data-ad-format="autorelaxed">
วิธีปลูกต้นกล้าข้าวสาลี
1. ชุดปลูกประกอบด้วย :
ถาดปลูก ( เจาะรู ) 3 ถาด, ถาดเพาะ ( ไม่เจาะรู ) 1 ถาด, ข้าวสาลี 1 ถุง ( 1 กิโลกรัม )
2. นำข้าวสาลีประมาณ 200 กรัม มาล้างและเกลี่ยให้เต็มถาดเพาะ เติมน้ำให้ท่วม ทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง และเทน้ำออกให้ชื้นพอหมาด ๆ นำถาดเพาะมาครอบไว้อีก 24 ชม. ( ข้าวสาลีจะเริ่มแทงรากออกมายาวประมาณ 2 มม. )
3. เตรียมดินลงบนถาดปลูก เลือกให้ดินที่ไม่มีเศษไม้หรือกาบมะพร้าวเพื่อกันการเกิดเชื้อรา ควรใส่ดินให้หนาประมาณ 1 นิ้ว
4. นำเมล็ดข้าวสาลีที่เริ่มงอกมาเกลี่ยให้เต็มหน้าดิน ไม่ต้องฝังดิน เพื่อไม่ให้เศษดินมาปนเปื้อนบนใบต้นกล้าที่ปลูก รดน้ำอย่าให้แฉะจนเกินไป ถ้าแฉะไปจะเกิดเชื้อราได้ง่าย
5. นำถาดเพาะมาครอบ เพื่อจำลองสภาวะอยู่ใต้ดินของต้นกล้า ทิ้งไว้ประมาณ 1 - 2 วัน ต้นกล้าจะสูงประมาณ 1 ซม. ควรจะแยกเมล็ดที่มีเชื้อราออกเพราะเป็นเมล็ดที่ไม่งอกในขั้นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราขยายตัว
6. นำถาดปลูกต้นกล้า ไปวางในตำแหน่งที่รับแสง ถ้าให้โดนแดดโดยตรงต้องรดน้ำให้พอแต่อย่าให้แฉะและทิ้งไว้จนครบ 5-7 วัน
7. ต้นกล้าข้าวสาลี อายุ 6-8 วัน ก็พร้อมนำไปคั้นน้ำสำหรับดื่มเพื่อสุขภาพได้แล้ว
8. ตัดต้นกล้าข้าวสาลีถึงโคนต้น นำไปคั้นเป็นน้ำ สามารถปลูกต่อและตัดได้อีกรอบ การปลูก 1 ถาดจะทำให้ได้น้ำคั้นวีทกลาสประมาณ 6 ออนซ์ (ในรอบสองจะได้ประมาณ 2 ออนซ์)
9. น้ำคั้นต้นกล้าข้าวสาลีเพียงวันละ 1-1 ½ ออนซ์ ก็มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง
หมายเหตุ การปลูกวีทกลาสในประเทศไทย จะพบปัญหาเชื้อราเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆบริเวณโคนต้น เนื่องจากเมล็ดที่ไม่งอก โดยเฉพาะเมล็ดที่ถูกมอดกิน การป้องกันทำได้โดย ไม่ใช้เมล็ดข้าวสาลีที่เก่าและมีมอดมาก ล้างน้ำหลังจากแช่หลายๆครั้ง และ ล้างน้ำก่อนลงดินหลายๆครั้ง การรดน้ำอย่าให้น้ำมากจนขัง คัดเมล็ดที่มีเชื้อราออกในวันที่ 2 หลังลงดิน ไม่ควรใช้ยากำจัดเชื้อราในการปลูก เพราะอาจทำอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าเชื้อราบริเวณโคนต้นเสียอีก
วิธีป้องกันเชื้อราที่ได้ผลดีอีกวิธีคือ ในขั้นตอนเตรียมดิน เมื่อเตรียมดินเสร็จให้นำทรายมาโรยผิวหน้าโดยทั่วจนไม่เห็นสีดำของดิน แล้วจึงโรยเมล็ดเพื่อทำการเพาะ จากการทดสอบพบว่าสามารถลดเชื้อราได้อย่างดีแม้ว่าจะมีเมล็ดที่ตายตกค้างอยู่
ปัจจุบัน เริ่มมีการจำหน่ายน้ำคั้นวีทกลาสตามช้อปปิ้งเซ็นเตอร์สำคัญทั่วกรุงเทพ ราคาจำหน่ายตก ออนซ์ละ 80 - 100 บาท การปลูกวีทกลาสเองเป็นทางเลือกที่ช่วยคุณประหยัด และ สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ต้นทุนการปลูกต่อถาดตกประมาณ 20 บาท ถาดหนึ่งจะได้ประมาณ 6 -8 ออนซ์
อ้างอิง : www.goodhealth.co.th