data-ad-format="autorelaxed">
นางสาวภาณี บุณยเกื้อกูล ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเกษตรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) ตั้งแต่ปี 2557 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้เกษตรกรไทยให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยี และการบริหารจัดการเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างทันยุคสมัย มีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ และพัฒนาต่อยอดเป็น Smart Farmer ต้นแบบ ที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้และช่วยพัฒนาเกษตรกรรายอื่นๆ โดยพัฒนาเกษตรสู่การเป็น Smart Farmer ในหลากหลายกลุ่มเป้าหมาย เช่น อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) เกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ และเกษตรกรผู้นำศูนย์เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เป็นต้น
โดยในปี 2561 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาเป็นเกษตรกรสมาชิกกลุ่มส่งเสริมอาชีพการเกษตร 20,000 ราย และในจำนวนนี้จะมีผู้ที่ผ่านเกณฑ์ประเมิน Smart Farmer และมีศักยภาพสูงจะได้รับการพัฒนาต่อยอดเป็น Smart Farmer ต้นแบบ 4,795 ราย ซึ่งการพัฒนาเกษตรกรจะยึดหลัก “เกษตรกรเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา” บนหลักการการเรียนรู้ตลอดชีวิต การมีส่วนร่วมและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยมีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเป็น “ผู้จัดการเรียนรู้” และใช้กระบวนการกลุ่มเป็นกลไกการขับเคลื่อน ดังนั้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและสร้างทีมในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน Smart Farmer กรมส่งเสริมการเกษตร จึงจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Smart Farmer Core Team ระดับเขตและระดับจังหวัดขึ้น ระหว่างวันที่ 24 - 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ โรงแรมเอบิน่า เฮาส์ กรุงเทพมหานคร
นางสาวภาณี กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมการเกษตรให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนการพัฒนาตามความต้องการของเกษตรกร ในการเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการเกษตรด้วยแผนการผลิตรายบุคคล (IFPP) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการพัฒนาเชื่อมโยงเครือข่ายและขยายผล บูรณาการกลุ่มเป้าหมายให้สอดคล้องกับการดำเนินงานโครงการที่สำคัญของรัฐบาล เพื่อให้เป็นกลุ่มที่จะขยายผลการพัฒนาไปสู่เกษตรกรรายอื่นๆ และพร้อมขับเคลื่อนไปสู่ยุค Thailand 4.0 พัฒนาด้วยทักษะดิจิทัลที่เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี (Smart Farming) และทำการเกษตรในลักษณะผู้ประกอบการ รวมถึงการพัฒนาระบบฐานข้อมูล Smart Farmer ซึ่งได้ปรับปรุงระบบ www.thaismartfarmer.net ให้พร้อมใช้งานเป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงานให้สามารถจำแนกเกษตรกรและสามารถนำผลการวิเคราะห์ไปประกอบการวางแผนการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเอกภาพต่อไป
source: naewna.com/local/305598