แนะเกษตรกรดูแลพื้นที่การเกษตรช่วงฝนตกชุก

แนะเกษตรกรดูแลพื้นที่การเกษตรช่วงฝนตกชุก ในช่วงนี้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทําให้เกิดน้ําปาไหลหลาก น้ําท่วมฉับพลัน และมีน้ําท่วมขังอย่าง มาก โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งไม่เฉพาะบ้านเรือนราษฎรเท่านั้นที่ได้รับความ เสียหาย พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน ในพื้นที่ประสบภัย หน่วยราชการที่ เกี่ยวข้องได้ดําเนินการแก้ไขและช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์อย่างเต็มที่ เพื่อการป้องกันและบรรเทาความ เสียหายจากการเกิดอุทกภัย จึงขอแนะนําเกษตรกรในการเตรียมการเพื่อป้องกันพื้นที่การเกษตรของเกษตรกร ดังนี้

1. การป้องกันมิให้น้ำท่วมขัง หากเป็นสภาพพื้นที่ราบลุ่ม ขอให้เกษตรกรตรวจดูความแข็งแรงของคัน ดินรอบสวน โดยให้พิจารณาถึงความสูงและความหนาของคันดิน หากพบมีจุดบกพร่องหรือมีความสูงไม่ เพียงพอให้รีบดําเนินการเสริมคันดินดังกล่าว สําหรับสวนในสภาพพื้นที่ดอนนั้น น้ําท่วมขังมักเกิดจากน้ําปา ไหลหลาก ซึ่งระดับน้ําจะเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว ความสูญเสียมักเกิดจากความแรงของน้ําและต้นไม่ที่ น้ําพัดพารวมทั้งตะกอนดินที่อาจทับถมไว้ซึ่งยากที่จะป้องกันได้ การปลูกแนวไม้บังลมที่แข็งแรงอยู่ก่อนแล้วจะ สามารถลดความรุนแรงนี้ลงได้เป็นอย่างมาก

2. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของสวนไม้ผลที่ถูกน้ำท่วมขัง หากเป็นสวนในที่ลุ่ม ให้ดําเนินการจัด เสริมสร้างคัดดินโดยรอบให้แข็งแรงพอที่จะรองรับแรงดันของน้ำได้ จากนั้นรีบสูบน้ำออกจากพื้นที่ให้สวนแห้ง โดยเร็วจนน้ำในสวนลดลงสู้ระดับปกติ ในกรณีที่สวนนั้นไม่สามารถเสริมคันดินได้ สิ่งที่พอจะประทังได้คือ การช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ํา โดยใช้วิธีการพ่นอากาศลงในน้ําที่ท่วมขังอยู่ ซึ่งอาจใช้มอเตอร์หรือ เครื่องยนต์หมุนกังหันน้ําหรือใช้การตีให้น้ำที่ท่วมขังมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา จะเป็นการช่วยให้ออกซิเจน ละเลยในน้ำได้มากขึ้นและรากของต้นไม้สามารถนําไปใช้ได้ส่วนหนึ่งจนกว่าน้ําลด

3. ข้อควรปฏิบัติภายหลังน้ำลด สิ่งที่ต้องพึงระวังไว้ให้มากทั้งสวนในสภาพพื้นที่ลุ่มและที่ดอนคือ เมื่อระดับน้ําลดแล้วแต่ดินยังมีความเปียกชุ่มหมาดอยู่ ห้ามเดินย่ําผิวดินโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะมีผลทําให้ดิน อัดแน่นระบบรากต้นนไม้ซึ่งได้รับความกระทบกระเทือนอยู่แล้วจะได้รับอันตรายมากขึ้นและต้นตายได้โดยง่าย ควรปล่อยทิ้งไว้จนหน้าดินแห้งก่อน

ส่งความคิดเห็น