<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
กรมการข้าวเตือน ระวังโรคไหม้ระบาด
ในสภาพอากาศมีความชื้นสูง ทั้งทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งทำให้เกิดโรคไหม้ระบาดได้ง่าย และในระยะนี้หลายพื้นที่อยู่ระหว่างข้าวตั้งท้องถึงออกรวง ชาวนาควรหมั่นสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบการอาการของโรคไหม้ ให้รีบดำเนินการควบคุมและหาทางป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบผลผลิตได้
นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า โรคไหม้สาเหตุเกิดจากเชื้อรา โดยในระยะกล้าใบมีแผลจุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา มีสีเทาอยู่ตรงกลางแผล ความกว้างของแผลประมาณ 2-5 มิลลิเมตร และความยาวประมาณ 10-15 มิลลิเมตร แผลสามารถขยายลุกลามและกระจายทั่วบริเวณใบ ถ้าโรครุนแรงกล้าข้าวจะแห้งฟุบตาย อาการคล้ายถูกไฟไหม้ ระยะแตกกอ อาการพบได้ที่ใบ ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น ขนาดแผลจะใหญ่กว่าที่พบในระยะกล้า แผลลุกลามติดต่อกันได้ที่บริเวณข้อต่อ ใบจะมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และมักหลุดจากกาบใบเสมอ และระยะคอรวง (ออกรวง) ถ้าข้าวเพิ่งจะเริ่มให้รวง เมื่อถูกเชื้อราเข้าทำลาย เมล็ดจะลีบหมด รวงข้าวมีสีซีดขาว แต่ถ้าเป็นโรคตอนรวงข้าวแก่ใกล้เก็บเกี่ยว จะปรากฏรอยแผลช้ำสีน้ำตาลที่บริเวณคอรวง ทำให้เปราะหักง่าย รวงข้าวร่วงหล่นเสียหายมาก การแพร่ระบาด พบโรคในแปลงที่ต้นข้าวหนาแน่น ทำให้อับลม ถ้าใส่ปุ๋ยสูงและมีสภาพแห้งในตอนกลางวันและชื้นจัดในตอนกลางคืน มีน้ำค้างยาวนานถึงตอนสายราว 9 โมง ถ้าอากาศค่อนข้างเย็น อุณหภูมิประมาณ 22-25 องศาเซลเซียส ลมแรงจะช่วยให้โรคแพร่กระจายได้ดี
การป้องกันและการกำจัดโรคไหม้ ในระบบการผลิตข้าวแบบอินทรีย์ 1)ให้ใช้พันธุ์ต้านทาน และค่อนข้างต้านทานต่อโรคไหม้ที่เหมาะสมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่พันธุ์ กข22 และ กข33 2)ควรปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงโครงสร้างของดินและช่วยเพิ่มปุ๋ยพืชสดในดิน เช่น ปลูกปอเทืองช่วงปอเทืองออกดอกสีเหลืองเต็มท้องทุ่งให้ไถกลบเพื่อจะได้ปุ๋ยพืชสด
ที่มา
http://www.farmkaset..link..
ป้องกันกำจัด โรคไหม้ โรคใบไหม้ โรคราต่างๆ ฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ ป้องกันและยับยั้งโรคพืชจากเชื้อรา
เร่งการเจริญเติบโต สร้างภูมิต้านทาน เพิ่มผลผลิต ฉีดพ่น FK-1 ที่ประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่ครบถ้วน
สามารถผสม ฉีดพ่นไปพร้อมกันได้