data-ad-format="autorelaxed">
“เพาะเห็ดยักษ์หิมาลัยมา 1 ปี จากเดิมไปขอซื้อเชื้อเห็ดจากเขา วันนี้เพาะเชื้อเองได้แล้ว ทำให้ต้นทุนต่ำลงเหลือก้อนละ 100 กว่าบาท ก้อนหนึ่งเพาะได้ 3 รอบ รอบละ 3 สัปดาห์ แต่ละก้อนได้เห็ดกิโลกรัมกว่าๆ ราคาอยู่ที่ 700 บาทต่อ กก. ตอนนี้ผลิตได้วันละ 20 กก. มีออเดอร์จองล่วงหน้ากว่าครึ่งปี”
กิตติพงศ์ กีรติเตชะนันท์ หนุ่มเมืองกรุงย่านบางแค ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส บางหว้า เล่าย้อนอดีตถึงการเพาะเห็ดยักษ์หิมาลัย...หลังลาออกจากงานบริษัทที่ทำประจำ เลยมองหาธุรกิจที่สอดคล้องกับตัวเอง แล้วมาพบสิ่งที่ชอบ คือ การทำเกษตร คิดจะปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ แต่ติดเงื่อนไข พื้นที่บ้านมีจำกัด เพราะอาศัยอยู่ในทาวน์เฮาส์ อากาศร้อนอบอ้าว แสงสว่างน้อย ไม่มีลม
เริ่มหาข้อมูลจากฟาร์มไส้เดือนลุงรีย์ แหล่งสอนให้ทำเกษตรในเมืองรูปแบบต่างๆ เน้นให้เหมาะกับพื้นที่...กรุงเทพฯมีอากาศร้อนตลอดปีและปริมาณฝนที่ตกมากขึ้นทุกปี การเพาะเห็ดขายได้ราคาดีน่าจะเหมาะ จึงมาลงเอยที่เห็ดหิมาลัย หรือเห็ดมิวกี้จากอินเดีย เพราะมีราคาสูง ชอบอากาศร้อนอบชื้นแบบ กทม.
“ตอนเริ่มหัดเพาะครั้งแรก คนนำเชื้อพันธุ์เห็ดมาขายในบ้านเรา ยังไม่รู้ว่าจะต้องเพาะอย่างไร ผมก็ทำแบบเดียวกับเพาะเห็ดทั่วไปแบบลองผิดลองถูก เอาเชื้อมาเพาะบนก้อนขี้เลื่อย และรดน้ำให้ความชื้นมากเกินไป ทำให้เห็ดดูดน้ำ และอมน้ำมาก เห็ดจะกลายเป็นสีเหลือง ฉ่ำน้ำ มีรสขม เน่าเสียหมด เลยหาวิธีใหม่ ใช้หมักฟางด้วยจุลินทรีย์ชนิดดี แล้วนำฟางหมักมาผสมกับมูลไส้เดือน 1 กก. มาแช่น้ำ 10 นาที บีบน้ำออกหมาดๆ ก่อนจะโปะบนหน้าก้อนเห็ด แล้วนำก้อนเห็ดเก็บไว้ที่ที่มีอุณหภูมิ 25-39℃ ไม่ต้องให้น้ำ ปล่อยไว้เฉยๆ”
แต่ต้องคอยดูอุณหภูมิให้ดี ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 25℃ จะให้ดอกน้อยและมีขนาดเล็ก...ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 40℃ เห็ดจะเน่าเสียง่าย
กิตติพงศ์ บอกว่า จากที่ทำมา 1 ปี สำหรับกรุงเทพฯ การควบคุมอุณหภูมิไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด เพราะอุณหภูมิห้องภายในบ้านจะประมาณนี้อยู่แล้ว ไม่เกิน 40℃ เรื่องอากาศจะเย็นแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะถ้าไม่เปิดหน้าต่าง ลมหนาวไม่เข้ามาอยู่แล้ว แถมยังหนาวไม่มาก เลยไม่ต้องกังวล
เมื่อเอาดินมูลไส้เดือนมาโปะหน้าก้อนเห็ดเสร็จแล้ว รอไป 10-15 วัน จะเริ่มมีดอกเห็ดตุ่มเล็กๆโผล่มาให้เห็น ช่วงนี้ให้ระวังกิ้งกือและแมลงบางชนิดมากัดกิน ต้องคอยกำจัดออกไป...ปล่อยไปอีก 7 วัน เห็ดจะโตเต็มที่ สามารถเก็บมารับประทานได้เลย จะได้ดอกเห็ดมีน้ำหนัก 100-700 กรัมต่อดอก ราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ที่ กก.ละ 700 บาท
ก้อนเห็ดก้อนหนึ่งให้ผลผลิตได้ 2-3 รอบ ในช่วง 2-3 เดือน สามารถนำไปทำอาหารได้หลายรูปแบบ ทั้งนึ่ง ผัด ทอด แกง รสชาติจะแตกต่างกัน...แต่คุณสมบัติที่พิเศษสุดของเห็ดมิวกี้ หากจะกินสดๆ ดอกเห็ดจะมีรสชาติหวานหอมกลิ่นนมอ่อนๆ ส่วนก้านจะเหนียวหนึบๆ คล้ายปลาหมึก สนใจชมชิม ติดต่อได้ที่ 09-2638-4999.
source: thairath.co.th/content/1123980