<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
วิธีสร้างความรวย "ด้วยข้าวเกรียบปลา"
“ข้าวเกรียบ” เป็นอาหารว่างที่คนนิยมบริโภคกันมานาน และแพร่หลายไปทั่วประเทศ โดยใช้เป็นกับแกล้ม รับประทานเล่น และยังเป็นของฝากได้อีกด้วย
“ข้าวเกรียบ” เป็นอาหารว่างที่คนนิยมบริโภคกันมานาน และแพร่หลายไปทั่วประเทศ โดยใช้เป็นกับแกล้ม รับประทานเล่น และยังเป็นของฝากได้อีกด้วย เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันจึงมีการผลิตข้าวเกรียบหลากหลายชนิดออกมา แต่ที่ยังคงครองความนิยมไม่เปลี่ยน คือ ข้าวเกรียบกุ้งและข้าวเกรียบปลา วันนี้ จึงนำข้อมูล “ข้าวเกรียบปลาทะเล” การแปรรูปวัตถุดิบที่มีอยู่มากในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ มาให้พิจารณาดู
ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลการทำ “ข้าวเกรียบปลาสด” คือ มาหามะ มูนะ ประธานกลุ่มข้าวเกรียบปลาบ้านใหม่ ต.กะลุวอเหนือ จ.นราธิวาส ซึ่งเล่าให้ฟังถึงการทำข้าวเกรียบปลาของกลุ่มว่า เพราะพื้นที่ตำบล กะลุวอเหนืออยู่ติดชายทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก สมัยก่อนนั้นจะมีปลาเยอะมาก แต่ละครัวเรือนจึงมักนำปลาที่เหลือมาถนอมอาหารและแปรรูปโดยการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ทำปลาเค็ม_ หมักทำนํ้าบูดู และทำข้าวเกรียบปลา ซึ่งสามารถนำไปขายตามตลาดได้ จากนั้นก็ได้ทำออกมาขายเรื่อย ๆ
ต่อมาระยะหลังปลามีน้อย จับปลาไม่ได้ รายได้หลักที่เคยได้จากการหาปลาขาดหายไป ทำให้แต่ละครัวเรือนเกิดปัญหาการเงิน จนในที่สุดเกิดการรวมตัวของกลุ่มแม่บ้าน เพื่อผลิตสินค้าชุมชนออกจำหน่ายในท้องตลาด ปัจจุบันสมาชิกกลุ่มข้าวเกรียบปลา มีรายได้เข้ากระเป๋าเฉลี่ยคนละหลายพันบาท
อุปกรณ์ ที่ใช้ในการทำ มี เตาแก๊ส เขียง ครก อ่างผสม แผ่นกระดานสำหรับปั้นข้าวเกรียบ ลังถึงสำหรับใช้นึ่ง มีดสำหรับหั่น กระด้ง หรือแผงสำหรับตากข้าวเกรียบ และเครื่องใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่หยิบยืมเอาจากใน ครัวได้
วัตถุดิบ ที่ใช้ มี แป้งมัน 1 กก. เนื้อปลาหลังเขียว 600 กรัม เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 3 ช้อนโต๊ะ นํ้าตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมโขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ นํ้าเดือด 1 ถ้วยตวง นํ้าสะอาด ½1/2 ถ้วยตวง และเกลือเม็ด
ขั้นตอนการทำ “ข้าวเกรียบปลาสด”
เริ่มจากนำปลาหลังเขียวมาล้างให้สะอาด ควักไส้ทิ้งและชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ นำเนื้อปลามาล้างนํ้าเกลือเพื่อดับกลิ่นคาว 1-2 ครั้ง ก่อนจะนำไปลวกนํ้าร้อนให้เนื้อปลาพอสุก ๆ ดิบ ๆ เสร็จแล้วนำเนื้อปลาที่ได้ไปโขลกหรือบดให้ละเอียดและเหนียว
โขลกพริกไทยกับกระเทียมให้ละเอียด แล้วนำส่วนผสมพริกไทยกระเทียมที่ได้มามาผสมกับเนื้อปลาที่บดเตรียมไว้ คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันดี ตั้งพักไว้สักครู่
เทแป้งมันที่เตรียมไว้ใส่ลงในอ่างผสม ค่อย ๆ เทนํ้าเดือดจัดลงในส่วนผสมแป้ง นวดแป้งกับนํ้าร้อนพอเข้ากัน แล้วจึงใส่ส่วนผสมเนื้อปลา ปรุงรสชาติด้วยเกลือ นํ้าตาล นวดส่วนผสมแป้งกับเนื้อปลาไปเรื่อย ๆ (ระหว่างนวด ต้องคอยพรมนํ้าทีละน้อย เพื่อไม่ให้แป้งแข็งจนเกินไป เพราะถ้าแป้งแข็งเกินไปข้าวเกรียบอาจจะแตกได้ )
เมื่อส่วนผสมแป้งกับเนื้อปลาเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน ให้ปั้นเป็นแท่งกลมยาว ใส่ลังถึงที่กรุด้วยใบตอง นึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วตั้งทิ้งไว้ค้างคืนเพื่อให้ผิวนอกแข็ง เพื่อสะดวกในการหั่น
ใช้มีดหั่นข้าวเกรียบที่นึ่งแล้วเป็นชิ้น ๆ ขนาดหนา-บางตามความต้องการ นำมาวางเรียงในกระด้งให้เต็ม ก่อนจะนำไปตากแดดประมาณ 1-2 แดด เมื่อข้าวเกรียบแห้งสนิทดีแล้ว ก็พร้อมบรรจุถุงขาย หากจะรับประทานก็ให้นำไปทอดนํ้ามันร้อนจัด ข้าวเกรียบจะพองตัว กรอบ อร่อย
ข้าวเกรียบปลาสดเป็นสินค้าที่นำรายได้มาสู่สมาชิกกลุ่มค่อนข้างสูง นอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีคุณภาพดี สด ใหม่ ผลิตจากปลาหลังเขียวแท้ ไม่มีสารกันบูด สารกันเชื้อรา ผงชูรส สารแต่งกลิ่นปรุงรสใด ๆ ไม่มีกลิ่นคาว
ข้อมูลจาก
http://ไปที่..link..
ผู้ประกอบการ SMEs OTOP วิสาหกิจชุมชน ท่านใดกำลังมองหาแล็บทดสอบผลิตภัณฑ์ด้าย เกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม
-เพื่อขอขึ้นทะเบียน อย.
-เพื่อจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า
-ส่งออกไปต่างประเทศ
-งานวิจัย
-เพื่อทราบผล
ให้เซ็นทรัลเเล็บไทยหนึ่งในผู้นำแล็บทดสอบผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆของ ASEN และได้รับการยอมรับทั่วโลก ด้วยห้องปฏิบัติการมาตรฐานระดับสากล เป็นผู้ช่ายในการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ของท่าน ผ่านวิธีการทดสอบที่ถูกต้องแม่นยำและน่าเชื่อถือ
สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้
http://ไปที่..link..
สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่ที่ต้องการตรวจฉลากโภชนาการ สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้
http://ไปที่..link..