data-ad-format="autorelaxed">
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้จัดสรรงบสนับสนุนของจังหวัด และมอบหมายให้ นายสมพงษ์ ผลพัฒนกุล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเลย ผุดสร้างสกายวอล์ก แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในจังหวัดเลย ทั้งออกแบบและจัดจ้าง
บนภูเขาสูงติดแม่น้ำโขง บริเวณพระใหญ่ภูคกงิ้ว บ้านคกงิ้ว ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย สร้างบนภูเขาปากน้ำเหือง ซึ่งตรงบริเวณแม่น้ำเหืองไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง จุดมุมมองเห็นแม่น้ำสองสี แม่น้ำเหืองจะมีสีขุ่นข้น ส่วนแม่น้ำโขงจะใสสะอาด จะเห็นต่างกันอย่างชัดเจน สามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำโขงแบบพาโนรามาในมุมสูง ทั้งไทยและ สปป.ลาว โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์กำลังจะลาลับเหลี่ยมเขา ใช้งบประมาณการสร้าง 30 ล้านบาท ทางเดินทำด้วยกระจกความยาวกว่า 100 เมตร กว้าง 2 เมตร มีความสูงจากน้ำโขง 80 เมตร เท่ากับตึก 30 ชั้น ที่จะสร้างจุดเสียวที่สุดให้กับนักท่องเที่ยว
นายสมพงษ์ ผลพัฒนกุล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเลย เผยว่า การสร้างสกายวอล์กจังหวัดเลย ตัวโครงสร้างจะเป็นเหล็กกลม จะทำให้ดูสวยงามกว่าเหล็กชนิดอื่นๆ ในส่วนของพื้นทางเดินจะปูด้วยกระจกใสแทมเพอร์ลามิเนต ที่มีความมั่นคงแข็งแรง ทนทาน หนา 4 เซนติเมตร ซึ่งกระจกจะรับน้ำหนักได้ 500 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ซึ่งกระจกทุกแผ่นต้องผ่านการทดสอบโดยจะมีทีมงานของสำนักงานโยธาเข้าไปตรวจสอบทุกแผ่นจะไม่ใช้ในการสุ่มตรวจ แต่เป็นการตรวจทุกแผ่น เพราะฉะนั้นความมั่นใจของกระจกจะมี 100 เปอร์เซ็นต์ และในส่วนของเหล็กที่จะทำการก่อสร้างจะมีการชุบ เหล็กชุบกัลไนซ์ มีคุณสมบัติป้องกันสนิม จะเป็นโครงสร้างที่พิเศษกว่าที่อื่น
โดยสกายวอล์กจะมีทางเดินที่ไกลกว่าที่อื่น มีความยาวทั้งหมดกว่า 100 เมตร โดยจะมีจุดรองรับ 5 จุด ทางเดินถูกสร้างให้ยื่นออกไปบริเวณหน้าผา 21 เมตร แต่ที่จังหวัดหนองคายยื่นออกไปแค่ 6 เมตร พร้อมทั้งยังมีจุดชมวิว 3 จุด ซึ่งจะมีความกว้าง 8 เมตร และในแต่ละจุดจากจุดแรกถึงจุดที่ 3 มีความยาว 40 เมตร วัดระดับความสูงจากน้ำโขงถึงจุดชมวิวสูง 80 เมตร หรือความสูงเท่ากับตึก 30 ชั้น มีความกว้างของทางเดิน 2 เมตร เดินสวนกันไปมาได้ ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ และจะเป็นสกายวอล์กที่หวาดเสียวที่สุดในประเทศไทย ไม่แพ้ประเทศจีน และปลอดภัยที่สุดเพราะมีเสารองรับบนทางเดิน แถมยังได้มากราบไหว้พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร ที่มีองค์พระใหญ่สูงสง่ากว่า 19 เมตร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเมืองเชียงคาน โดยใช้งบประมาณการก่อสร้าง 30 ล้านบาท โดยจะเริ่มการก่อสร้างปลายปีนี้ และเสร็จในฤดูกาลท่องเที่ยวปีหน้า ในช่วงประมาณปลายปี 2561
source: prachachat.net/local-economy/news-71646