<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
โรคมือเท้าปาก ระบาดในเมืองไทย แต่ผู้ป่วยยังน้อยกว่า สิงคโปร์-เวียดนาม
วันนี้( 21 ก.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์โรคมือเท้าปากว่า นายกรัฐมนตรีก็เป็นห่วงไม่อยากให้มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว จึงเห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ไปดูแลสถานศึกษา หรือสถานที่อื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงเพราะประเทศเพื่อนบ้านไทยมีเสียชีวิตจากโรคนี้ หากพื้นที่ใดมีผู้เจ็บป่วย 10-20 คนสามารถจัดกิจกรรมร่วมกัน และจากการรณรงค์ให้ความรู้ในเรื่องนี้ทำให้คนมาพบหมอมากขึ้นถือเป็นเรื่องดี ที่คนตระหนักมากขึ้น เพราะก่อนป่วยแล้วไม่มาหาหมอ โอกาสตายก็มี ถ้าไปพบหมอ ทำตามหมอบอก ดูแลตั้งแต่เริ่มมีอาการ ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียชีวิต
“ผมสบายใจที่ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารดี และดีใจที่ประชาชนตระหนักเกี่ยวกับโรคนี้เมื่อเจ็บป่วยแล้วมาพบแพทย์ ผมยืนยันว่าโรงพยาบาลทั้งรัฐและเกชนสามารรถดูแลเด็กป่วยได้ ขณะนี้ได้มีหนังสือไปยังทุกหน่วยบริการเพื่อให้องค์ความรู้รวมถึงการดูแลเด็กป่วย” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในการดูแลเรื่องความสะอาดสถานศึกษาหรือศูนย์เด็กเล็กหรือสถานที่เสียง ไม่อยากให้ระบาดแล้วทำความสะอาด แต่อยากให้ทำตลอด รวมทั้ง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ควรทำให้เป็นสันดาน กลับจากทำงานล้างมือก่อนกอบลูก ไม่ใช้โหนรถเมล์เสร็จแล้วมาอุ้มลูก พ่อแม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เพราะอาจเป็นพาหะนำเชื้อมาสู่ลูกได้ ศูนย์กีฬาต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์รวมเด็ก ควรมีการทำความสะอาดด้วย
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การระบาดของโรคมือเท้าปากในช่วงนี้ทุกปีก็เป็นแบบนี้ เพราะเดือนมิ.ย.เด็กไปโรงเรียน ฝนตกเชื้ออยู่ได้นานเพราะความชื้น โดยตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ดังนั้นหากมีเด็กป่วยให้รีบมาโรงพยาบาล สำหรับเชื้อไวรัสมือเท้าปากนั้นได้มีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการตลอดและยังไม่พบเชื้อรุนแรง หรือเชื้อที่กลายพันธุ์ โดยเฉพาะเอนเทอโรไวรัส 71 ยังไม่มีตัวใหม่ ที่ทำให้เกิดแทรกซ้อนถึงตายได้ เชื้อในกลุ่มไวรัสเอนเทอโรยังไม่มีการกลายพันธุ์เพียงแต่จะแยกแยะสายพันธุ์ย่อยได้มากน้อยแค่ไหน และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีคนเสียชีวิต
นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า มีสถานศึกษาหลายแห่งที่ปิดโรงเรียนแต่ไม่เป็นข่าวก็เยอะ ตรงนี้เป็นอำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียนโดยตรง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขจะส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วกว่า 1,000 หน่วยไปให้คำแนะนำ ทำความสะอาด เอาเอกสารไปให้ครูสอนเด็ก ที่ผ่านมาพบว่า ศูนย์เด็กเล็กกว่าหมื่นแห่งขององค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศแทบไม่มีเด็กป่วยโรคมือเท้าปาก เพราะได้รับการอบรมให้ดูแลและตรวจร่างกายเด็กทุกเข้า อย่างไรก็ตามมีพ่อแม่ผู้ปกครองบางคน อยากให้ลูกเป็นในปีนี้เพราะเชื้อไม่รุนแรง เป็นแล้วจะได้มีภูมิต้านทานไปตลอด แต่หลายคนก็ไม่อยากให้ลูกป่วยเพราะพ่อแม่ต้องดูแลลูกเหนื่อย
“ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคมือเท้าปากน้อยกว่า สิงคโปร์ และเวียดนาม อย่างสิงคโปร์มีผู้ป่วยกว่า 2 หมื่นราย เวียดนามกว่า 6.3 หมื่นราย ดังนั้นอย่ากังวลเรื่องนี้ เพราะสาธารสุขเราดีมาก มาตรการปิดโรงเรียนบางประเทศไม่ใช้ แต่ไทยใช้ ขอความกรุณาผู้ปกครองหากปิดอย่าไปต่อต้านเพราะเราป้องกันไม่ให้ลูกหลานท่านป่วย”นพ.พรเทพ กล่าวหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1422
นพ.พรเทพ กล่าวด้วยว่า ปีนี้พบโรคไข้หวัดใหญ่น้อยต้องขอบคุณรัฐบาลที่ให้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาทซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3.5 ล้านโดส มีกลุ่มเสียงมาฉีดวัคซีนกว่า 1 ล้านคนแล้ว ดังนั้นในกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ฉีด ขอให้มาฉีดวัคซีนได้
ด้าน พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กล่าวว่า หากเด็กมีไข้สูงเกิน 48 ชม.หรือ 2 วัน หรืออาการไม่ดี เช่น ชัก เกร็ง อาเจียน พูดไม่รู้เรื่อง ตาขวาง ๆ ให้พ่อแม่ผู้ปกครองรีบพาบุตรหลานไปพบแพทย์ ในส่วนของ รพ.เด็กตอนนี้มีคนไข้มาพบแพทย์มาก ก็จะเช็ดทำความสะอาดลิฟท์ทุก ชม. และมีน้ำยาให้ล้างมือทำความสะอาด ทั้งนีพยายามสอนให้พ่อแม่ไม่ให้เอามือเข้าปากโดยไม่จำเป็น โดยมาตรการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ มีความสำคัญในการป้องกันโรค เพราะพ่อแม่เวลาป้อนอาหารลูกเอาเข้าปากตัวเองอาจแพร่เชื้อได้
“ช่วงนี้นอกจากโรคมือเท้าปากแล้วควรระหวังโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย สำหรับโรคติดเชื้อจำนวนผู้ป่วยในปัจจุบันลดลงมาก แต่ปัญหาจากอุบัติเหตุ พลัดตก หกล้ม รถชน จมน้ำเจอเยอะมาก” พญ.ศิราภรณ์ กล่าว.
จาก dailynews.co.th