data-ad-format="autorelaxed">
นายวิชัย ศรีนวกุล ตัวแทนโรงสีกลุ่มภาคอีสาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในฤดูกาล 2560/2561 คาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 1.2-1.3 หมื่นบาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ เฉลี่ยปี 2559/2560 ราคาอยู่ที่ 9,000-1 หมื่นบาท/ตัน เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวหอมมะลินาปี ฤดูกาล 2560/2561 จะมีปริมาณ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเพียงแค่ 10-20% จากผลผลิตฤดูกาล 2559/2560 ที่มีผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิออกมา 6.5 ล้านตัน
“สาเหตุที่ราคาหอมมะลิปีนี้จะดีกว่าปีก่อน แม้ว่าผลผลิตมากกว่าปีที่แล้วเพียงเล็กน้อย เนื่องจากปีก่อนเกิดการกดราคาอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลทางจิตวิทยาของผู้ซื้อทั้งตลาดโลกและผู้ส่งออกข้าว ที่คาดว่าปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิปีที่แล้วจะมีมากถึง 10 ล้านตัน ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ผิดจากความจริงพอสมควร แต่ปีนี้ประมาณว่าผลผลิตไม่น่าจะเกิน 7.5 ล้านตัน และมีแนวโน้มที่ผลผลิตอาจลดลงมากกว่านั้น เพราะพื้นที่นาได้รับความเสียหายจากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์” นายวิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยในเรื่องผลผลิตที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก คาดว่าราคาข้าวหอมมะลิจะปรับขึ้นจากการไล่ซื้อของโรงสีและผู้ส่งออกข้าว เนื่องจากขณะนี้สต๊อกข้าวหอมมะลิปี 2559/2560 หมดไปจากตลาดแล้ว ทำให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปี 2560 ทั้งโรงสีและผู้ส่งออกข้าวต้องซื้อผลผลิตมาเก็บเพื่อทำการส่งออกตามคำสั่งซื้อของลูกค้าต่างประเทศ
ทั้งนี้ ประเมินว่าข้าวเปลือกที่ออกมา 7.5 ล้านตัน จะไปอยู่ในยุ้งฉางของชาวนาตามโครงการแทรกแซงราคาข้าวเปลือก (รับจำนำยุ้งฉาง) ประมาณ 2 ล้านตัน โครงการชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้โรงสีเก็บสต๊อกข้าวเปลือกประมาณ 2 ล้านตัน และผู้ส่งออกซื้อเก็บสต๊อกอีกประมาณ 1 ล้านตัน ทำให้เหลือข้าวเปลือกในตลาดประมาณ 1-2 ล้านตัน
“ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิเฉลี่ย800 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ถือว่าสูง เพราะมีการไล่เก็บซื้อข้าวจากผลผลิตข้าวเปลือก รวมทั้งจากโครงการรับจำนำยุ้งฉางที่ชาวนาจะได้รับเงินประมาณ 1.4 หมื่นบาท/ตัน ทอนเป็นราคาส่งออกข้าวหอมมะลิจะได้ 750 ดอลลาร์/ตัน หากต่ำกว่านี้ชาวนาจะเลือกเก็บในยุ้งฉาง” นายวิชัย กล่าว
source: posttoday.com/biz/gov/521548