data-ad-format="autorelaxed">
รายงานข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย แจ้งว่า ไทยมีการส่งออกข้าวช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 ปริมาณรวม 6,409,702 ตัน มูลค่า 80,048 ล้านบาท หรือ 2,756 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแง่ปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 17.5% แง่มูลค่าเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีการส่งออกปริมาณ 5,454,975 ตัน มูลค่า 85,994 ล้านบาท หรือ 2,433 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ เฉพาะการส่งออกข้าวเดือนกรกฎาคม 2560 มีปริมาณ 986,839 ตัน มูลค่า 15,122 ล้านบาท โดยแง่ปริมาณลดลง 4.9% แต่แง่มูลค่าเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 ที่มีการส่งออกข้าวปริมาณ 1,037,779 ตัน มูลค่า 14,983 ล้านบาท สาเหตุเดือนกรกฎาคมส่งออกข้าวขาวลดลง เนื่องจากปัญหาการส่งมอบที่ล่าช้าจากปัญหาด้านแรงงาน ส่งผลให้การส่งออกข้าวขาวมีปริมาณรวม 410,427 ตัน ลดลง 25.8% ส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศแคเมอรูน โมซัมบิก เบนิน อิหร่าน จีน แองโกล่า ญี่ปุ่น เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวนึ่ง มีปริมาณ 265,562 ตัน เพิ่มขึ้น 1.8% ตลาดหลักยังคงเป็นประเทศเบนิน และแอฟริกาใต้ และเริ่มการส่งให้กับบังคลาเทศ ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิมีปริมาณรวม 272,817 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 43% ในปริมาณนี้ส่งออกข้าวหอมไปประเทศอิหร่าน 96,562 ตัน ส่วนตลาดประจำ เช่น สหรัฐฯ ฮ่องกง และจีน ส่วนปลายข้าวหอมมะลิส่งไปยังประเทศไอวอรี่โคสต์ เซเนกัล เป็นต้น
สมาคมฯรายงานต่อว่า ส่วนเดือนสิงหาคม2560 ตัวเลขไม่เป็นทางการ คาดว่าส่งออกข้าวจะลดลงเหลือประมาณ 7-8 แสนตัน เพราะไม่ค่อยมีคำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามามากนัก ประกอบกับผู้ซื้อบางส่วนชะลอการซื้อเพราะใกล้เข้าสู่ช่วงที่ผลผลิตฤดูใหม่จะออกสู่ตลาดซึ่งราคามักจะอ่อนตัวลง ขณะที่ปัญหาด้านแรงงานขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือ ยังคงทำให้การขนถ่ายสินค้าล่าช้ากว่ากำหนดด้วย นอกจากนี้ การที่ค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาวะการค้าในตลาดจะชะลอตัวลง แต่ผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาส่งมอบทั้งข้าวขาว ข้าวนึ่งและข้าวหอมที่ต้องส่งมอบตามสัญญาค้างอยู่แต่ปัญหาที่กำลังเผชิญคือการที่อุปทานข้าวหอมมะลิในตลาดมีปริมาณจำกัด ส่งผลให้ผู้ส่งออกประสบปัญหาจัดหาข้าวเพื่อส่งมอบ ขณะที่ราคาข้าวหอมมะลิภายในประเทศสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงมีผลต่อการเสนอขายข้าวให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
ซึ่งราคาข้าวหอมมะลิ 100% ปีการผลิต 2559/60 ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2560 ราคาอยู่ที่ตันละ 1,029 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีนี้ราคาอยู่ที่ตันละ 835 เหรียญสหรัฐฯ และเพิ่มขึ้นเทียบเดือนกรกฎาคมปีก่อนอยู่ที่ตันละ 719 เหรียญสหรัฐฯ
source: matichon.co.th/news/650406