ทุเรียนเวียดนามสวมสิทธิ์ไทย นำเข้าบนดิน-ใต้ดินตีตราใหม่ส่งจีนฟันกำไรอื้อ

กรมศุลฯ สั่งจับตาพ่อค้าลักลอบขนทุเรียนส่งเวียดนาม ตีตราใหม่ใช้สิทธิพิเศษได้ยกเว้นแวต 13% ที่ชายแดนเข้าจีน ฟันกำไรอื้อ ชี้ไทยเสี่ยงเสียตลาดในอนาคต ขณะสถิติฟ้องชัดตัวเลขบนดิน 4 เดือนแรกเวียดนามนำเข้าทุเรียนไทยอันดับ 1 พุ่ง 396%

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม2560 นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้นำคณะลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตามความก้าวหน้ามาตรการในการแก้ปัญหามาตรฐานทุเรียนไทย และตรวจเยี่ยมโรงคัดบรรจุ(ล้ง) และชมกระบวนการส่งออกผลไม้ของโรงคัดบรรจุทุเรียนในเขตพื้นที่อำเภอท่าใหม่ จำนวน2 โรง ได้แก่บริษัทวรรัตน์เฟรชฟรุ๊ต จำกัด (บจก.) และล้งของนายสงกรานต์ แซ่หยาง

เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรจันทบุรี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนไทยได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน ที่น่าจับตาในเวลานี้คือ มีการลักลอบส่งออกทุเรียนไทยโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรไปยังประเทศเวียดนามและนำไปตีตราเป็นสินค้าจากเวียดนามส่งเข้าไปจำหน่ายในจีนซึ่งถือมีความคุ้มค่าในการดำเนินการและมีกำไรงาม (เนื่องจากนโยบายการค้าชายแดนของสินค้าผลไม้ระหว่างจีน-เวียดนามเวียดนามไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)ที่ด่านนำเข้า แต่จำกัดมูลค่าคนละ 8,000 หยวนต่อวันขณะที่ไทยส่งออกเองไปจีนจะเสียภาษีแวต 13% ที่ด่านนำเข้า)

“ในช่วงนี้ทางผู้ใหญ่ได้มีการกำชับให้จับตาเรื่องนี้เป็นพิเศษเนื่องจากมีความกังวลหากมีการลักลอบนำทุเรียนออกไปจำนวนมากเท่าใด ตลาดไทยจะเสียโอกาสมากขึ้นเนื่องจากเวียดนามเป็นคู่แข่งอันดับ 1 ของไทยเรื่องผลไม้”

สอดคล้องกับนายสุวิทย์ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ที่เผยว่าในแต่ละปีการลักลอบส่งออกทุเรียนไม่ทราบปริมาณที่ชัดเจน ขณะที่การส่งออกของไทยในช่องทางปกติผ่านด่านศุลกากร สถิติในปี 2559 ไทยส่งออกทุเรียนสด(มีตลาดใหญ่ที่จีน) ปริมาณ 4.02 แสนตัน มูลค่า1.74 หมื่นล้านบาท (ดูกราฟิกประกอบ) ซึ่งทางกรมจะควบคุมเฉพาะล้งทางภาคตะวันออกและภาคใต้ ที่มาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกจำนวน 141 ราย เพิ่มจากปีที่แล้วที่มี 70 ราย จำนวนล้งที่เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อเกษตรกรทำให้มีการแย่งซื้อราคาก็เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดีได้รับหนังสือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะมาขึ้นบัญชีผู้ส่งออกทุเรียนเป็นปีแรกเพื่อช่วยเหลือในการส่งออกไปจำหน่ายในจีน ทางกรมจึงประสานไปยังบจก.ภาสพร ซึ่งเป็นล้งขนาดใหญ่ให้มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับทางกลุ่มสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส. (สกต.) ในการรวบรวมทุเรียนภาคใต้ส่งออก

ขณะที่นางจันทิพย์ ริยะวงศ์ กรรมการ บจก.วรรัตน์ เฟรชฟรุ๊ต โรงคัดบรรจุส่งออกผลไม้จังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าการที่รัฐบาลมาช่วยสนับสนุนเช่นนี้จะเป็นการขายทุเรียนแข่งหรือไม่ เพราะอีกด้านหนึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐก็ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนเกษตรกรหากทำจริงเอกชนยอมรับว่าแข่งขันลำบาก อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทรับทุเรียนโดยตรงจากชาวสวนและส่งเองขายเองให้กับประเทศจีน โดยทุเรียนของบริษัทภายใต้แบรนด์ต้าฟง ถือเป็นสินค้าเกรดพรีเมียม ขายได้ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่นที่ไปจากไทยประมาณ20-30 หยวน ในขนาดบรรจุ 5-6ลูก(นํ้าหนัก18.24 กก.)

ด้านนางสาวรัชวลัญช์ แซ่หยาง ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ(ล้ง)นายสงกรานต์ แซ่หยาง เผยว่า ปีนี้ทุเรียนเกรด A ราคาเฉลี่ย55-60 บาท ค่อนข้างสูงมากเนื่องจากการแข่งขันสูง เพราะล้งต้องแย่งกันซื้อ และเกษตรกรก็ฉลาดในแต่ละวันก่อนที่จะขายก็จะโทร.มาสอบถามราคาก่อนว่าล้งไหนให้ราคาสูงก็จะขายให้ล้งนั้น

อนึ่งจากข้อมูลกรมศุลกากรช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกทุเรียนสดไปตลาดเวียดนามเป็นอันดับ 1 มูลค่า 2,315.5 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 396% รองลงมาคือตลาดจีน มูลค่า 691 ล้านบาท (จากปีที่ผ่านมาจีนเป็นตลาดอันดับ 1 มูลค่า 8,948 ล้านบาท)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ส่งความคิดเห็น