ฟาร์มเกษตร
ครบเครื่อง เรื่องปุ๋ยยา
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้าจากฟาร์มเกษตร
1. โทรสั่งซื้อที่ 089-459-9003
2. แอดไลน์ไอดี PrimPB แชทสั่งซื้อ
3. สั่งทางเฟสปริม เฟสบุ๊คปริมคลิกที่นี่
4. สั่งผ่านะระบบตระกร้าสินค้า FKX.asia
5. สั่งผ่านเว็บลาซาด้า LAZADA.co.th
ทุกช่องทาง ชำระเงินขณะรับสินค้าที่บ้านคุณ
หมวด: Agri live update | อ่านแล้ว 9893 คน | สั่งพิมพ์หน้านี้ | L

กองทุนอ้อยฯยืดส่งหนี้ธ.ก.ส.

กองทุนอ้อยฯชง ธ.ก.ส.ขยายเวลาชำระหนี้กว่า 4,000 ล้านบาท ออกไปอีก 2 เดือน จากแผนเดิมจะชำระหมดธ.ค. 54 เหตุคาดการณ์..

data-ad-format="autorelaxed">

กองทุนอ้อย หนี้ ธกส

กองทุนอ้อยฯชงธ.ก.ส.ขยายเวลาชำระหนี้กว่า 4,000 ล้านบาท ออกไปอีก 2 เดือน จากแผนเดิมจะชำระหมดธ.ค. 54 เหตุคาดการณ์ปริมาณอ้อยปี 2553/2554 ผิดพลาดที่ตั้งเป้าไว้แค่ 66 ล้านตันอ้อยแต่กลับได้ปริมาณอ้อย 95.35 ล้านตันอ้อย ส่งผลยอดหนี้เพิ่มตามปริมาณอ้อย ขณะที่ผู้ส่งออกมึน พาณิชย์ยื่นหนังสือยกเลิกคำสั่งที่ให้กระทรวงอุตฯ เป็นผู้ออกใบอนุญาตส่งออกน้ำตาลเองให้มีผล1 พ.ย.นี้ อ้างเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการค้าในปัจจุบัน

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย(กท.)ได้หารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อขอขยายเวลาชำระหนี้จำนวน 4,499 ล้านบาท ออกไปอีก 2 เดือนระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2555 จากเดิมที่มีกำหนดชำระหนี้ให้หมดภายในเดือนธันวาคมของปีนี้ โดยการนำเงิน 5 บาท/กิโลกรัม มาจากรายได้จากการขายน้ำตาลในประเทศไปชำระ

ส่วนสาเหตุที่แผนการชำระหนี้ไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากฤดูกาลผลิตอ้อยปี 2553/2554 คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณอ้อยอยู่ที่ 66 ล้านตันอ้อย แต่กลับได้ปริมาณอ้อยทั้งสิ้น 95.35 ล้านตันอ้อย จึงทำให้ยอดหนี้เพิ่มขึ้นตามปริมาณอ้อย ขณะที่ในด้านการจำหน่ายน้ำตาลสำหรับบริโภคในประเทศ(โควต้าก.) ก็มีปริมาณลดลงเนื่องจากฝนตกมากขายไม่ออก

ทั้งนี้เงินจำนวน 4,499 ล้านบาทนั้น เป็นหนี้ที่เป็นภาระผูกพันมาจากก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุบันที่มีการกู้เงินเพื่อมาเพิ่มค่าอ้อย 105 บาท/ตัน ซึ่งเรื่องนี้ทางธ.ก.ส.กำลังเสนอเรื่องพิจารณาในบอร์ดธ.ก.ส. หลังจากนั้นจึงเสนอให้ครม.เห็นชอบต่อไป

อย่างไรก็ตามปัจจุบันสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายมีภาระหนี้ทั้งสิ้น 8,399 ล้านบาทแบ่งเป็นหนี้ 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นหนี้สำหรับชดเชยราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 2549/2550 ที่ล่าสุดเหลือยอดหนี้อยู่ที่ 3,900 ล้านบาท และมีแผนชำระหนี้ระยะยาว 12 ปี ขณะนี้เหลือระยะเวลาชำระหนี้อีก 9 ปี ส่วนที่สองเป็นเงินกู้สำหรับเพิ่มค่าอ้อย 105 บาท/ตัน ที่ผูกพันมาจนถึงปัจจุบันเหลือหนี้อยู่จำนวน 4,499 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจาก ธ.ก.ส. เพื่อขอยืดเวลาชำระหนี้อีก 2 เดือน

ต่อเรื่องนี้แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกน้ำตาลกล่าวว่าเมื่อเร็วๆนี้กระทรวงพาณิชย์มีหนังสือถึงนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงการยกเลิกคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่61/2547 ที่ก่อนหน้านั้นกระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้ข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายปฏิบัติราชการแทนกระทรวงพาณิชย์ในการพิจารณาอนุญาตให้ส่งน้ำตาลทรายออกไปนอกราชอาณาจักร ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2547 และดึงเรื่องการพิจารณาการขออนุญาตส่งออกน้ำตาลทรายไปนอกราชอาณาจักรตามแบบ อ 4 หรือการพิจารณาใบอนุญาตส่งออกกลับไปดูเอง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การส่งออกน้ำตาลทรายออกไปนอกราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการค้าในปัจจุบัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เป็นต้นไป

"เมื่อกระทรวงพาณิชย์ดึงงานส่วนนี้กลับไปดำเนินการเอง ก็วิตกว่าจะเกิดความล่าช้าในการส่งออก เนื่องจากการออก อ4 ถ้าดำเนินการตามเดิมในกระทรวงอุตสาหกรรมจะสะดวกกว่า เพราะวางระบบออนไลน์เชื่อมถึงกรมศุลกากร เกรงว่าจะทำให้การขอใบอนุญาตส่งออกล่าช้าเพราะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทส่งออกน้ำตาลจะต้องไปขออนุญาตส่งออกน้ำตาลทรายไปนอกราชอาณาจักรตามแบบอ4 จากกรมการค้าต่างประเทศ โดยนำหนังสือกน.10 ที่ออกโดยศูนย์บริหารการผลิตฯ แนบประกอบการขออนุญาตด้วย"

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าปี 2553/2554 มีรายได้จากการขายน้ำตาลจำนวน 9.6 ล้านตันน้ำตาล แบ่งเป็นน้ำตาลบริโภคในประเทศ(โควตาก.)จำนวน 2.5 ล้านตัน หรือ 25 ล้านกระสอบ และเป็นโควตาส่งออก(โควตาข.และโควตาค.)จำนวน 7.1 ล้านตัน รวมเป็นเม็ดเงินที่หมุนเวียนในอุตสาหกรรมน้ำตาล 180,000 ล้านบาท(ยังไม่รวมค่าอ้อย) และขณะนี้มีการขายน้ำตาลล่วงหน้าฤดูการผลิตปี2554/2555ไปแล้วเกือบ 90% อย่างไรก็ตามฤดูการผลิตปี 2553/2554 ถ้ามองในแง่ราคาและการเติบโตถือว่าเป็นปีที่ขยายตัวดี เริ่มจากที่ผลผลิตอ้อยที่มีปริมาณสูงเกินเป้าที่ตั้งไว้โดยมีมากถึง 96 ล้านตันอ้อย และผลิตเป็นน้ำตาลได้ 9.6 ล้านตันน้ำตาล ถือว่าปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่สูงเป็นประวัติศาสตร์ ขณะที่ราคาตลาดโลกยังอยู่ในภาวะขาขึ้น

"ตอนนี้กลุ่มน้ำตาลมีปัญหาตรงที่มีปริมาณอ้อยและน้ำตาลมากขึ้นทำให้คุณภาพอ้อยออกมาไม่ดี ขณะที่ผลผลิตต่อไร่ก็ไม่ดี ผลผลิตออกมาค่อนข้างต่ำ ทำให้เปอร์เซ็นต์การผลิตแย่ มีสิ่งเจือปนมาก บวกกับมีปัญหาการขนส่งที่ล่าช้ากว่าเดิม รวมไปถึงคลังสินค้าสำหรับเก็บน้ำตาลก็มีไม่เพียงพอ โดยรวมมองว่าพอมีปริมาณน้ำตาลมากก็ทำให้การจัดการลำบากขึ้น เพราะส่งมอบให้ลูกค้าล่าช้า ทำให้ต้นทุนเรื่องการขนส่งแพงขึ้น มีการเรียกค่าขนส่งทางเรือ(เรือโป๊ะ)สูงขึ้น"

อ้างอิง: จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,671 18-21 กันยายน พ.ศ. 2554

 

 


อ่านเรื่องนี้แล้ว : 9893 คน £




ความคิดเห็นจากผู้อ่าน:

ส่งความคิดเห็น



เลือกหมวด :

แสดงเนื้อหารวมจากทุกหมวด, สินค้าเกษตร, ไอเดียและเทคโนโลยีเกษตร, รวม VDO เด่นจาก FK, นาข้าว, เศรษฐกิจเกษตร, ภาพถ่ายเกษตร, ไร่อ้อย, มันสำปะหลัง, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, ไร่ข้าวโพด, ผักและการปลูกผัก, การปลูกพืช, ไม้ผล ไม้ยืนต้น, เกษตรน่ารู้, สมุนไพร, ไม้มงคล, พุทธศึกษา, FK Talk, สุขภาพ, การใช้ SUN กับพืชต่างๆ, แอพฯด้านเกษตร, ไม้ดอก ไม้ประดับ, องค์กรด้านเกษตร, ซื้อขายที่ดิน, ห้องปศุสัตว์, ประมง, เกษตรกรตัวอย่าง, ฟาร์มเกษตรพาเที่ยว, FK Freestyle, Agri live update, ออแกนิกส์, จักรกล, อุปกรณ์การเกษตร, ไร่กาแฟ,


แสดงทั้งหมดใน [Agri live update]:
คาราวานส้มสีทอง GI น่าน สู่ห้างสรรพสินค้า TOP Supermarket
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก) ร่วมกับ หน่วยงานภาคีต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดแถลงข่าวส้มสีทอง GI น่าน..
อ่านแล้ว: 6512
เปิดปฏิบัติการ แผนแก้จน คลังผนึกพาณิชย์-แรงงาน-เอกชน ระดมกำลังสร้างอาชีพ-เพิ่มรายได้
คนจนหมดประเทศ! กลายเป็นวลีที่ถูกค้นหา และพูดถึงกันมากในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะคำนี้ถูกตีความมาจากคำกล่าวของ..
อ่านแล้ว: 6570
อึ้ง! พบสารเคมีตกค้าง เกินมาตรฐานในผัก-ผลไม้
อึ้ง!! พบสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน 64% ถั่วฝักยาว คะน้า ใบบัวบก กะเพรา พริกแดง องุ่น แก้วมังกร
อ่านแล้ว: 6532
ค้านทำเหมืองหินชัยภูมิ ยื่นศูนย์ดำรงธรรมช่วย
คัดค้านขอใช้ประโยชน์พื้นที่ทำเหมืองแร่หินก่อสร้าง ของบริษัท พารุ่งฯ หลังคณะกรรมการตรวจสอบไฟเขียว ส่งให้กรมป่าไม้พิจารณา
อ่านแล้ว: 7785
ครม.ไฟเขียว งบปลูกพืชแทนข้าว 2 โครงการ 488ล.
ครม.อนุมัติ 488 ล้าน หนุนลดพื้นที่ปลูกข้าว 2 โครงการ หันไปปลูกพืชหลากหลาย ปลูกพืชปุ๋ยสด
อ่านแล้ว: 6177
พบ หนอนตัวแบนนิวกินี ทุกภาคทั่วไทย แนะควรทำลายป้องกันการระบาด
นักวิชาการเผยพบ หนอนตัวแบนนิวกินี ในพื้นที่ทุกภาคทั่วประเทศแล้ว แนะควรทำลายทิ้งเพื่อป้องกันการระบาด
อ่านแล้ว: 6333
ส.ป.ก. เตรียมแจกที่ดินยึดคืน แก่เกษตรกรเพิ่มอีก 5จ. กว่าหมื่นไร่

อ่านแล้ว: 5613
หมวด Agri live update ทั้งหมด >>