<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
ต้นกำเนิดปุ๋ย
ต้นกำเนิดของปุ๋ยสามารถย้อนกลับไปได้ไกลถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์ในยุคนั้นสังเกตเห็นว่าพืชที่เติบโตอยู่บริเวณรอบๆ กองมูลสัตว์หรือซากพืชจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าพืชที่เติบโตอยู่บริเวณอื่น จึงเริ่มนำมูลสัตว์หรือซากพืชมาใส่ในดินเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
หลักฐานที่บ่งชี้ว่ามนุษย์รู้จักใช้ปุ๋ยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้แก่
พบซากพืชและมูลสัตว์ที่ฝังอยู่ในดินอายุประมาณ 11_000 ปีก่อนคริสตกาล
พบภาพวาดบนผนังถ้ำในยุคหินใหม่แสดงถึงการทำนาและการใส่ปุ๋ย
พบตำราการเกษตรในยุคอียิปต์โบราณกล่าวถึงการใช้ปุ๋ยมูลสัตว์และซากพืช
ในยุคต่อมา มนุษย์เริ่มพัฒนาวิธีการผลิตปุ๋ยให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยนำวัสดุต่างๆ เช่น มูลสัตว์ ซากพืช แกลบ ฝุ่นละออง น้ำเสีย มาใช้ผลิตปุ๋ย
ในศตวรรษที่ 19 มีการค้นพบกระบวนการทางเคมีที่ทำให้สามารถสังเคราะห์ปุ๋ยได้ ทำให้การผลิตปุ๋ยมีปริมาณมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปัจจุบัน ปุ๋ยมีบทบาทสำคัญในการผลิตอาหารของโลก โดยปุ๋ยช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ช่วยให้มนุษย์สามารถผลิตอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการ
ประเภทของปุ๋ย
ปุ๋ยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี
ปุ๋ยอินทรีย์ ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มูลสัตว์ ซากพืช แกลบ ฝุ่นละออง น้ำเสีย เป็นต้น ปุ๋ยอินทรีย์มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และธาตุอื่นๆ อีกมากมาย ปุ๋ยอินทรีย์มีประโยชน์ต่อดินและสิ่งแวดล้อม โดยช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี ช่วยป้องกันดินพังทลาย และช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน
ปุ๋ยเคมี ผลิตจากแร่ธาตุ เช่น ยูเรีย ฟอสเฟต โพแทสเซียม เป็นต้น ปุ๋ยเคมีมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชสูง ปุ๋ยเคมีช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ปุ๋ยเคมีอาจส่งผลเสียต่อดินและสิ่งแวดล้อมได้ เช่น ทำให้ดินเสื่อมโทรม และอาจปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำ
ประโยชน์ของปุ๋ย
ปุ๋ยมีประโยชน์ต่อการเกษตรและสิ่งแวดล้อม ดังนี้
ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน
ช่วยป้องกันดินพังทลาย
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ
ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของพืช
ช่วยเพิ่มการต้านทานโรคและแมลงของพืช
การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม
การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสมช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้
ชนิดของพืชและความต้องการธาตุอาหารของพืช
สภาพของดิน
ฤดูกาล
ปริมาณน้ำฝน
นอกจากนี้ ควรใช้ปุ๋ยอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อดินและสิ่งแวดล้อม