ผลไม้ไทยอุปสรรคเพียบ เจอกีดกันทั่วอาเซียน

ผลไม้ไทยอุปสรรคเพียบ เจอกีดกันทั่วอาเซียน วงเสวนาอนาคตผักผลไม้ไทยในอาเซียน พบอุปสรรคขวางหน้าเพียบ เจอกีดกันสารพัด หลักการเคลื่อนย้ายสินค้าเสรีกลายเป็นเลื่อนลอย เพราะทุกประเทศต่างพัฒนาเพื่อตัวเอง

การเสวนาอนาคตผักและผลไม้ไทยในอาเซียน จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ บรรดานักวิชาการ ผู้ประกอบการตลอดจนเกษตรกรต่างนำข้อมูลมารายงานว่าพบมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางการค้ามากมาย

ดร.จันทร์จรัส เรี่ยวเดชะ ผอ.ฝ่ายเกษตร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย กล่าวว่าจากการศึกษาของฝ่ายเกษตรพบว่า ผลิตผลที่ส่งออกได้ เริ่มมีปัญหามากขึ้น ประเทศจีนมีเงื่อนไขใหม่ ๆ ประเทศในกลุ่มอาเซียนบางแห่งก็พัฒนาตามการผลิตของไทย เช่นเวียดนาม มาเลเซีย ที่เคยเน้นผลิตยาง ก็สนใจผลไม้มากขึ้น อินโดนีเซียซึ่งเป็นแหล่งส่งออกผลไม้ที่สำคัญของไทย ก็มีแนวทางคล้ายกัน

“ทุกประเทศมีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงด้านอาหารจึงพยายามพัฒนาและไม่อยากนำเข้า ถ้าไม่จำเป็น เราจึงต้องพิจารณาว่าอีก 2–3 ปีข้างหน้า เราจะยังดำรงความสามารถในการแข่งขันอยู่หรือไม่ ปัจจุบันแม้ไทยจะมีเกษตรกรที่ชำนาญ มีเทคโนโลยีสูง สภาพอากาศเหมาะสม แต่ก็มีปัจจัยอื่นที่มากระทบ เช่น ค่าจ้างเพิ่มขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง การใช้พื้นที่เพาะปลูกไปผลิตพืชพลังงานและการถูกประเทศอื่น พัฒนาผลไม้ และบางประเทศเช่นเวียดนามกำลังจี้ตามเรามาติด ๆ”

ดร.จันทร์จรัสกล่าวว่า การเสวนาเพื่อหาข้อมูลเพื่อการปรับตัว เช่นไม่ควรแข่งขันเชิงปริมาณ หรือการผลิตเพื่อขายของราคาถูก แต่ต้องทำให้ได้ของดีที่สุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหาวิธีสนับสนุนผลไม้ที่เป็นที่ต้องการเช่นมะม่วง ลำไย เพื่อจัดการให้เกษตรกรมีโอกาสมากขึ้น นอกจากนี้ ต้องพิจารณาผลที่ตามมาจากการเปิดการค้าเสรีที่ผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามารับซื้อผลผลิตเองได้ ต้องเป็นไปอย่างถูกต้องเหมือนคนไทย เสียภาษีเหมือนกัน มีการกำกับดูแลที่เป็นประโยชน์กับประเทศ

การสัมมนาเดียวกัน ได้เสนอยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ โดยมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจัดตั้งระบบตลาดกลางที่มีการบริหารจัดการ และโครงสร้าง ไม่เน้นอาคารสิ่งปลูกสร้าง ไม่อยู่ภายใต้การจัดการของรัฐ เพื่อความคล่องตัวในการแสวงหาตลาด เป็นแหล่งที่ผู้ซื้อ ผู้ขาย มีโอกาสมาพบกัน มีสถานที่จัดเก็บ มีกฎเกณฑ์ที่เป็นธรรม โดยยึดแนวทางของสหกรณ์การเกษตรท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่บริหารจัดการได้ดี สามารถหาตลาดรับซื้อต่างประเทศได้เอง.

................................... อุปสรรคดักอยู่รอบด้าน

ในการศึกษาวิจัยอุปสรรคการค้าผลไม้ไทยในอาเซียน พบว่าประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศไทย ต่อเนื่องกับจังหวัดสระแก้ว มีภูมิประเทศและสภาพอากาศใกล้เคียงกับแหล่งผลไม้ของไทย จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาพืชผลให้ได้คุณภาพสูงแข่งกับประเทศไทย

ประเทศมาเลเซีย ก็กำลังพยายามพัฒนาการผลิตผลไม้ให้ดีขึ้น ส่วนประเทศอินโดนีเซีย ผู้นำเข้าลำไยรายใหญ่จากประเทศไทย ก็มีมาตรการที่เป็นอุปสรรคมากขึ้น โดยนอกจากกฎกระทรวงควบคุมสินค้าทางการเกษตรจากต่างประเทศ ทำให้การนำเข้าผลไม้สดต้องเปลี่ยนจากการบรรจุในตู้คอนเทเนอร์เดียว เป็นการจัดการให้ผลไม้สดแต่ละชนิดผ่านเข้าด่านต่าง ๆ ตามระเบียบที่กำหนด เช่นส้มโอ ต้องขึ้นท่าเรือสุราบายา ลิ้นจี่ขึ้นท่าเรือเมืองเมดาน น้อยหน่า ส่งที่สนามบินกรุงจาการ์ตา ส้ม ฝรั่ง มะม่วง มังคุด มะละกอ ขึ้นที่ท่าเรือเมืองมากาซซ่า ชมพู่ เงาะ ส่งทางเครื่องบิน ส่วนทุเรียน ลำไย สับปะรด มะขาม นำเข้าได้ทุกจุดทั่วประเทศ

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น