data-ad-format="autorelaxed">
จีนไฟเขียวเปิดตลาดรังนกขาวให้ไทยอีกครั้งแล้ว หลังจากระงับการนำเข้ารังนกจากทุกประเทศเมื่อ 5 ปี ก่อนหน้า คาดราคารังนกในไทยกระเตื้องรับข่าวดี
นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า กระทรวงควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันโรคของจีนได้ออกประกาศอนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์รังนกของไทยได้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป ในระยะแรกให้นำเข้ารังนกที่มีสีขาว เหลือง หรือทอง ส่วนรังนกแดงยังไม่ให้นำเข้า โดยจีนขอพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน ทั้งนี้ รังนกที่ส่งออกจากไทยไปจีนต้องผ่านการขึ้นทะเบียนแหล่งผลิตจากกรมปศุสัตว์ของไทย ผ่านการกำจัดขน ทำความสะอาด และมีระบบควบคุมคุณภาพและระบบการตรวจสอบย้อนกลับ โดยต้องมีใบรับรองจากกรมปศุสัตว์ด้วย โดยในขณะนี้ มีบริษัทผู้ส่งออกรังนกของไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว 2 บริษัท
เลขาธิการ มกอช. กล่าวว่า จีนนำเข้ารังนกจาก 3 ประเทศหลัก คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แต่เมื่อ 5 ปีก่อนหน้าได้ห้ามนำเข้ารังนกจากทุกประเทศเนื่องจากตรวจพบสารไนไตรท์เกินมาตรฐานในรังนกแดงที่นำเข้าจากมาเลเซีย ทำให้ราคารังนกในประเทศซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญตกต่ำลง ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตทั้งรังนกถ้ำที่เก็บจากธรรมชาติและรังนกบ้านการเปิดตลาดอีกครั้งจะต้องจัดระบบการขึ้นทะเบียน การควบคุมคุณภาพ ทั้งเรื่องโรค ความสะอาด และการป้องกันสารตกค้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไนไตรท์ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จีน ห้ามนำเข้ารังนกจากทุกประเทศสำหรับประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย มกอช. และกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเจรจามาอย่างต่อเนื่องจนสามารถลงนามพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดการตรวจสอบกักกันโรคและสุขอนามัยสำหรับผลิตภัณฑ์รังนกที่ส่งออกจากไทยไปจีน (Protocol of Inspection, Quarantine and Hygiene Requirements for the Importation of Bird Nest Products from Thailand to China) ได้ก่อนหน้านี้แล้ว จนกระทั่งจีนได้ออกประกาศให้นำเข้ารังนกจากไทยได้ในปีนี้ ซึ่งถือว่าจีนเชื่อมั่นระบบควบคุมคุณภาพรังนกของไทยที่ดำเนินการโดยกรมปศุสัตว์ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องนี้ และมีระบบควบคุมคุณภาพรังนกตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เรียกได้ว่าจัดระบบตั้งแต่ถ้ำรังนก โรงคัดล้างบรรจุ จนถึงผลิตภัณฑ์สุดท้าย
ราคารังนกถ้ำของไทยเคยมีราคาส่งออกไม่ต่ำกว่า 150,000-200,000 บาท/กิโลกรัม โดยผลผลิตทั้งรังนกถ้ำทั้งสีขาวและสีแดงจากผู้ผลิตที่ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์และจีน ขึ้นทะเบียนแล้ว มีปริมาณราว 8,000 กิโลกรัม/ปี ซึ่งผลผลิตดังกล่าวจำหน่ายในประเทศและส่งออก การเปิดตลาดรังนกได้อีกครั้ง ถึงแม้จะจำกัดเฉพาะรังนกขาว เหลือง หรือทอง แต่จะสร้างมูลค่าส่งออกให้กับไทยในปีแรกหลายพันล้านบาท
นางสาวดุจเดือน กล่าวเสริมว่า จีนเป็นตลาดนำเข้ารังนกที่ใหญ่ที่สุดของไทย เนื่องจาก ชาวจีนถือว่ารังนกเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับทุกเพศทุกวัย จนได้สมญานามว่า “ไข่มุกแห่งเอเชีย” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิยมให้ผู้ป่วยบริโภคหรือเป็นของขวัญให้กับผู้ใหญ่ โดยรังนกไทยเป็นที่นิยม เนื่องจากมีคุณภาพสูง เนื้อแน่น หอมนุ่ม และไม่ละลายง่าย คาดว่าการเปิดตลาดครั้งนี้จะช่วยปรับราคารังนกในประเทศให้สูงขึ้น
source: siamrath.co.th/n/22739