data-ad-format="autorelaxed">
หากพูดถึงประเทศไทยแล้วละก็ในสายตาคนทั่วโลกแล้วเราคือเมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่าเป็นเมืองในน้ำมีปลาในนามีข้าว เทคโนโลยีเกษตร Agriculture Tech อีกด้านสำคัญที่ทำให้สตาร์ทอัพไทยสร้างรายได้
จากรายงานในช่วงกลางปี 2015 พบว่ามีการลงทุนโดยรวมของโลกสำหรับอุตสาหกรรม Agtech มูลค่ากว่า 2.06 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในรายงานดังกล่าวเล่าว่าบริษัทที่ใช้ Agtech สามารถทำได้ครอบคลุมในหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูกพื้นหรือสิ่งมีชีวิต อาหารและพลังงานเชื้อเพลิงจากชีวภาพ สารเคมี ยารักษาโรคและวัสดุต่างๆ ก็สามารถใช้ Agtech เข้ามาผสานเรียกได้ว่านี้เป็นภาพของ Supply chain ในอุตสาหกรรมเกษตรที่ครบวงจรมากทีเดียว
โดยแนวทางของ Agtech ที่นิยมเริ่มต้นคือเรื่องของ Ecommerce Startups ที่มีรูปแบบวิธีการผลิตที่ต่างไปจากเดิม รองลงมาคือ water-related Startups ส่วนสุดท้ายคือการเกษตรแบบตรงจุดคือการมีระบบเข้ามาเพื่อควบคุมเพื่อช่วยให้มาตรฐานก่อนส่งออกผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยมหาอำนาจอย่างจีนและอินเดียที่ได้ร่วมลงทุนในกลุ่ม Agtech 3 บริษัทชั้นนำจากจีน ได้แก่ XAicraft,Yummy77และ fruitday และบริษัทจากอินเดีย Skymet เป็นตัวหลักสำคัญของการลงทุน (Agtech Investing Report 2014)
Rob ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ AgFunder กล่าวว่ามีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มี AgtechStartup แข่งขันกันมากกว่าภูมิภาคอื่นที่สามารถดำเนินธุรกิจได้นั้นคือ Happy Fresh อย่างไรก็ตามนั้นคู่แข่งสำคัญอีกอย่างคือ Reamart ของสิงคโปร์
การที่ไม่ได้รับเงินลงทุนอย่างเต็มที่ จากรายงานของ AgFunder ประกอบไปด้วยสิ่งสำคัญสองส่วนคือตัวนักลงทุนบางส่วนยังไม่เห็นโอกาสจากการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเกษตรนี้เนื่องจากให้ความเห็นว่าตลาดยังไม่โต อีกปัญหาคือหากเป็นกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่เต็มไปด้วยทรัพยากรต่างๆ อย่างจีนและอินเดียแล้วละก็โอกาสที่จะถูกมองข้ามก็เป็นไปได้และดูเหมือยว่า Redmart ก็ได้รับผลกระทบเหล่านี้อยู่เหมือนกัน
แต่รายงานที่กล่าวดูจะตรงข้ามกับ Startups ในอีกหลายประเทศที่หลายคนเริ่มกระตือรือร้นที่จะทำงานในกลุ่ม Agtech นีัอาทิเช่น iGrow ซึ่งได้รับรางวัลจากการแข่งขันจาก Seedstars จึงนับว่าโดยรวมแล้ว Agtech Startups ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กลุ่ม Startups ไทยสามารถนำความรู้ทางการเกษตรที่มีอยู่ผสานเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ช่วยให้วิทยาการด้านเกษตรของเรากลายเป็นผู้นำแนวหน้าของโลกได้ หากเราช่วยกันทำ
source : Tech In Asia