data-ad-format="autorelaxed">
IMO: ไอเอ็มโอ
ป้องกัน กำจัดเชื้อรา ป้องกันโรคทางดิน
ใช้ฉีดพ่นลงดิน เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประสิทธิภาพลงในดิน ปรับปรุงดินให้มีคุณภาพ ใช้ฉีดพ่น เพื่อย่อยสลายใบไม้ หรือซากพืช ซากสัตว์ในพื้นที่ เพื่อเร่งขบวนการย่อยสลายอินทรียวัตถุ ให้กลายเป็นธาตุอาหารที่มีประโยชน์ในดินต่อๆไป
ราคา และวิธีการสั่งซื้อ
ไอเอ็มโอ
จุลินทรีย์ประสิทธิภาพสูง
ดินดี ต้นใหญ่ โตไว ไกลโรค
*โปรดอ่าน สำหรับสินค้าสามรายการดังนี้ 1.IMO(ไอเอ็มโอ) 2.Bio-N(ไบโอ-เอ็น) และ 3.IC-KIT2(ชุดย่อยสลายตอซังฟางข้าว) กรณีจัดส่งทางไปรษณีย์ ทางฟาร์มเกษตรจะทำการใช้สติกเกอร์แผ่นเล็กๆ ปิดรูระบายอากาศที่ฝาด้านบนของขวด ก่อนจัดส่งให่ท่าน เนื่องจากสินค้าทั้งสามรายการนี้ ประกอบด้วยจุลินทรีย์ แพ็คเกจจึงต้องมีรูระบายอากาศเล็กๆ ฉนั้นก่อนเราทำการจัดส่ง จึงต้องปิดรูเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัว IC KIT2 ย่อยสลายฟางข้าว เราจำเป็นต้องตัดพลาสติกหุ้มแพคเกจก่อน แล้วจึงจะใช้สติกเกอร์ปิดรูได้ |
มีขนาด 3 ลิตร และขนาด 20 ลิตร
- เพิ่มการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน และเศษซากพืชซากสัตว์ในดิน
- ป้องกันการเกิดโรคทางดิน ได้แก่ โรครากเน่าโคนเน่า โรคเส้นดำ โรครากขาวโรคเหี่ยว
- ป้องกันโรครา เช่นราแป้ง ราใบจุด โรคใบร่วง - เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน
- ปรับสภาพดิน และพัฒนาโครงสร้างดิน - เพิ่มประสิทธิภาพการปลดปล่อยธาตุอาหารในดิน
- เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน
- ลดปัญหาการเกิดโรคทางดิน * ข้อสำคัญ ห้ามใช้ร่วมกับสารเคมี หรือสัมผัสกับสารเคมี เนื่องจาก สารเคมีจะทำให้จุลินทรีย์ประสิทธิภาพสูงเสื่อมคุณภาพ และตาย
จุลินทรีย์ท้องถิ่น (IMO)
ในปัจจุบันนี้เกษตรกรได้หันมาผลิตพืชเชิงเดี่ยวเพื่อการค้าและการส่งออกมากยิ่งขึ้น ซึ่งการปลูกพืชซ้ำ ๆ กันในพื้นที่เดิมเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการบำรุงดินย่อมส่งผลให้ดินเสื่อมโทรม ผลผลิตตกต่ำ ต้องใช้ปุ๋ยใช้ยาเพิ่มมากขึ้น การพึ่งพาปัจจัยเหล่านี้ย่อมทำให้เกษตรกรเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เนื่องจากราคาผลผลิตถูกผูกขาดและกำหนดราคาโดยกลไกของระบบตลาดทุน ซึ่งเกษตรกรรายย่อยไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อปัจจัยการผลิตมีราคาแพงขึ้น ในขณะที่ปริมาณผลผลิตและราคาผลผลิตก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม ย่อมทำให้เกษตรกรประสบกับภาวะขาดทุนและมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากทุกที รวมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตก็เสื่อมโทรมลง เนื่องจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมีเหล่านี้
ความหมายและความสำคัญของจุลินทรีย์ในท้องถิ่น
ทั้งนี้ การนำจุลินทรีย์ท้องถิ่นหรือจุลินทรีย์พื้นบ้านมาปรับใช้กับระบบผลิตของเกษตรกรอาจเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับเกษตรกรได้ เนื่องจากเป็นเทคนิคที่สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่นที่แตกต่างกันเพราะมีการนำเอาจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ภายในท้องถิ่นนั้น ๆ มาทำเป็นหัวเชื้อสำหรับนำไปขยายและประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ช่วยปรับปรุงบำรุงดินให้ดีขึ้น สามารถปลูกพืชงอกงาม ให้ผลผลิตสูง ทำให้ธรรมชาติเกิดความสมดุล โรคและแมลงศัตรูพืชลดลง รวมทั้งเกษตรกรก็ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีในการผลิต ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต เกษตรกรสามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตของเกษตรกรก็ดีขึ้นตามไปด้วย
โดยทั่วไป จุลินทรีย์ท้องถิ่นหรือจุลินทรีย์พื้นบ้านจะหมายถึง จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในขอบเขตของระบบนิเวศนั้น ๆ ไม่ได้นำเข้ามาจากภายนอกระบบ ภายนอกท้องถิ่น ภายนอกเมือง ภายนอกประเทศ หรือภายนอกภูมิภาคโลกนั้น ๆ เรียกเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Indigenous Micro Organisms (IMO)
ไอ เอ็ม โอ (IMO) เป็นชื่อเฉพาะที่สมาคมเกษตรธรรมชาติแห่งประเทศเกาหลี ใช้เรียกราใบไม้สีขาว ซึ่งเป็นจุลินทรีย์กลุ่มเล็ก ๆ ในกลุ่มราเมือก (Leaf Mold) ที่อาศัยอยู่ภายในขอบเขตพื้นที่เพาะปลูก เป็นสายพันธุ์ที่จะใช้ประโยชน์ในการทำการกสิกรรมไร้สารพิษได้ดี มีคุณภาพสูง จุลินทรีย์ท้องถิ่นเหล่านี้มีประสิทธิภาพดีกว่าจุลินทรีย์ที่ได้จากน้ำหมักอีเอ็ม หรือ พ.ด. สูตรต่าง ๆ เนื่องจากเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก หลากหลายชนิด สามารถปรับตัวและเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นนั้น ๆ และประการสำคัญคือ จุลินทรีย์ท้องถิ่นนั้น เกษตรกรไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหนเพราะมีอยู่แล้วภายในท้องถิ่น อีกทั้งสามารถผลิตใช้ได้เองไม่ยุ่งยาก สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งสามารถพัฒนาคิดค้นสูตรที่เหมาะสมกับระบบการผลิตของตนเองได้อีกด้วย
ประโยชน์ของเชื้อราขาว (จุลินทรีย์ท้องถิ่น)
1. ช่วยย่อยสลายเร็ว (ทำปุ๋ยหมัก)
2. ปรับความเป็นกรดด่างของดิน หรือ pH
3. ทำให้ดินปลดปล่อยแร่ธาตุ
4. ทำให้ดินโปร่ง มีออกซิเจน จุลินทรีย์ทำงานได้เต็มที่ มีประสิทธิภาพ
5. ทำให้พืชต้านทานโรคที่เกิดจาก เชื้อรา โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส โรคที่เกิดจากไส้เดือนฝอย และดับกลิ่นเหม็นในคอกสัตว์
6. เพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน
วิธีใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ท้องถิ่น IMO
เวลาใช้ให้ผสมน้ำในอัตราส่วน IMO 1 ส่วน : น้ำ 1,000 ส่วน หรือ IMO 2 ช้อนโต๊ะ : น้ำ 10 ลิตร แล้วคลุกผสมกับรำข้าว สัดส่วนที่เหมาะสมจะกำหนดได้ยาก เราต้องทดลองกำดู ผสมแล้วกำไว้ เมื่อคลายมือแบออกก้อนรำผสมนั้นจะอยู่คงรูป ถ้าส่วนผสมเหลวเกินไปเพราะน้ำมากไปเราจะต้องเติมรำเข้าไปคลุกอีกจนได้ลักษณะที่ต้องการ
ส่วนผสมที่เราทำขึ้นนี้จะเป็นเชื้อดินหมักที่เราจะใช้สำหรับเอาไปโรยบนดินที่ต้องการทำการเพาะปลูก เมื่อผสมแล้วเราต้องเอาฟางคลุมทิ้งไว้อีก 7-10 วัน เชื้อดินหมักจะได้ที่ ฟางที่คลุมนั้นถ้าสานเป็นเสื่อฟางได้จะดีมาก
จุลินทรีย์ IMO ชอบนอนใต้ฟาง กองเชื้อดินหมักนี้ต้องทำในร่ม ใต้หลังคา อย่าให้ถูกฝนถูกน้ำ การใช้ประโยชน์ IMO โดยทั่วไปจะมี 2 ลักษณะใหญ่ ๆ ได้แก่
1. เพื่อใช้ปรับโครงสร้างของดิน โดยเอาดินในพื้นที่ของเราน้ำหนักเท่ากับเชื้อดินหมัก คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทำเป็นกอง เอาฟางคลุมไว้ดังเดิม ทิ้งไว้อีก 3 วันแล้วจึงนำไปใช้โรยในไร่นาเพื่อเตรียมดินทำการเพาะปลูกได้
2. เพื่อใช้เป็นส่วนผสมกับปุ๋ยหมักให้มีคุณภาพสูงขึ้น โดยใช้เชื้อดินหมักประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อน้ำประมาณ 200 ลิตรที่จะใช้ทำการหมัก และทำตามกระบวนการหมักทั่วไป
โดยสรุปแล้วเทคนิคเกี่ยวกับจุลินทรีย์ท้องถิ่น คงไม่ได้เป็นเพียงเทคนิคสำหรับการปรับปรุงบำรุงดินเท่านั้น หากแต่ชวนให้ตระหนักถึงการปรับเปลี่ยนกระบวนความคิดความเชื่อของเกษตรกรไทย จากการเป็น “เกษตรกรมือสอง” ที่คอยแต่พึ่งพาเทคโนโลยีของระบบทุน ให้กลับมาเป็น “เกษตรกรมือหนึ่ง” ที่สร้างองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมของตนเองขึ้นมาดังเช่นเกษตรกรในอดีต ที่ได้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาขึ้นมามากมาย รวมถึงแสดงให้เห็นถึงแนวทางในการปรับเปลี่ยนระบบการผลิต จากการผลิตที่ถูกครอบงำโดยปัจจัยภายนอก มาเป็นการผลิตที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี
แม้ในวันนี้การปรับเปลี่ยนกระบวนความคิดและระบบการผลิตของเกษตรกรไทยโดยรวม ยังเป็นสิ่งที่ยากลำบาก แต่เมื่อใดก็ตามที่ยังมีเกษตรบางส่วนเลือกที่ศึกษาภูมิปัญญาดังเดิมและพัฒนาองค์ความรู้ที่สอดคล้องกับวิถีการผลิตและวัฒนธรรมของชุมชน ก็เชื่อได้ว่าเกษตรกรเหล่านี้จะคอยเป็นแรงผลักดันอันมีค่าที่จะช่วยขับเคลื่อนขบวนการเกษตรกรไทยให้เดินไปสู่วิถีการเกษตรแบบยั่งยืนที่มีคุณค่า พึ่งพาตัวเองได้ในที่สุด
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก http://www.agkmstou.com