กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร

กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าจำนวน 7 ชนิดสินค้า ได้แก่ โคเนื้อ โคนม ข้าว ชา กาแฟ สุกร และปาล์มน้ำมันนั้น พบว่า จากผลการดำเนินงานที่ได้รับการจัดสรรเงินตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบัน กองทุนได้พิจารณาจัดสรรเงินเพื่อช่วยเหลือสินค้าที่ได้รับผลกระทบทั้ง 7 ชนิด จำนวน 14 โครงการ เป็นเงิน 554.82 ล้านบาท

สำหรับในปี 2555 นั้น ขณะนี้กองทุนเอฟทีเอ ได้อยู่ระหว่างการพิจารณากลั่นกรองโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าในปี 2555 จำนวน 11 โครงการ เป็นเงิน 296.75 ล้านบาท อาทิ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากเนื้อโคขุนมาตรฐานฮาลาล 29.51 ล้านบาท โครงการจัดตั้งโรงฆ่ามาตรฐานและการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตเนื้อโคธรรมชาติ 5.4 ล้านบาท โครงการเพิ่มศักยภาพการเลี้ยงโคนมเพื่อรองรับเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ 25.8 ล้านบาท โครงการปรับโครงสร้างสินค้าพริกไทย 7.70 ล้านบาท โครงการปรับโครงสร้างการผลิตข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ 37.72 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบได้อย่างครอบคลุม ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ กระทรวงเกษตรฯ ได้เพิ่มการแจ้งเวียนหนังสือแนะนำกองทุนฯ และเชิญชวนให้ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสถาบันเกษตรกร ได้เสนอโครงการเพื่อรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ จาก 200 สถาบัน เป็น 300 สถาบัน รวมถึงกำหนดจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในส่วนภูมิภาคอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะการสร้างความรู้ให้แก่เกษตรกรในการเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบจากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ด้วย

ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้มีการติดตามผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินในพื้นที่ของโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ อย่างน้อยไตรมาสละ 2 ครั้ง เพื่อให้ทิศทางการดำเนินงานและการพัฒนากองทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่งความคิดเห็น