data-ad-format="autorelaxed">
ตลาดรวมร้านกาแฟในไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยในปัจจุบันที่นิยมการเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟแบรนด์ต่างๆทั้งรายเล็กรายใหญ่แบรนด์ ไทยแบรนด์เทศ มองเห็นโอกาสการรุกเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งปัจจุบันมูลค่าตลาดร้านกาแฟอยู่ที่ 1.8-2 หมื่นล้านบาท
ธีรรัชต์ เตชาภิวาทย์ หรือ “เอ้” เจ้าของกิจการโรงคั่ว กาแฟ และร้านกาแฟ “ALLRIDE” เป็นอีกรายที่ชื่นชอบรสชาติและกลิ่นกาแฟ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเกิดเมล็ดกาแฟคั่วด้วยแบรนด์ของตัวเองว่า เริ่มจากเมื่อ 3 ปีก่อน เปิดร้านกาแฟในปั๊มนํ้ามันปตท.ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว โดยชื่อแบรนด์กาแฟ “ALLRIDE” มาจากที่ตัวเองชื่นชอบการปั่นจักรยาน และร้านกาแฟอยู่ในปั๊มนํ้ามัน ซึ่งในปั๊มก็มีรถยนต์วิ่งเข้าออกเพื่อมาเติมนํ้ามันและพักดื่มกาแฟ จึงเปิดร้านประเดิมก่อนสาขาแรกที่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเสียงตอบรับมาดี และกำลังจะเปิดสาขาที่ 2 ที่กำแพงเพชรภายในปลายปีนี้เพิ่มอีกแห่ง
เปิดร้านกาแฟได้ระยะหนึ่งเริ่มมองเห็นจุดอ่อน ในเรื่องข้อจำกัดในการใช้วัตถุดิบซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟคั่วที่รับซื้อมาจากโรงคั่วอื่น โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องคุณภาพที่ไม่สมํ่าเสมอ และไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ จึงเป็นห่วงผู้บริโภคปลายทางที่นิยมดื่มกาแฟ จึงตัดสินใจหันมาพัฒนาทำโรงคั่วเมล็ดกาแฟขึ้นเอง นอกจากจะคั่วเมล็ดกาแฟสำหรับชงหน้าร้านของตัวเองแล้ว ยังขายส่งไปตามร้านกาแฟทั่วไปในรูปเมล็ดกาแฟคั่วได้อีกด้วย
++จุดเด่นกาแฟคั่ว ALLRIDE
สำหรับจุดเด่นของเมล็ดกาแฟคั่ว ALLRIDE จะมีแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟที่เน้น จากแหล่งในประเทศไทยเป็นหลักก่อน โดยเฉพาะที่จังหวัดกำแพงเพชร เชียงใหม่ เชียงราย และนำเข้ามาจากประเทศเอธิโอเปีย บราซิล โดยแหล่งวัตถุดิบ (เมล็ดกาแฟ) บางแห่ง จะลงไปช่วยเกษตรกรดูแลตั้งแต่การปลูก ไปจนถึงกรรมวิธีการแปรรูป โดยเฉพาะการสนับสนุนเมล็ดกาแฟในพื้นที่โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงบ้านป่าคา จังหวัดกำแพงเพชร มีพื้นที่เฉพาะในส่วนของการปลูกกาแฟประมาณ 100 ไร่ ได้ผลผลิตเมล็ดกาแฟประมาณ 1 ตันเศษ
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงบ้านป่าคา มีแนวโน้ม จะขยายพื้นที่ สำหรับปลูกกาแฟอีกประมาณ 100 ไร่ และภายใน 3 ปี นับจากนี้ไป เมื่อต้นกาแฟโตเต็มที่ จะได้ปริมาณเมล็ดกาแฟเพิ่มเป็น 10 ตัน เนื่องจากต้นกาแฟจะมีอายุตั้งแต่ 60-70 ปี โดยการเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร นอกจากนำกาแฟจากเกษตรกรมาใช้ในโรงคั่วของ ALLRIDE แล้วยังไปดึงโรงคั่วอื่นๆ มารับซื้อเมล็ดกาแฟของเกษตรกรคู่ค้าของกาแฟ ALLRIDE ด้วย
สำหรับความพิเศษของเมล็ดกาแฟคั่ว เริ่มจากที่ส่วนตัวชอบตรงที่เมล็ดกาแฟเป็นผลไม้ที่ซับซ้อน เมล็ดพันธ์แต่ละที่ เมื่อนำมาคั่ว จะได้กลิ่นและรสชาติแตกต่างกัน มีความพิเศษ หรือเด่นที่ไม่เหมือนกัน ถ้ากาแฟดีจริง คนบริโภคก็พร้อมจ่าย ปัจจุบันกาแฟที่มาจากบางแหล่งจะต้องสะต็อกเมล็ดกาแฟไว้รองรับลูกค้า โดยสามารถเก็บไว้ได้นาน 1 ปี เพื่อสำรองไว้บริการลูกค้าได้ตลอดปี แม้ไม่ใช่ช่วงเก็บเมล็ดกาแฟ
“ผมไม่ได้บอกว่ากาแฟผมอร่อยที่สุด แต่การันตีได้ว่าคุณภาพดี สามารถตรวจสอบได้ถึงต้นทางในการปลูกกาแฟ”
++ตั้งเป้าเติบโต20% ทุกปี
ธีรรัชต์ ตั้งเป้าว่านับจากปี 2561 ปริมาณเมล็ดกาแฟคั่วจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ทุกปี จากที่ปี 2560 จะได้กาแฟคั่วออกมาประมาณ 800 กิโลกรัม จากที่ใช้เมล็ดกาแฟประมาณ 1 ตันเศษ โดยการขยายปริมาณการคั่วเมล็ดกาแฟที่เพิ่มขึ้นจะมาจากที่มีการเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าจากร้านกาแฟมากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร สตูล กระบี่ และกำลังขยายฐานลูกค้าเข้าไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก โดยกาแฟคั่ว ALLRIDE ที่จำหน่ายจะมีตั้งแต่ขนาด100 กรัมไปถึง 1 กิโลกรัม โดยราคาจะขึ้นอยู่ที่แหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ ซึ่งมีตั้งแต่ราคากิโลกรัมละ 300-1,000 บาทขึ้นไป
++เข้าสู่ยุคกาแฟ4.0
เมื่อถามว่า มองพัฒนาการของธุรกิจกาแฟอย่างไร เขาสะท้อนมุมมองให้เห็นภาพว่า กำลังเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 โดยเห็นว่าจากเดิมเป็นสภากาแฟ นั่งดื่มกาแฟแล้วคุยเรื่องการเมืองไปด้วย พอยุค 2.0 เกิดตลาดกาแฟแฟรนไชส์ เช่นสตาร์บัคส์ และเข้าสู่ 3.0 เป็นร้านกาแฟสด เริ่มเปิดมากขึ้น และยุค 4.0 คือยุคของการนำเข้าเมล็ดกาแฟคุณภาพสูงเข้ามารวมถึงการยกระดับเมล็ดกาแฟในประเทศ เช่น กาแฟคั่วที่มาจากเอธิโอเปีย ขนาดบรรจุหีบห่อ 200 กรัม ขายในราคา 900 บาท มีรสชาติซับซ้อนด้วยกลิ่นวานิลลา โดยไม่ได้ปรุงแต่ง กาแฟคั่วตัวนี้ถ้าชงเป็นถ้วย ตกราคาถ้วยละ 300 บาท ซึ่งมีลูกค้าที่เป็นลูกค้าประจำอยู่แล้ว ผสมผสานกับนวัตกรรมที่เกิดจากทักษะเฉพาะตัว หลังจากผ่านการเรียนทักษะการคั่วกาแฟจากสถาบัน Speciality Coffee Association Europe (SCAE) หรือสมาคมกาแฟชนิดพิเศษแห่งยุโรป ที่ลงลึกไปถึงปฏิกิริยาเคมีที่เจอความร้อนหรือนํ้าตาลแตกตัว
นอกจากนี้ยังใส่ประสบ การณ์จากการสมัครโครงการเรียนรู้เริ่มต้นธุรกิจด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน www.NEC Learning.com ที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าถึงการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมในยุคดิจิทอล โดยนำโมเดลหลักสูตรโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ (New Entrepreneurs Creation:NEC) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อมาพัฒนาธุรกิจได้อย่างลงตัว ทำให้ เมล็ดกาแฟคั่ว ALLRIDE เริ่มเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายว่าจะสร้างเมล็ดกาแฟจากกำแพงเพชรบ้านเกิด ขึ้นชั้นเป็นกาแฟเกรดพิเศษ จนเป็นที่ยอมรับในตลาดส่งออก ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาตลาดส่งออกอยู่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560