลัก N-P-K ในสูตร 20-20-20 ทำหน้าที่ เร่ง ต้น ดอก ผล เพิ่มความเขียว เร่งการเจริญเติบโต ทำให้พืชโตไว เขียว ให้ผลผลิตดี
- ถุงที่สอง K-1 คือ ธาตุรอง ธาตุเสริม และสารจับใบ ลดแรงตรึงผิว ทำให้ ปุ๋ยธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม เกาะใบพืชและซึ่มเข้าในใบพืชได้เป็นอย่างดี พืชจึงได้รับธาตุอาหารเต็มที่ ส่วน ธาตุรอง ธาตุเสริมนั้น จะช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ให้กับพืช เมื่อพืชสมบูรณ์แข็งแรง จึงมีภูมิต้านทางต่อโรคและแมลงสูงขึ้นนั่นเอง
.
การผสมใช้
ผสม ถุงแรก บัวแก้ว 50 กรัม ถุงที่สอง K-1 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ
ผสม ถุงแรก บัวแก้ว 500 กรัม ถุงที่สอง K-1 500 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร
คนให้เข้ากันและฉีดพ่นทั่วแปลงพืช เพื่อเร่งการเจริญเติบโต
*หมายเหตุ 50 กรัม เท่ากับ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
.
สนใจ โทรสั่งซื้อ 090-592-8614
ไลน์ไอดี FarmKaset หรือ ไอดี PrimPB
สั่งทางเฟสบุ๊คได้เช่นกัน https://www.facebook.com/farmkaset
หรือลาซาด้า https://www.lazada.co.th/products/fk-1-i512689-s591186.html